บทที่ 4 อธิการบดีทั้งสี่มาพร้อมกัน! หลัวหมิงทดสอบอีกครั้ง! พรสวรรค์ทำลายหินปลุกพลัง! เหนือกว่าระดับ S!
บทที่ 4 อธิการบดีทั้งสี่มาพร้อมกัน! หลัวหมิงทดสอบอีกครั้ง! พรสวรรค์ทำลายหินปลุกพลัง! เหนือกว่าระดับ S!
นั่นคือมังกรร่างมหึมา ปีกกางออกกว้างถึง 50 กว่าเมตร ปกคลุมแท่นปลุกพลังทั้งหมด
"นั่นคือมังกรปีกเขาเทพ! ปีศาจบินระดับ A! ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์บินอันดับหนึ่งบนท้องฟ้า!"
"ใหญ่จริงๆ! ขนาดนี้ต้องมีพลังระดับทองแน่ๆ! ใครเป็นคนสำคัญมาล่ะเนี่ย!"
"เฮ้ย นักเรียนคนเดียวปลุกพลังยังดึงดูดผู้แข็งแกร่งระดับทองมาได้? หลัวหมิงเจ๋งขนาดนี้เลยเหรอ?"
ทันใดนั้น สามร่างก็กระโจนลงมาจากมังกร
หลังจากสามคนนั้นกระโดดลงมา มังกรก็เปลี่ยนร่างเป็นชายวัยกลางคน ลงมาจากท้องฟ้า
"เป็นสี่คนนี้นี่เอง! อธิการบดีของสถาบันปีศาจพายุหมุน! สถาบันปีศาจชงเหมย! สถาบันปีศาจทะเลมรกต! และสถาบันปีศาจยอดซากุระ! สี่สถาบันนี้ก็ไม่เลวนะ ทุกรุ่นมีนักเรียนระดับ S แค่อ่อนกว่าซิงไห่นิดหน่อย"
"โอ้! พวกเขาถือหินปลุกพลังมาด้วย คงเป็นอธิการบดีจินให้เอามาส่งล่ะมั้ง!"
"พวกเขาใจดีจังนะ! แค่ส่งหินปลุกพลัง แต่มากันตั้งสี่คน!"
"เฮ้! นี่คุณไม่รู้หรอก ผมสงสัยมากๆ เลยว่าพวกเขามาแย่งตัวนักเรียนน่ะ!"
"จิ๊ๆๆ! พวกสถาบันนี่เพื่อแย่งนักเรียนก็ทำได้ทุกอย่างเลยนะ!"
ชาวเน็ตวิจารณ์กันอื้ออึง
สายตาของนักเรียนทุกคนจับจ้องอยู่ที่สี่คนนี้
"เฮ้ย จินเพื่อนเก่า พวกเราเอาหินปลุกพลังมาให้แล้วนะ ก้อนใหญ่ที่สุดเลย! ต้องดีกว่าของนายแน่ๆ!"
"ดูสิ! นี่ยังไงล่ะ!"
อธิการบดีสถาบันปีศาจพายุหมุนพูดพลางตบหินปลุกพลังขนาดเท่าลูกบาสเกตบอลในมือ
"ฮึ! พวกนายนี่นะ ไอ้พวกตาแก่ ฉันรู้นะว่าพวกนายคิดอะไรอยู่ ได้ยินถึงอินโดนีเซียแน่ๆ!"
"เอามาสิ"
จินผิงเทารับหินปลุกพลังจากทั้งสี่คน
แล้ววางบนแท่นปลุกพลัง
"หลัวหมิง หินปลุกพลังก้อนก่อนที่นายกลืนไป ฉันไม่ถือสาแล้ว ตอนนี้ฉันหามาให้นายอีกก้อน เอามือวางบนนี้สิ เราจะได้ดูว่านายปลุกพลังปีศาจระดับไหน แล้วก็เนื่องจากผลงานของนายก็ใช้ได้ พวกเราก็เลยถอนหนังสือแจ้งพ้นสภาพแล้ว"
จินผิงเทาพูดกับหลัวหมิงอย่างอ่อนโยน
หลัวหมิงได้ยินแล้วมุมปากก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ
เขาเหลือบมองจินผิงเทาอย่างเย็นชา
เมื่อกี้ยังจะให้ฉันติดคุก ตอนนี้บอกว่าไม่ถือสาแล้ว ผู้ชาย ชื่อของคุณคือคำว่าเห็นแก่ได้!
"ขอโทษนะครับอธิการบดี ในเมื่อถูกไล่ออกไปแล้ว ผมก็จะไม่กลับเข้าสถาบันปีศาจซิงไห่อีก"
หลัวหมิงพูดเรียบๆ
"อะไรนะ! นายไม่เข้าสถาบันปีศาจซิงไห่แล้วเหรอ?"
สีหน้าของจินผิงเทาเปลี่ยนไปทันที
"ไม่ได้นะ! หลัวหมิง นายต้องคิดให้ดีๆ นะ อย่าเอาอนาคตตัวเองมาล้อเล่นสิ!"
หวงชิวเซิงที่อยู่ข้างๆ ก็เตือน
หลัวหมิงมองเขาอย่างดูถูก ไม่สนใจเลย
ไอ้นี่สนใจแต่ผลงานตัวเอง เป็นครูบ้าอะไร ไม่มีจรรยาบรรณเลยสักนิด คุยกับมันแค่ประโยคเดียวก็เสียเวลาแล้ว
"ใช่ครับ ผมจะไม่เข้าสถาบันปีศาจซิงไห่อีก ผมคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว"
หลัวหมิงพูดต่อ
สีหน้าของจินผิงเทาเปลี่ยนเป็นไม่พอใจทันที
เฮ้ย ยังไงกัน ให้หน้านิดหน่อยก็เชิดใส่แล้วเหรอ?
ตามความคิดเขาคือ ฉันให้อะไรนายก็รับไว้เถอะ แค่รู้สึกขอบคุณฉันก็พอ แล้วนายยังกล้าปฏิเสธอีก?
นี่มันสิ่งที่ฉันพระราชทานให้นายนะ!
เขาพูดเสียงเข้ม
"หลัวหมิง นายอย่าลำพองนะ สถาบันปีศาจซิงไห่ของเราเป็นสถาบันที่ดีที่สุดในมณฑลซิงไห่ ที่นี่นายจะได้รับการศึกษาและทรัพยากรที่ดีที่สุด อย่าเอาอนาคตตัวเองมาล้อเล่น"
"ผมไม่ได้เอาอนาคตตัวเองมาล้อเล่นครับ"
หลัวหมิงพูดต่อ
"ดีๆๆ! หวังว่านายจะไม่เสียใจ"
จินผิงเทาเดินไปด้านข้างด้วยสีหน้าไม่พอใจ
หวงชิวเซิงจะพูดอะไรอีก
แต่ถูกจินผิงเทาห้ามไว้
"อาจารย์หวง สถาบันปีศาจซิงไห่ของเรายังไม่ต่ำตมขนาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าหลัวหมิงจะเป็นระดับ S หรือเปล่า แม้แต่ถ้าเป็นจริง! เราก็ไม่ขาดแคลน! คนที่ลำพองและเสื่อมทราม เราไม่ต้องการ"
เขาพูดเสียงเย็น
หวงชิวเซิงกลืนคำพูดที่จะออกจากปากกลับลงไป
ไม่เอาก็ไม่เอา อธิการบดีสั่งแล้ว เขาจะทำอะไรได้
"ฮ่าๆๆๆ! น้องชาย อธิการบดีของนายไม่เอานาย พวกเราเอานายนะ!"
"มาเข้าสถาบันปีศาจพายุหมุนของเราสิ! สถาบันเรามีแค่สองคนระดับ S นายจะได้รับทรัพยากรเยอะแน่ๆ!"
"ไม่ๆๆ มาเข้าสถาบันปีศาจชงเหมยของเราสิ! สถาบันเรามีแค่คนเดียวระดับ S! นายจะได้รับมากกว่า!"
"สถาบันปีศาจทะเลมรกตของเราไม่มีใครระดับ S เลย! จะทุ่มทรัพยากรทั้งโรงเรียนให้นายเพื่อให้ได้คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ดี!"
"มาเข้าสถาบันปีศาจยอดซากุระของเราสิ! แม้ว่าโรงเรียนเราจะมีคนระดับ S อยู่แล้วหนึ่งคน แต่โรงเรียนเราเป็นสถาบันที่มีสาวสวยมากที่สุดในมณฑลซิงไห่นะ! นายเพิ่งเลิกกับแฟนใช่ไหม มาโรงเรียนเรา สาวสวยให้เลือกเพียบ!"
"โอ้โห! ไอ้แก่! แกไม่มีจรรยาบรรณ! ใช้เสน่ห์ล่อเหรอ! ไม่รู้จักเกรงใจคนแก่!"
"ไอ้แก่! มาหลอกมาซุ่มโจมตีเหรอ!"
หลังจากหลัวหมิงประกาศว่าจะไม่เข้าสถาบันปีศาจซิงไห่อีก อธิการบดีอีกสี่คนก็เริ่มแย่งชิงกันอย่างโจ่งแจ้ง
คนช่างสังเกตก็มองออกว่า พลังที่หลัวหมิงปลุกได้ มีโอกาส 90% ที่จะเป็นระดับ S พวกไอ้แก่เหล่านี้ก็เป็นปีศาจระดับ A กันทั้งนั้น รู้ดีว่าปีศาจระดับ A ไม่มีทางปล่อยพลังแบบนี้ได้
นักเรียนที่อยู่ในที่นั้นเห็นทั้งสี่คนพ่นน้ำลายกระเซ็นแย่งชิงนักเรียน ต่างอึ้งกันไปหมด สีหน้าของจินผิงเทาก็ยิ่งบูดบึ้ง
"แย่งอะไรกัน! รีบร้อนอะไรกัน! ให้เขาทดสอบก่อนสิ! จะเป็นระดับ S หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย! ถ้าเป็นแค่ระดับ A ล่ะ!"
จินผิงเทาพูดอย่างขมขื่น
ทั้งสี่คนหยุดทะเลาะกัน ไอ้แก่นี่ตอนนี้อารมณ์ไม่ดี พวกเขาก็ไม่อยากเสี่ยงโดนลูกหลง
เพราะตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย พวกเขากับสถาบันปีศาจซิงไห่ก็เป็นคู่แข่งกัน
ถ้าทำให้ไอ้แก่นี่โกรธ เดี๋ยวพวกอัจฉริยะของสถาบันปีศาจซิงไห่จะมาตีตื้นสถาบันพวกเขา นั่นจะเป็นปัญหาใหญ่
แต่หลัวหมิงกลับไม่สนใจ การที่พรสวรรค์ของตัวเองถูกแย่งชิงก็เป็นเรื่องปกติ
นี่คือความเป็นจริงของโลกใบนี้
แต่เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่า พวกนี้จะแสดงสีหน้าแบบไหนเมื่อได้เห็นระดับที่แท้จริงของเขา
โดยเฉพาะจินผิงเทา ระดับ S คุณมีแล้ว ไม่สนใจ แล้วถ้าเป็นระดับที่สูงกว่านั้นล่ะ? คุณยังจะไม่สนใจอยู่หรือ?
สีหน้าของเขาตอนนั้นจะน่าดูแค่ไหนนะ
แล้วก็ซูหว่านชิง... ผู้หญิงไร้หัวใจที่สนแต่เรื่องเงินทองคนนี้
สายตาของหลัวหมิงสบกับซูหว่านชิงที่อยู่ด้านล่างเวที
ซูหว่านชิงเบือนหน้าหนีเงียบๆ
ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่สนใจ
หลัวหมิงยิ้มเย็น อยู่ด้วยกันมาสามปี เขารู้จักนิสัยของนังนี่ดี ชอบแกล้งทำ ดูภายนอกเหมือนไม่แคร์
แต่จริงๆ ในใจคงกระวนกระวายแย่แล้วล่ะ
ถ้าเขาปลุกพลังได้แค่ระดับ A เธอคงยิ้มแย้มแจ่มใส
ถ้าเป็นระดับ S สีหน้าเธอคงไม่สู้ดีนัก
ถ้าเป็นระดับ SS ซูหว่านชิงคงหน้าบูดบึ้งยิ่งกว่ากินขี้เสียอีก
แล้ว... ระดับเหนือ SSS ของเขาล่ะ?
หลัวหมิงบอกว่า เขารอดูอย่างใจจดใจจ่อ
ภายใต้สายตาของทุกคน หลัวหมิงยิ้มเยาะที่มุมปาก แล้ววางมือลงบนหินปลุกพลัง
อื้อ!
ทันใดนั้น แสงจ้าก็สว่างวาบไปทั่วบริเวณ
วินาถัดมา หินปลุกพลังก็ส่งเสียงดังกร๊อบ!
แตก!
ใช่แล้ว หินปลุกพลังแตกทันที!
ทุกคนตะลึงงัน!
ทุกคนกลายเป็นหินไปชั่วขณะ
ชาวเน็ตกลายเป็นหิน ครูกลายเป็นหิน ผู้ปกครองกลายเป็นหิน นักเรียนกลายเป็นหิน แม้แต่อธิการบดีทั้งสี่ก็กลายเป็นหินไปด้วย
หินปลุกพลังแตกหมายความว่าอะไร!
หินปลุกพลังของพวกเขาสามารถวัดพรสวรรค์ปีศาจได้ตั้งแต่ระดับ D ถึง S ถ้าแตก ก็มีความเป็นไปได้แค่อย่างเดียว
พรสวรรค์ที่นักเรียนคนนี้ปลุกได้อยู่เหนือระดับ S!
โอ้แม่เจ้า! นั่นมันจังหวะจะขึ้นสวรรค์เลยนะ!
ตั้งแต่สถาบันปีศาจซิงไห่ก่อตั้งมา มีเหตุการณ์หินปลุกพลังแตกแค่ครั้งเดียวเมื่อสามสิบปีก่อน
นักเรียนคนนั้นปลุกพลังปีศาจระดับ SS มังกรฟ้าปีกสวรรค์ สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วมณฑลซิงไห่!
มหาวิทยาลัยปีศาจชั้นนำจากเมืองเซี่ยงไฮ้ส่งคนมารับตัวไปทันที
หลังจบการศึกษา เขาก็เข้าร่วมกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ของกองทัพโดยไม่ต้องสอบ
ต่อมาเขาแยกตัวออกมาจากกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ ก่อตั้งกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ใหม่และกลายเป็นผู้นำ กองกำลังศักดิ์สิทธิ์นั้นมีระดับสูงสุดในต้าเซี่ย
รองจากสี่กองกำลังศักดิ์สิทธิ์ใหญ่เท่านั้น ปัจจุบันในกองทัพ เขาเป็นราชันย์สงครามที่มีอำนาจล้นฟ้า!
นั่นคือพลังระดับหยกทองเชียวนะ!
คนผู้นั้นคือบุคคลที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์มณฑลซิงไห่ เป็นดาวแห่งความหวังของมณฑลซิงไห่!
ชื่อของเขาถูกจารึกไว้ในใจผู้คนทั่วมณฑลซิงไห่
กู้อวี่โม่ ผู้นำกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ปีกฟ้า! หนึ่งใน 36 ราชันย์สงครามแห่งต้าเซี่ย!
แล้วตอนนี้คุณบอกผมว่า ปีศาจที่หลัวหมิงปลุกพลังได้เทียบชั้นกับกู้อวี่โม่ในอดีต!
บ้าไปแล้ว! บ้าไปเลย!
นี่มันเรื่องใหญ่ระดับสั่นสะเทือนฟ้าดินเลยนะ!
(จบบทที่ 4)
