กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 185 ช่างไม่สมเหตุสมผล!
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 185 ช่างไม่สมเหตุสมผล!
เผ่ามารโลหิต
ภายในตำหนักอันยิ่งใหญ่
ฉื่ออู๋เซิงนั่งอยู่บนบัลลังก์ เขาลืมตาขึ้น ปล่อยรังสีเย็นยะเยียบ ราวกับจอมมาร น่าเกรงขามยิ่งนัก รังสีอำนาจมากมายปกคลุมทุกมุม
ราวกับจะทำให้ผู้คนหายใจไม่ออก
สหายเต๋าเสวี่ยเหยียน
ฉื่ออู๋เซิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก
ภายในคำพูด แฝงจิตสังหาร แผ่กระจายไปทั่ว
“ข้าต้องการให้เจ้าอธิบายเรื่องราวนี้ให้ชัดเจน เหตุใดคนของสำนักมารเก้าขุมนรก จึงเตรียมการเอาไว้ก่อน เจ้ามิได้กล่าวว่า เจ้าได้ทำลายการรับรู้ของฟ้าดิน เรื่องนี้ปลอดภัยแล้วหรือ”
“ราชันศักดิ์สิทธิ์สองคนและปราชญ์สองตาย เจ้าจะรับผิดชอบเช่นไร”
ราชันศักดิ์สิทธิ์สองคน ปราชญ์สองคน
นับเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ หากอยู่ในขุมอำนาจใด ๆ พวกเขาก็คือกำลังสำคัญที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้
การสูญเสียบุคคลเหล่านี้
ทำให้พวกเขาเจ็บปวดอย่างยิ่ง
เผ่ามารโลหิตของพวกเขา
ครอบครองโลกเงาโลหิต
เผ่าพันธุ์ยิ่งใหญ่ มีประชากรมากมายนับไม่ถ้วน ขุมอำนาจมากมาย
ในโลกเงาโลหิต
มีเพียงเผ่ามนุษย์และเผ่าอสูรเท่านั้น ที่สามารถต่อกรกับเผ่ามารโลหิต
ส่วนเผ่าอีกาทองคำ ตระกูลจักรพรรดิเย่
พวกเขาไม่สนใจ
การส่งราชันศักดิ์สิทธิ์หลายคน หรือระดับอภิศักดิ์สิทธิ์
ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ประเด็นสำคัญคือ
พวกเขายังไม่ได้พาคนของเผ่ามารโลหิตทั้งหมดมาที่โลกใบนี้
ตอนนี้ เป็นเพียงกองกำลังล่วงหน้า
เป้าหมายของพวกเขา
คือการทำให้เผ่ามนุษย์และเผ่าอสูรต่อสู้กัน ก่อนที่เผ่ามารโลหิตจะเดินทางมาถึงอย่างสมบูรณ์
เมื่อไม่มีศัตรูที่แข็งแกร่ง
พวกเขาจึงสามารถครอบครองโลกใบนี้ได้อย่างง่ายดาย
แต่ไม่นึกเลยว่า
แผนการขั้นตอนแรก
กลับเกิดปัญหา ราชันศักดิ์สิทธิ์สองคนตาย เรื่องนี้ทำให้พวกเขาต้องระวังตัว เพราะอาจจะถูกเผ่ามนุษย์และเผ่าอสูรรู้
ในโลกใบนี้
เผ่าอสูร ย่อมเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งบนฟ้า ในน้ำ บนดิน ตราบใดที่มีสติปัญญา ล้วนเป็นเผ่าอสูร
หากพวกเขารวมตัวกัน
พลังที่ปลดปล่อยออกมา ย่อมน่ากลัวอย่างยิ่ง
เผ่ามารโลหิตได้วางแผนทำร้ายเผ่าอสูรสามเผ่าพันธุ์ เป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด หากเผ่าอสูรคิดจะล้างแค้น
พวกเขาคงต้องบอกลาโลกใบนี้
หากเผ่ามนุษย์ร่วมมือ
อืม...
แม้โลกเงาโลหิต ก็ไม่อาจอยู่รอด
เสวี่ยเหยียนถือไม้เท้า เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
ใบหน้าของเขาซีดเผือด ไม่สู้ดีนัก ตอนนี้เขาก็รู้สึกแปลกใจ
เขาได้ทำลายการรับรู้ของฟ้าดินแล้ว
เหตุใดเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ ยังคงทำนายชะตาได้
ช่างไม่สมเหตุสมผล!
ในโลกเงาโลหิต
เขาเป็นถึงผู้ทำนายชะตาลำดับหนึ่ง แม้จะมีคนเก่งกว่า แต่เขาก็มั่นใจว่าตนเองอยู่ในสามลำดับแรก
เพราะว่าโลกเงาโลหิตไม่ได้อ่อนแอ
พวกเขาก็มีมหาจักรพรรดิเช่นกัน พลังสูงสุดไม่ต่างกัน
เพียงแต่อายุขัยเท่านั้น ที่แตกต่าง
“ผู้นำตระกูลโปรดทราบ การทำนายชะตานั้นลึกลับซับซ้อน มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าตนเองสามารถทำนายทุกสิ่งทุกอย่าง”
“แม้แต่มหาจักรพรรดิ ก็ยังต้องเคารพฟ้าดิน!”
“การต่อต้านฟ้าดิน เป็นเพียงเรื่องตลก ไม่มีใครสามารถต่อต้านฟ้าดินได้ คนที่ต่อต้านฟ้าดิน ต่างก็ตายไปแล้ว”
ฉื่ออู๋เซิงสีหน้ามืดครึ้ม กล่าวว่า “เจ้าต้องการจะกล่าวสิ่งใด?”
“เหอะ เหอะ”
เสวี่ยเหยียนหัวเราะแห้ง ๆ กล่าวต่อ
“สิ่งที่ข้าต้องการจะกล่าวคือ การทำนายชะตา เป็นการทำตามฟ้าดิน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดิน ทำนายสิ่งต่าง ๆ จากกฎเกณฑ์มากมาย”
“แต่ฟ้าดินนั้นกว้างใหญ่”
“คนทั่วไป แม้จะใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ไม่อาจเข้าใจแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้น การทำนายชะตา อาจจะมีความผิดพลาด”
“เจ้าหมายความว่า การตายของราชันศักดิ์สิทธิ์สองคน เป็นเพราะฟ้าดิน? หรือว่า เจ้าทำนายผิดพลาด?”
ฉื่ออู๋เซิงโกรธขึ้นมา
ไม่เคยเห็นใครโยนความผิดเช่นนี้
ผู้บำเพ็ญมีสักกี่คนที่เชื่อในฟ้าดิน
พวกเขาส่วนใหญ่ เชื่อว่าคนสามารถเปลี่ยนแปลงฟ้าดินได้ มีเพียงคนที่ทำนายชะตาเท่านั้น ที่กล่าวว่า “ฟ้าดินมิอาจฝ่าฝืน”
“แค่ก”
เสวี่ยเหยียนกระแอมไอ โบกมือ เขาหันกลับไป มองไปยังทิศทางของหอคอยกลไกสวรรค์ กล่าวอย่างแผ่วเบาว่า
“มิใช่”
“สิ่งที่ข้าต้องการจะกล่าวคือ เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ มิใช่คนธรรมดา จากข่าวสารภายนอก เขาน่าจะทำนายได้ว่าสำนักมารเก้าขุมนรกจะพบเจอกับวิกฤต จึงได้บอกกล่าว”
“บุคคลที่มีความสามารถเช่นนี้ จากที่ข้าเห็น เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ เป็นผู้ทำนายชะตาลำดับหนึ่งของโลกใบนี้ ไม่มีใครเก่งกว่าเขา!”
การโยนความผิดครั้งแรกไม่สำเร็จ
เสวี่ยเหยียนจึงเปลี่ยนวิธี
ยกย่องศัตรู
เช่นนี้แล้ว ความผิดพลาดของเขาก็ดูสมเหตุสมผล การถูกผู้ทำนายชะตาลำดับหนึ่งมองทะลุ
นับว่าเป็นเรื่องปกติ
โลกใบใด ๆ ก็มักจะมีบุคคลที่ไม่ธรรมดา
ยิ่งไปกว่านั้น
โลกเงาโลหิตของพวกเขา ด้อยกว่าโลกใบนี้เล็กน้อย การที่เขาด้อยกว่าเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ ก็สมเหตุสมผล