ตอนที่แล้วบทที่ 138 ทดสอบชิงอวิ๋น!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 140 ช่วงเวลาแห่งความเป็นตาย 

บทที่ 139 หากข้าจะรังแก แล้วเจ้าจะทำไม!


ป้ายรับสมัครผู้เข้าทดสอบชิงอวิ๋นนั้นประกาศไว้มาครึ่งเดือนแล้ว และกำหนดเริ่มคือวันที่สิบเจ็ดเดือนกันยายน!

วันนี้วันที่สิบหกเดือนกันยายน!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง พรุ่งนี้เป็นวันเริ่มทดสอบชิงอวิ๋นแล้ว!

ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการลงทะเบียน!

หลัวเฉิงไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องมันจะบังเอิญเช่นนี้ เพราะเขานั้นทันการลงทะเบียนพอดี จึงกล่าวกับจางเหลียนทันที

“จางเหลียน ข้าจะสมัครเข้าร่วมการทดสอบชิงอวิ๋นได้ที่ไหน?”

“มันอยู่ตรงนั้น เจ้าแค่ต้องมอบป้ายหยกประจำตัวของเจ้าเพื่อลงทะเบียน และชำระค่าลงทะเบียนด้วยโอสถเลือดลมสามเม็ด”

จางเหลียนบุ้ยริมฝีปากของเขาไปทางอีกฟากฝั่งหนึ่งของจัตุรัส

ที่นั่นมีโต๊ะหินซึ่งมีผู้อาวุโสนั่งอยู่ด้านหลังพร้อมกับผู้คนมากมายที่รายล้อมในยามนี้

หลัวเฉิงไม่รอช้ารีบเดินไปที่โต๊ะหินทันที

จางเหลียนตอบสนองแล้วสืบเท้าวิ่งตามเขาไปอย่างรวดเร็ว

“หลัวเฉิง เจ้าคิดจะทำอะไร!”

หลัวเฉิงแย้มยิ้มกล่าวว่า “แน่นอน ข้าก็จะลงทะเบียนไงยังจะมีสิ่งใดอีก”

จางเหลียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“ข้าเกรงว่าข้าคงไม่ได้อธิบายให้เจ้าฟังอย่างชัดเจนนัก ในการทดสอบชิงอวิ๋น มิใช่แค่การล่าสัตว์อสูรเพื่อชนะด้วยคะแนนเท่านั้น”

“ในการทดสอบนี้เจ้าจะไม่อาจหลีกเลี่ยงการฆ่าหรือต้องต่อสู้กับคนด้วยกันได้! เมื่อเจ้าไปถึงเกาะชิงอวิ๋น เจ้าจะไม่ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากสำนักอีก! ศิษย์ส่วนใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งล้วนเข้าปล้นผู้ที่อ่อนแอกว่า เพื่อต้องการผลักดันให้ตนนั้นกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอก!”

“ในการทดสอบชิงอวิ๋นทุกปี มักจะมีผู้คนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก!”

“เชื่อคำแนะนำของข้าแล้วตัดใจเสียเถอะ! มันไม่สายเกินไปหากเจ้าจะเข้าร่วม หลังจากที่ทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่!”

จางเหลียนเล่าถึงความสยดสยองอันน่าพรั่นพรึงของการทดสอบชิงอวิ๋นอยู่หลายครั้ง

ในการทดสอบชิงอวิ๋นครั้งล่าสุด มีผู้เข้าแข่งขันเกือบเจ็ดพันคน และมีผู้คนล้มตายไปมากกว่าพันคน ซึ่งนับว่าเป็นสองในสิบส่วนของผู้เข้าแข่งขันก็ว่าได้!

“จะไม่อาจหลีกเลี่ยงการฆ่าฟันมนุษย์ด้วยกันเองได้งั้นหรือ?”

หลัวเฉิงครุ่นคิด เขาไม่คาดว่าการฝึกฝนในสำนักจะโหดร้ายถึงเพียงนี้

กระนั้นแล้ว เขาก็หาได้คิดล้มเลิกการลงทะเบียนแต่อย่างใด

แม้เขาจะอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสาม แต่พลังของเขานั้นมีมากเกินกว่าสามหมื่นจิน ซึ่งแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่ทั่วไป!

นี่ยังไม่ได้นับรวมเพลงกระบี่ทลายสวรรค์สี่กระบวน และเพลงหมัดสยบภูผา ที่ฝึกฝนจนบรรลุขั้นปรมาจารย์!

หลัวเฉิงประมาณตนเองว่าด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน เขาสามารถปกป้องตัวเองได้อย่างแน่นอนหลังจากเข้าทดสอบชิงอวิ๋น

เขาทำให้ผู้อาวุโสฝ่ายนอกฉินต้าวหยวน ศิษย์หลักจินหมิน และตอนนี้ก็คงเพิ่มผู้อาวุโสเหอเข้าไปอีกคน!

หลัวเฉิงตระหนักดีต่อสถานการณ์ของเขาในปัจจุบัน และจำต้องรีบตั้งหลักในสำนักซวนหยวนให้เร็วที่สุด โดยอาศัยการเป็นศิษย์ฝ่ายนอก!

ไม่เพียงเท่านั้น หลัวเฉิงยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องเข้าร่วมการทดสอบชิงอวิ๋น

นั่นคือทะลวงระดับวิชามังกรแท้ให้ได้ แต่การจะทะลวงให้ได้นั้น ต้องกลืนวิญญาณสัตว์อสูรและวิญญาณยุทธ์เท่านั้น!

ซึ่งการทดสอบชิงอวิ๋นนี้ นับว่าเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมเลยก็ว่าได้!

ด้วยเหตุนี้เขาจะพลาดได้อย่างไร

“จางเหลียนขอบคุณที่เจ้าแนะนำ แต่ข้าก็มีเหตุผลที่ต้องเข้าร่วมเช่นกัน”

หลัวเฉิงยิ้มให้จางเหลียน จากนั้นสืบเท้าต่อไปยังโต๊ะหินเพื่อลงทะเบียนทันที

“เจ้า……”

จางเหลียนถึงกับกล่าวสิ่งใดไม่ออก

ไม่รู้ว่าชายผู้นี้ได้ยินสิ่งที่เขาพร่ำพรรณนาให้ฟังเมื่อครู่นี้หรือไม่ หรือว่าเขาคิดจะสังหารใครสักคนจริงๆ!

ไม่นานทั้งสองก็มาถึงโต๊ะลงทะเบียน แต่ระหว่างที่หลัวเฉิงกำลังจะเข้าไปลงทะเบียน

“จางเหลียน เจ้ามาทำอะไรที่นี่? ข้าไม่คิดเลยว่าคนไร้ค่าเช่นเจ้าจะกล้าสมัครเข้าร่วมการทดสอบชิงอวิ๋นจริงๆ”

ซุ่มเสียงเยือกเย็นอันน่าสยดสยองดังขึ้นในบริเวณใกล้เคียงอย่างกะทันหัน

หลัวเฉิงเอียงศีรษะหันกลับไปมอง

เขาเป็นชายหนุ่มในชุดดำ ดวงตาเล็กแคบ ใบหน้าบูดบึ้ง พานให้ผู้คนรู้สึกพรั่นพรึงไม่น้อย มุมปากเขายกขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มเหยียดหยาม

ศิษย์บำรุงสำนักที่อยู่บริเวณโดยรอบ คล้ายดั่งว่ากำลังหวาดกลัวชายผู้นี้ จึงหลีกห่างออกเป็นวงกว้าง เหลือเพียงหลัวเฉิงและจางเหลียนเท่านั้น

จางเหลียนเปลี่ยนสีหน้าเป็นบึ้งตึงแล้วกล่าวน้ำเสียงเย็นชา “หานเฟิง อย่ารังแกคนอื่นให้มันมากนัก!”

“หากข้าจะรังแก แล้วเจ้าจะทำไม!” ชายหนุ่มชุดดำกล่าวด้วยรอยยิ้มอำมหิต

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด