ตอนที่แล้วตอนที่ 15 : หน่วย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 : หมู่บ้านเหมืองแร่

ตอนที่ 16 : เหมืองแร่


ตอนที่ 16 : เหมืองแร่

ในโลกของผู้เชี่ยวชาญ หมวกกันน็อคที่แปลกและมหัศจรรย์ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย

เพราะมันมีกระทั่งคนที่สวมหมวกเขาวัว หมวกที่ประดับไปด้วยขนนก และกระทั่งหมวกที่ทำมาจากกะโหลกสัตว์

อย่างไรก็ตาม หมวกที่ดูเหมือนกับลูกบอลทรงกลมนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งแปลกใหม่

“ขอข้าดูหน่อยสิ” คาวิน่าพูดออกมา

“ถอดหมวกออก”

จอมโจรโครงกระดูกถอนหมวกออกและยื่นมันให้กับหวู่เหิง และหวู่เหิงก็ส่งต่อให้กับคาวิน่า

แม้จะถอดหมวกกันน็อคออกมาแล้ว แต่สิ่งที่อยู่ภายในนั้นก็ไม่ใช้หัวกะโหลก แต่เป็นหมวกโม่ง

มีเพียงเบ้าตากลวงเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่ามันคือโครงกระดูก

ในขณะที่คาวิน่าเริ่มตรวจสอบหมวกกันน็อค หวู่เหิงก็หันไปหาออทรัคที่อยู่ข้างๆ และกระซิบ “หัวหน้า พวกเราจะไปไหนกันเหรอ?”

ในฐานะหัวหน้าร่างกำยำ ออทรัคจึงได้สวมชุดเกราะโลหะเต็มตัวและกินพื้นที่นั่งเท่ากับสองคน

เขาเหลือบมองไปยังทหารของเมืองหินดำที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา จากนั้นก็พูดออกมา “เมืองหินดำได้รับแจ้งมาว่าทุกคนในหมู่บ้านเหมืองแร่ได้หายตัวไป และคนที่พวกเขาส่งไปตรวจสอบก็ไม่เคยกลับมาเลย ทั้งคนทั้งข้อมูล”

อะไรนะ! มันฟังดูไม่ปลอดภัยเลยหนิ

“งั้นภารกิจของพวกเราก็คือการตรวจสอบหมู่บ้านนั้นใช่ไหม?”

“การตรวจสอบหมู่บ้านเป็นภารกิจของทหารพวกนี้ ภารกิจของพวกเราคือการยืนยันว่าเจ้าของเหมืองมีอันตรายอะไรไหม เขาคือสมาชิกคนสำคัญของสมาคม พวกเราจึงต้องร่วมมือกับทหารของเมืองหินดำเพื่อทำการตรวจสอบหมู่บ้านด้วย”

มันไม่ใช่แค่ภารกิจเดียวแล้ว แต่เป็นสองภารกิจ

ภารกิจแรกคือการยืนยันว่าเจ้าของเหมืองยังมีชีวิตอยู่ไหม ถ้าเขาตายไปแล้ว พวกเราก็ต้องเก็บร่างของอีกฝ่ายกลับไป แต่ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเราก็ต้องสอบถามสถานการณ์จากเขา

ภารกิจที่สองก็คือการช่วยทหารของเมืองหินดำเพื่อตรวจสอบหมู่บ้านเหมืองแร่

ภารกิจช่วยเหลือนี้อาจจจะไม่ใช่ภารกิจหลัก แต่มันก็มีอันตรายอยู่ และอาจเกิดการต่อสู้ขึ้นมาได้

หวู่เหิงพยักหน้าเข้าใจ

คาวิน่าขยับเข้ามาใกล้ๆ และกระซิบ “หัวหน้าของพวกทหารคือพูลามอน เขาเป็นนักรบเลเวล 11 จากเมืองหินดำ ส่วนชายผมหยิกที่นั่งอยู่ในตำแหน่งที่สามคือนักสืบ”

สายตาของเขามองตามการอธิบายของเธอ และมองไปยังที่นั่งด้านหน้า

พูลามอนคือชายร่างกำยำที่มีใบหน้าอันเคร่งขรึม ท่อนแขนที่เผยออกมาของเขาหนาพอๆ กับต้นขาของผู้ชายทั่วไปเลย และมันก็มีดาบยาวพิงอยู่ข้างๆ เขา

ส่วนนักสืบผมหยิก เขาก็มีผิวสีเข้มเล็กน้อยและผมที่หยิกของเขาก็เป็นสีน้ำตาล

เขาดูเหมือนชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลยทีเดียว

สำหรับคนที่เหลือ พวกเขาก็คือทหารลาดตระเวนนั่นเอง

สองคนใช้โล่กับดาบ ส่วนที่เหลือนั้นใช้ดาบมือเดียวและสะพายหน้าไม้เอาไว้

ออทรัคพูดออกมา “ภารกิจไม่ได้ยากอะไร ปฏิบัติตามขั้นตอน แล้วก็กลับกันอย่างปลอดภัยก็พอ”

“ขอรับ”

คาวิน่าเอนหลังด้วยความขี้เกียจ ขายาวเรียวสวยของเธอไขว้กัน เธอสะกิดหวู่เหิงด้วยแขนของเธอ “บอกข้าทีว่าทำไมเจ้าถึงเลือกเป็นเนโครแมนเซอร์?”

“เอ่อ… บังเอิญน่ะ ข้ารู้สึกว่าเนโครแมนเซอร์ก็เป็นนักเวทเหมือนกัน”

...

ในช่วงบ่าย ทีมสืบสวนก็มาถึงคฤหาสน์แห่งหนึ่ง

เจ้าของเหมือง—อะชิโดะได้ต้อนรับทหารกลุ่มนี้ที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันที่โถงด้านข้าง

อะชิโดะเป็นชายรูปร่างสมส่วนและสวมเสื้อผ้าที่ค่อนข้างดี

หลังจากเสร็จพิธีแล้ว พูลามอนก็เข้าประเด็นทันที “พวกเราได้รับข่าวการหายตัวไปของคนเป็นจำนวนมากในหมู่บ้านเหมืองแร่ เจ้ามีเบาะแสอะไรไหม?”

อะชิโดะลูบคิ้วและพูดออกมาเบาๆ ว่า “ข้าเองก็กังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เดิมทีมันมีคนงานเหมืองกว่า 200 คนอยู่ในหมู่บ้าน และพวกเขาก็หายตัวกันไปหมดเลยอย่างไร้ร่องรอย”

“เจ้าทราบตอนไหนว่าชาวบ้านได้หายไป?” พูลามอนถามต่อ

“ช่วงต้นเดือน ข้าจำได้แม่นเลย มันเป็นวันค้าขายแร่ เมื่อกองคาราวานไปถึง หมู่บ้านก็ว่างเปล่า ข้าเลยต้องชดเชยเงินให้พวกเขาก้อนใหญ่เลย” ใบหน้าของอะชิโดะเต็มไปด้วยความเป็นกังวล

“ก่อนที่พวกเราจะมา มันมีทีมสืบสวนอื่นมาตรวจสอบไหม?” พูลามอนถาม ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยในขณะที่เขาจ้องไปที่อะชิโดะ

อะชิโดะหรี่ตาลงเช่นกัน “มี มีทีมเล็กๆ สามคน พวกเขาก็มาถามคล้ายๆ กันนี้แหละ จากนั้นก็กลับไป มีอะไรงั้นเหรอ?”

“เจ้ามีข้อมูลอะไรอีก? บอกพวกเรามาให้หมด”

อะชิโดะไขว้มือและวางมันลงบนโต๊ะยาวตรงหน้าเขา เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า “ข้าให้ยามของข้าไปตรวจสอบหมู่บ้านมา สิ่งของทั้งหมด แม้กระทั่งของมีค่าก็ยังอยู่ เห็นได้ชัดว่าคนในหมู่บ้านไม่ได้หนีไปไหน และไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ด้วย”

“แล้วหมู่บ้านเหมืองแร่อยู่ห่างจากที่นี่แค่ไหน?”

“ไม่ไกล ถ้าขี่ม้าไปก็ครึ่งวัน”

ทั้งสองโต้ตอบกันไปมาเพื่อยืนยันสถานการณ์

นักสืบผมหยิกยืนอยู่ด้านข้าง และบันทึกการสนทนาด้วยปากกากับกระดาษ

เห็นได้ชัดว่าเจ้าของเหมืองคนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรนัก เขาแค่รู้ว่าคนงานเหมืองทั้งหมดในหมู่บ้านได้หายไป ซึ่งเขาก็อยากจะทราบผลให้เร็วที่สุดเพื่อที่มันจะได้ไม่กระทบกับการทำงานของเขา

เกี่ยวกับทีมสืบสวนที่ได้หายไปก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่ได้ให้ข้อมูลที่มีค่าอะไรเลย

“เอาล่ะ เข้าใจแล้ว ช่วยเตรียมม้าและรถม้าให้พวกเราหน่อยนะ” พูลามอนยืนขึ้นและพูดออกมา

เจ้าของเหมืองตอบกลับทันที “ข้าได้เตรียมงานเลี้ยงไว้ให้กับทุกคนแล้ว คืนนี้พักกันที่นี่ก่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คนของข้าจะนำทางไปเอง”

“ไม่จำเป็น แค่เตรียมของที่ข้าขอให้ก็พอ!”

อะชิโดะไม่ได้รบเร้าและได้บอกให้คนของเขาไปเตรียมม้ากับรถม้าทันที

จากนั้นทีมสืบสวนก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านเหมืองแร่

...

เมื่อพวกเขาออกมาจากคฤหาสน์แล้ว ม้าสี่ตัวก็คุ้มกันรถม้าตามแผนที่ไปยังหมู่บ้านเหมืองแร่

แม้แต่อาหารและเครื่องดื่มก็ถูกจัดเตรียมไว้บนรถม้า

มันกลายเป็นว่าพูลามอนตั้งใจจะได้ผลลัพธ์ในวันนี้เลย

เส้นทางเป็นหลุมเป็นบ่อ และเวลาก็ล่วงเลยมาถึงพลบค่ำ

“หัวหน้า พวกเราเห็นหมู่บ้านที่อยู่ข้างหน้าแล้ว” เสียงของทหารคนหนึ่งดังมาจากนอกรถม้า

“อืม มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านเลย”

รถม้าเคลื่อนตัวต่อไป เมื่อมันใกล้จะถึงหมู่บ้านแล้ว มันก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้นมาทันที

ทหารที่อยู่ด้านนอกตะโกนออกมาว่า “ควบคุมม้าไม่ได้เลย…”

“บ้าเอ้ย เกิดอะไรขึ้น!”

“พวกม้าคลั่งไปแล้ว กระโดดลงมาเร็ว”

เมื่อดึงม่านเกวียนออก พวกเขาก็เห็นม้ากำลังพุ่งตรงไปยังต้นไม้ที่อยู่ริมถนน

ตุบ ตุบ~!

เสียงกระแทกดังออกมาราวกับกระสอบทรายที่ถูกชก

ทหารที่เป็นคนควบคุมรถม้าเองก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมรถม้าแล้ว

แต่มันก็เห็นได้ชัดว่ามันแทบจะไม่ได้ผลเลย ความเร็วของรถม้าเพิ่มขึ้น และจากอาการสั่นสะเทือนก็กลายเป็นโอนเอนไปมา

“กระโดดออกจากรถม้าเร็ว!” ออทรัคสั่ง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ทุกคนจะทันได้ตอบสนอง รถม้าก็พุ่งตรงเข้าไปยังหมู่บ้านแล้ว และกระแทกเข้ากับสิ่งกีดขวางบนถนน จากนั้นก็กระแทกเข้ากับกำแพงบ้านหลังหนึ่ง

รถม้าพลิกคว่ำทันที

ปัง!

ออทรัคเตะประตูรถม้า และคนที่อยู่ข้างใน รวมถึงโครงกระดูกอีกหนึ่งตัวก็คลานออกมา

เขาส่ายหัวเพื่อสลัดอาการเวียนหัว

ม้าที่ลากเกวียนได้ตายจากแรงปะทะไปแล้ว สมองและเลือดของพวกมันไหลนองไปทั่วพื้น คอของพวกมันบิดเบี้ยวจนผิดรูปจากแรงกระแทกอันมหาศาล

“หัวหน้า!”

จากนอกหมู่บ้าน เหล่าทหารที่ร่วงลงมาจากม้าได้วิ่งเข้ามาพร้อมกับอาวุธ

มันไม่มีใครหายไปเลย แต่ก็มีสองคนที่เดินกะเผลกๆ และเห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บ

หลังจากกลับมารวมตัวกันได้อีก พวกเขาก็เริ่มจัดตำแหน่ง

ประตูหมู่บ้านเปิดอยู่ และไม่มีใครอยู่ข้างใน

หมู่บ้านทั้งว่างเปล่าและเงียบสงัด

มันดูราวกับหมู่บ้านที่ร้างไปนานแล้ว

“มีคนอยู่ทางนั้น!” คาวิน่าตะโกนออกมา

ทุกคนมองตามสายตาของเธอและเห็นกลุ่มก้อนมืดๆ อยู่ทางนั้น

ทุกคนอึ้งไป

จากข้อมูลที่สรุปมาได้และข้อมูลจากเจ้าของเหมือง มันก็บ่งชี้ว่าคนในหมู่บ้านได้หายตัวไปแล้ว

มันจะมีคนปรากฏตัวขึ้นอีกได้ยังไงกัน?

พวกเขามาเพราะเสียงกระแทกงั้นเหรอ?

“ใครกัน? ออกมานะ…” ทหารคนหนึ่งตะโกนออกมา

ตุบ ตุบ ตุบ!

เมื่อเขาพูดจบ เงามืดเหล่านั้นก็เริ่มย่างกรายเข้ามา

ใบหน้าบิดเบี้ยวปรากฏขึ้นจากเงามืด ราวกับคนไข้ที่สติไม่ดี

ทันใดนั้นพวกมันก็พุ่งเข้าใส่กลุ่มทหารและกางกรงเล็บออกมา

“หัวหน้า รายงานไม่ถูกต้อง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเสียสติไปแล้ว” ทหารคนหนึ่งพูดออกมา

พูลามอนยังคงสงบนิ่ง สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนไปเลย “ทิ้งระยะห่างจากพวกเขาเอาไว้”

“ขอรับ!”

หวือ หวือ หวือ!!

ลูกธนูพุ่งออกไป และปักเข้าใส่ขาของศัตรูที่พุ่งเข้ามา

หลายๆ ร่างล้มลงกับพื้น

“พวกเขาคือชาวบ้าน แต่พวกเขาก็เหมือนกับอันเดดเลย” นักสืบพูดออกมา

อันเดดเหรอ?

สายตาของพูลามอนกวาดมาที่หวู่เหิง

“ปล่อยเข้ามาสักคน!” พูลามอนสั่ง

ทหารเปิดทาง และคนงานเหมืองที่บ้าคลั่งคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาทันที

เมื่อเขาเข้ามาใกล้ พูลามอนก็คว้าคอของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง และยกร่างของอีกฝ่ายขึ้น

ไม่ว่าคนงานเหมืองผู้นี้จะดิ้นรนแค่ไหน แต่เขาก็ไม่อาจสลัดหลุดได้เลย

“เนโครแมนเซอร์ เจ้ามาดูหน่อยสิ”

เขาพูดกับหวู่เหิงที่อยู่ทางด้านหลัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด