บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 11 ทะลวงสิบคนแล้ว
บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 11 ทะลวงสิบคนแล้ว
หลังจากบุตรคนที่สี่ของหนิงเสี่ยวหยู่ถือกำเนิด หลี่ซูก็มีลูกหลานที่มีรากวิญญาณห้าคนแล้ว
ในบรรดาลูกหลานที่มีรากวิญญาณห้าคนนี้ รากวิญญาณที่ดีที่สุดคือบุตรคนแรกที่หนิงเสี่ยวหยู่ให้กำเนิด
ลำดับของรากวิญญาณอยู่ที่ประมาณระดับแปด
ลูกหลานห้าคนนี้ทำให้รากวิญญาณของหลี่ซูเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตอนนี้ทุกครั้งที่มีบุตรธิดาเพิ่มขึ้น ตบะหนึ่งปีที่ได้รับทำให้ตบะของหลี่ซูเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้
ตระกูลหลี่ทั้งหมด ภายใต้มาตรการกระตุ้นการให้กำเนิดบุตรของหลี่ซู บุตรหลานรุ่นใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จำนวนประชากรของตระกูลหลี่ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี ในที่สุดเสิ่นเสวี่ยก็ให้กำเนิดบุตรให้หลี่ซู
แต่บุตรคนนี้ไม่มีรากวิญญาณ
หลังจากบุตรคนนี้ถือกำเนิดได้ไม่กี่เดือน หลี่ซูก็ออกจากตระกูล
ครั้งนี้ เขาพาลูกหลานที่มีรากวิญญาณคนแรกไปยังสำนักเซียนเวหา
นอกจากนี้ เขายังสามารถไปรับหินวิญญาณได้ด้วย
ลูกหลานคนนี้เพิ่งอายุครบสิบสองปี สามารถเริ่มต้นฝึกฝนขั้นต้นได้แล้ว
หลี่ซูไม่คิดจะให้เขาฝึกฝนในตระกูล การฝึกฝนในนิกายเซียนถึงจะมีทรัพยากรที่ดีกว่า
เช่น หินวิญญาณ หลังจากถึงระดับสร้างฐานแล้ว หลี่ซูสามารถรับหินวิญญาณหนึ่งร้อยก้อนจากสำนักเซียนเวหาได้ทุกปี
หลี่ซูไม่ค่อยต้องการหินวิญญาณมากนัก ปกติแล้วเขาจะไปรับจากสำนักเซียนเวหาทุกสองสามปี หรืออาจนานกว่านั้น
หินวิญญาณเหล่านี้ หลี่ซูเก็บสะสมไว้ทั้งหมด
การเพิ่มพูนตบะของเขาไม่จำเป็นต้องใช้หินวิญญาณ
ตอนนี้ หลี่ซูมอบหินวิญญาณเกือบทั้งหมดให้หนิงเสี่ยวหยู่พวกนางใช้ หลี่ซูเก็บไว้เพียงส่วนน้อย
หากต้องต่อสู้ในอนาคต หินวิญญาณสามารถใช้ฟื้นฟูพลังวิญญาณในระหว่างการต่อสู้ได้ นับว่าไม่เลว
“ศิษย์พี่หลี่วางใจเถิด พวกเราจะดูแลเขาเป็นอย่างดี”
ด้วยสายสัมพันธ์ของหลี่ซู การที่ลูกหลานคนแรกของเขาเข้าร่วมสำนักเซียนเวหานั้นราบรื่นมาก
แน่นอน หากความก้าวหน้าในสำนักเซียนเวหาช้าเกินไป ในอนาคตเขาอาจจะถูกคัดออก
ทุกนิกายเซียนมีกฎเกณฑ์และข้อกำหนด
เช่น สำนักเซียนเวหา ทุกสิบปีหลังจากเข้าร่วมนิกายจะมีข้อกำหนด
ข้อกำหนดทุกสิบปีค่อนข้างผ่อนปรน ข้อกำหนดที่เข้มงวดที่สุดคือ หากอายุหกสิบปีแล้วยังสร้างฐานไม่สำเร็จ ก็จะถูกคัดออกจากนิกายเซียน
แน่นอน หากอายุหกสิบปีแล้วมีตบะถึงระดับหลอมปราณระยะปลาย ก็ยังคงสามารถเป็นศิษย์ฝ่ายนอกของนิกายเซียนได้ แต่จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เช่นหินวิญญาณ
หลี่ซูนับว่าเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียวของสำนักเซียนเวหา
.
หลังจากส่งลูกหลานคนแรกไปยังสำนักเซียนเวหาแล้ว หลี่ซูก็รับหินวิญญาณ จากนั้นจึงกลับไปยังตระกูลหลี่
พริบตาเดียวก็ผ่านไปเจ็ดแปดปี
เจ็ดแปดปีมานี้ หลี่ซูใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและวุ่นวาย
เขายังคงรับนางสนมทุกปี แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ไม่ได้แต่งงานกับ“เซียนหญิง”คนใหม่
“จุดสูงสุดระดับสร้างฐานขั้นห้าแล้ว”
หลี่ซูเผยรอยยิ้มออกมา
ถึงแม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จำนวนประชากรของตระกูลหลี่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพ แต่ตบะของหลี่ซูกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เขาใช้เวลาเกือบแปดสิบปี สร้างฐานสำเร็จตอนอายุร้อยปี
แต่หลังจากสร้างฐานสำเร็จแล้ว เพียงแค่สิบกว่าปี ตบะของเขาก็เพิ่มขึ้นจากระดับสร้างฐานขั้นหนึ่งมาถึงจุดสูงสุดระดับสร้างฐานขั้นห้า
ความก้าวหน้านี้ นับว่าไม่น้อย
การยกระดับจากระดับสร้างฐานขั้นหนึ่งถึงระดับสร้างฐานขั้นห้านั้น ยากกว่าการยกระดับจากระดับหลอมปราณถึงระดับสร้างฐานมาก
ความเร็วในการพัฒนาเช่นนี้ เทียบเท่ากับรากวิญญาณที่แข็งแกร่งบางส่วน
สาเหตุที่มีความก้าวหน้ามากเช่นนี้ เกี่ยวข้องกับการที่ลูกหลานที่มีรากวิญญาณของเขามีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้รากวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในตระกูลหลี่นั้น เหมือนกับก้อนหิมะที่กลิ้งไป ยิ่งกลิ้งก็ยิ่งใหญ่ขึ้น
ตอนแรกความเร็วอาจจะช้า แต่หลังจากจำนวนประชากรมากขึ้น ตระกูลหลี่ก็ขยายสาขาออกไปอย่างต่อเนื่อง จำนวนที่เพิ่มขึ้นก็มากขึ้น
แม้แต่รุ่นที่สาม รุ่นที่สี่ ทุกครั้งที่มีลูกหลานเพิ่มขึ้น ตบะของหลี่ซูก็จะเพิ่มขึ้น
“นายท่าน ให้กำเนิดแล้ว ให้กำเนิดแล้ว”
ตอนนี้เอง แม่นมคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา
ลู่เหวยเจียให้กำเนิดบุตรใหหลี่ซูอีกครั้ง
“ท่านได้รับลูกหลานที่มีรากวิญญาณอีกหนึ่งคน รากวิญญาณของท่านได้รับการเสริมสร้างขึ้นเล็กน้อย”
“ท่านมีลูกหลานที่มีรากวิญญาณครบสิบคนแล้ว ท่านได้รับตบะหนึ่งร้อยปี ท่านได้รับประสบการณ์การหลอมอาวุธหนึ่งร้อยปี”
ตอนนี้เอง ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนหน้าจอระบบ
เห็นข้อความแจ้งเตือนของระบบ หลี่ซูอดเผยรอยยิ้มออกมาไม่ได้
ดูเหมือนว่าบุตรที่ลู่เหวยเจียให้กำเนิดครั้งนี้จะเป็นลูกหลานที่มีรากวิญญาณอีกคน
ในที่สุด…
จำนวนลูกหลานที่มีรากวิญญาณของเขาก็ทะลุสิบคนแล้ว!
“เซียนหญิง” สี่คนที่เขาแต่งงานด้วยนั้น มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง
ในบรรดาลูกหลานที่มีรากวิญญาณสิบคนตอนนี้ มีเพียงสองคนที่อนุภรรยาคนอื่นให้กำเนิด
ส่วนที่เหลือแปดคน เซียนหญิงสี่คนเป็นคนให้กำเนิด
การแต่งงานระหว่างผู้บำเพ็ญเซียน โอกาสที่ลูกหลานจะมีรากวิญญาณนั้นสูงกว่าจริง ๆ
ถึงแม้ว่ารากวิญญาณของลูกหลานสิบคนนี้จะไม่ได้ดีมากนัก แต่หลี่ซูคิดว่ามันไม่เลวเลย
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากจำนวนลูกหลานที่มีรากวิญญาณทะลุสิบคน ก็มีรางวัลเพิ่มเติม
เขาได้รับตบะหนึ่งร้อยปีเป็นรางวัลเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังได้รับประสบการณ์การหลอมอาวุธหนึ่งร้อยปี
เทียบเท่ากับว่าหลี่ซูได้ศึกษาการหลอมอาวุธเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี
“ไม่เลว!”
หลี่ซูพอใจมาก
ดูเหมือนว่าในบรรดารางวัลของระบบบุตรหลานมหาโชค ทั้งจำนวนและคุณภาพของลูกหลานหลี่ซูต่างก็มีความสำคัญ
หลังจากได้รับรางวัล หลี่ซูค่อย ๆ ดูดซับประสบการณ์การฝึกฝนที่บรรจุอยู่ในตบะหนึ่งร้อยปี รวมถึงประสบการณ์การหลอมอาวุธหนึ่งร้อยปี