บทที่ 18 ผู้ฝึกกายาขั้นที่ 13 กำลังล้างจาน
"ลุงหวัง"
ระหว่างทาง เหวินผิงบังเอิญเจอลุงหวังที่กำลังถืออาหารไปยังศาลาทิงอี่ เขาจึงรีบก้าวไปรับถาดไม้มาถือแทน
โฮ่ง! โฮ่ง!
เจ้าสุนัขฮาฮาเดินวนรอบเหวินผิงไปมา เขาจึงต้องยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบหัวมัน
ลุงหวังตอบกลับด้วยเสียงแหบพร่าตามประสาคนชรา "นายท่าน ข้ากำลังยกสำรับข้าวไปให้"
"ลุงหวัง ต่อไปไม่ต้องลำบากเอาอาหารมาส่งให้ข้าหรอก วางไว้ที่ห้องครัวก็พอ ข้าหิวเมื่อไหร่จะไปหยิบกินเอง อีกสองวันข้าจะลงเขาไปหาซื้อสาวใช้มาสองคน ท่านจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก
ทันทีที่พูดจบ ลุงหวังก็สูดหายใจลึก ๆ เขาส่ายหัว แล้วพูดว่า "นายท่าน ไม่ได้ ๆ ข้าแก่แล้ว อายุปาไปตั้งเก้าสิบกว่าปีแล้ว รับสาวใช้สองคนไม่ไหวหรอก ถ้าท่านมีน้ำใจ ช่วยหาคู่ให้ข้าสักคนก็พอ"
"เอ่อ..."
เหวินผิงไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร
หูตึงก็เรื่องหนึ่ง แล้วทำไมจิตใจเจ้าชู้ถึงไม่เสื่อมถอยไปตามอายุขัยบ้างนะ?
สาวใช้ฟังเป็นจี๋* ก็ไม่ไหวนะ
(*จี๋ (妓) : หมายถึงหญิงโสเภณี)
"ก็ได้ เดี๋ยวจะหาคู่ให้"
เขาพูดตามน้ำไปเรื่อย รู้ตัวอีกทีก็เดินมาถึงหน้าศาลาทิงอี่แล้ว
ลุงหวังยิ้มเผล่ ปากที่แทยจะไม่มีฟันเหลืออยู่เผยรอยยิ้มสดใส แล้วพูดกับเหวินผิงว่า "นายท่าน เช่นนั้นข้าขอรบกวนท่านด้วยนะ"
"ทีเรื่องนี้ท่านกลับได้ยินชัดเจน"
"ข้าไม่ได้หูหนวกซะหน่อย จะไม่ได้ยินได้ยังไง"
"ก็ได้ ๆ เชิญท่านกลับไปพักผ่อนเถอะ อย่าเพิ่งทำอะไร ข้าจะไปหาสาวใช้มาปรนนิบัติท่านเอง"
รอยยิ้มของลุงหวังหายไปในทันที เขาทำสีหน้าเศร้าสร้อย แล้วรีบพูดกับเหวินผิงว่า
"นายท่าน ไม่ได้ ๆ ข้าแก่จนใกล้ลงโลงแล้ว ข้ารับไม่ไหวหรอก ไม่ต้องหาจี๋ให้ข้าแล้ว มีคู่ก็พอใจแล้ว"
"เฮ้อ เอาอีกแล้ว"
เหวินผิงส่ายหัวและยิ้มให้กับความคิดของลุงหวัง ก่อนจะเดินเข้าไปในศาลาพร้อมถาดอาหาร หลังจากวางลงบนโต๊ะแล้วก็ผินหลังไปส่งลุงหวังที่หน้าประตู
หลังจากนั้น เหวินผิงก็จัดการอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เขาเปลี่ยนชุด แล้วเตรียมตัวไปฝึกต่อที่สนามโน้มถ่วง
ขณะที่กำลังจะออกไป หยุนเลี่ยวก็มาถึง
ทันทีที่เข้ามา หยุนเลี่ยวก็ยื่นกระดาษสีเหลืองหลายแผ่นให้เหวินผิง เหวินผิงกวาดสายตาผ่านไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงเรื่องเมื่อวาน
กระดาษสีเหลืองเหล่านี้คือใบสมัครเลื่อนขั้นที่เขียนโดยซือหัว พร้อมข้อมูลต่างๆ แต่เนื้อหาในนั้นกลับแตกต่างจากสภาพปัจจุบันของสำนักอมตะราวฟ้ากับเหว เหวินผิงไม่พบจุดที่เหมือนกันแม้แต่ข้อเดียว
ในเอกสารระบุว่าสำนักอมตะมีศิษย์กว่าร้อยคน เหวินผิงเหลือบมองหยุนเลี่ยว นับรวมเขาด้วยก็มีเพียงสี่คน หนึ่งในนั้นยังเป็นปลา
แต่เขารู้ดีว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ซือหัวเพียงต้องการช่วงเวลาปลอดภัยสามเดือนเท่านั้น
"ผู้อาวุโสหยุน พรุ่งนี้เช้าไปที่เมืองชางอู๋กับข้า บ่ายนี้ไม่ต้องลงเขาไปรับศิษย์แล้ว"
"รับทราบ" หยุนเลี่ยวพยักหน้ารับ
เหวินผิงนึกอะไรขึ้นได้ จึงเอ่ยถาม "ผู้อาวุโสหยุน ท่านพอทำอาหารได้หรือไม่?"
"เรื่องเล็กน้อย ข้าพอมีความรู้อยู่บ้าง"
"เช่นนั้น ก็รบกวนท่านดูแลเรื่องอาหารสักสองสามวันนี้ ลุงหวังอายุมากแล้ว เคลื่อนไหวไม่สะดวกนัก"
"ข้า... ทำอาหาร?" หยุนเลี่ยวชะงักไป
เหวินผิงคงเป็นคนแรกนอกจากบิดามารดาที่ขอให้เขาทำอาหาร
ให้ผู้ฝึกกายาขั้น 13 อย่างเขามาเสียเวลาทำอาหาร นี่มันออกจะดูจะไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยหรือ?
"รออีกสองสามวัน ข้าจะซื้อสาวใช้มา จากนั้นท่านก็ไม่ต้องทำแล้ว ตอนนั้นข้าย่อมมีของตอบแทนให้ท่าน"
"ของตอบแทน?"
"ใช่ โอกาสให้ท่านได้เรียนรู้วิชาพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นต้น"
"วิชาพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นต้น!" หยุนเลี่ยวเบิกตากว้าง ราวกับได้ยินสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
แววตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง เขาขอให้เหวินผิงย้ำอีกครั้ง เหวินผิงจึงพยักหน้าหนักแน่น ยืนยันว่าเมื่อครู่ไม่ได้พูดผิดไป
"จริงหรือ?"
"ข้าจะหลอกท่านทำไม?" เหวินผิงยิ้ม
หยุนเลี่ยวรีบเก็บตะเกียบ ชาม และจานบนโต๊ะใส่ถาดไม้อย่างคล่องแคล่ว แม้จะไม่คุ้นเคยนัก แต่เขาก็ยิ้มร่าราวกับเด็กน้อย
เพราะการฝึกวิชาพลังปราณคือสิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาโดยตลอด
น่าเสียดาย แม้แต่วิชาพลังปราณระดับจักรรรดิขั้นต้น ก็ยังถือเป็นสมบัติล้ำค่าของสำนักระดับ 2 ดาว ไม่อนุญาตให้ผู้ใดฝึกฝนนอกจากเจ้าสำนัก
ทว่าตอนนี้ เพียงทำอาหารสองวัน เขาก็มีโอกาสเช่นนี้!
"เช่นนั้น ข้าน้อยขอตัวไปล้างจานก่อน"
หยุนเลี่ยวถือถาดไม้ออกจากศาลาทิงอี่ทันที ดูเหมือนตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด
...
...
หยางเล่อเล่อก้าวออกจากห้อง พลางปัดฝุ่นสีขาวที่เกาะกลุ่มผมจนฟุ้งกระจาย
จากนั้น เขาก็หันไปมองจ้าวฉิงที่กำลังฝึกวิทยายุทธอยู่ข้างนอก แล้วถามด้วยความสงสัย "เจ้ามิได้พักผ่อนเลยหรือ?"
"ที่ผุพังเช่นนี้ ใครเล่าจะหลับลง?"
กระท่อมก็ทรุดโทรม เตียงก็ผุพัง มีแต่ฝุ่นหนาปกคลุม แม้จะเป็นถึงเผ่าอสูรที่ขึ้นชื่อเรื่องไม่เลือกที่หลับที่นอน แต่จ้าวฉิงก็ไม่อาจทนต่อสภาพเช่นนี้ได้
"พวกเราก็เป็นถึงอัจฉริยะ ไม่หวังการปฏิบัติพิเศษ แต่อย่าได้ทรมานกันถึงเพียงนี้"
ทันใดนั้น เจ้าฮาฮาก็ยกขาขึ้นปัสสาวะรดเสาบ้านอย่างสบายอารมณ์
จ้าวฉิงรีบร้องว่า "ดูสิ สุนัขยังมาปัสสาวะตรงนี้"
หยางเล่อเล่อยิ้มแห้ง ๆ แล้วเอ่ยว่า "ดูท่าจะเกินทนแล้ว งั้นพวกเราไปปรึกษาผู้อาวุโสหยุนกันเถิด ถึงท่านจะดูเย็นชา แต่คงจะง่ายกว่าเจ้าสำนักเหวินที่ยึดมั่นกฎระเบียบทุกกระเบียดนิ้ว"
ผู้อาวุโสหยุนเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในสำนักอมตะ คำพูดของท่านย่อมมีน้ำหนัก การจัดที่พักใหม่คงไม่ใช่เรื่องยากเย็น
"ไปกันเถิด"
"ไปกัน! หากวันนี้ข้าไม่สามารถหาที่พักใหม่ให้เจ้าได้ ข้าก็ไม่คู่ควรเป็นสหายคนสนิทของเจ้า!"
"ตกลงตามนี้" จ้าวฉิงยิ้มพลางเดินตามหยางเล่อเล่อที่ก้าวอย่างรวดเร็วไปยังห้องโถงหลัก
หลังจากเดินหาอยู่ครู่หนึ่ง ทั้งสองก็พบลุงหวังที่กำลังอาบแดดอยู่ พร้อมกับสุนัขฮาฮาที่เพิ่งปัสสาวะเสร็จ
ทั้งสองคาดว่านอกจากหยุนเลี่ยวและเหวินผิงแล้ว ก็คงเหลือเพียงคนกับหมาคู่นี้อยู่ในสำนักอมตะ
หยางเล่อเล่อลังเลเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถาม "ท่านลุง ท่านพอจะเห็นผู้อาวุโสหยุนบ้างหรือไม่?"
"เจ้าเป็นผู้ใด?" ลุงหวังหรี่ตาถาม
หยางเล่อเล่อรีบตอบ "ท่านลุง พวกข้าเป็นศิษย์ใหม่ของสำนักอมตะ มีธุระจะขอพบผู้อาวุโสหยุน แต่หาท่านไม่พบ"
"อ้อ เจ้าหมายถึงไอ้หน้าขาวนั่นใช่ไหม?"
"หน้าขาว!" หยางเล่อเล่อยิ้มแห้งๆ แต่ก็คิดว่าฉายานี้เหมาะสมดี "ใช่แล้วท่านลุง พวกเราตามหาท่านผู้อาวุโสอยู่"
"เขาอยู่ในนั้น" ลุงหวังชี้ไปที่กระท่อมไม้หลังหนึ่ง
"ขอบคุณมากขอรับ ท่านลุง"
หลังจากกล่าวขอบคุณ หยางเล่อเล่อก็ผลักประตูเข้าไปในกระท่อม แต่เมื่อก้าวเข้าไปสองก้าวก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
เขียง! มีด! พริกที่ร้อยเป็นพวง! แล้วยังมีข้าวโพดสีทองอร่าม!
ที่นี่ไม่ใช่ห้องครัวหรอกหรือ?
เมื่อจ้าวฉิงเห็นภาพตรงหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามหยางเล่อเล่อด้วยความสงสัย "ท่านลุงหลอกพวกเราหรือเปล่า?"
"ไม่น่าจะใช่"
หยางเล่อเล่อก้าวเข้าไปใกล้ ก่อนจะมองบุคคลที่หมอบอยู่ที่มุมห้องด้วยความฉงนใจ แล้วพึมพำกับตัวเอง
"เงาร่างนี้คุ้น ๆ เหมือนผู้อาวุโสหยุน เอ๊ะ! นั่นผู้อาวุโสหยุนจริงๆ ด้วย! ผู้อาวุโสหยุน พวกเรามีเรื่องจะรบกวน ขอเวลาท่านสักครู่ได้หรือไม่?"
หยุนเลี่ยวได้ยินเสียงเรียกจึงหันกลับมา มือหนึ่งถือชาม อีกมือถือผ้าขี้ริ้ว
หยางเล่อเล่อและจ้าวฉิงถึงกับผงะ ตกตะลึงกับภาพที่เห็น "อะไรกันเนี่ย?"
ผู้ฝึกตนขั้นที่ 13 กำลังล้างจานอยู่ในครัว!
ส่วนคนธรรมดากลับนั่งอาบแดดอย่างสบายอารมณ์อยู่ด้านนอก
เรื่องแบบนี้ใครจะเชื่อ?
เมื่อเทียบกับการต้องทำงานของคนรับใช้ หยางเล่อเล่อรู้สึกว่าตนเองได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่า จึงพูดกับจ้าวฉิงที่อยู่ข้างๆ ว่า "ดูท่าที่พักของเราสองคนก็ไม่เลวนะ ไปกันเถอะ ไปฝึกที่สนามโน้มถ่วงกัน"
จ้าวฉิงพยักหน้าเห็นด้วย "อืม ไปฝึกกัน บ่ายนี้ข้าจะไปจัดการห้องให้เรียบร้อย"
(จบตอน)