ตอนที่แล้วบรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 20 เขามาเก็บเกี่ยวเซียนหญิงอีกแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 22 ครึกครื้น

บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 21 ข่าวสารเกี่ยวกับเหมืองแร่หินวิญญาณ


บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 21 ข่าวสารเกี่ยวกับเหมืองแร่หินวิญญาณ

“ชายผู้นี้ พลังเพิ่มขึ้นอีกแล้ว”

บนเทือกเขาสะบั้นเซียน หลี่ซูได้พบกับผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋อีกครั้ง

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋มางานชุมนุมผู้บำเพ็ญอิสระหลายครั้งแล้ว

ช่วงหลังมานี้ เขาเดินทางมาทุกปี

ทุกครั้งที่พบกัน ตบะของชายผู้นี้เพิ่มขึ้นมาก

ครั้งนี้ ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋จงใจปกปิดตบะของตนเองเอาไว้

ทว่าหลี่ซูมีตบะสูงส่งกว่าเขามาก จึงยังคงรู้สึกถึงความผิดปกติ

ชายผู้นี้ คงถึงระดับสร้างฐานขั้นเจ็ดแล้วกระมัง!

ระดับสร้างฐานขั้นเจ็ด ก็คือระดับสร้างฐานระยะปลาย

ให้ตายเถอะ

ครั้งแรกที่พบผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ คือเมื่อยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋อยู่ที่ระดับสร้างฐานขั้นสอง

สิบปีก่อนตอนที่พวกเขาพบกัน ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋อยู่ที่ระดับสร้างฐานขั้นสี่หรือขั้นห้า

ผ่านไปสิบปี ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ก็ไปถึงระดับสร้างฐานขั้นเจ็ด

นี่เป็นผู้บำเพ็ญอิสระจริงหรือ

ศิษย์แกนหลักบางคนในสำนักเซียนเวหายังพัฒนาตบะได้ไม่เร็วขนาดนี้!

แม้ว่าหลี่ซูจะพัฒนาตบะในช่วงยี่สิบปีมานี้ได้เร็วกว่าเขามาก แต่หลี่ซูมีนิ้วทองคำ

ชายผู้นี้ไม่มีทางมีนิ้วทองคำเช่นหลี่ซู

เขาฝึกฝนอย่างไรกัน

“มีปัญหาแน่แท้”

หลี่ซูยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋มีปัญหา

แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋มีปัญหา แต่ใบหน้าของหลี่ซูก็ยังคงเรียบเฉย

ครั้งนี้ ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋จงใจปกปิดกลิ่นอาย คงเป็นเพราะได้ยินข่าวว่าหลี่ซูไปถึงระดับสร้างฐานระยะปลายแล้ว

“ไม่นึกเลยว่าสหายหลี่จะพัฒนารวดเร็วเช่นนี้ เพียงไม่กี่ยี่สิบปีก็ถึงระดับสร้างฐานระยะปลาย ข้านับถือยิ่งนัก”

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ทักทายหลี่ซูก่อนกล่าว

ชายผู้นี้ รู้เรื่องนี้แล้วจริง ๆ

ก็เป็นเรื่องปกติ

ผ่านมาสิบปีแล้ว ข่าวที่หลี่ซูไปถึงระดับสร้างฐานระยะปลายคงแพร่กระจายออกไปแล้ว

ส่วนระดับสร้างฐานขั้นสิบ...ยังไม่แพร่กระจาย ตอนนี้ในสำนักเซียนเวหานอกจากผู้อาวุโสโถงกิจการฝ่ายนอกแล้ว ไม่มีใครรู้

“ตบะของสหายไป๋ก็พัฒนาไม่น้อยมิใช่หรือ”

หลี่ซูตอบกลับอย่างเรียบเฉย

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ไม่ได้เข้าใจความหมายในคำพูดของหลี่ซู กล่าวว่า “มิใช่ มิใช่ ข้าเพียงแค่กล้าเสี่ยง ไม่เหมือนพวกท่านที่เป็นศิษย์นิกายเซียน ข้าเอาชีวิตเข้าแลกมาหลายสิบปี เพิ่งจะถึงระดับสร้างฐานขั้นห้า”

ชายผู้นี้คิดว่าหลี่ซูไม่รู้

หลี่ซูไม่ได้พูดต่อ

รอบตัวเขา ผู้บำเพ็ญอิสระจำนวนมากต่างมารวมตัวกัน

ตอนกลางวัน หลี่ซูชี้แนะผู้บำเพ็ญอิสระบางส่วน ตอนกลางคืน หลี่ซูก็เข้าไปในกระโจมเช่นเดิม

กระโจมในค่ำคืนนี้ ทั้งใหญ่และกลม

ผู้บำเพ็ญหญิงที่มอบของแทนใจให้หลี่ซูมีจำนวนไม่น้อย มากกว่าสองเท่าจากก่อนหน้านี้

หลังจากข่าวที่หลี่ซูไปถึงระดับสร้างฐานระยะปลายแพร่กระจายออกไป กอปรกับข่าวที่ราชวงศ์ยกองค์หญิงให้หลี่ซูเป็นนางสนม ชื่อเสียงของหลี่ซูก็โด่งดังมากขึ้น

ระดับสร้างฐาน กับระดับสร้างฐานระยะปลาย นั้นต่างกัน

หลี่ซูสร้างฐานตอนอายุร้อยปี เดิมทีหลายคนคิดว่าเขาอาจจะไปไม่ถึงระดับสร้างฐานระยะปลาย

ใครจะไปคิดว่าหลี่ซูจะไปถึงเร็วขนาดนี้

ระดับสร้างฐานระยะปลาย นอกจากจะเป็นพลังอำนาจที่แท้จริงแล้ว ยังแสดงถึงศักยภาพ

ผู้บำเพ็ญหญิงบางส่วนหรือตระกูลผู้บำเพ็ญเซียนบางตระกูลก็คิดว่า

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้

เผื่อว่าหลี่ซูจะทะลวงถึงระดับแกนทอง

ความหมายก็จะต่างออกไป

การแต่งงานกับยอดฝีมือระดับแกนทอง แล้วยังเป็นคนที่ทรงเสน่ห์เช่นนี้ ถึงจะเป็นนางสนม ผู้บำเพ็ญหญิงระดับหลอมปราณหลายคนก็เต็มใจ

.

ดังนั้น เส้นทางการรับนางสนมของหลี่ซูจึงราบรื่นมากขึ้น

ในวันรุ่งขึ้น มีข่าวหนึ่งแพร่กระจายไปทั่วเทือกเขาสะบั้นเซียน

“จริงหรือ”

“น่าจะเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ค่อนข้างเสี่ยง หากจะไปก็ต้องรีบไป ช้ากว่านี้สามนิกายเซียนใหญ่จะไปแล้ว”

“…”

ผู้บำเพ็ญอิสระบางส่วนกำลังพูดคุยกันอย่างลับ ๆ

“ผู้อาวุโส ได้ยินมาว่าบนภูเขาห้วงอุดมมีสัตว์อสูรแข็งแกร่งสองตัวต่อสู้กัน ทำให้ภูเขาทรุดตัวลง หลังจากนั้นก็มีรัศมีพุ่งทะยาน บริเวณนั้นน่าจะมีเหมืองแร่หินวิญญาณ ขนาดคงไม่เล็ก”

ข้างกายหลี่ซู ผู้บำเพ็ญหญิงคนหนึ่งรีบนำข่าวมาบอก

ข่าวนี้ กลับเป็นข่าวเกี่ยวกับเหมืองแร่หินวิญญาณ

“คราวนี้สามนิกายเซียนใหญ่คงต้องต่อสู้กัน เหมืองแร่หินวิญญาณในอดีต ตราบใดที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่อิทธิพลของสามนิกายเซียนใหญ่ ทุกครั้งล้วนต้องต่อสู้กันนานถึงจะได้สิทธิ์ในการจัดสรร”

ผู้บำเพ็ญอิสระคนหนึ่งกล่าว

“เหมืองแร่หินวิญญาณครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษ น่าจะเป็นเหมืองที่กระจายตัว พวกเราเข้าไปทางรอยแยกใต้พิภพ หากโชคดีก็จะหาเจอ เพียงแต่ตอนนี้มีสัตว์อสูรจำนวนมาก”

“หากเป็นสัตว์อสูรระดับหนึ่ง ระวังหน่อย พวกเราร่วมมือกันก็สามารถจัดการได้ หากเป็นสัตว์อสูรระดับสอง ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องหลบหนีอย่างเดียว”

“…”

ผู้บำเพ็ญอิสระจำนวนมากต่างสนใจข่าวนี้ พวกเขากำลังปรึกษาหารือกัน

ผู้บำเพ็ญอิสระระดับหลอมปราณระยะกลางและระยะปลายบางส่วน เริ่มมีความคิดอยากไปแล้ว

ทรัพยากรหินวิญญาณในเขตพื้นที่ของสามนิกายเซียนใหญ่ ส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยนิกายเซียน ผู้บำเพ็ญอิสระอยากได้หินวิญญาณนั้นไม่ง่าย

ตอนนี้ เหมืองแร่หินวิญญาณนี้เป็นโอกาสหนึ่ง

แม้จะอันตราย แต่เหมืองแร่หินวิญญาณครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษ กระจายตัวอยู่ใต้พิภพ

ตราบใดที่พวกเขาหารอยแยกใต้พิภพเข้าไป บางทีอาจจะได้หินวิญญาณมาบ้าง

หลี่ซูสังเกตเห็นว่าผู้บำเพ็ญอิสระบางส่วนเริ่มออกเดินทางจากเทือกเขาสะบั้นเซียน

“สหายหลี่ ข้าจะไปภูเขาห้วงอุดมดู ท่านเป็นศิษย์นิกายเซียน ข้าคงไม่ชวนท่าน”

ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋กล่าวลากับหลี่ซู

หลี่ซูสังเกตเห็นแล้วว่าผู้บำเพ็ญอิสระที่เดินทางไปกับชายผู้นี้เมื่อสิบปีก่อน ปีนี้ไม่มีใครมาเลย

ชายผู้นี้มีปัญหาแน่ ๆ

เมื่อเวลาผ่านไป ผู้บำเพ็ญอิสระที่ตัดสินใจไปภูเขาห้วงอุดมมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

ผู้บำเพ็ญอิสระบางส่วนคิดว่า ไปดูก่อนว่ามีโอกาสหรือไม่ หากอันตราย ค่อยกลับมาก็ไม่สาย

“พวกเจ้าจะไปหรือไม่”

หลี่ซูถามผู้บำเพ็ญหญิงหลายคนที่อยู่ข้างกาย

“ผู้อาวุโส ข้าไม่ไป ข้าจะไปกับท่าน”

ผู้บำเพ็ญหญิงคนหนึ่งกล่าว

ผู้บำเพ็ญหญิงคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย

ภูเขาห้วงอุดมอันตรายเกินไป ที่นั่นเป็นเทือกเขาสูงเสียดฟ้า ทอดยาวไปหลายหมื่นลี้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้

มีสัตว์อสูรมากมายนับไม่ถ้วน ป่าไม้ดำตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเขาห้วงอุดม แต่ป่าไม้ดำไม่อันตรายเท่ากับบริเวณใจกลางภูเขาห้วงอุดม

“พวกเราไปกันเถอะ”

หลี่ซูก็ไม่ได้คิดจะไปเช่นกัน

เรื่องแบบนี้ เขาไม่ชอบเข้าไปร่วมสนุก

กลับไปพัฒนาตนเองอย่างสงบสุข ดีที่สุด รอทะลวงถึงระดับแกนทองก่อนค่อยว่ากัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด