บทที่ 15 รูปแบบ
บทที่ 15 รูปแบบ
“ร่างนั้นบอกว่าฉันจะค้นพบรูปแบบบางอย่างเมื่อฉันฝึกฝนพลังงานระดับแรก ฉันรอไม่ไหวแล้ว เราคงต้องแยกกันที่นี่” โรบินพูดพร้อมกับหรี่ตาลง
“อะไรนะ แยกกันงั้นหรอ... ไหนบอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันไง” ซีซาร์สะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นราวกับว่ามันเป็นคำสาปที่รุนแรงที่สุด
“ฉันหมายถึงแยกกันไปฝึกไอ้เด็กบื้อ! แบ่งก้อนหินพลังงานไปแล้วขึ้นไปชั้นบนซะ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าก่อนที่จะไปถึงระดับหนึ่งได้นะ!” โรบินเดินเข้าไปเตะตูดซีซาร์แล้วหยิบก้อนหินครึ่งหนึ่งก่อนจะวิ่งขึ้นไปชั้นบน
..และแล้ว การฝึกฝนของพวกเขาจึงเริ่มต้นขึ้น
แม้ว่าทั้งคู่จะมีประสบการณ์มากมายในวิธีการฝึกฝนและทางลัด แต่พวกเขาไม่ได้พยายามฝึกฝนระหว่างทางจากถ้ำมายังที่นี่ด้วยซ้ำ การฝึกพลังงานและการเสริมสร้างรากฐานต้องใช้สมาธิสูงและจิตใจที่ชัดเจนแน่วแน่ในการทำสมาธิ และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรสำหรับการบ่มเพาะ!
...
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป... การวางรากฐานเพื่อไปถึงระดับที่หนึ่งนั้ คนปกติจะใช้เวลาสองสามเดือนหรือหลายปี.. แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังก้องมาจากห้องใต้หลังคา "ฮ่าๆๆ ฉันกลายเป็นผู้บ่มเพาะอย่างเป็นทางการอีกครั้ง! แถมยังทำได้ก่อนอีกด้วย ฮ่าๆ” ซีซาร์ภูมิใจในตัวเองมาก แม้ว่าเขาจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็วไปจนถึงระดับ 14 มาก่อนแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกภูมิใจที่เขาสามารถแซงหน้าพ่อของเขาในบางสิ่งได้
ซีซาร์กระโดดลงจากชั้นสองเพื่อหวังจะมาอวดพ่อของเขา แต่สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาเป็นใบ้... เขาพบว่าโรบินอยู่ในท่านั่งสมาธิในห้องของเขา โดยดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดใส พื้นที่รอบตัวเขาดูคลุมเครือ,ครุมเครือเล็กน้อย ..
“กะ.. เกิดอะไรขึ้นเนี่ย เขาทะลุไปถึงระดับแรกแล้วเหรอ ไม่สิ… แม้แต่การทะลุถึงระดับ 20 ก็ไม่น่ามีปรากฏการณ์แปลกๆ แบบนี้” ซีซาร์พูดขณะถอยหนึ่งก้าว แต่กลับทรงตัวได้อย่างรวดเร็วและนั่งอยู่หน้าประตูเพื่อรอพ่อของเขา..
..สองสัปดาห์.. สามสัปดาห์ผ่านไป... ซีซาร์เริ่มกังวลมาก สิ่งนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น มันเป็นเพียงการฝ่าด่านแรกที่แม้แต่เด็กๆ ก็สามารถทำได้ ปรากฏการณ์แปลกๆ รอบตัวพ่อของเขา กับการที่พ่อของเขายังไม่ลืมตาสักทีจึงทำให้เขารู้สึกเป็นกังวลมาก
หลังจากนั้นอีกสองวัน.. ในที่สุดดวงตาที่เปล่งประกายของโรบินก็หยุดลง จากนั้นเขาก็ยิ้มและลุกขึ้นยืน "รูปแบบ อืม.. ฮ่าๆๆ รูปแบบ... รูปแบบ..ฮ่าๆๆๆ "
โรบินพูดพลางหัวเราะขณะที่เขามองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างแรงกล้า!!
เมื่อใดก็ตามที่เขามองไปรอบๆ เขาจะเห็นรูปแบบบางอย่างในทุกสิ่ง มันดูเหมือนภาพวาดที่ซ้อนทับในสิ่งนั้น หรือไม่ก็เป็นวิถีการเคลื่อนที่ในหนึ่งวินาที หรือไม่ก็เป็นการจัดเรียงสสารส่วนประกอบในสิ่งต่างๆ เป็นต้น
กระจกที่อยู่ตรงหน้าเขาแสดงลวดลายเป็นภาพวาดเหนือภาพที่สะท้อนของเขา แผ่นเตียงมีลวดลายราวกับถูกแกะสลักไว้ภายในไม้ แม้ในสายลม เขาก็ยังเห็นลวดลายในการเคลื่อนตัวของมวลแห่งลม
หลังจากมองไปรอบๆ และตรวจสอบทุกอย่างสักพัก ดูเหมือนเขาจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างได้แล้วจึงตะโกนออกมา "ซีซาร์ มานี่หน่อย!"
ซีซาร์ซึ่งนั่งอยู่ข้างประตูก็กระโดดขึ้นมายืนต่อหน้าโรบินซึ่งเริ่มตรวจสอบเขาทันที และอย่างที่เขาคาดไว้.. มีลวดลายบนผิวหนังของซีซาร์อยู่ จากก็มองเข้าไปถึงทั้งในร่างกายและในเลือด และเขาก็พบลวดลายบนนั้นด้วย!
โลกทั้งโลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในสายตาของเขา.. ทุกสิ่งมีรูปแบบของตัวเอง แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้คืออะไรและกำลังทำอะไรอยู่ แต่เขาตระหนักได้ว่าเหตุผลที่เขามองเห็นนั้นเป็นเพราะกฎแห่งความจริงอย่างแน่นอน! แต่นี่เขายังไม่ได้วางเสาหลักเลยด้วยซ้ำ.. หากเขาไปถึงระดับนั้นได้ มันจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ..
การค้นพบนี้ทำให้โรบินอารมณ์ดีมาก เขาพูดพร้อมกับหัวเราะว่า "ฉันหิวแล้ว ฉันคิดว่าเราเข้าเดือนที่สองแล้วใช่ไหม ไปมาเอาเงินของเราแล้วไปหาอะไรกินกันดีกว่า"
..
พวกเขาทั้งสองนำเงินเบี้ยเลี้ยงออกจากคลังอย่างง่ายดาย แต่คราวนี้พวกเขารับมันเป็นเหรียญทั้งหมด ฐานพลังงานระดับแรกไม่ได้ใช้หินพลังงานมากนัก และพวกเขายังคงเหลือมันอยู่อีกมาก
การเดินไปรอบๆ สถาบันในครั้งนี้ก็ไม่มีใครสังเกตและสนใจพวกเขา หลายคนอาจเคยสงสัย แต่ตอนนี้ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นเพียงระดับแรกเท่านั้น และเมื่อเทียบกับอายุแล้ว พวกเขาก็เป็นแค่ขยะในสถาบันนี้เท่านั้น
ทั้งสองไม่ได้ถูกละเว้นจากการล้อเลียนและเสียงหัวเราะนินทาจากระยะไกล แต่ทั้งสองก็มีประสบการณ์มากพอที่จะสงบสติอารมณ์ได้ โรบินพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เราไม่เคยกินข้าวในร้านอาหารดีๆ มาก่อน วันนี้เราออกไปหาอะไรกินกันเถอะ”
พวกเขาทั้งสองออกจากสถาบันและถามหาร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนั้น มันดูเหมือนเป็นการไปกินอาหารทั่วไป แต่ซีซาร์สังเกตเห็นพ่อของเขามองไปรอบๆ ตัวด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขาราวกับเป็นเด็กที่ได้เห็นโลกเป็นครั้งแรก ราวกับว่า.. นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นโลกแห่งความเป็นจริงใบนี้
แม้แต่ภายในร้านอาหาร โรบินก็สบตาคนที่อยู่ใกล้พวกเขาเมื่อเขาหัวเราะเสียงดังขณะหยิบเนื้อแรดภูเขาชิ้นหนึ่งแล้วมองดูมันอย่างละเอียดราวกับว่ามันเป็นผลงานชิ้นเอกก่อนที่จะกินมัน “เอ่อ...ท่านพี่ ทำไมคุณถึงดูแปลกๆ ไป คุณเป็นอะไรรึเปล่า” ซีซาร์ไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นรอบตัวพวกเขา แต่สิ่งที่โรบินทำอยู่นั้นดูแปลกไปมาก
“แล้วคุณคิดว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ล่ะฮ่าๆ ฉันก็แค่แหกกฎไม่กี่ข้อน่ะ ฮ่าๆ” คำตอบทำให้ซีซาร์ตกใจ เมื่อเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง โรบินก็ยืนขึ้น วางเหรียญทองสามเหรียญลงบนโต๊ะแล้วเดินออกไป
ซีซาร์ตามโรบินไปอย่างรวดเร็วและถามอย่างงุนงงว่า "แหกกฎเหรอ มันเรื่องอะไรกันล่ะนั่น?!"
“ตั้งแต่ฉันเข้าสู่ระดับแรกและสามารถใช้กฎที่ฉันศึกษามาก่อนหน้านี้ได้ ฉันก็เริ่มเห็นรูปแบบของทุกสิ่ง และจากสิ่งที่ฉันสังเกตเห็นจนถึงตอนนี้... ฉันคิดว่ารูปแบบเหล่านั้นคือกฎที่ควบคุมโลก” โรบิน กล่าวอย่างมั่นใจ
“อะไรนะ... คุณเห็นกฎด้วยตาเปล่าเหรอ” ซีซาร์ตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้
"ใช่แล้ว" โรบินยิ้ม "เอาล่ะไปซื้อฟืนกันเถอะ ฉันคงต้องใช้เวลานานกับกฎแห่งไฟ ฮ่าๆๆ!"
ซีซาร์ไม่รู้จะพูดอะไรเลย.. มองเห็นกฎงั้นหรอ ในฐานะผู้บ่มเพาะ สิ่งที่ยากที่สุดอย่างหนึ่งในการได้เทคนิคในการควบคุมกฎคือการระบุและยืนยันการมีอยู่ของกฎนั้นเสียก่อน จากนั้นจึงทำความเข้าใจความจริงบางประการเกี่ยวกับสิ่งที่กฎนั้นทำได้ และเขาต้องพยายามเข้าใจปัจจัยสำคัญในการควบคุมกฎเหล่านั้น จากนั้นมันจึงจะเกิดการพัฒนาและสามารถนำเทคนิคเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ได้
แต่โรบินกลับบอกว่าตอนนี้.. เขาสามารถมองเห็นพวกมันได้งั้นหรอ... นี่หมายความว่ากฎต่างๆ นั้นอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับหนังสือที่รอการเปิดอ่านงั้นหรอ
เมื่อความคิดของเขาไปไกลถึงขนาดนี้ ซีซาร์ก็ตกตะลึงหยุดอยู่กลางถนน จนลำบากให้โรบินต้องหันหลังกลับไปดึงหูของเขา..