ตอนที่แล้วตอนพิเศษของอารอนตอนที่ 2 (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนพิเศษของอารอนตอนที่ 3 (1)

ตอนพิเศษของอารอนตอนที่ 2 (2)


[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel  แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]

<ตอนพิเศษของอารอน ตอนที่ 2>

1. สิ่งที่สำคัญเพียงสิ่งเดียวคือความบริสุทธิ์ (4)

*******

“อ้าวพี่มาแล้วเหรอคะ?”

ทางด้านขวาของห้องทำงานผู้บริหาร

ผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายเทลยืนต้อนรับอย่างดีใจ

เธอกำลังพิมพ์งานบนคีย์บอร์ดบนโต๊ะอย่างขะมักเขม้น

“อืม”

เทลตอบสั้นๆ แล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองทางด้านซ้าย

บนโต๊ะมีป้ายชื่อระบุตำแหน่งของเธอในฐานะ CO-CEO ของ โมเบียส

เก้าอี้หนังนุ่มๆ ต้อนรับเทล

“.....”

กริ๊ก

เก้าอี้หนังหมุนไป

จากนั้น ทิวทัศน์ห้องทำงานของผู้อำนวยการที่มีกระจกด้านหน้าก็ถูกเผยให้เห็น

นี่คือชั้นบนสุดของอาคารสูง

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันยาวนานของเมืองถูกเปิดเผย

เมืองแห่งเทพเจ้า

เอเดน (Eden) มิติที่ 0

ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเต็มไปด้วยอาคาร ถนน รถยนต์ แทนที่จะเป็นอาคารหินอ่อนอันงดงามและสวนที่กว้างขวางและสวยงาม

ขณะนั้นสถานที่นี้เรียกว่าวิหารแพนธีออน ที่ประชุมของเหล่าเทพ

ไม่นานมานี้สถานที่เก่าแก่ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นสถานที่สมัยใหม่

หลังจากที่ประธานการประชุมของวิหารแพนธีออนเปลี่ยนจากเลคาดิสนักปราชญ์แห่งสรรพสิ่งไปเป็นเทพธิดาฝาแฝด

กำจัดวัฒนธรรมในอดีตและแทนที่ด้วยสิ่งใหม่

เหล่าเทพและวิญญาณได้ละทิ้งเครื่องแต่งกายแบบเก่าและอารยธรรมที่ล้าสมัย หันไปรับวัฒนธรรมสมัยใหม่ของโลกล่าสุดมาใช้

นั่นคือที่มาของเอเดน…เมืองใหม่ที่อยู่ตรงหน้าเรา

“... ...”

เทลนึกถึงอดีต

ในตอนที่พวกเธอได้รับเลือกให้เป็นประธานของเหล่าสภาเทพ อิคาร์น้องสาวของเธอยิ้มอย่างสดใสและประกาศความทะเยอทะยานของเธอ

“เป้าหมายของฉันและพี่สาวคือให้ทุกชีวิตในโมเบียสใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป! ถึงแม้ว่าเราจะยังขาดและยังไม่พร้อมในหลายๆด้าน แต่เราจะพยายามค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ!”

หญิงสาวที่สวมเสื้อผ้าพลิ้วไหวกำลังเดินไปตามทางเดินพร้อมกับได้รับคำอวยพรจากเหล่าทวยเทพ

เทลเดินตามเธอไปด้วยสีหน้าเฉยเมย

“เทล อิคาร์ จากนี้ไปขอฝากโมเบียสด้วยนะ เธอคงทำได้ดีกว่าคนแก่ที่รอวันตายอย่างฉันใช่ไหม?”

เลคาดิสอดีตประธานสภาของเหล่าแทพแห่งวิหารแพนธีออน ปรบมือและหัวเราะ

ปัจจุบันเขาเป็นผู้อำนวยการเกมในบริษัทมีชื่อเรียกว่า…อัลฟ่าซีโร่

“ฉันกับพี่สาวจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดค่ะ จะทำให้ไม่มีใครต้องเจ็บปวด เพื่อให้ทุกคนในโมเบียสได้ใช้ชีวิตด้วยรอยยิ้ม ฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ!”

อิคาร์พูดพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

“ใช่ไหมคะพี่?”

“ถ้าอยากทำก็ทำเลย”

“โธ่พี่ค่ะ!”

อิคาร์สะกิดสีข้างของเทล แต่เทลก็แค่หาว

เทลรู้สึกเบื่อกับงานแบบนี้

ถ้าไม่ใช่น้องสาวที่รบเร้าว่านี่คือความฝันทั้งชีวิตของเธอ เทลก็คงไม่สนใจ

“แล้วเธออยากจะสร้างโมเบียสแบบไหนล่ะ?”

"ฉันต้องการสร้างโมเบียสให้เป็นสถานที่ที่ทุกคนอยู่อย่างสงบสุขค่ะ!!”

"โอ้ว!"

อิคาร์ได้แสดงความปรารถนาอันแรงกล้าของเธอให้เลคาดิสฟัง

“ฉันอยากให้คนที่แข็งแกร่งมีความอ่อนน้อมถ่อมตน และคนที่อ่อนแอได้รับความเมตตา อยากสร้างโลกที่ไม่มีใครต้องเจ็บปวด ไม่มีใครต้องทุกข์ทรมาน ฉันอยากจะสร้างโลกแบบนั้นค่ะ!”

อิคาร์ตะโกนพร้อมยกมือขึ้น

เทลถอนหายใจ

โลกที่ไม่มีใครต้องเจ็บปวด

โลกแบบนั้นไม่มีอยู่จริง

“อย่างนี้นี่เอง ถ้าทำได้จริงก็คงจะดีไม่น้อย!”

“ใช่ไหมล่ะคะ?”

เลคาดิสพยักหน้า

อิคาร์ยิ้มอย่างสดใส

‘แต่ก็ยังดี’

ดีกว่าต้องฟังเสียงร้องไห้หนวกหู

เทลคิด

น้องสาวของเธอเป็นคนที่ร้องไห้มากกว่าหัวเราะ

อิคาร์ร้องไห้บ่อยครั้งแม้จะเป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม

เช่น ลูกแมวที่ไม่มีใครสนใจตาย

หรือต้นอ่อนทานตะวันที่ถูกเหยียบโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อกองทัพผ่านไป

หรือศพของนักเดินทางที่ตายเพราะหาแหล่งน้ำไม่เจอในทะเลทราย

ทุกครั้งอิคาร์จะเศร้าและร้องไห้ราวกับเป็นความผิดของเธอเอง

ความเมตตา

มันก็เรียกว่าความรัก

ความเมตตา….คำนี้หมายถึงการรักและสงสารผู้อื่น

เทพธิดาอิคาร์ไม่ได้รับคุณสมบัติดังกล่าวเพราะเธอต้องการมัน

มันไม่ใช่บุคลิกภาพที่เกิดจากการเติบโตเหมือนมนุษย์

เพราะเธอเป็นเทพแบบนั้นมาตั้งแต่เกิด

ถ้าเทลไม่ได้เกิดมาเป็นเทพธิดาที่ตรงข้ามกับอิคาร์ เธอคงจะถูกเอาเปรียบจนหมดเนื้อหมดตัวและถูกทิ้งไปแล้ว

เพราะเธอเป็นคนใจดีโดยกำเนิด

ในทางกลับกัน….คุณลักษณะของเทลคือ…ความบริสุทธิ์

แต่แตกต่างจากที่คนทั่วไปจินตนาการโดยสิ้นเชิง

เพราะความบริสุทธิ์ของเธอคือความบริสุทธิ์ต่อจิตใจของเธอเอง

การซื่อสัตย์ต่อความปรารถนา เป้าหมาย และจิตใจของตนเอง

แน่นอนว่าถ้าทำตามสิ่งเหล่านั้นมากเกินไป ก็อาจจะถูกมองว่าเป็นสิ่งชั่วร้าย

แต่สำหรับเทลแล้ว ความดีความชั่วที่มนุษย์กำหนดขึ้นนั้นไม่สำคัญ

การฆ่าผู้อื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งความปรารถนาที่บริสุทธิ์

การฆาตกรรมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องผิดสำหรับเทล

ในทางกลับกัน เธอคิดว่ามันเป็นการก้าวข้ามกฎเกณฑ์ทางสังคมเพื่อให้ได้มาซึ่งความปรารถนาที่บริสุทธิ์

ในมุมมองของเธอ มันเป็นการกระทำที่ควรยกย่อง

และนิสัยแบบนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ

ไม่ใช่บุคลิกภาพที่ถูกสร้างขึ้นมาเอง

เพราะเธอเป็นเทพธิดาแบบนั้นตั้งแต่เกิด

พวกเธอเป็นเทพธิดาฝาแฝด

เมื่อเทลและอิคาร์ประสานพลังกัน ทั้งโลกก็ได้รับความสมดุล

มันเป็นศาสนาที่แพร่หลายที่สุดในโมเบียส ซึ่งเป็นหลักคำสอนที่เป็นตัวแทนของศาสนาเทพธิดา

นอกจากนี้ ศาสนาเทพธิดาและเทพธิดาฝาแฝดยังเป็นเทพที่เป็นที่รู้จักกันดีในเกือบทุกมิติของโมเบียส

แต่ละมิติมีชื่อเรียกมากมาย และชื่อที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายที่สุดก็คือ เทพีแห่งความบริสุทธิ์ เทล และเทพีแห่งความเมตตา อิคาร์

อย่างไรก็ตาม เทลส่ายหัวเมื่อได้ยินเรื่องไร้สาระของน้องสาวที่บอกว่าจะทำให้โลกสงบสุขและทำให้ผู้คนหยุดร้องไห้

มันเป็นไปไม่ได้

แม้ว่าเธอจะเป็นเทพเจ้าที่มีพลังและอำนาจมหาศาล แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้

เช่น การเปลี่ยนความคิดของมนุษย์ทั้งหมดให้หันมาแสวงหาสันติภาพ

ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าชั้นสูงคนไหนก็ไม่สามารถทำได้

ถึงแม้ว่าจะถูกเรียกว่าเทพเจ้าและได้รับการยกย่อง แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีอำนาจทุกอย่าง

พวกเขาเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์และผู้จัดการบางอย่างเท่านั้น

บทบาทของเทพเจ้าคือการดูแลให้มิติที่พวกเขารับผิดชอบดำเนินไปอย่างราบรื่น

สำหรับจักรวาลแล้ว พวกเขาเป็นเหมือนพนักงานธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น

ดังนั้น เมื่อกฎแห่งจักรวาลได้ตัดสินให้โมเบียสถึงกาลอวสานความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์นั้นจึงเป็นการกบฏต่อจักรวาลอย่างใหญ่หลวง

"ทำไมล่ะคะ?!"

เมื่อการล่มสลายของโมเบียสมาถึง

เทพเจ้าทั้งสามที่เป็นผู้นำแห่งวิหารแพนธีออนมารวมตัวกันในห้องโถงแห่งกฎ

มันเป็นสถานที่แห่งเดียวในวิหารแพนธีออนที่สามารถอ่านกฎแห่งจักรวาลได้

“มันถูกกำหนดไว้แล้ว กฎได้บอกไว้…”

“โมเบียสจะจบลงแล้วเหรอคะ? พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย! ยังไม่ได้เช็ดน้ำตาให้ใครเลยนะคะ!”

เทพธิาฝาแฝดเพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานได้ไม่นาน

สิ่งที่พวกเธอทำได้ก็แค่เปลี่ยนแปลงอารยธรรมที่ล้าสมัยของสภาเทพให้เป็นแบบโลกยุคใหม่เท่านั้น

หลังจากนั้น อิคาร์ก็วางแผนที่จะทำตามความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของเธอ

แต่แล้วก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น

มีกฎบางอย่างโผล่ออกมา

โมเบียสจะต้องจบลง

ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้

การล่มสลายถูกประกาศโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆล่วงหน้า

“เป็นไปไม่ได้... เป็นไปไม่ได้...”

“นั้นมันน่าเสียดายจริงๆ”

บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

แต่เทลก็ไม่รู้สึกอะไรมากนัก

มันน่าเสียดายที่โมเบียสถูกทำลาย แต่ถ้ามันถูกกำหนดไว้แล้วจะทำอย่างไรได้ล่ะ จริงไหม? ดังนั้น.

“ฉันยอมรับไม่ได้หรอกนะคะ”

เมื่ออิคาร์พูดแบบนั้น เทลก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อย

“ต้องมีวิธีหยุดยั้งการล่มสลายได้แน่ๆ”

“เธอ... อย่าบอกนะว่า...”

สีหน้าของเลคาดิสเปลี่ยนไป

เขาตระหนักว่าความตั้งใจของอิคาร์คืออะไร

“ฉันได้สาบานไว้แล้ว เพื่อที่จะปกป้องลูกหลานของโมเบียส ถึงแม้ว่ากฎจะบอกว่าถึงเวลาล่มสลายแล้ว ฉันก็จะไม่ยอมแพ้ค่ะ”

“เธอจะฝ่าฝืนกฎงั้นเหรอ? จะหยุดยั้งการล่มสลายเหรอ? ถ้าทำแบบนั้น คลื่นแห่งความโกลาหลจะกลืนกินที่นี่!”

“อาจจะมีวิธีก็ได้นะคะ เราไม่สามารถอยู่เฉยๆได้!”

เทพทั้งสองเริ่มโต้เถียงกัน

เทลยืนมองดูการสนทนาของทั้งสองเงียบๆ

อิคาร์อยากจะปกป้องโมเบียสไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม

เลคาดิสบอกว่า ถ้าทำแบบนั้นจะต้องรับผลที่ตามมา

การโต้เถียงดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน

ในท้ายที่สุด ทั้งสองมองไปที่เทลที่ยืนดูอยู่ที่มุมห้อง

“ฉันอีกแล้วเหรอ?”

เทลพูดอย่างเบื่อหน่าย

“พี่ค่ะ…”

อิคาร์น้องสาวของเธอกำลังมองเธอด้วยสีหน้าจริงจัง

เธอมักจะทำหน้าแบบนี้เวลาขอร้องอะไรที่ไร้เหตุผล

และเทลก็ต้องเป็นคนตามเก็บกวาดอยู่เสมอ

ดังนั้น เทลจึงตอบว่า

“เรื่องมันง่ายนิดเดียว ก็ลองทำดูก่อน ถ้าทำไม่ได้ก็เลิก นักปราชญ์เลคาดิสก็คงไม่ยืนดูเฉยๆหรอก ใช่ไหม?”

“ภัยพิบัติจะเกิดขึ้น”

“ฉันไม่สนใจ”

และนั่นคือการตัดสินใจกบฏ

'แต่ความตั้งใจของอิคาร์ก็ฟังดูดีเหมือนกัน'

เทลลุกขึ้นจากเก้าอี้หนัง

เดินข้ามพื้นหินอ่อนไปยังหน้าต่างกระจก

‘แต่ก็ล้มเหลว’

ในตอนแรก เราใช้ความเป็นไปได้ทั้งหมดในโมเบียสและย้อนแกนเวลาหลายครั้ง

พวกเขาพยายามให้โอกาสเหล่าฮีโร่และเผ่าพันธุ์โบราณในแต่ละมิติต่อต้านการล่มสลาย

แต่ความพยายามทั้งหมดนั้นล้มเหลว

โครงการที่สร้่างขึ้นอีกอันคือโครงการที่มีชื่อว่า พิกมีอัพ

แต่นั่นก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือไม่

แสงไฟของเมืองส่องประกายอยู่ด้านล่างอาคาร

แต่ท้องฟ้ายามค่ำคืนยังคงมืดมิด

ไม่มีทั้งดวงจันทร์และดวงดาว

ในที่สุด เมืองก็ตกอยู่ในความมืดมิด

หนึ่งดวงดาวที่ส่องแสง หมายถึงหนึ่งมิติ

เดิมที ท้องฟ้ายามค่ำคืนของเอเดนเต็มไปด้วยดวงดาวนับไม่ถ้วน ส่องแสงสว่างไปทั่วเมือง เป็นทิวทัศน์ที่น้องสาวของเธอชอบ

แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว

ในขณะที่มิติของโมเบียสถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง แสงของดวงดาวก็ค่อยๆ หายไป

และตอนนี้ก็ไม่เหลืออะไรแล้ว

'ทุกคนจากไปแล้ว'

ตอนนี้สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในโมเบียสก็มีเพียงเอเดน ที่เป็นมิติของผู้ดูแลเท่านั้น

มิติอื่นๆ ได้ล่มสลายไปหมดแล้ว

ความพยายามใดๆ ที่จะชะลอการล่มสลายก็ไม่เป็นผล

‘ท้องฟ้ามืดสนิท’

อีกไม่นานแสงสว่างของเมืองนี้ก็จะหายไป

เทลยกแก้วไวน์ขึ้น

และพูดว่า

“มันจบแล้วอิคาร์…”

เธอไม่ตอบอะไร

เธอกำลังมุ่งความสนใจไปที่งานของเธอโดยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่เทลพูด

มองแวบแรกดูเหมือนอิคาร์จะปกติ แต่มีเงาดำคล้ำใต้ตาของเธอ

เธอน่าจะก็ไม่ได้นอนมาสามวันแล้ว

“โมเบียส……จบแล้ว”

แกร้ก แกร้ก แกร้ก แกร้ก

ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา..มีเพียงเสียงเคาะแป้นพิมพ์เท่านั้นที่ดังขึ้นเรื่อยๆ

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด