บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 10 รับเซียนหญิงสามคนติดต่อกัน
บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 10 รับเซียนหญิงสามคนติดต่อกัน
“ตระกูลหลี่ช่างมีเรื่องน่ายินดีไม่ขาดสาย”
“ใช่แล้ว ได้ยินมาว่าบรรพบุรุษตระกูลหลี่รับเซียนหญิงสองคนแล้ว”
“เซียนก็คือเซียน บรรพบุรุษตระกูลหลี่อายุร้อยกว่าปีแล้ว แต่ร่างกายแข็งแรงกว่าชายวัยกลางคนอายุสามสิบกว่าปีอย่างข้าเสียอีก”
“นั่นสิ ไม่เช่นนั้นเซียนหญิงจะยอมแต่งงานกับเขาได้อย่างไร”
“...”
ในเมืองหลัวซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดใกล้กับคฤหาสน์หลี่ ขณะที่ขบวนแห่เจ้าสาวอันยิ่งใหญ่เดินผ่าน ก็ดึงดูดผู้คนมากมายมาดู
สำหรับคนเมืองหลัวแล้ว การได้ดูบรรพบุรุษตระกูลหลี่รับนางสนมทุ กๆ หนึ่งหรือสองปีนั้น เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่บรรพบุรุษตระกูลหลี่รับนางสนม ตระกูลหลี่จะจัดงานเลี้ยง
นอกจากงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อแขกผู้มีเกียรติแล้ว ตระกูลหลี่ยังจัดงานเลี้ยงริมแม่น้ำหลัว คนเมืองหลัวที่อยากร่วมสนุกก็สามารถไปกินอาหารได้
ครอบครัวยากจนหลายครอบครัวกินอิ่มที่สุดในหนึ่งปี ก็ตอนที่บรรพบุรุษตระกูลหลี่รับนางสนม
ดังนั้น บริเวณรอบ ๆ เมืองหลัว ทุกครั้งที่หลี่ซูรับนางสนม ก็จะมีคนมากมายร่วมยินดี
ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่รอคอยให้หลี่ซูรับนางสนม เพื่อจะได้ไปกินอาหารอร่อย ๆ ในงานเลี้ยง
หลังจากหลี่ซูสร้างฐานสำเร็จ ความถี่ในการรับนางสนมในช่วงหลายปีมานี้ก็เพิ่มมากขึ้น ทำให้คนเมืองหลัวจำนวนมากดีใจเป็นอย่างยิ่ง
.
ในคฤหาสน์หลี่ ประดับประดาด้วยโคมไฟ
ครั้งนี้คนที่เข้ามาคือจางเยวี่ยเอ๋อร์
หลังจากพิธีแต่งงาน ยามค่ำคืนมาเยือน หลี่ซูเข้าไปในห้อง
จางเยวี่ยเอ๋อร์สวมผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความตื่นเต้น
นางค่อนข้างประหม่า
หลี่ซูเปิดผ้าคลุมหน้า
ใต้ผ้าคลุมหน้าคือหญิงสาวแสนสวย บนใบหน้าเผยความเขินอาย คิ้วโก่งดั่งใบหลิว ดวงตางดงามดั่งดอกบัว
ห้องมืดลง
.
“ท่านพี่ ข้าเหมือนจะตั้งครรภ์แล้ว”
หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ลู่เหวยเจียก็รู้สึกว่าตนเองเหมือนจะตั้งครรภ์
“ดี!”
หลี่ซูดีใจเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับหลี่ซูแล้ว ยิ่งมีลูกหลานมากเท่าไรก็ยิ่งดี
หลี่ซูใช้เวลากับลู่เหวยเจียมากขึ้น
ถึงแม้ว่าเขาจะมีภรรยาหลายคน แต่ก็ไม่เหมือนกับในวังหลวง ที่มีการแย่งชิงอำนาจกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางค่อนข้างดี
หลังจากหลี่ซูแต่งงานกับ “เซียนหญิง” หลายคน ความแตกต่างระหว่าง “เซียนหญิง” กับภรรยาคนอื่น ๆ ของเขาก็ปรากฏออกมา
ไม่ได้หมายความว่าหนิงเสี่ยวหยู่พวกนางถือตัว หรือภรรยาคนอื่น ๆ แยกตัวจากพวกนาง แต่เพราะโลกนี้แบ่งแยกเซียนกับปุถุชน
ภรรยาคนอื่น ๆ ของหลี่ซูยินดีให้พวกนางเป็นใหญ่
แต่หนิงเสี่ยวหยู่พวกนางไม่สนใจการจัดการเรื่องภายในตระกูล ดังนั้นเรื่องจุกจิกในตระกูลจึงถูกจัดการโดยอนุภรรยาบางส่วนที่นิสัยดีและยุติธรรม
.
การที่หลี่ซูรับเซียนหญิงหลายคนเข้ามาเป็นภรรยาติดต่อกัน กลายเป็นเรื่องเล่าขานในบริเวณเมืองหลัว
หลังจากเสิ่นเสวี่ยเข้ามา หลี่ซูก็ไม่คิดจะรับนางสนมอีกในปีนี้
ภรรยาคนใดตั้งครรภ์ หลี่ซูจะใช้เวลากับนางทุกวัน
แต่ทว่า หลังจากจางเยวี่ยเอ๋อร์ตั้งครรภ์ เสิ่นเสวี่ยกับลู่เหวยเจียกลับไม่ตั้งครรภ์สักที
ผู้หญิงธรรมดาบางคนอาจจะตั้งครรภ์ได้ง่าย ๆ แต่หากเป็นผู้บำเพ็ญเซียน อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้
หลี่ซูไม่ได้รีบร้อน
หลังจากผ่านไปอีกครึ่งปี ในที่สุดลู่เหวยเจียก็ตั้งครรภ์
ในปีต่อมา จางเยวี่ยเอ๋อร์ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งให้หลี่ซู
“ท่านพี่ มีรากวิญญาณ!”
หลังจากให้กำเนิดบุตร จางเยวี่ยเอ๋อร์ก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะบุตรคนแรกของนางกับหลี่ซูมีรากวิญญาณ
หลี่ซูก็ดีใจเช่นกัน
การกำเนิดของบุตรคนนี้ทำให้ลูกหลานที่มีรากวิญญาณของหลี่ซูเพิ่มขึ้นเป็นสี่คน
หลังจากผ่านไปอีกสองเดือน ลู่เหวยเจียยังไม่ได้ให้กำเนิดบุตร แต่หนิงเสี่ยวหยู่กลับตั้งครรภ์อีกครั้ง
หนิงเสี่ยวหยู่ไม่ได้เป็นกังวล เพราะนางรู้ว่ายิ่งมีลูกมากเท่าไร หลี่ซูก็ยิ่งดีใจ
หลังจากแต่งงานกับหลี่ซูมานาน ขอเพียงหลี่ซูมีความสุข หนิงเสี่ยวหยู่ก็เต็มใจทำ
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากสร้างฐานไม่สำเร็จ หนิงเสี่ยวหยู่ก็อยากมีลูกหลานมากขึ้น
หากเป็นอัจฉริยะที่มีรากวิญญาณดีเยี่ยม และสามารถพัฒนาตบะอย่างรวดเร็ว อายุขัยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องลูกหลาน
ถึงจะสนใจ ก็มักจะเป็นเรื่องหลังจากที่บำเพ็ญถึงระดับหนึ่งแล้ว
แต่ผู้บำเพ็ญเซียนที่สร้างฐานไม่สำเร็จ อายุขัยมีจำกัด ย่อมต้องคิดถึงเรื่องนี้ ลูกหลานในระดับหนึ่งคือการสืบทอดชีวิต
บุตรคนที่สี่ของหนิงเสี่ยวหยู่ในที่สุดก็มีรากวิญญาณ เพียงแต่รากวิญญาณไม่ได้ดีเท่าบุตรคนแรก
หลี่ซูไม่ได้สนใจมากนัก ขอเพียงมีรากวิญญาณก็พอแล้ว
รากวิญญาณของเขาก็ถูกเสริมสร้างขึ้นอีกครั้ง