ฉันซื้อในราคา 100 ล้านหยวน ถ้าเธอสนใจ (อ่านฟรี 04/12/2567)
“ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ! ขอบคุณเธอมากนะที่ช่วยรักษาเหม่ยอิงจนหายดี” ชายชราลุกขึ้นยืนก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความสุภาพ
“เหม่ยอิง...” ชายหนุ่มทวนชื่อที่อีกฝ่ายกล่าวออกมาก่อนจะเงียบไปเล็กน้อย
“ก็คุณยายของฉันไง นายยังไม่รู้จักชื่อเธออีกเหรอ?” หวู่หลิงกล่าวถามออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ชายหนุ่มคนนี้ไม่คิดจะหาข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลฮวาของเธอเลยรึยังไงกัน? หรือเขาแค่ไม่ค่อยจะสนใจโลกกันแน่นะ
“อ๋อ! ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมแค่เห็นคุณยายแกอาการไม่ค่อยดีประกอบกับผมมียาที่น่าจะได้ผลพอดีก็เท่านั้น ทุกอย่างเป็นโชคชะตาครับ” ชายหนุ่มยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวตอบอีกฝ่าย
“ถึงยังไงก็ขอบคุณเธอมากนะ” ชายชรากล่าวย้ำออกมาอีกหนก่อนจะดื่มน้ำจนหมดแก้ว
“มาเข้าเรื่องกันเถอะ ไหนแจกันที่นายให้ฉันดูเมื่อคืนล่ะ?” หวู่หลิงที่เห็นว่าชายชราดื่มน้ำเสร็จแล้วจึงกล่าวถามออกมา
“ฉันไปหยิบมาแปปนะ” ชายหนุ่มกล่าวจบเขาก็เดินไปข้างหลังที่มีตู้เหล็กตั้งอยู่ชิดกำแพง ด้านบนของตู้เหล็กมีแจกันที่ดูคุ้นเคยถูกวางเอาไว้อย่างลวก ๆ
“โอ้! นี่มัน...” ทันทีที่แจกันถูกนำมาวางไว้ที่โต๊ะ ชายชราก็จ้องมองด้วยความสนใจทันที เขากล่าวออกมาเล็กน้อยก่อนจะตั้งสมาธิเพื่อสำรวจมันอย่างจริงจัง
แม้แต่หญิงสาวตัวเล็กที่มักจะพูดไม่หยุดก็แสดงสีหน้าจริงจังออกมาเช่นกัน
“งั้นเดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาเพิ่มให้นะครับ” ชายหนุ่มเห็นว่าเขาอยู่เฉย ๆ ก็ไม่ได้อะไรเลยตัดสินใจไปเอาน้ำต้มแผ่นหยกมาให้ทั้งสองคนเพิ่มคนละแก้ว ก่อนที่เขาจะนั่งเก้าอี้ใกล้ ๆ พลางเล่นโทรศัพท์ไปเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้ไปรบกวนคนทั้งสองเข้า
ผ่านไป 30 นาที
ตลอดเวลาชายชราและหญิงสาวร่างเล็กพากันพลิกแจกันตรงหน้าไปมา ใช้แว่นขยายส่องแทบทุกมุมเท่าที่เป็นไปได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือหน้าตาประหลาดที่ใช้สแกนอะไรสักอย่างอีกด้วย ดูเหมือนจะใช้สแกนเพื่อบอกวัสดุที่ใช้สร้างแจกันขึ้นมา ที่คิดเช่นนั้นเพราะชายหนุ่มเห็นว่าบนหน้าจอของเครื่องมือนั้นมันมีชื่ออะไรสักอย่างปรากฏขึ้นมาหลังชายชราสแกนไปหลายหน
“แปลกจริง ๆ” ชายชราเปิดปากพูดออกมาหลังจากวางเครื่องมือทั้งหมดลง
“เป็นยังไงบ้างเหรอครับ?” เย่เซวียนเห็นดังนั้นจึงกล่าวถามออกมา เขาอึดอัดจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
การต้องปิดปากเงียบมองทั้งสองทำนั่นนี่โดยถามอะไรไม่ได้แบบนี้ มันไม่ต่างจากการทรมานตัวเขาชัด ๆ !
“มันน่าจะเป็นของจริงน่ะสิ” ชายชรากล่าวออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ในร้านขายของเก่าที่เต็มไปด้วยของปลอมเช่นนี้ มันกลับมีสมบัติอยู่จริง ๆ ! นี่สินะยอดเพชรในกองขยะ เขาไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้มาพบเจอเข้ากับตัวเองเช่นนี้
“แล้วมันแปลกยังไงล่ะครับ” เย่เซวียนที่ได้ยินอีกฝ่ายกล่าวในตอนแรกจึงกล่าวออกมาด้วยความคาใจ
“ก็เพราะของแบบนี้มันไม่น่าจะมีหลุดรอดมาถึงร้านของนายยังไงล่ะ ส่วนใหญ่มักจะพบได้ตามสุสานโบราณหรือพิพิธภัณฑ์เท่านั้นแหละ” เป็นหวู่หลิงที่ตอบคำถามของชายหนุ่มกลับไป เธอเองก็แปลกใจเหมือนกันที่มันเป็นของจริง
“ดูจากวัสดุที่ใช้ทำ อายุของชิ้นงาน รูปแบบการปั้น ลวดลายต่าง ๆ เป็นแจกันสมัยราชวงศ์หมิงแน่ ๆ” ชายชรากล่าวยืนยันออกมา ก่อนจะทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อย
“เธอสนใจจะขายไหม? ฉันซื้อต่อในราคา 100 ล้านหยวนตอนนี้ได้เลยถ้าเธอสนใจ” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะกล่าวถามอะไรออกมาอีกครั้ง ชายชราก็ได้ยื่นข้อเสนอที่น่าตกใจออกมาเสียก่อน
ครึ่งหลัง
“ว่ายังไงนะครับ?” ชายหนุ่มกล่าวถามด้วยความไม่แน่ใจ
“ไม่พอเหรอ? 120 ล้านเป็นยังไง? ถึงเธอจะเอาไปประมูลก็ไม่ได้มากกว่านี้หรอกนะ” ชายชรากล่าวออกมาด้วยใบหน้าจริงจัง เขานึกว่าอีกฝ่ายไม่พอใจในราคาจึงตัดสินใจเพิ่มให้
“ไม่ใช่เรื่องราคาหรอกครับ ผมแค่ตกใจเพราะไม่คิดว่าแจกันใบนี้จะมีมูลค่าขนาดนั้น” เย่เซวียนตอบกลับไปด้วยใบหน้าแปลก ๆ
เขาควรจะขายไปเลยดีไหมนะ? แล้วค่อยมาสุ่มของใหม่ในอนาคตเอา
แต่ถ้าขายไปจะเป็นการหลอกลวงลูกค้ารึเปล่า เพราะมันเป็นแจกันแห่งความโชคร้ายเสียด้วย
“แล้วตกลง เธอจะขายไหมล่ะ? ฉันพูดจริงนะ” ชายชรากล่าวออกมาอีกหน เขาอยากได้แจกันใบนี้มากจริง ๆ
“ผมก็อยากขายนะครับ แต่แจกันนี้มันมีปัญหาบางอย่างอยู่” ชายหนุ่มทำใบหน้ากลุ้มใจพลางตอบกลับไป
“ปัญหาอะไรอ่ะ? แจกันมันมีผีสิงรึไง” หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านข้างกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย
“มันเป็นแจกันที่ดึงดูดโชคร้ายเข้าหาตัวผู้ครอบครองน่ะ” ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจในคำถามของหญิงสาวมากนัก เขายักไหล่ก่อนจะตอบกลับไปเหมือนเป็นเรื่องปกติ
แต่คำตอบของเขากลับทำให้ชายชราและหญิงสาวถึงกับมึนงง
แจกันดึงดูดความโชคร้ายเนี่ยนะ? นี่มันเป็นแจกันในนิยายเทพเซียนหรือไงกัน?
ถ้าไม่อยากขายก็น่าจะบอกกันดี ๆ ก็ได้นี่นา ไม่เห็นต้องโกหกแบบนี้เลย
“ถ้านายไม่อยากขายก็ไม่ต้องโกหกแบบนี้ก็ได้มั้ง เราคนกันเองอยู่แล้วมีอะไรก็พูดมาตรง ๆ ได้เลย” ฮวาหวู่หลิงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดแม้แต่น้อย
“ฉันพูดจริง ๆ นะ ถ้าไม่เชื่อก็แล้วแต่ละกัน” ชายหนุ่มกล่าวจบก็ล้วงเอาหินที่อยู่ด้านในแจกันออกมา
“ถ้ามันเป็นแจกันที่ดึงดูดโชคร้ายจริง ๆ แล้วทำไมนายไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยล่ะ?” หญิงสาวกล่าวถามออกมาด้วยความคาใจ
“ก็เพราะหินก้อนนี้ไง หินก้อนนี้มันสามารถเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นโชคดีได้ เมื่อสองอย่างนี้อยู่คู่กัน มันก็จะทำให้โชคร้ายที่แจกันใบนี้ดึงดูดเข้ามากลายเป็นโชคดีของฉันแทน” ชายหนุ่มแบมือออกเพื่อให้ทั้งสองคนได้เห็นก้อนหินที่เขาหยิบออกมาจากด้านในแจกัน
“มันดู..น่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อยนะ” ชายชราที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดกล่าวขึ้นมาบ้าง
ถึงเขาจะได้ยินมาบ้างว่าชายหนุ่มตรงหน้าเต็มไปด้วยความลึกลับขนาดไหนก็ตาม แต่เรื่องนี้มันค่อนข้างจะเชื่อได้ยากจริง ๆ
“ของพวกนี้ไม่เชื่อไม่ใช่ว่าไม่มีนะครับ เดี๋ยวผมจะแสดงบางอย่างให้ดู” ชายหนุ่มตอบกลับชายชราก่อนจะหยิบช็อกโกแลตออกมาแท่งหนึ่ง เขาหักส่วนเล็ก ๆ ออกมาส่วนชิ้นยื่นให้กับชายชราและหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังมองอยู่
“นายให้ฉันทำไมอ่ะ?” ฮวาหวู่หลิงกล่าวถามออกมา
“ทั้งคู่ลองกินดูสิ” ชายหนุ่มยังไม่ตอบอะไร เขาเพียงกล่าวออกมาด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ เท่านั้น
หลังจากที่คนทั้งสองกินช็อกโกแลตเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็นำช็อกโกแลตวางบนจานใบหนึ่งก่อนที่จะจุดธูปแล้วปักลงไปด้านบน
“นายมากินช็อกโกแลตนี่หน่อย” ชายหนุ่มหันไปกล่าวยังทิศทางหนึ่งที่ไม่มีใครอยู่ นั่นสร้างความรู้สึกแปลกประหลาดให้กับชายชราและหญิงสาวไม่ใช่น้อย
“อย่าบอกนะว่า..นายคุยกับผี?” หญิงสาวที่จำได้ว่าอีกฝ่ายเคยบอกเธอว่าเขาคุยกับวิญญาณได้ เธอจึงกล่าวถามออกมาด้วยความหวาดกลัว
“เอาล่ะ! ทีนี้ลองกินช็อกโกแลตนี่อีกทีนะครับ” ชายหนุ่มดึงธูปออกก่อนจะให้ทั้งสองคนกินช็อกโกแลตแท่งเดิม
ทั้งสองคนก็ทำตามอย่างว่าง่าย เพียงแต่เมื่อทั้งสองคนกินช็อกโกแลตเข้าไปก็ต้องพบกับเรื่องน่าประหลาดใจ
เพราะช็อกโกแลตแท่งนี้มันจืดลง!