บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 7 น้ำเดิน
บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 7 น้ำเดิน
“ชื่อเสียงของผู้อาวุโสเลื่องลือไปทั่วแคว้นหวู่ วันนี้ได้พบท่าน นับเป็นวาสนาสามชาติ”.
บนเทือกเขาสะบั้นเซียน ผู้บำเพ็ญอิสระล้อมรอบหลี่ซู
“ไม่นึกเลยว่าผู้อาวุโสจะเป็นบรรพบุรุษตระกูลหลี่แห่งแม่น้ำหลัวที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแคว้นหวู่ โปรดอภัยที่ข้าสายตาไม่ดี จำท่านไม่ได้”
ผู้บำเพ็ญอิสระระดับหลอมปราณระยะปลายที่พาหลี่ซูมาเอ่ยขอโทษ
เมื่อหลายปีก่อนหลี่ซูยังอยู่ระดับหลอมปราณ ผู้บำเพ็ญระดับหลอมปราณ แม้จะเป็นศิษย์นิกายเซียนก็ไม่อาจมีชื่อเสียงขนาดนี้
ผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐาน หากอีกฝ่ายตั้งใจบำเพ็ญ ไม่ค่อยออกเดินทาง ในหมู่ผู้บำเพ็ญอิสระก็ไม่อาจมีชื่อเสียงโด่งดังได้
ชื่อเสียงของหลี่ซูส่วนใหญ่มาจากการที่เขาเป็นศิษย์นิกายเซียน แต่กลับอยู่ในโลกียะเป็นเวลานาน
ในขณะที่ผู้บำเพ็ญเซียนคนอื่นต่างตัดขาดจากโลกียะ แต่หลี่ซูกลับเลือกเส้นทางตรงกันข้าม รับนางสนมมากมาย และยังมีตระกูลในโลกียะที่สมาชิกมากมาย
ยิ่งไปกว่านั้น หลี่ซูยังสร้างฐานสำเร็จตอนอายุร้อยปี หลังจากเรื่องนี้แพร่กระจายไปหลายปี ชื่อของเขาจึงเป็นที่รู้จักของผู้บำเพ็ญอิสระมากมาย
สร้างฐานสำเร็จตอนอายุร้อยปี ในระดับหนึ่งแล้วจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้บำเพ็ญอิสระมากกว่า
ทำให้ผู้บำเพ็ญอิสระบางส่วนที่รากวิญญาณไม่ดีเกิดความหวังขึ้นมา
หลี่ซูยังสามารถสร้างฐานสำเร็จตอนอายุร้อยปีได้ พวกเขายืนหยัดต่อไป ไม่แน่ว่าอาจจะสำเร็จเช่นกัน
แต่ทว่า ได้ยินก็ส่วนได้ยิน คนที่เคยพบเจอหลี่ซูจริง ๆ นั้นมีน้อยมาก
เมื่อเห็นผู้บำเพ็ญอิสระจำนวนมากมาทักทาย หลี่ซูก็ไม่ได้ทำตัวถือตัว แต่แน่นอนว่าจะแสดงความกระตือรือร้นมากก็เป็นไปไม่ได้
เขายังคงรักษาท่าทางที่ผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานพึงมี ตอบกลับบ้างเป็นครั้งคราว ทำให้ผู้บำเพ็ญเซียนที่เดินทางมาทักทายรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
.
“ตรงนั้นเหตุใดถึงได้ครึกครื้นเช่นนั้น”
“เหมือนจะเป็นผู้อาวุโสระดับสร้างฐาน ได้ยินมาว่าเป็นบรรพบุรุษตระกูลหลี่แห่งแม่น้ำหลัว”
“บรรพบุรุษตระกูลหลี่? คนที่รับนางสนมมากกว่าร้อยคนนั่นน่ะหรือ”
ตอนนี้เอง ไม่ไกลออกไป ผู้บำเพ็ญหญิงหลายคนที่เดินทางมาด้วยกันเห็นหลี่ซูถูกล้อมรอบด้วยผู้บำเพ็ญอิสระมากมาย จึงสอบถามขึ้นมา
ผู้บำเพ็ญหญิงเหล่านี้เกิดความสนใจขึ้นมา
ความสนใจนี้เป็นความสนใจอย่างแท้จริง
บรรพบุรุษตระกูลหลี่อยู่ในโลกียะเป็นเวลานาน รับนางสนมมากมาย แล้วยังสร้างฐานสำเร็จตอนอายุร้อยปี พวกนางจึงสนใจเป็นธรรมดา
ผู้บำเพ็ญหญิงหลายคนมองจากที่ไกล ๆ ก็เห็นหลี่ซูที่ดูโดดเด่นอยู่ท่ามกลางผู้คน
“เหตุใดเขาถึงดูอ่อนเยาว์เช่นนั้น”
ผู้บำเพ็ญหญิงเหล่านี้ตะลึงงัน
ตอนที่อยู่ระดับหลอมปราณ พลังแก่นแท้ไหลเวียน พลังวิญญาณหล่อเลี้ยงร่างกาย สามารถชะลอความชราและเพิ่มอายุขัยได้
แต่การชะลอนี้มีขีดจำกัด
ถึงแม้หลี่ซูจะเป็นระดับสร้างฐาน แต่เขาก็สร้างฐานตอนอายุร้อยปี จะคงรูปร่างที่อ่อนเยาว์เช่นนี้ได้อย่างไร
ไม่เพียงดูอ่อนเยาว์ หลี่ซูยังดูสดใส ร่าเริง ดวงตาเป็นประกาย มีพลังแห่งบุรุษเพศอย่างเต็มเปี่ยม
ร่องรอยของกาลเวลาไม่ปรากฏบนร่างของเขาเลยแม้แต่นิด
แม้แต่โอสถเยาว์วัยก็ไม่อาจทำได้ถึงเพียงนี้
ยิ่งไปกว่านั้น โอสถเยาว์วัยที่ใช้ได้กับปุถุชน อาจจะใช้กับผู้บำเพ็ญเซียนไม่ได้
เรื่องนี้ทำให้ผู้บำเพ็ญหญิงเหล่านี้สงสัยขึ้นมา เขาเป็นผู้อาวุโสหลี่จริง ๆ หรือ
“ใช่แล้ว เขาคือผู้อาวุโสหลี่จริง ๆ ผู้อาวุโสหลี่ชะลอวัยได้อย่างน่าทึ่ง บุคลิกก็โดดเด่น ไม่ต่างจากหนุ่มน้อยอายุสิบแปดปีเลย ไม่แปลกใจที่เขาสามารถสร้างฐานสำเร็จตอนอายุร้อยปีได้”
ข้าง ๆ ผู้บำเพ็ญอิสระคนหนึ่งที่ตั้งแผงขายเคล็ดวิชาการบำเพ็ญเอ่ยยืนยัน
หลังจากผู้บำเพ็ญหญิงหลายคนได้รับการยืนยัน สายตาก็หยุดอยู่บนตัวหลี่ซูตลอด
ก่อนจะได้พบเจอหลี่ซู พวกนางได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับบรรพบุรุษตระกูลหลี่ ก็แค่ฟังผ่าน ๆ
ในจิตใต้สำนึกพวกนางคิดว่าบรรพบุรุษตระกูลหลี่เป็นเพียงชายชราที่หลงใหลในโลกียะ
ไม่คิดเลยว่า หลังจากพบเจอในวันนี้ หลี่ซูจะเปลี่ยนความคิดของพวกนางไปโดยสิ้นเชิง
ทั้งบุคลิกท่าทางต่างดูโดดเด่น และรูปลักษณ์หน้าตา ยิ่งทำให้พวกนางใจสั่น
“ไปเถอะ พวกเราเข้าไปทักทายกันหน่อย”
ผู้บำเพ็ญหญิงคนหนึ่งเห็นผู้บำเพ็ญอิสระต่างเข้าไปทักทายหลี่ซู จึงดึงแขนสหายของตน กล่าวขึ้น
ในงานรวมตัวของผู้บำเพ็ญอิสระ ไม่ค่อยมีผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานมา หากได้พบบุคคลเช่นนี้ หากสามารถสร้างความประทับใจได้ ไม่แน่ว่าอาจจะได้รับคำชี้แนะ ก็จะเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง
แม้ไม่ได้รับคำชี้แนะ แต่เพียงแค่สร้างความประทับใจก็ไม่เลวแล้ว
นี่คือสาเหตุที่ผู้บำเพ็ญอิสระจำนวนมากเข้ามาทักทาย
ไม่นาน ผู้บำเพ็ญหญิงหลายคนก็มาถึงข้างกายหลี่ซู
“ลู่เหวยเจียคารวะผู้อาวุโส”
ผู้บำเพ็ญหญิงเหล่านี้ไม่ค่อยรู้จักเอ่ยคำพูดประจบสอพลอ เพียงทักทายอย่างเรียบง่าย
หลี่ซูพยักหน้ารับเล็กน้อย
“เหวยเจีย ผู้อาวุโสหลี่อ่อนเยาว์เกินไป พอคุยกับเขา ใจข้าก็เต้นแรง”
หลังจากทักทายเสร็จ ผู้บำเพ็ญหญิงเหล่านี้ก็ถอยออกมา ผู้บำเพ็ญหญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเบา ๆ
“ข้าก็เป็น เหวยเจีย บิดามารดาเจ้าจะให้เจ้าแต่งงานกับตระกูลหวัง เจ้าก็ไม่ได้ชอบเจ้าหมอนั่น ดูจากข้าแล้ว เจ้าแต่งงานกับผู้อาวุโสหลี่ไม่ดีกว่าหรือ เจ้าตระกูลหวังถึงจะเป็นระดับหลอมปราณขั้นสิบ แต่ทั้งชีวิตนี้อาจจะสร้างฐานไม่สำเร็จ”
ผู้บำเพ็ญหญิงอีกคนสะกิดลู่เหวยเจียเบา ๆ กล่าวขึ้น
ใบหน้าของลู่เหวยเจียแดงก่ำทันที
หลังจากมาถึงเทือกเขาสะบั้นเซียนและได้พบเจอหลี่ซู หลี่ซูก็รู้สึกเหมือนน้ำในท่อเดิน ดึงดูดสายตาของนาง
ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น แต่ก็เกิดความประทับใจในตัวหลี่ซูขึ้นมา
ตอนนี้ถูกผู้บำเพ็ญหญิงคนนี้เอ่ยขึ้น นางจะไม่หน้าแดงได้อย่างไร
หน้าแดงก็ส่วนหน้าแดง แต่คำพูดของผู้บำเพ็ญหญิงคนนี้กลับฝังแน่นอยู่ในใจ
เทียบกับการแต่งงานกับไอ้อ้วนระดับหลอมปราณขั้นหนึ่งของตระกูลหวัง แต่งงานกับหลี่ซูไม่ดีกว่าหรือ
มองหลี่ซูที่ถูกรายล้อมด้วยผู้บำเพ็ญอิสระราวกับดวงดาวล้อมรอบดวงจันทร์ หัวใจของนางเต้นแรงขึ้น
.
บนเทือกเขาสะบั้นเซียน ผู้บำเพ็ญอิสระที่เดินทางมาทักทายหลี่ซูเริ่มน้อยลง
แต่ก็ยังคงมีคนมาเรื่อย ๆ
การรวมตัวเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์บำเพ็ญ ข้อมูลข่าวสารของโลกบำเพ็ญเซียนแล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนสิ่งของ โอสถ หรือหินวิญญาณ
โอสถที่เป็นประโยชน์ต่อระดับหลอมปราณ หากโชคดีก็สามารถแลกเปลี่ยนได้ในงานรวมตัวนี้
ส่วนโอสถระดับสร้างฐาน แทบจะไม่มี
โอสถสร้างฐานในนิกายเซียนยังหายาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงงานรวมตัวของผู้บำเพ็ญอิสระ
อีกอย่างก็คือทำความรู้จักกับผู้บำเพ็ญเซียนคนอื่น ๆ ขยายสายสัมพันธ์
หลี่ซูเดินดูรอบ ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าร่วมงานรวมตัวเช่นนี้
“ผู้อาวุโส บุตรสาวข้าชมชอบท่านมาโดยตลอด ขอให้บุตรสาวข้าพาท่านดูรอบ ๆ งานรวมตัวเถิด”
ตอนนี้เอง คู่สามีภรรยาคู่หนึ่งพาบุตรสาวของตนเองมาหา กล่าวกับหลี่ซูอย่างประจบประแจง
“นั่นคือคนตระกูลจางจากเมืองหนาน ดูเหมือนพวกเขาจะอยากให้บุตรสาวแต่งงานกับผู้อาวุโสหลี่ เหวยเจีย เจ้ารีบหน่อย ไม่เช่นนั้นจะถูกคนอื่นแย่งไป”