ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 สนามโน้มถ่วง 9 เท่า

บทที่ 1 ระบบสุดยอดสำนัก


"บ้าไปแล้ว!"

หญิงงามสะบัดแขนเสื้อ กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยไปตามสายลม นางก้าวขึ้นรถม้าด้วยความขุ่นเคืองจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองอีก

เหวินผิงได้แต่ยักไหล่อย่างปลงตก "ไม่ใช่ข้าหรอกที่บ้า เป็นเจ้าต่างหากที่คุณสมบัติต่ำต้อย ไม่ถึงมาตรฐานการเข้าสำนักอมตะของข้า ข้าจะบ้าได้อย่างไร?"

เขากวาดตามองไปรอบ ๆ หวังว่าคงจะมีใครสักคนที่เห็นด้วยกับเขาบ้าง แต่กลับเปล่าประโยชน์ ทุกสายตาที่มองกลับมาเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด เหมือนกำลังมองคนโง่งม

"เจ้าสำนักเหวิน สำนักอมตะของท่านยังไม่ถึงขั้นแม้แต่จะเป็นสำนัก 1 ดาว ท่านยังคงฝันกลางวันอยู่อีกหรือ?"

"อายุสิบห้าปี ฝึกกายาขั้นที่ห้า อัจฉริยะเช่นนี้ แม้แต่สำนัก 3 ดาวยังต้องแย่งชิงกันเลย แล้วจะถึงตาสำนักอมตะของท่านได้อย่างไร?"

"ข้าว่าเขาคงเสียสติไปแล้ว" เด็กชายวัยเจ็ดขวบพูดพลางกัดถังหูลู่ "ไปกันเถอะ พวกเราไปที่อื่นดีกว่า เขาไม่เห็นค่าพวกเรา เราก็ไม่ต้องไปเห็นค่าสำนักอมตะของเขาหรอก" พูดจบเด็กน้อยก็ส่งสายตาเยาะเย้ยให้เหวินผิง

ฟืดดด!

เด็กน้อยสูดน้ำมูกใสที่กำลังจะไหลออกมา แล้วผู้คนก็ค่อยๆ สลายตัวแยกย้าย ทิ้งให้เหวินผิงยืนอยู่เพียงลำพัง

"เจ้าเด็กนั่น มาที่นี่เดี๋ยวนี้! เจ้าหยิ่งยโสเกินไป ข้าจะประลองกับเจ้า! เจ้ายังหย่านมแล้วหรือถึงกล้ามาหัวเราะเยาะข้า!" เหวินผิงตะโกนไล่หลัง แต่ก็ไร้ผล

เมื่อทุกคนในจุดลงทะเบียนจากไปจนหมด เหวินผิงได้แต่เงยหน้ามองฟ้า ถอนหายใจยาว

"สวรรค์! แม้ข้ามีระบบแล้วก็ยังไม่สามารถยืนหยัดได้อีกหรือ?"

เขาครุ่นคิดถึงระบบสุดยอดสำนักที่ได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้ ระบบที่ควรจะช่วยให้สำนักอมตะกลับมายิ่งใหญ่ แต่ดูเหมือนหนทางยังอีกยาวไกลนัก

"ระบบ เจ้าเล่นตลกกับข้าหรือไร ทำไมถึงตั้งมาตรฐานการรับศิษย์เช่นนี้?"

ในโลกของการบำเพ็ญเพียร การฝึกกายาขั้นที่หนึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น โดยทั่วไปผู้ฝึกตนจะบรรลุถึงขั้นนี้ได้เมื่ออายุสิบปี แต่การจะทะยานสู่ขั้นที่ห้าได้นั้น นอกจากจะเป็นอัจฉริยะที่สวรรค์ลิขิต คนธรรมดาย่อมต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างน้อยสิบปี ผู้ที่สามารถบรรลุฝึกกายาขั้นที่ห้าได้เมื่ออายุสิบห้าปี ย่อมเป็นอัจฉริยะโดยกำเนิดอย่างไม่ต้องสงสัย

หากข่าวเรื่องนี้แพร่สะพัด สำนักสองดาวยังไม่ต้องกล่าวถึง แม้แต่สำนักสามดาวยังต้องแย่งชิง แต่สำนักเล็ก ๆ อย่างสำนักอมตะที่ไม่แม้แต่จะได้ชื่อเป็นสำนักหนึ่งดาวกลับกล้าตั้งมาตรฐานรับศิษย์สูงถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?

เรื่องนี้ต้องย้อนไปยังบ่ายวันหนึ่งในสัปดาห์ก่อน...

...

...

...

เหวินผิงยืนอยู่บนขั้นบันไดเชิงเขา โบกมือลาอย่างเงียบงัน สายตาเหม่อมองไปยังอีกฟากของถนน เบื้องหลังเขาคือศิลาจารึกดาบแห่งสำนักอมตะ หล่อหลอมจากหินคงกระพัน สูงห้าเมตร กว้างหนึ่งเมตร ตั้งตระหง่านดุจดาบที่ทะยานฟ้า ตัวอักษรสามตัวสลักอยู่บนนั้น

สำนักอมตะ

ตัวอักษรเหล่านี้สลักขึ้นด้วยนิ้วของบรรพชนผู้ก่อตั้งสำนัก ปู่ทวดของปู่ทวดของเหวินผิง การจะทิ้งร่องรอยไว้บนหินคงกระพันได้ ต้องมีพลังที่เหนือกว่าผู้ฝึกกายาขั้นสูงสุด แม้แต่ผู้ที่ฝึกกายาถึงขั้นที่สิบสามก็ไม่อาจทิ้งร่องรอยบนหินคงกระพันได้ พลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ย่อมเป็นที่เคารพในหมู่ผู้ฝึกตน

สำนักอมตะ เพียงสามคำ แต่กลับแฝงไปด้วยความยิ่งใหญ่และความน่าเกรงขาม ย้อนกลับไปในอดีต เจ้าเมืองชางอู๋ที่อยู่เชิงเขายังเคยมาแสดงความเคารพ ผู้คนที่เดินผ่านใต้ศิลาจารึกนี้มีมากกว่าหมื่นคนต่อวัน

แต่บัดนี้ เหวินผิงได้แต่ยืนอยู่ตรงหน้า โบกมือลาสิบศิษย์สุดท้ายของสำนักอมตะ

"ลาก่อน!"

เพียงคำลาเดียว แต่กลับหมายถึงการสิ้นสุดของสำนักอมตะอันยิ่งใหญ่ที่เคยรุ่งโรจน์

นับจากวันนี้ สำนักอมตะที่เคยเป็นถึงสำนักสองดาว เหลือเพียงเขาผู้เป็นเจ้าสำนักอายุสิบแปดปี คนรับใช้ชราหวังป๋อ และสุนัขล่าสัตว์คู่ใจที่ชื่อ ฮาฮา

สำนักอมตะได้สิ้นชื่อแล้วอย่างเป็นทางการ

ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูของเหวินผิง

【กำลังเปิดใช้งาน...ระบบสุดยอดสำนัก】

เสียงนั้นเป็นเสียงอิเล็กทรอนิกส์ที่ไร้ชีวิต เหวินผิงตกใจ รีบหันไปมองรอบ ๆ พุ่มไม้ข้างทาง

"ออกมา! ใครอยู่ตรงนั้น?"

[โฮสต์ไม่ต้องมองหาแล้ว ระบบอยู่ในหัวของท่าน หากท่านไม่ผ่าหัวตัวเองออกมา ท่านก็ไม่มีทางหาระบบเจอ]

"เจ้าเป็นใคร?"

[ระบบไม่ใช่มนุษย์ และไม่มีชีวิต ระบบคือคู่หูแห่งโชคชะตาของท่าน – ระบบสุดยอดสำนัก]

"ระบบสุดยอดสำนัก?"

[ใช่]

จากนั้นหน้าต่างแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้น

【เหวินผิง】

【เพศ: ชาย】

【ขอบเขต: ฝึกกายาขั้นที่เจ็ด】

【ระดับสำนัก: ไม่มี】

【ระบบสุดยอดสำนัก: การสร้างสำนักจำเป็นต้องมีอาจารย์ที่แข็งแกร่ง ศิษย์ที่มีความสามารถ และทรัพยากรในการฝึกฝนเพื่อดึงดูดอาจารย์และศิษย์ ระบบนี้จะมอบทรัพยากรพิเศษให้ ตั้งแต่ เคล็ดวิชาชีพจร เคล็ดวิชาบ่มเพาะ ไปจนถึงค่ายกล เพื่อสร้างสุดยอดสำนัก】

เหวินผิงไม่ได้สนใจข้อมูลของตัวเองมากนัก สายตาจ้องไปที่คำอธิบายของระบบอย่างแน่วแน่

มันจะช่วยให้เขากลับมายืนหยัดได้อีกครั้งหรือไม่? มันจะช่วยชุบชีวิตสำนักอมตะให้กลับมาได้หรือไม่?

ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยถามสิ่งใด เสียงของระบบก็ดังขึ้น

[เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันของโฮสต์ การฟื้นฟูสำนักอมตะเป็นเรื่องยากยิ่ง ดังนั้นจึงมอบหมายภารกิจแรก]

【ภารกิจหลัก – ปรับปรุงห้องโถงหลัก】

【ห้องโถงหลักคือหน้าตาของสำนักและเป็นสถานที่ทำงานของผู้นำระดับสูง จึงไม่ควรทรุดโทรมเกินไป ต้องสร้างความประทับใจให้ผู้คน เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของสำนัก】

【การปรับปรุงครั้งแรกฟรี, เวลาปรับปรุง: 10 ชั่วโมง】

【รางวัลเมื่อสำเร็จ: สนามโน้มถ่วง 3 เท่า】

การปรับปรุงห้องโถงหลักฟรี ถือเป็นโอกาสที่ไม่เลว

ตั้งแต่เมื่อปีก่อนที่ห้องโถงหลักถูกผู้แข็งแกร่งพุ่งชนจนพังทลาย เขาไม่ได้เข้าไปที่นั่นอีกเลย แม้จะมีเหล่าผู้อาวุโสพูดถึงการซ่อมแซมอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาปฏิเสธมาโดยตลอดเพราะไม่มีทรัพยากรเพียงพอ

ตั้งแต่บิดาของเขาเสียชีวิตและสำนักยากจนลง เขาไม่เคยคิดจะฟื้นฟูสำนักอมตะ แต่เมื่อสวรรค์มอบระบบสุดยอดสำนักให้แก่เขา การฟื้นฟูสำนักอมตะย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ไม่ใช่เพื่อให้เขาเงยหน้าอ้าปากต่อหน้าผู้คน แต่เพื่อศักดาความเป็นเจ้าสำนัก ผู้ที่เคยได้รับความเคารพและความเกรงขามจากทุกผู้คน

ครั้งหนึ่งบิดาของเขาเอ่ยคำสั่งเดียว ผู้คนนับหมื่นก็พร้อมปฏิบัติตาม ไม่ว่าไปที่ไหนก็มีแต่เสียงเรียกขานว่า "เจ้าสำนักเหวิน" แม้แต่ผู้นำตระกูลยังส่งบุตรีที่งดงามมาเป็นศิษย์ แค่คิดก็รู้สึกดียิ่งนัก

"รีบไปเถอะ กลับบ้านของเจ้าไป!"

เมื่อศิษย์ทั้งสิบคนลงจากเขาอวิ๋นหลาน เหวินผิงก็หันหลังกลับมองขึ้นไปยังขั้นบันไดที่ทอดยาว

ระหว่างเดินขึ้นไป เขาได้ยินเสียงหวังป๋อตะโกนมาแต่ไกล

"เจ้าสำนัก! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!"

หวังป๋อผู้มีใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยวิ่งลงมาด้วยความระมัดระวัง มือข้างหนึ่งถือไม้กวาด อีกข้างมีฮาฮาสุนัขล่าสัตว์วิ่งตามมา

"เมื่อครู่ห้องโถงใหญ่ถูกปกคลุมด้วยหมอกขาว และมีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากข้างใน อาจจะมีปีศาจบุกเข้ามาในสำนักของเราแล้ว" หวังป๋อรายงานด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

เหวินผิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนรีบมุ่งหน้าไปยังห้องโถงใหญ่

ปีศาจ? เป็นไปไม่ได้ สำนักอมตะจะมีปีศาจได้อย่างไร?

เมื่อเขาขึ้นมาถึงลานกว้าง เห็นห้องโถงใหญ่ที่ห่างออกไปประมาณร้อยเมตร ก็พบว่าหมอกขาวที่ปกคลุมห้องโถงนั้นผิดปกติ ความรู้สึกของเขาไม่สามารถมองทะลุผ่านมันไปได้

แต่เมื่อเข้าใกล้ เหวินผิงก็เข้าใจในทันที ภายในหมอกขาวนั้นมีข้อความที่ชัดเจนปรากฏขึ้น

【เวลาปรับปรุงที่เหลือ: 9 ชั่วโมง 55 นาที】

.

(จบตอน)

.

.

* ในนิยายเรื่องนี้ คำว่า อาจารย์ กับ ผู้อาวุโส ถูกใช้ในลักษณะที่มีความหมายสอดคล้องกัน ไม่ได้แบ่งแยก

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด