บทที่ 4 ฝึกฝนการเอาชีวิตรอด
บทที่ 4 ฝึกฝนการเอาชีวิตรอด
บนถนนข้างหมู่บ้านเล็กๆ ห่างจากเมืองจูราประมาณหนึ่งร้อยกิโลเมตร มีวัยรุ่นรูปงามสะพายกระเป๋าใบใหญ่กำลังเดินด้วยย่างก้าวที่อ่อนล้า เขาพยายามก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบได้.. หรือไม่ก็คงเป็นความตายอันเปล่าเปลี่ยว
ทุกย่างก้าวที่โรบินก้าวไป เขาจะทบทวนการตัดสินใจของตัวเองและสงสัยว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ถูกต้องหรือไม่ เขามักจะหยุดพักเป็นระยะๆ จนกระทั่งเขามีความกล้าพอที่จะก้าวเดินต่อไปโดยไม่หันกลับไปมอง มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากสำหรับเขา
บางทีถ้าเขามีเพื่อนแท้สักคน หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ เขาก็อาจจะไม่เลือกเส้นทางนี้ แต่ชะตากรรมของเขาก็คือแบบนี้ และไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ แม้อดีตจะเป็นสิ่งที่เกินเอื้อมไปแล้ว แต่เขายังสามารถควบคุมสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปด้วยมือของเขาได้อย่างแน่นอน
และสิ่งที่รอเขาอยู่ต่อไปนั้นคือการทำสมาธิหลายสิบปี! สำหรับชายหนุ่มธรรมดาๆ นี่คือความหมายของคำว่าทรมาน... เขาไม่มีสิ่งใดที่จะผลักดันเขาไปข้างหน้า ยกเว้นความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของเขา... และไม่มีสิ่งใดรอเขาอยู่แม้ว่าเขาจะกลับไป
จุดหมายปลายทางที่เขาเลือกคือเขตสัตว์ร้ายรอบนอก ซึ่งเป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่าอยู่ห่างจากเมืองจูราประมาณ 300 กิโลเมตร ที่ซึ่งเต็มไปด้วยภูเขา หนองน้ำ และป่าไม้ มันไม่ได้กว้างใหญ่ แต่เป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับผู้ที่มีระดับต่ำกว่าระดับที่ 6
อย่างไรก็ตาม มันปลอดภัยมากสำหรับผู้บ่มเพาะพลังงานระดับ 10 อย่างเช่นเขา สัตว์ประหลาดในนั้นแทบจะเป็นแหล่งอาหารสำหรับคนที่แข็งแกร่งอย่างเขา และการที่ไม่มีมนุษย์ในบริเวณนั้นทำให้มันเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลานาน
...
เวลาผ่านไปหลายวันอย่างรวดเร็ว เขตนอกของเขตสัตว์ร้ายปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาตัดสินใจและเข้าไป เขาเริ่มมองหาบ้านใหม่เขาก่อน
เขาไม่ได้มีมาตรฐานสูงนัก แค่รูบนภูเขาก็คงเพียงพอแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ใช้เวลาไปสองสามวันกว่าจะหาถ้ำที่เหมาะสมได้ซึ่งสูงเพียงพอจากพื้นดิน ถึงแม้ว่าถ้ำนั้นจะเป็นที่อยู่อาศัยของหมีระดับ 7 สองตัว แต่เขาก็จัดการกับมันและยึดถ้ำนี้มาได้อย่างง่ายดาย
โรบินนั่งลึกเข้าไปในถ้ำในท่าทางนั่งสมาธิและมองไปที่ทางเข้า คิดว่า 'ต่อไปนี้จะทำอย่างไร จะเลือกทางไหน บางที... เส้นทางแห่งพืช.. ไม่สิ มันต่างจากเส้นทางแห่งธาตุธรรมชาติ เช่น ลม และน้ำ อย่างไร ฉันต้องการอะไรที่ใหม่กว่านี้...'
ในระดับของเขา โรบินสามารถนั่งสมาธิได้เป็นเวลาหลายวันโดยไม่ต้องกินหรือดื่ม.. และนั่นคือสิ่งที่เขาทำตลอดหลายวันมานี้ และหลังจากห้าวันโดยที่ไม่มีความสำเร็จใดๆ ท้องของเขาก็เริ่มส่งเสียงดังราวกับจะสื่อว่า 'ฉันไม่สามารถคิดอะไรออกเลยด้วยท้องที่ว่างเปล่านี้'
โรบินเดินไปหยิบเนื้อหมีชิ้นใหญ่ที่เขาตากแห้งไว้ก่อนหน้านี้ แล้วมุ่งหน้าไปยังทางเข้าถ้ำ จุดไฟ และนั่งลงย่างอาหารมื้อแรกในรอบหลายวัน
กรี๊ดด!!
ขณะที่เขากำลังจะกัดอาหารคำแรก เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้น และมันเป็นเสียงกรีดร้องของผู้หญิง!
'ผู้หญิงมาทำอะไรในที่แบบนี้กัน' โรบินคิดในใจแล้วรีบวิ่งไปตามทิศทางของเสียงทันที
ห่างออกไปประมาณสองร้อยเมตร มีเด็กผู้หญิงกำลังขณะที่เสือดาวลายจุดตัวใหญ่กำลังวิ่งไล่ตามเธอมา ทุกครั้งที่มันเข้าใกล้พอที่จะกัดเธอ เธอจะกรีดร้อง ตีหัวมัน แล้ววิ่งต่อไปด้วยความเร็วที่เร็วขึ้น
ฉากนี้ทำให้โรบินที่เพิ่งมาถึงตกใจมาก เสือตัวใหญ่ตัวนั้นอยู่ที่ระดับ 9! แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องเบิกตากว้างจริงๆ คือเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 15 ปี ที่อยู่ในระดับที่ 9 ด้วยเช่นกัน
เด็กผู้หญิงที่มีพรสวรรค์เกือบจะเท่าเขาจะต้องเป็นที่รู้จัก แต่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอ โรบินไม่สนใจรายละเอียดอีกต่อไป เขาแค่รู้ว่าเขาต้องช่วยเด็กผู้หญิงคนนี้ตอนนี้
ถึงแม้เขาจะไม่มีประสบการณ์การต่อสู้ แต่เขาก็ยังมีสมอง เขาเลือกโอกาสเมื่อเสือดาวลายจุดกำลังจะพยายามตะปบอีกครั้งแล้วกระโจนไปหามันด้วยหมัดจากศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมที่เขาเคยเรียนรู้มาก่อน
เด็กผู้หญิงหันไปมองข้างหลังและหยุดอยู่กับที่หลังจากได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของสัตว์ร้าย เมื่อเธอเห็นโรบินจัดการเสือด้วยการทุบหัวมันเพียงครั้งเดียว เธอก็รู้ว่าอันตรายผ่านพ้นไปแล้วและได้เดินไปหาเขา "นี่ คุณ! ใครขอให้คุณช่วยกัน คุณขัดจังหวะการฝึกของฉันนะ!!" เด็กผู้หญิงเอามือเล็กๆ สองข้างของเธอท้าวไว้ข้างลำตัวและพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความหงุดหงิด
โรบินมองเธออย่างตั้งใจในครั้งนี้ เด็กผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ! สูงปานกลางและมีใบหน้าที่น่ารัก แม้ว่าหน้าอกของเธอจะยังเล็ก แต่เธอก็เป็นหญิงสาวที่สวยงามทีเดียว
โรบินที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับการฝึกฝนนั้นไม่รู้วิธีรับมือกับผู้หญิงเลย โดยเฉพาะผู้หญิงที่สวยเช่นนี้ “ห้ะ เอ่อ ฉันขอโทษ ฉันเห็นคุณตะโกนเลยวิ่งมาช่วย ฉันไม่ควรเข้ามายุ่งใช่มั้ย..” โรบินพูดพร้อมรอยยิ้มพลางเกาหัวของเขา
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันอยู่ที่นี่เพราะจะฝึกฝนการเอาตัวรอด แล้วคุณมาก็ขัดจังหวะเนี่ย! ไม่รู้ล่ะ คุณต้องชดใช้..”
“..ทำอาหารเป็นไหม”
“..ห๊ะ” โรบินประหลาดใจมาก.. เขาไม่คาดคิดว่าจะมีคำถามนี้ออกมา
“ทำได้หรือไม่ได้กันล่ะ!” คราวนี้เธอพูดด้วยความรำคาญพลางขมวดคิ้ว
“เอ่อ.. ฉันคิดว่าฉันทำได้นะ”
“เยี่ยม ฉันยอมรับคำเชิญของคุณแล้ว ฉันไม่ได้กินอะไรอร่อยๆ มาเป็นเดือนแล้วเนี่ย”
“อะไรนะ เชิญหรอ.. เห้อ.. ตามฉันมาแล้วกัน” โรบินยอมแพ้ที่จะโต้เถียงกับเธอ
.....
“อืมม ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้ไร้ประโยชน์นะเนี่ย เนื้อนี่มันอร่อยมากเลย”
“นี่อร่อยแล้วหรอ มันแทบไม่มีเกลือเลยนะ แล้วก็แค่เอาโยนลงไปในกองไฟเฉยๆ เอง คุณไม่ได้กินอะไรดีๆ มาบ้างเลยหรอ”
“ก็แค่ผักหรือไม่ก็เนื้อดิบน่ะ พวกคนแก่นั่นพยายามจะฆ่าฉันให้ได้เลย” เธอพูดพร้อมกับกัดชิ้นเนื้อหมีคำโต
“อะไรนะ มีคนพยายามจะฆ่าคุณหรอ คุณโดนตามล่าอยู่หรอ” โรบินพูดพลางมองไปรอบๆ
“ห๊ะ ไม่! ฉันหมายถึงพวกคนแก่ในครอบครัวของฉันน่ะ พวกเขาบังคับให้ฉันมาฝึกที่นี่เพราะคิดว่าฉันเคยชินกับชีวิตหรูหรามากเกินไป ฮึ่ม! ให้ตายสิ ฉันจะพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาคิดผิด”
“แล้วมีใครตามเธอมาที่นี่ด้วยหรือเปล่า”
“ก็คงจะมี พวกเขาคงไม่ปล่อยให้หญิงสาวอย่างฉันถูกฆ่าตายหรอก ลุงบราวน์น่าจะอยู่หลังต้นไม้สักต้นหรือใต้ก้อนหินสักก้อนแถวนี้นั่นแหละ”
โรบินเงียบไปสักพักแล้วจึงถามขึ้นว่า "ฉันจำไม่ได้ว่าเคยเห็นคุณในงานสำคัญๆ ในดินแดนดยุคอัลตันมาก่อน.. คุณมาจากไหนกัน"
“ฮ่าๆๆ ดูพูดเข้าสิ สนใจพวกงานอะไรแบบนั้นแสดงว่าลุงแก่แล้วสินะฮ่าๆ แต่ฉันไม่ได้มาจากดินแดนนี้หรอก ฉันแค่มาใช้เวลาในเขตสัตว์ร้ายเพื่อฝึกฝนการเอาชีวิตรอดน่ะ แล้วฉันก็ว่าจะไปเมืองจูราเพื่อท้าทายเจ้าคนที่ชื่อโรบิน เบอร์ตัน อะไรนั่นด้วย ได้ยินมาว่าเป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษบลาๆๆๆ น่าหมั่นไส้จริงๆ ฉันเลยจะไปที่นั่นเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าใครเป็นของจริง”
โรบินรู้สึกประหลาดใจหลายครั้งในระหว่างการสนทนาที่เรียบง่ายนี้... เขาตกใจที่เธอเรียกเขาว่าลุงแก่ คนที่อยู่ในระดับสิบสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 150 ปีและดังนั้นพวกเขาจะรักษาความเยาว์วัยไว้ได้นานกว่าคนปกติ มีเพียงคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาเท่านั้นที่จะสามารถบอกอายุของเขาได้ แต่เขาไม่ได้แก้ไขความเข้าใจผิดของเธอและปล่อยให้เธอคิดว่าเขาแก่แล้ว
ประการที่สองคือ เธออยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนการเอาชีวิตรอด แต่มีคนอยู่ใกล้ๆ ที่คอยดูแลเธออยู่ อะไรคือการเอาชีวิตรอดแบบบ้าๆ บอๆ นี้กันล่ะเนี่ย มันจะมีประโยชน์อย่างไรในเมื่อเธอมาเอาชีวิตรอดแต่เธอรอดอย่างแน่นอนเพราะมีคนคอยช่วยอยู่ห่างๆ..
สิ่งที่สามที่ทำให้เขานั้นประหลาดใจก็คือ เธอมาเพื่อมาหาเขา น่าจะเป็นไปได้ว่าข่าวการที่เขาเข้าสู่ระดับสิบนั้นยังไม่แพร่สะพัดออกไป หรือไม่เช่นนั้น เธอคงจะไม่กล้ามาท้าทายเขาเช่นนี้
เธอคงมาจากห่างไกลและหวังใช้เขาเป็นบันไดขึ้นไปงั้นหรอ
เด็กผู้หญิงคนนี้ ถ้าฉันจัดการฟาดเธอแล้วผูกเธอไว้กับต้นไม้ ลุงบราวน์อะไรนั่นของเธอจะว่าอะไรไหมนะ..