ตอนที่แล้วบทที่ 137 ค่าคุ้มครอง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 139 หากข้าจะรังแก แล้วเจ้าจะทำไม!

บทที่ 138 ทดสอบชิงอวิ๋น!


หลัวเฉิงยังคงมีเงินติดตัวหลายล้านตำลึง ซึ่งโอสถเลือดลมสองสามเม็ดก็ไม่มีประโยชน์อันใดต่อเขา

“ศิษย์พี่หลัวเฉิง นี่มันหมายความว่าอย่างไร?”

พวกเขาทั้งสามมองหลัวเฉิงด้วยความประหลาดใจ

จางเหลียนเองก็มีสีหน้าไม่ต่างจากสามคนนั้นเช่นกัน “หลัวเฉิง เจ้า…”

หลัวเฉิงโบกมือปัดแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสหยกขาวที่อยู่ในระยะไกล

หลัวเฉิงรู้ดีว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขานั้น ใช่ว่าผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันจะสามารถสยบเขาได้ง่ายๆ

อย่างไรเสีย เขาก็ไม่คิดจะเข้าร่วมกับกลุ่มคนเหล่านี้อยู่แล้ว

ศิษย์น้องอวี้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อมองโอสถเลือดลมในมือ ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความซาบซึ้งใจทันที จากนั้นโค้งคำนับหลัวเฉิงแล้วตะโกนอย่างสุดเสียง

“ขอบคุณท่านมากศิษย์พี่!”

จางเหลียนวิ่งตามหลัวเฉิงอย่างรวดเร็ว เขาแสดงความลังเลอยู่หลายหน จนสุดท้ายก็เปิดปากกล่าวว่า “หลัวเฉิง ไฉนเจ้าทำเช่นนี้”

“ไม่มีอะไรมาก ข้าก็แค่อยากทำเท่านั้นเอง”

น้ำเสียงของหลัวเฉิงสงบราบเรียบ

แม้เขาจะมิใช่วิญญูชน แต่จะไม่ยอมทำลายหลักการของตนเองโดยเด็ดขาด

จางเหลียนตกตะลึงไปครู่แล้วทอดถอนใจกล่าวว่า “ความสูญเสียในครั้งนี้นับว่าใหญ่หลวง ถ้า... ถ้าเจ้ายังฝืนทำเช่นนี้ต่อไป ข้าเกรงว่าเจ้าจะทำให้ผู้อาวุโสเหอขุ่นเคือง”

หลัวเฉิงเองก็ใช่ว่าจะไม่ทราบถึงเรื่องนี้

แต่กระนั้น ตัวเขาเองก็ทำให้หลายคนคุณเคืองมากพออยู่แล้ว เพิ่มอีกแค่คนสองคนจะเป็นไรไป

จางเหลียนน้ำเสียงชะงักขาดไปชั่วครู่ และทันใดก็กล่าวน้ำเสียงจริงจังว่า “ไม่ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร แต่ข้าจางเหลียนเลื่อมใสเจ้ายิ่งนัก!”

หลัวเฉิงแย้มยิ้มกล่าวว่า “เราไปที่จัตุรัสข้างหน้ากันเถอะ ดูเหมือนจะมีผู้คนรายล้อมที่นั่นจำนวนมากไม่รู้ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นกันแน่”

จางเหลียนทอดตามองยาวไปยังจัตุรัสแล้วกล่าวว่า “นั่นคือการทดสอบชิงอวิ๋น มันเป็นวัฒนธรรมที่มีมายาวนานแล้ว”

“การทดสอบชิงอวิ๋นงั้นรึ?”

จางเหลียนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเปิดปากอธิบายว่า “ในการทดสอบชิงอวิ๋นนั้น เป็นงานประจำปีสำหรับศิษย์บำรุงสำนัก นอกจากมีรางวัลมากมายแล้ว ศิษย์บำรุงสำนักสิบอันดับแรกยังสามารถเข้าสู่สำนักฝ่ายนอกได้และกลายเป็นศิษย์สำนักฝ่ายนอกทันที!”

“กลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกทันทีงั้นหรือ?”

ดวงตาของหลัวเฉิงเปล่งประกายในทันที

ทว่า จางเหลียนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วยิ้มอย่างขมขื่นกล่าวว่า “เจ้าอย่าได้คิดถึงเรื่องนี้เลย ในการทดสอบชิงอวิ๋นทุกปีนั้น สิบอันดับแรกทั้งหมดล้วนอยู่ที่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับห้า หรือบางครั้งอาจจะมีม้ามืดโผล่มาคนหรือสองคน แต่อย่างน้อยก็จะอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสี่!”

“เรารีบไปดูกันเถอะ!”

หลัวเฉิงคล้ายดั่งไม่ได้ฟัง รีบวิ่งไปยังจัตุรัสอย่างเร็วด้วยความร้อนใจเป็นที่สุด

จัตุรัสนี้มีความยาวและกว้างร้อยฉื่อ ที่พื้นปูด้วยหยกสีขาวนวลกระจ่างใส พานให้มันมีความวิจิตรงดงามยิ่งนัก

ที่ด้านหน้าของจัตุรัส มีกำแพงขนาดใหญ่พร้อมซึ่งมีป้ายเขียนติดอยู่อย่างอลังการ ตัวอักษรทั้งสี่ที่เขียนด้วยน้ำหมึกทอง เรียงเป็นคำว่าทดสอบชิงอวิ๋นนั้นสะดุดตาอย่างยิ่ง

ใต้ประกาศนั้น ล้วนเต็มไปด้วยฝูงชนจำนวนมากมารวมตัวกัน ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมองยังเนื้อหาในใบประกาศนั้น

หลัวเฉิงเองก็มองขึ้นไปเพื่ออ่านเนื้อหาเช่นกัน

“แท้จริงแล้ว มันค่อนข้างคล้ายกับการแข่งขันงานชุมนุมล่าสัตว์…”

หลัวเฉิงพึมพำกับตนเอง

ด้วยเนื้อหาของการทดสอบชิงอวิ๋น คือการล่าสัตว์อสูรบนเกาะชิงอวิ๋นที่อยู่ใกล้กับสำนักซวนหยวน และการจัดอันดับนั้นจะขึ้นอยู่กับคะแนนรวมในการล่าสัตว์อสูร

นอกจากสิบอันดับแรกที่สามารถเข้าสู่สำนักฝ่ายนอกได้แล้ว รางวัลของการทดสอบชิงอวิ๋นยังนับว่ามีน้ำใจใช่น้อย

อันดับหนึ่งจะได้รับโอสถเลือดลมห้าร้อยเม็ด อันดับที่สองจะได้รับโอสถเลือดลมสามร้อยเม็ด อันดับที่สามจะได้รับโอสถเลือดลมสองร้อยเม็ด... และอันดับที่สิบจะได้รับโอสถเลือดลมสามสิบเม็ด

ตราบใดที่เข้าสู่ร้อยอันดับแรก ทุกคนจะได้รับรางวัลเป็นโอสถเลือดลมสิบเม็ด

ศิษย์บำรุงสำนักทุกคนสามารถเข้าร่วมการทดสอบชิงอวิ๋นได้ ยกเว้นก็แต่ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหกขึ้นไป

จางเหลียนให้คำอธิบายว่า ไยผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหกจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม

การทดสอบชิงอวิ๋นนั้น มีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความหวังให้แก่ศิษย์บำรุงสำนักทุกคน

ซึ่งศิษย์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหก ใกล้จะทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหกมีพลังทางจิตวิญญาณที่แก่กล้า แก่นแท้ของพวกเขาโชติช่วงประดุจไฟ ร่างกายแข็งแกร่งด้วยพลังสองสาย และมีพลังมากถึงแสนจิน! เรียกได้ว่าเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังในร่างมนุษย์!

หากคนเหล่านี้เข้าร่วมการทดสอบชิงอวิ๋น เป้าหมายในการจัดแข่งขันจะสูญเสียไปโดยปริยาย!

“วันเริ่มการทดสอบชิงอวิ๋นคือวันที่สิบเจ็ดเดือนกันยายน! นั่นมันพรุ่งนี้มิใช่เหรอ!”

ทันใด รูม่านตาของหลัวเฉิงก็หดตัวหรี่ลง หลังเห็นวันเริ่มต้นการทดสอบชิงอวิ๋น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด