ตอนที่แล้วบรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 25 ข้าบอกว่าเป็นเจ้า ก็คือเจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 27 ค่าตอบแทน

บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 26 เปิดเผยตัวตน


บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 26 เปิดเผยตัวตน

“พลังวิญญาณสีเลือด!”

“ผู้อาวุโสไป๋เป็นผู้บำเพ็ญสายมาร เป็นไปไม่ได้!”

“...”

เบื้องล่าง การเปลี่ยนแปลงมากมายทำให้ผู้บำเพ็ญระดับหลอมปราณต่างตกตะลึง

ผู้บำเพ็ญเหล่านี้ไม่มีเวลาและโอกาสเปล่งเสียงออกมา

พวกเขาเห็นเพียงว่าหลังจากผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋เข้าไปทักทายหลี่ซู หลี่ซูก็กล่าวเสียงดังว่าผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋สังหารสามตระกูลผู้บำเพ็ญเซียน ฆ่าผู้บำเพ็ญเซียนหลายสิบคนและปุถุชนหลายพันคน จากนั้นก็ลงมือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ซู ผู้บำเพ็ญเหล่านี้ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋อยู่กับพวกเขามาหลายเดือน อีกทั้งยังใจดีเป็นพิเศษ ไร้ซึ่งท่าทางโอหังของผู้อาวุโสระดับสร้างฐาน

ผู้บำเพ็ญบางส่วนยังได้รับความช่วยเหลือจากผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋

ดังนั้นจึงมีผู้บำเพ็ญบางส่วนอยากพูดแทนผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ และเมื่อผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋จะอธิบาย สีหน้าที่งุนงงของเขาก็หลอกผู้บำเพ็ญได้ไม่น้อย

แม้คนที่ลงมือจะเป็นหลี่ซู ผู้บำเพ็ญบางส่วนก็ยังอยากพูดแทนผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋

แต่เรื่องกลับพลิกผันอย่างรวดเร็ว

พวกเขาไม่มีโอกาสพูด

หลี่ซูลงมืออย่างรุนแรง ตั้งใจสังหารผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋เห็นหลี่ซูมุ่งมั่นที่จะสังหารเช่นนี้ เพื่อรักษาชีวิตเขาจึงต้องใช้ไม้ตายทั้งหมด

นี่จึงทำให้เขาเปิดเผยตัวตน

คนผู้นี้ช่างรู้จักซ่อนตัว ในการต่อสู้ใต้พิภพก็ไม่ได้ถูกผู้บำเพ็ญคนอื่นจับได้

แต่เขาเป็นผู้บำเพ็ญสายมาร วิถีมารของเขาย่อมแข็งแกร่งที่สุด หากอยากรักษาชีวิตก็ต้องใช้วิถีมาร นี่จึงทำให้เขาเปิดเผยตัวตน

เรื่องกลับพลิกผันอย่างรวดเร็ว ผู้บำเพ็ญจำนวนมากเดิมทีจะพูดแทนผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ ใครจะรู้ว่าเรื่องจะพลิกผันเช่นนี้ พวกเขาต่างตกตะลึง

.

เหนือท้องฟ้า ในตอนนี้ หลังจากผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋แสดงพลังออกมา ในมือของเขาก็ปรากฏธงดำผืนหนึ่ง

กระบี่บินทองคำพุ่งเข้ามาใกล้ ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ไม่พูดพร่ำทำเพลง ส่งพลังวิญญาณในร่างเข้าไปในธงดำอย่างบ้าคลั่ง

“ไป!”

เขาสะบัดธงดำอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาสะบัด เปลวไฟสีเขียวดำที่เหมือนกับไฟผีก็ปรากฏออกมา หมุนวนรอบตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง

เพียงพริบตา เปลวไฟสีเขียวดำเหล่านี้ก็ก่อตัวเป็นค่ายกลไฟผี

มองดูอย่างละเอียด เปลวไฟสีเขียวดำเหล่านี้ยังก่อตัวเป็นรูปหัวกะโหลก

กระบี่บินทองคำพุ่งเข้ามาใกล้ แต่ค่ายกลไฟผีที่ก่อตัวจากเปลวไฟสีเขียวดำถูกผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋สะบัดธงดำต้านทานไว้

“เก่งไม่เบา!”

หลี่ซูหรี่ตามอง

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ

ถึงแม้คนผู้นี้จะมีพลังแค่ระดับสร้างฐานขั้นแปด แต่ค่ายกลไฟผีที่เขาสะบัดธงดำออกมากลับสามารถต้านทานการโจมตีของยันต์วิเศษได้!

ธงดำผืนนี้ควรจะเป็นอาวุธเวทชั้นดีของผู้บำเพ็ญสายมาร

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋...ควรจะได้รับมรดกวิชาจากผู้บำเพ็ญสายมาร

ตอนที่หลี่ซูพบเจอผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ครั้งแรก จางเยวี่ยเอ๋อร์เคยแนะนำเขาให้หลี่ซูรู้จัก

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ในอดีตธรรมดามาก เพียงแต่จู่ ๆ เขาก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว สร้างฐานสำเร็จเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน

อืม ตอนนั้นเป็นเวลายี่สิบปีก่อน แต่ตอนนี้ระยะเวลาที่หลี่ซูเข้าร่วมงานชุมนุมผู้บำเพ็ญอิสระครั้งแรกผ่านไปสี่สิบปีกับอีกหลายเดือนแล้ว

ในช่วงเวลาสี่สิบปีมานี้ คนผู้นี้ทะลวงไปถึงระดับสร้างฐานขั้นแปด

ระหว่างนี้ ยี่สิบปีแรกพัฒนาการของเขานับว่าไม่เร็ว ตอนที่หลี่ซูพบเขาครั้งแรก คนผู้นี้มีพลังแค่ระดับสร้างฐานขั้นสอง

ควรจะเป็นเพราะตอนนั้นเขายังเก็บตัว

ต่อมา เขาก็เริ่มลงมือกับผู้บำเพ็ญเซียน ระดับของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ใช้เวลายี่สิบปีจากระดับสร้างฐานขั้นสอง มาถึงระดับสร้างฐานขั้นแปดในตอนนี้

งานชุมนุมผู้บำเพ็ญอิสระครั้งที่แล้วเมื่อหลายเดือนก่อน เขามีพลังแค่ระดับสร้างฐานขั้นเจ็ด!

หลายเดือนมานี้ คนผู้นี้ลงมือกับตระกูลผู้บำเพ็ญเซียนอย่างบ้าคลั่ง พลังของเขายิ่งแข็งแกร่งขึ้น!

วิชายุทธ์ของผู้บำเพ็ญสายมาร คนผู้นี้คงคิดค้นเองไม่ได้ บวกกับธงดำผืนนี้ มองดูแล้วผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ได้รับมรดกวิชาจากผู้บำเพ็ญสายมารอย่างแน่นอน

“น่าโมโหยิ่งนัก!”

ในตอนนี้ ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋โกรธจนแทบคลั่ง

นอกจากความโกรธก็มีแต่ความโกรธ

เขาวางแผนมาอย่างดี ถอนตัวออกมาอย่างสมบูรณ์ ไม่มีใครสามารถโยงเรื่องมาถึงเขาได้

ถึงจะมีคนสงสัย เขาก็ไม่ต้องกังวล

หลังจากเรื่องนี้ พลังของเขาสามารถไปถึงจุดสูงสุดระดับสร้างฐาน จากนั้นก็ลงมือกับผู้บำเพ็ญที่แข็งแกร่งกว่า เขามั่นใจว่าจะสามารถทะลวงไปถึงระดับแกนทองได้

ทุกอย่างช่างสมบูรณ์แบบ

ใครจะไปคิดว่า จะมาพบหลี่ซูที่ไม่ทำตามแบบแผน

ไม่สนใจเหตุผลใด ๆ ไม่พูดอะไรมากก็ลงมือสังหาร!

ถึงแม้ประมุขสามนิกายเซียนใหญ่จะมาเอง ก็คงไม่ไร้เหตุผลเช่นนี้

โลกบำเพ็ญเซียนนั้นแข็งแกร่งย่อมอยู่รอด แต่ก็มีกฎเกณฑ์พื้นฐาน

หลี่ซูกลับไม่สนใจเหตุผลใด ๆ ส่วนเขาก็มีความผิดติดตัว

จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่รู้ว่า เขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ มีหลักฐานยืนยันว่าเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ได้ทิ้งเบาะแสใด ๆ

หลี่ซูรู้ได้อย่างไร

ถึงแม้ตอนนี้เขาจะยังสามารถต้านทานยันต์วิเศษได้ แต่พลังของเขาอยู่แค่ระดับสร้างฐานขั้นแปด พอพลังแก่นแท้หมดลง เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

ด้วยอัตราการใช้พลังในตอนนี้...อย่างมากสุดก็แค่ไม่กี่นาที เขาก็ต้านทานไม่ได้แล้ว

“ต้องใช้วิธีนั้นแล้ว”

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋สะบัดธงดำด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็โยนลูกแก้วสีดำออกมา

“ตูม!”

ลูกแก้วสีดำลูกนั้นพุ่งเข้ามาใกล้หลี่ซู จากนั้นก็ระเบิด เปลวไฟสีดำก็พุ่งกระจายออกมา

ในเปลวไฟยังมีสายฟ้าแลบ

“ท่านผู้อาวุโสหลี่!”

ผู้บำเพ็ญจำนวนมากต่างหน้าซีด ลูกกลมลูกนี้น่ากลัวเกินไป

“เจ้ายังมีอีกกระบวนท่าอีกหรือไม่ ใช้มันออกมาให้หมดเถอะ”

ในตอนนี้ เสียงเรียบเฉยของหลี่ซูดังขึ้นมาจากอีกฝั่ง

เขาพุ่งเข้าใส่หลี่ซูกับซูอวิ๋นอย่างชัดเจน แต่ทั้งสองกลับไปปรากฏตัวที่อื่น!

ถึงจะเป็นระดับสร้างฐานขั้นสิบ ก็คงไม่สามารถหายตัวไปต่อหน้าต่อตาเขาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้!

“เป็นไปไม่ได้!”

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋หรี่ตามอง

“ที่นี่อยู่ในค่ายกลที่ข้าวางไว้ เจ้าลองเดาดูสิว่าตอนนี้ข้าอยู่ตรงไหน”

เสียงของหลี่ซูยังคงเรียบเฉย

เขารู้ล่วงหน้าแล้วว่าผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ไม่ธรรมดา ค่ายกลที่เขาวางไว้ นอกจากจะกักขังคนแล้ว ยังทำให้สับสนทิศทางและสร้างภาพลวงตา

ดังนั้น การลอบโจมตีของผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋จึงล้มเหลว

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋หน้าบึ้งตึง

เขาใกล้จะต้านทานไม่ได้แล้ว ในมือมีของไม่กี่อย่างที่เป็นภัยคุกคามต่อหลี่ซู

ถึงจะเป็นผู้บำเพ็ญสายมาร แต่พลังของเขาในตอนนี้ต่ำเกินไป ธงดำผืนนี้ไม่สามารถใช้พลังได้มากนัก

“น่าโมโหยิ่งนัก อีกปีเดียวเท่านั้น!”

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋โกรธจนแทบกระอักเลือด

จากนั้น

เขาก็กระอักเลือดออกมาจริง ๆ

ไม่ถึงไม่กี่นาที เพียงแค่หนึ่งนาทีกว่า ธงดำของเขาก็ต้านทานยันต์วิเศษไม่ได้แล้ว

กระบี่บินทองคำพุ่งทะลุร่างของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

“อึก!”

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋กระอักเลือดออกมาคำโต

วินาทีต่อมา หลี่ซูก็ปรากฏตัวตรงหน้าเขา ยื่นฝ่ามือออกไป สลายพลังแก่นแท้ในร่างของเขา ในมือของหลี่ซูปรากฏเชือกสีทองเส้นหนึ่ง มัดผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ที่กำลังจะตายเอาไว้

.

“ใช้เลือดเนื้อของผู้บำเพ็ญเซียนหลอมโอสถ นี่คือผู้บำเพ็ญสายมารงั้นรึ”

ครู่หนึ่ง เสียงของหลี่ซูดังขึ้น

ในมือของเขามีโอสถสีเลือดอยู่ไม่น้อย

สีเลือดนี้...เป็นเลือดจริง ๆ

นี่คือโอสถที่ใชเลือดเนื้อของผู้บำเพ็ญเซียนหลอมออกมา!

ผู้บำเพ็ญรอบ ๆ ตัวต่างหน้าซีด

“ไม่แปลกใจเลยที่หลายปีมานี้ ผู้บำเพ็ญที่เดินทางไปกับเขาต่างหายสาบสูญไปหมด”

ผู้บำเพ็ญคนหนึ่งดูเหมือนจะสังเกตเห็นเรื่องนี้ เพียงแต่ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ปกปิดไว้ได้ดีเกินไป ผู้บำเพ็ญผู้นี้จึงไม่ได้สงสัย

จนถึงตอนนี้จึงได้เข้าใจ

“ไม่คิดเลยว่าท่านไป๋...เขาจะเป็นผู้บำเพ็ญสายมาร โชคดีที่มีท่านผู้อาวุโสหลี่ ตอนนี้นึกแล้วยังหวาดกลัว”

“ใช่แล้ว ท่านผู้อาวุโสหลี่ช่างเฉียบแหลม เขาปกปิดไว้ได้ดีเช่นนี้ ท่านผู้อาวุโสหลี่ยังคงค้นพบ”

“รู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ ชายแซ่ไป๋ช่างซ่อนตัวได้ลึก”

“...”

ผู้บำเพ็ญจำนวนมากต่างชื่นชมหลี่ซู

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ซ่อนตัวได้ลึกเช่นนี้ กลับถูกหลี่ซูค้นพบ นี่จึงทำให้ผู้บำเพ็ญจำนวนมากเลื่อมใส

“ศิษย์พี่ดูเหมือนจะเก่งกาจไม่น้อย”

ด้านข้าง ซูอวิ๋นฟังผู้บำเพ็ญเหล่านั้นเล่าเรื่องในอดีตของผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ ก็อดคิดไม่ได้

ในอดีต นางไม่ได้ใส่ใจหลี่ซูมากนัก เพียงแค่เคยได้ยินมาเท่านั้น ไม่ได้สนใจมากนัก

จนกระทั่งช่วงนี้ ชื่อของหลี่ซูเริ่มปรากฏในบทสนทนาของศิษย์สำนักเซียนเวหาบ่อยครั้ง นางจึงได้รู้ว่าสำนักเซียนเวหามีผู้บำเพ็ญที่แปลกประหลาดเช่นนี้

สร้างฐานสำเร็จตอนอายุร้อยปี ชอบรับนางสนม หลงใหลในโลกียะ แต่พลังของเขากลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงยี่สิบกว่าปีมานี้

ทะลวงไปถึงจุดสูงสุดระดับสร้างฐานแล้ว

เช่นนี้ต่อไป ในช่วงชีวิตนี้ หลี่ซูอาจจะสามารถทะลวงไปถึงระดับแกนทองได้!

ตอนนี้ หลี่ซูกลับสามารถจับผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่มีเบาะแสใด ๆ แม้แต่นิกายตะวันเพลิงก็ยังไม่พบร่องรอย

หลี่ซูแบบนี้ ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาในสายตาซูอวิ๋นเปลี่ยนไปอีกครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด