ตอนที่แล้วตอนพิเศษของอารอนตอนที่ 2 (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนพิเศษของอารอนตอนที่ 3 (2)

ตอนพิเศษของอารอนตอนที่ 3 (1)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel  แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

<ตอนพิเศษของอารอน ตอนที่ 3>

1. สิ่งที่สำคัญเพียงสิ่งเดียวคือความบริสุทธิ์ (5)

*******

บริษัทโมเบียสกำลังจะเปิดตัวเกมสุดยิ่งใหญ่ เกมที่พวกเขาทุ่มเทเวลาและสมองลงไป

การเปิดตัวพิกมีอัพใกล้เข้ามาแล้ว

การตลาดเต็มไปด้วยความผันผวนบนโลก

ฝ่ายการตลาดบนโลกกำลังทำงานอย่างหนัก ทั้งการจัดกิจกรรมแจกของรางวัลผ่านโซเชียลมีเดีย และการโฆษณาลงทะเบียนล่วงหน้าในเว็บบอร์ดต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการทำการตลาดขนาดใหญ่ เช่น การโฆษณาทางทีวี

แต่พวกเขายังไม่สามารถทำการตลาดใหญ่ ๆ อย่างโฆษณาทางโทรทัศน์ได้ เพราะยังไม่สามารถเชื่อมต่อกับโลกได้โดยตรง

การดำเนินงานของบริษัททั้งหมดจึงต้องใช้วิธีอื่น นั้นคือตั้งบริษัทบังหน้าขึ้นมา และล้างสมองคนบางกลุ่มบนโลกที่เกลี้ยกล่อมมา เพื่อให้สามารถตั้งบริษัทและดำเนินงานต่างๆได้

แต่วิธีการแบบนี้ไม่มีประสิทธิภาพเอาเสียเลย

เพื่อดำเนินการการตลาดหรือการพัฒนาเชิงรุกมากขึ้น จำเป็นต้องมีเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกโดยตรง

แน่นอนว่าแบบแปลนนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว

เพียงแต่ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างมันขึ้นมา

“เป็นไปไม่ได้!”

ในห้องประชุมผู้บริหารระดับสูงของโมเบียส ชายวัยกลางคนในชุดสูทดูไม่พอใจกับอะไรบางอย่างตะโกนขึ้นมา

ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทขมวดคิ้ว

“เรื่องไร้สาระ! เด็กอนุบาลยังคิดได้ดีกว่านี้ มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด!”

พลังงานอันแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นใกล้กับชายวัยกลางคน

เป็นกระแสอารมณ์อันรุนแรงที่ก่อตัวขึ้น

เทพองค์อื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ เริ่มเหงื่อแตก

“จะทำโปรเจกต์นั้นโดยไม่มีทางเชื่อมงั้นเหรอ? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? มันก็เหมือนกับว่าจะทำธุรกิจในอีกประเทศ แต่ไม่ติดต่อกับประเทศนั้นโดยตรงแค่ส่งจดหมายไปมาเท่านั้น!”

“แม้ว่าประสิทธิภาพจะลดลง แต่มันก็ยังพอเป็นไปได้ครับ”

ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นนักวิจัยมีเหงื่อออกมาก

ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นนักวิจัยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

หน้าจอสไลด์ที่อยู่ด้านหน้าของห้องประชุมกำลังฉายภาพรวมของโปรเจกต์พิกมีอัพ

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ? ในเมื่อแบบแปลนก็เสร็จแล้วไม่ใช่หรือ?”

ชายวัยกลางคนคนนั้นขมวดคิ้ว

“การจะเปิดช่องมิติที่เชื่อมต่อกับโลกและคงมันไว้ได้ จำเป็นต้องใช้พลังงานรบกวนแบบมหาศาลเลยนะครับ  แต่เนื่องจากโมเบียสของเราไม่มีพลังการรบกวนมากขนาดนั้น…”

“หมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้วงั้นสิ?”

“มะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ……”

“ไร้สาระสิ้นดี! อะไรนะ?  พิกมีอัพงั้นเหรอ? ดึงพลังงานรบกวนจากโลกเข้ามาในเกมงั้นเหรอ? นี่เราต้องลงทุนลงแรงไปมากมายเพื่อจะมาทำเรื่องเหลวไหลแบบนี้เนี่ยนะ!”

“นี่..หุบปากสักทีได้ไหม?”

เสียงตะโกนของชายคนนั้นเงียบลงในทันที

“เขากำลังอธิบายอยู่ รอฟังให้จบก่อนไม่ได้หรือไง?”

หญิงสาวคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เทล

ส่วนคนที่นั่งข้างๆ เธอคืออิคาร์ที่ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรในสถานการณ์นี้

“ฮาลเจียนนายน่ะมีดีทุกอย่าง ยกเว้นนิสัยใจร้อนเนี่ยแหละ”

“ฉันว่าฉันก็อดทนมากพอแล้วนะ”

ชายที่ชื่อฮาลเจียนจ้องมองไปที่

จ้องไปที่เทลด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

ชายคนนี้เป็นเทพที่มีตำแหน่งสูงสุดในสภาเทพไม่ต่างจากเทลและอิคาร์ และเขายังเคยเป็นคู่แข่งของเทลในการแย่งชิงตำแหน่งประธานวิหารแพนธีออน

“ฉันว่าฉันก็ให้เกียรติพวกเธอมากพอแล้วนะ พวกเราต่างเฝ้ารอและให้ความร่วมมือมาตลอด”

ด้านหลังของชายคนนั้นมีเทพและจิตวิญญาณระดับสูงยืนเรียงรายอยู่ พวกเขาคือฝ่ายของฮาลเจียน ที่มีอำนาจทัดเทียมกับกลุ่มของเทลและอิคาร์ในสภาเทพ

“แต่แล้วผลลัพธ์ล่ะ?”

เสียงของฮาลเจียนเริ่มดุดันขึ้น

เทลไม่ตอบอะไร

“พวกเธอไม่สามารถเปิดประตูมิติไปยังโลกได้ แถมยังไม่มีระบบป้องกันภัยพิบัติที่จะปกป้องโมเบียสได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมเกมที่ทำเสร็จแล้วก็ไม่ได้เรื่อง แล้วแบบนี้มันจะมีความหวังอะไรได้?”

เมื่อข่าวการล่มสลายของโมเบียสแพร่กระจายออกไป เอเดนก็แตกออกเป็นสองฝ่าย

ฝ่ายหนึ่งนำโดยเทลและอิคาร์ ที่เชื่อว่ายังพอมีความหวังที่จะปกป้องโมเบียสได้

และฝ่ายฮาลเจียนที่ยอมรับการล่มสลายและแสวงหาหนทางเอาชีวิตรอด

“พวกเราลดหย่อนข้อเรียกร้องให้ถึงที่สุดแล้ว ถ้าช้ากว่านี้ พวกเราจะไม่สามารถหนีรอดไปได้ พวกเธออยากจะตายไปพร้อมกับโมเบียสหรือไง?”

“…………”

“พวกเราเองก็เหมือนกัน……”

ฮาลเจียนหลับตาลง

ความรู้สึกมากมายปรากฏขึ้นและหายไปบนใบหน้าของเขา

“ไม่ได้หมายความว่าเราไม่รักโมเบียสหรอกนะ ที่เธอโน้มน้าวใจได้ก็เพราะเราคิดว่าถ้ามีวิธี พวกเราก็อยากจะช่วย”

เป็นผลให้ฝ่ายฮาลเจียนเข้าาร่วมกับเทลและอิคาร์

เขาคลอยตามคำพูดของอิคาร์

ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายของวิหารแพนธีออนจึงร่วมมือกันเพื่อดำเนินการสร้างพิกมีอัพ

"แต่ว่า…."

ฮาลเจียนลืมตาขึ้นมา

ในแววตาของเขามีอำนาจของผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่เคารพสักการะของมนุษย์มากมาย

“บางครั้งก็ต้องปล่อยวางบ้าง”

“…………”

“ตอนนี้พวกเรากำลังทำตัวน่าสมเพช พยายามขุดหลุมศพขึ้นมาเพื่อไม่ให้ลูกหลานของเราต้องตาย พวกเราไม่ควรทำอะไรที่น่าอายไปมากกว่านี้แล้ว”

เทลกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

เธอต้องการโต้แย้งคำพูดของเขา

แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาตอบโต้ได้

"เมื่อดำเนินโครงการไปแล้ว โอกาสที่โมเบียสจะกลับมาฟื้นคืนชีพมีมากน้อยแค่ไหน?”

ฮาลเจียนพูดกับนักวิจัยที่อยู่ถัดจากหน้าจอ

เขาเป็นพนักงานที่ทุ่มเทให้กับการพัฒนา

"คือ…”

“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลย…ฉันรู้คำตอบอยู่แล้ว”

ฮาลเจียนลุกขึ้นจากที่นั่งของเขา

ขณะที่ชายคนนั้นโบกมือ บางอย่างก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะ

มันเป็นภาษาของเทพเจ้า

“มีปัญหาสำคัญสี่ประการกับโครงการพิกมีอัพ”

อันดับแรก

เพื่อให้การดำเนินงานของโครงการเป็นไปอย่างราบรื่น พอร์ทัลสู่โลกจึงเป็นสิ่งจำเป็น

การเปิดมิตินี้ต้องใช้พลังรบกวนมหาศาล

แหล่งพลังงานในโมเบียส ที่กำลังจะตายอยู่ที่ไหน?

อันดับสอง

เมื่อโครงการนี้ดำเนินไป กองทัพจะถูกส่งออกไปนอกโลกทันทีเพื่อปราบเอเดน

นี่เป็นเพราะพวกเขาถือว่าการละเมิดกฎถือเป็นข้อห้ามอย่างยิ่ง

จะหยุดพลังแห่งอวกาศได้อย่างไร?

อันดับสาม

รูปแบบการเล่นเองก็น่าสงสัย

หลังจากอ่านรายงานแล้ว ไม่พบองค์ประกอบใดของความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศเลย

เกมทั่วไปเช่นนี้จะได้รับความนิยมบนโลกได้อย่างไร?

และข้อสี่ข้อสุดท้าย

การฟื้นฟูมิติที่ถูกทำลายไปแล้วจะมีความหมายอะไร?

เหมือนกับพยายามเก็บเศษแก้วที่แตกมาประสานใหม่ และสุดท้ายมันก็พังทลายลง ความเป็นและความตายก็เช่นเดียวกัน

“แม้ว่าเราจะแก้ปัญหาทั้งสามข้อข้างต้นได้ แต่ปัญหาสุดท้ายยังไงก็ไม่สามารถแก้ไขได้อยู่ดี”

ฮาลเจียนประกาศ

“ผู้เฒ่าเลคาดิสก็พูดเช่นนั้นเหมือนกันพวกเขาแบ่งมิติที่ถูกทำลายออกเป็น 100 ชิ้นและพยายามเชื่อมต่อพวกมันทีละชิ้น”

ขณะที่ฮาลเจียนโบกมือรูปหอคอยก็ปรากฏขึ้นที่กลางโต๊ะ

“ขั้นแรก เราสร้างมิติที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่ให้มีรูปร่างของหอคอยสูง 100 ชั้น และพยายามปะติดปะมันเข้ากันทีละน้อ เริ่มจากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน”

มันเหมือนกับปริศนาจิ๊กซอว์

โดยการประกอบชิ้นส่วนปริศนาที่พังทลายลงทำให้ภาพต้นฉบับกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง

“ชายชราบอกว่าชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่สามารถประกอบเข้าด้วยกันจากชั้น 80 ของหอคอยได้”

หอคอยเสมือนจริงถูกสร้างขึ้นบนโต๊ะ

แต่อย่างไรก็ตาม มีรอยแตกปรากฏขึ้นตามสถานที่ต่างๆ เริ่มตั้งแต่ชั้น 80 ของหอคอย และในที่สุดก็พังลงในชั้นที่ 90

แน่นอนว่าด้วยพลังของเลคาดิส เขาสามารถทำให้ชิ้นส่วนที่แตกหักเชื่อมต่อกันได้

ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากนั้น

“มิติที่เสียหายไม่ได้เชื่อมต่ออย่างถูกต้อง การรักษาสภาพที่เป็นอยู่นั้นมีจำกัด ถ้าพยายามจะทำมันจนถึงชั้นที่ 100...กองทัพแห่งยุคสมัยใหม่จะเข้ามากลืนกินสถานที่แห่งนี้ในทันที และด้วยความแข็งแกร่งของเรา เราจะไม่สามารถต้านได้เลย”

แม้ว่าจะแก้ปัญหาสามในสี่ของปัญหาทั้งหมด แต่ยังไงก็จะล้มเหลวในขั้นสุดท้าย

การสร้างพิกมีอัพมันเป็นไปไม่ได้เลยตั้งแต่แรก….

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด