บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 21 ข่าวสารเกี่ยวกับเหมืองแร่หินวิญญาณ
บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 21 ข่าวสารเกี่ยวกับเหมืองแร่หินวิญญาณ
“ชายผู้นี้ พลังเพิ่มขึ้นอีกแล้ว”
บนเทือกเขาสะบั้นเซียน หลี่ซูได้พบกับผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋อีกครั้ง
ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋มางานชุมนุมผู้บำเพ็ญอิสระหลายครั้งแล้ว
ช่วงหลังมานี้ เขาเดินทางมาทุกปี
ทุกครั้งที่พบกัน ตบะของชายผู้นี้เพิ่มขึ้นมาก
ครั้งนี้ ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋จงใจปกปิดตบะของตนเองเอาไว้
ทว่าหลี่ซูมีตบะสูงส่งกว่าเขามาก จึงยังคงรู้สึกถึงความผิดปกติ
ชายผู้นี้ คงถึงระดับสร้างฐานขั้นเจ็ดแล้วกระมัง!
ระดับสร้างฐานขั้นเจ็ด ก็คือระดับสร้างฐานระยะปลาย
ให้ตายเถอะ
ครั้งแรกที่พบผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ คือเมื่อยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋อยู่ที่ระดับสร้างฐานขั้นสอง
สิบปีก่อนตอนที่พวกเขาพบกัน ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋อยู่ที่ระดับสร้างฐานขั้นสี่หรือขั้นห้า
ผ่านไปสิบปี ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ก็ไปถึงระดับสร้างฐานขั้นเจ็ด
นี่เป็นผู้บำเพ็ญอิสระจริงหรือ
ศิษย์แกนหลักบางคนในสำนักเซียนเวหายังพัฒนาตบะได้ไม่เร็วขนาดนี้!
แม้ว่าหลี่ซูจะพัฒนาตบะในช่วงยี่สิบปีมานี้ได้เร็วกว่าเขามาก แต่หลี่ซูมีนิ้วทองคำ
ชายผู้นี้ไม่มีทางมีนิ้วทองคำเช่นหลี่ซู
เขาฝึกฝนอย่างไรกัน
“มีปัญหาแน่แท้”
หลี่ซูยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋มีปัญหา
แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋มีปัญหา แต่ใบหน้าของหลี่ซูก็ยังคงเรียบเฉย
ครั้งนี้ ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋จงใจปกปิดกลิ่นอาย คงเป็นเพราะได้ยินข่าวว่าหลี่ซูไปถึงระดับสร้างฐานระยะปลายแล้ว
“ไม่นึกเลยว่าสหายหลี่จะพัฒนารวดเร็วเช่นนี้ เพียงไม่กี่ยี่สิบปีก็ถึงระดับสร้างฐานระยะปลาย ข้านับถือยิ่งนัก”
ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ทักทายหลี่ซูก่อนกล่าว
ชายผู้นี้ รู้เรื่องนี้แล้วจริง ๆ
ก็เป็นเรื่องปกติ
ผ่านมาสิบปีแล้ว ข่าวที่หลี่ซูไปถึงระดับสร้างฐานระยะปลายคงแพร่กระจายออกไปแล้ว
ส่วนระดับสร้างฐานขั้นสิบ...ยังไม่แพร่กระจาย ตอนนี้ในสำนักเซียนเวหานอกจากผู้อาวุโสโถงกิจการฝ่ายนอกแล้ว ไม่มีใครรู้
“ตบะของสหายไป๋ก็พัฒนาไม่น้อยมิใช่หรือ”
หลี่ซูตอบกลับอย่างเรียบเฉย
ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋ไม่ได้เข้าใจความหมายในคำพูดของหลี่ซู กล่าวว่า “มิใช่ มิใช่ ข้าเพียงแค่กล้าเสี่ยง ไม่เหมือนพวกท่านที่เป็นศิษย์นิกายเซียน ข้าเอาชีวิตเข้าแลกมาหลายสิบปี เพิ่งจะถึงระดับสร้างฐานขั้นห้า”
ชายผู้นี้คิดว่าหลี่ซูไม่รู้
หลี่ซูไม่ได้พูดต่อ
รอบตัวเขา ผู้บำเพ็ญอิสระจำนวนมากต่างมารวมตัวกัน
ตอนกลางวัน หลี่ซูชี้แนะผู้บำเพ็ญอิสระบางส่วน ตอนกลางคืน หลี่ซูก็เข้าไปในกระโจมเช่นเดิม
กระโจมในค่ำคืนนี้ ทั้งใหญ่และกลม
ผู้บำเพ็ญหญิงที่มอบของแทนใจให้หลี่ซูมีจำนวนไม่น้อย มากกว่าสองเท่าจากก่อนหน้านี้
หลังจากข่าวที่หลี่ซูไปถึงระดับสร้างฐานระยะปลายแพร่กระจายออกไป กอปรกับข่าวที่ราชวงศ์ยกองค์หญิงให้หลี่ซูเป็นนางสนม ชื่อเสียงของหลี่ซูก็โด่งดังมากขึ้น
ระดับสร้างฐาน กับระดับสร้างฐานระยะปลาย นั้นต่างกัน
หลี่ซูสร้างฐานตอนอายุร้อยปี เดิมทีหลายคนคิดว่าเขาอาจจะไปไม่ถึงระดับสร้างฐานระยะปลาย
ใครจะไปคิดว่าหลี่ซูจะไปถึงเร็วขนาดนี้
ระดับสร้างฐานระยะปลาย นอกจากจะเป็นพลังอำนาจที่แท้จริงแล้ว ยังแสดงถึงศักยภาพ
ผู้บำเพ็ญหญิงบางส่วนหรือตระกูลผู้บำเพ็ญเซียนบางตระกูลก็คิดว่า
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้
เผื่อว่าหลี่ซูจะทะลวงถึงระดับแกนทอง
ความหมายก็จะต่างออกไป
การแต่งงานกับยอดฝีมือระดับแกนทอง แล้วยังเป็นคนที่ทรงเสน่ห์เช่นนี้ ถึงจะเป็นนางสนม ผู้บำเพ็ญหญิงระดับหลอมปราณหลายคนก็เต็มใจ
.
ดังนั้น เส้นทางการรับนางสนมของหลี่ซูจึงราบรื่นมากขึ้น
ในวันรุ่งขึ้น มีข่าวหนึ่งแพร่กระจายไปทั่วเทือกเขาสะบั้นเซียน
“จริงหรือ”
“น่าจะเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ค่อนข้างเสี่ยง หากจะไปก็ต้องรีบไป ช้ากว่านี้สามนิกายเซียนใหญ่จะไปแล้ว”
“…”
ผู้บำเพ็ญอิสระบางส่วนกำลังพูดคุยกันอย่างลับ ๆ
“ผู้อาวุโส ได้ยินมาว่าบนภูเขาห้วงอุดมมีสัตว์อสูรแข็งแกร่งสองตัวต่อสู้กัน ทำให้ภูเขาทรุดตัวลง หลังจากนั้นก็มีรัศมีพุ่งทะยาน บริเวณนั้นน่าจะมีเหมืองแร่หินวิญญาณ ขนาดคงไม่เล็ก”
ข้างกายหลี่ซู ผู้บำเพ็ญหญิงคนหนึ่งรีบนำข่าวมาบอก
ข่าวนี้ กลับเป็นข่าวเกี่ยวกับเหมืองแร่หินวิญญาณ
“คราวนี้สามนิกายเซียนใหญ่คงต้องต่อสู้กัน เหมืองแร่หินวิญญาณในอดีต ตราบใดที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่อิทธิพลของสามนิกายเซียนใหญ่ ทุกครั้งล้วนต้องต่อสู้กันนานถึงจะได้สิทธิ์ในการจัดสรร”
ผู้บำเพ็ญอิสระคนหนึ่งกล่าว
“เหมืองแร่หินวิญญาณครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษ น่าจะเป็นเหมืองที่กระจายตัว พวกเราเข้าไปทางรอยแยกใต้พิภพ หากโชคดีก็จะหาเจอ เพียงแต่ตอนนี้มีสัตว์อสูรจำนวนมาก”
“หากเป็นสัตว์อสูรระดับหนึ่ง ระวังหน่อย พวกเราร่วมมือกันก็สามารถจัดการได้ หากเป็นสัตว์อสูรระดับสอง ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องหลบหนีอย่างเดียว”
“…”
ผู้บำเพ็ญอิสระจำนวนมากต่างสนใจข่าวนี้ พวกเขากำลังปรึกษาหารือกัน
ผู้บำเพ็ญอิสระระดับหลอมปราณระยะกลางและระยะปลายบางส่วน เริ่มมีความคิดอยากไปแล้ว
ทรัพยากรหินวิญญาณในเขตพื้นที่ของสามนิกายเซียนใหญ่ ส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยนิกายเซียน ผู้บำเพ็ญอิสระอยากได้หินวิญญาณนั้นไม่ง่าย
ตอนนี้ เหมืองแร่หินวิญญาณนี้เป็นโอกาสหนึ่ง
แม้จะอันตราย แต่เหมืองแร่หินวิญญาณครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษ กระจายตัวอยู่ใต้พิภพ
ตราบใดที่พวกเขาหารอยแยกใต้พิภพเข้าไป บางทีอาจจะได้หินวิญญาณมาบ้าง
หลี่ซูสังเกตเห็นว่าผู้บำเพ็ญอิสระบางส่วนเริ่มออกเดินทางจากเทือกเขาสะบั้นเซียน
“สหายหลี่ ข้าจะไปภูเขาห้วงอุดมดู ท่านเป็นศิษย์นิกายเซียน ข้าคงไม่ชวนท่าน”
ผู้บำเพ็ญแซ่ไป๋กล่าวลากับหลี่ซู
หลี่ซูสังเกตเห็นแล้วว่าผู้บำเพ็ญอิสระที่เดินทางไปกับชายผู้นี้เมื่อสิบปีก่อน ปีนี้ไม่มีใครมาเลย
ชายผู้นี้มีปัญหาแน่ ๆ
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้บำเพ็ญอิสระที่ตัดสินใจไปภูเขาห้วงอุดมมีมากขึ้นเรื่อย ๆ
ผู้บำเพ็ญอิสระบางส่วนคิดว่า ไปดูก่อนว่ามีโอกาสหรือไม่ หากอันตราย ค่อยกลับมาก็ไม่สาย
“พวกเจ้าจะไปหรือไม่”
หลี่ซูถามผู้บำเพ็ญหญิงหลายคนที่อยู่ข้างกาย
“ผู้อาวุโส ข้าไม่ไป ข้าจะไปกับท่าน”
ผู้บำเพ็ญหญิงคนหนึ่งกล่าว
ผู้บำเพ็ญหญิงคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย
ภูเขาห้วงอุดมอันตรายเกินไป ที่นั่นเป็นเทือกเขาสูงเสียดฟ้า ทอดยาวไปหลายหมื่นลี้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้
มีสัตว์อสูรมากมายนับไม่ถ้วน ป่าไม้ดำตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเขาห้วงอุดม แต่ป่าไม้ดำไม่อันตรายเท่ากับบริเวณใจกลางภูเขาห้วงอุดม
“พวกเราไปกันเถอะ”
หลี่ซูก็ไม่ได้คิดจะไปเช่นกัน
เรื่องแบบนี้ เขาไม่ชอบเข้าไปร่วมสนุก
กลับไปพัฒนาตนเองอย่างสงบสุข ดีที่สุด รอทะลวงถึงระดับแกนทองก่อนค่อยว่ากัน