น้ำต้มที่น่าประหลาดใจ (อ่านฟรี 30/11/2567)
“เสียงอะไรวะ ใครมันมาเคาะประตูร้านแต่เช้าแบบนี้” ชายหนุ่มงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียเคาะประตูเหล็กจากด้านล่าง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พอว่าเป็นเวลา 6 โมงเช้าพอดี
ความจริงแล้วมันก็ไม่นับว่าเช้าอะไรสำหรับตัวเขาที่ต้องตื่นตั้งแต่ ตี4 เพื่อไปทำงานเมื่อก่นหรอก
แต่เนื่องจากช่วงนี้ชายหนุ่มยังไม่รู้ว่าจะปรับการใช้ชีวิตอย่างไรบ้างเขาจึงยังไม่ได้มีแพลนว่าจะทำอะไรในแต่ละวัน เพียงแค่คิดไว้ว่าจะลองตื่นสายกว่าเดิมหรือก็คือตื่นตอน 8 โมงเช้าแล้วค่อยไปสำรวจหมู่บ้านกับบริษัทที่ได้รับมาในช่วงเช้า เที่ยงหาข้าวกินแล้วค่อยไปศาลเจ้าเพื่อทำภารกิจต่อในตอนบ่าย
“แปรงฟันก่อนก็แล้วกัน” ว่าแล้วก็เดินไปแปรงฟันโดยไม่สนใจเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่น้อย ชายหนุ่มหยิบแปรงสีฟันขนอ่อนนุ่มที่ซื้อมาใหม่บีบยาสีฟันลงไปและแปรงอย่างสบายอารมณ์
“เสียงคุ้น ๆ แหะ” เขาเอียงคอพลางครุ่นคิดเล็กน้อย เพราะเหมือนได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้นมา เพียงแต่ด้วยระยะทางที่ไกลกันสักหน่อยจึงฟังไม่ค่อยจะออก
ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่สนใจก่อนจะไปอาบน้ำต่อ หลังจากนั้นเขาก็แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสบาย ๆ เป็นเพียงเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ทั่วไปที่ซื้อมาใหม่
เพราะเขารู้สึกว่าเสื้อผ้าของ LV จะดูหรูหราเกินไปหน่อย
ตรู๊ดดดดดดดดดด
“ฮัลโหล มีอะไรเหรอหวู่หลิง?” ชายหนุ่มกดรับสายเมื่อเห็นว่ามีคนโทรเข้ามา เขามองรายชื่อบนหน้าจอก่อนจะกล่าวออกมา
“ยังมีหน้ามีถามอีก! นายไม่อยู่บ้านรึไง?” เสียงของหญิงสาวแฝงไว้ด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เธอมาเคาะประตูบ้านอีกฝ่ายตั้งนานแล้ว รวมเวลาตั้งแต่มาถึงก็น่าจะเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้
“ก็อยู่นะ ทำไมเหรอ?” ชายหนุ่มกล่าวถามกลับไป
“อยู่ก็มาเปิดประตูสักที! ไหนว่าจะให้ช่วยดูแจกันให้ไม่ใช่รึไง? ฉันอุตส่าห์ผู้เฒ่าหลี่มาประเมินให้เชียวนะ!” หญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นจึงรู้สึกหัวเสียยิ่งกว่าเดิม
นี่ตานั่นบอกให้มาช่วยแต่ดันไม่รู้จักเปิดร้านมารอรึไงนะ?
“ขอโทษที พอดีฉันลืมไปเลยน่ะ! เดี๋ยวจะรีบลงไปเปิดประตูให้เดี๋ยวนี้แหละ” เย่เซวียนที่ได้ยินอีกฝ่ายกล่าวออกมาก็นึกขึ้นได้ เพราะเขาลืมไปเสียสนิทเลยจริง ๆ !
“ไว ๆ เลย! รู้ไหมอากาศข้างนอกมันหนาวแค่ไหน” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะตัดสายไป
ชายหนุ่มที่ตอนนี้รู้แล้วว่ามีคนมารอเขาอยู่ด้านล่างอย่างน้อยสองคนจึงรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จในทันที หลังจากนั้นเขาก็ลงมาด้านล่างพร้อมกุญแจร้านแล้วทำการไขเปิดประตูซี่เหล็กที่เขาปิดไว้
หลังจากที่เขาเปิดประตูร้านออกก็พบเข้ากับร่างตัวหญิงสาวตัวเล็กผมสีชมพูที่คุ้นเคย กับร่างของชายชรารูปร่างสมส่วนผมสีขาวโพลนทั้งหัว ชายชราแต่งชุดแบบชุดจีนโบราณดูเหมือนจะชื่นชอบการแต่งตัวแบบโบราณสินะ?
“ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานเลยนะครับ พอดีผมลืมไปเลยว่าจะมีคนมาบ้านแต่เช้า” ชายหนุ่มก้มหัวเป็นเชิงขอโทษให้กับทั้งคู่
“ไม่เป็นไรหรอกพ่อหนุ่ม พวกเรามาแต่เช้าเองแหละ” ชายชรากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มใจดี
“จะให้ยืนอีกหน้าบ้านนานไหมเนี่ย? ไม่เชิญเข้าไปข้างในรึไง” หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยความสงสัย เธอลอบมองชายหนุ่มตรงหน้าของเธอไปด้วย ดูเหมือนเขาจะดูดีขึ้นกว่าตอนที่เจอกันครั้งล่าสุดอีกแหะ
‘หมอนี่มีแต่เรื่องให้ประหลาดใจทั้งนั้นเลย’ หญิงสาวครุ่นคิดในใจด้วยใบหน้าปกติ
ครึ่งหลัง
“เชิญ ๆ หาที่นั่งกันได้ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวไปต้มน้ำมาให้” เย่เซวียนได้ยินที่หญิงสาวกล่าวจึงรีบผายมือเป็นการเชื้อเชิญ ก่อนที่เขาจะเดินตรงเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมต้มน้ำให้กับแขกทั้งสองคน
“ของในร้านนี้..ค่อนข้างน่าสนใจนะ” ชายชราที่เดินเข้ามาภายในร้านกล่าวออกมาหลังจากมองไปรอบ ๆ
“มีแต่ของปลอมใช่ไหมคะท่านผู้เฒ่าหลี่?” ฮวาหวู่หลิงกล่าวขึ้นมา
“มันก็ใช่นั่นแหละ” ชายชราที่ได้ยินหญิงสาวกล่าวเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาเจื่อน ๆ เขาพยายามจะรักษาน้ำใจเจ้าของบ้านเอาไว้จึงพูดอ้อม ๆ ออกมา
แต่ดูเหมือนกับหญิงสาวร่างเล็กผู้นี้จะไม่สนใจที่จะทำเช่นนั้นแม้แต่น้อย ทั้งสองคนคงจะสนิทกันในระดับหนึ่งถึงได้พูดคุยกันแบบนี้
“ขอโทษที่มันมีแต่ของปลอมก็แล้วกัน เอ้า! น้ำต้ม” ในตอนที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ก็มีมือคู่หนึ่งยื่นแก้วน้ำมาให้ เมื่อทั้งสองหันไปมองก็พบเข้ากับร่างของชายหนุ่มหน้าตาดีที่เป็นเจ้าของร้านขายของปลอมแห่งนี้
“น้ำต้ม? นายเปิดน้ำก็อกต้มมาใช่ไหมเนี่ย” หญิงสาวกล่าวถามออกมาด้วยความมึนงง
อีกฝ่ายก็ไม่ใช่จะยากจนเหมือนเก่า ทำไมไม่หาใบชาไว้ต้อนรับแขกบ้างนะ?
“จะกินไม่กิน? ฉันอุตส่าห์ต้มน้ำแบบเดียวกับที่ให้ยายเธอกินมาให้เลยนะ ถ้าไม่กิน...” ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบเขาก็พบว่าหญิงสาวคว้าแก้วน้ำใบหนึ่งไปดื่มจนหมดเสียแล้ว
“หวู่หลิง หลานไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้ มันเสียมารยาทนะ” ชายชราที่เห็นการกระทำของหญิงสาวที่เปรียบเสมือนหลานของตนจึงกล่าวตักเตือนขึ้นมา
ตัวชายชรานั้นเป็นเพื่อนกับยายของหญิงสาวร่างเล็กตรงหน้า ทำให้แม้ว่าหญิงสาวจะโทรหาเขาตอนหลับอยู่เพื่อบอกให้มาด้วยตั้งแต่เช้าตรู่เขาก็ต้องมาด้วย
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่ารู้จักกัน อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะสนใจในแจกันที่อีกฝ่ายบอกมา
“คุณลุงรีบดื่มเถอะ! นี่ไม่ใช่น้ำธรรมดานะ” หญิงสาวที่เห็นว่าชายชรายังไม่ยอมดื่มสักทีจึงกล่าวเร่งออกมา ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงเอื้อมมือไปรับมาดื่มแทนไปแล้ว!
“ก็แค่น้ำแก้วนึงไม่ใช่รึไง? มีอะไรให้น่าตื่นเต้นกัน ขอบคุณนะพ่อหนุ่ม” ชายชราส่ายหัวด้วยความเอือมระอาก่อนจะกล่าวขอบคุณชายหนุ่มเล็กน้อย เขาเอื้อมมือไปรับแก้วตามมารยาทก่อนจะดื่มน้ำไปอึกหนึ่ง
ทันทีที่น้ำต้มในแก้วไหลจากลำคอลงสู่กระเพาะอาหารของชายชรา ร่างกายของชายชราก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันถึงขนาดที่เขารู้สึกว่าอาการปวดหัวเรื้อรังที่เคยเป็นอยู่นั้นมันทุเลาลงไปเล็กน้อยเลยทีเดียว!
ไหนจะโรคเกี่ยวกับข้อเท้าที่ทำให้เขาเดินเหินลำบากนั่นอีก ในตอนนี้ทำไมถึงรู้สึกว่ามันจะเจ็บปวดน้อยลงกันนะ หรือนี่เขากำลังเพ้อฝันอยู่รึเปล่า?
“...นี่มันน้ำอะไรกัน? หนุ่มน้อยใส่สมุนไพรอะไรลงไปรึเปล่า?” ชายชรากล่าวถามด้วยความสับสน เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายแอบใส่สารเสพติดลงไปไหม
เขาอยากจะดื่มน้ำในแก้วลงไปอีกแต่ก็ต้องฝืนใจเอาไว้ก่อน เพราะจนถึงตอนนี้ร่างกายของเขายังรู้สึกเบา ๆ ลงอยู่เลย เหมือนกับว่ามันได้รับการเยียวยาหรืออะไรทำนองนั้นไม่มีผิด ถ้าเกิดมันเป็นสารเสพติดจริง ๆ มีหวังได้ซวยแน่ ๆ
เขาจะต้องเตือนหลานสาวตัวน้อยไว้เสียแล้ว! แต่ก่อนอื่นต้องรอดูคำตอบของชายหนุ่มตรงหน้าเสียก่อน
“ไม่มีอะไรหรอกครับ มันก็แค่น้ำยาต้มสูตรลับของตระกูลผมน่ะ” ชายหนุ่มยิ้มให้กับอีกฝ่ายก่อนจะตอบกลับไป
“ลุงหลี่ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกค่ะ ที่คุณยายหายดีทุกวันนี้ก็เพราะน้ำต้มของหมอนี่แหละ อย่าไปบอกใครนะคะ” หญิงสาวตัวเล็กมองความคิดของชายชราออกได้ไม่ยากนัก ความจริงถ้าเป็นเธอเมื่อก่อนก็คงไม่เชื่อเรื่องไร้สาระเช่นนี้เหมือนกัน
แต่น้ำประปาต้มของชายตรงหน้ามันก็รักษาคุณยายของเธอได้จริง ๆ เธอจึงทำได้แค่เชื่ออย่างจำใจก็เท่านั้น