ตอนที่แล้วบทที่ 130 เลี้ยงแร้งเทียนเฟิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 132 มอบป้ายหยกนั้นให้ข้า 

บทที่ 131 เจ้าไม่คู่ควร 


ทันทีที่วาจาของหลัวเฉิงถูกลั่นออกมา ทั่วทั้งอานาบริเวณก็เงียบสงัดลง

เหล่าศิษย์บำรุงสำนักต่างก็จ้องมองหลัวเฉิงด้วยความไม่อยากจะเชื่อต่อสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่

เมื่อวานนี้หลัวเฉิงบอกว่าเขาต้องการท้าประลองหลี่ฮุ่ย ทุกคนต่างก็คิดว่ามันเป็นเพียงน้ำคำที่ถูกขานออกมาเพื่อรักษาหน้าตนไว้เท่านั้น

จึงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่า หลัวเฉิงจะกล้าทำเช่นนี้จริงๆ!

“หลัวเฉิงมันเพี้ยนไปแล้วหรืออย่างไร! มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!”

“มันเป็นเพียงคนไร้ค่าที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมาเท่านั้น ช่างไม่รู้จักประมาณตน!”

หลังจากผงะตกใจไปชั่วครู่ ทุกคนก็ต่างรู้สึกว่าหลัวเฉิงนั้นหยิ่งผยองเกินไป!

แม้พวกเขาทั้งคู่จะอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสาม แต่ความแข็งแกร่งแท้จริงของพวกเขานั้นยังคงมีระยะห่างกันอยู่

เนื่องจากหลี่ฮุ่ยเข้าสู่สำนักชวนหยวนและฝึกฝนมาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว ซึ่งความแข็งแกร่งแท้จริงของเขานั้นนับว่ายากอย่างถึงนัก

คนไร้ค่าที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมาเช่นหลัวเฉิง จะสามารถเปรียบเทียบกับหลี่ฮุ่ยผู้แข็งแกร่งได้อย่างไร

ผู้อาวุโสเหอก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเช่นกัน จากนั้นจึงเปิดปากกล่าวอย่างใจเย็น “เจ้าอยากจะท้าประลองกับหลี่ฮุ่ยงั้นหรือ”

“หากเจ้าเอาชนะหลี่ฮุ่ยได้ เจ้าจะสามารถทำหน้าที่ของเขาได้เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรเสีย เจ้าต้องตระหนักรู้ในฝีมือตนเอง และต้องมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเขาจึงจะสามารถแทนที่เขาได้ มิฉะนั้น เจ้าจะกลายเป็นเพียงตัวตลกในสายตาของผู้อื่นเท่านั้น เจ้าต้องคิดเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนด้วย”

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะ แต่ข้าใคร่ครวญเรื่องนี้มาดีแล้ว”

หลัวเฉิงไม่รอช้าเดินตรงไปยังพื้นที่เปิดโล่ง แล้วจ้องหลี่ฮุ่ยด้วยแววตาจริงจังยิ่ง

“ฮ่าฮ่า การทำตัวเย่อหยิ่งเกินไปนั้นมิใช่เรื่องดี!”

ผู้อาวุโสเหอหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วกล่าวกับหลี่ฮุ่ย “หลี่ฮุ่ย ในเมื่อเขาต้องการท้าประลองกับเจ้า ก็อย่าได้เกรงใจรับคำท้าไปเถิด”

เดิมทีผู้อาวุโสเหอต้องการให้หลัวเฉิงล้มเลิกความคิด จึงอธิบายให้เห็นถึงความยากลำบาก แต่เขาไม่คิดว่าหลัวเฉิงจะไม่สนใจต่อคำชี้แนะเขา ดังนั้นจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งเล็กน้อย

“ขอรับ!”

หลี่ฮุ่ยเหยียดยิ้มเยาะแล้วเดินเข้าไปด้วยท่าทางเบิกบานใจ

ฝูงชนที่เฝ้าดูอยู่ตรงนั้นก็ต่างกระจายออกด้านข้างจนเป็นวงล้อมขนาดใหญ่

ศิษย์บำรุงสำนักที่มากประสบการณ์บางคนเดินผ่านมาพอดีจึงเกิดความสนใจแล้วมาเฝ้ามองดูอยู่พื้นที่โดยรอบ

“ทันทีที่เขามาถึงสำนักซวนหยวนเรา ก็ท้าประลองกับหลี่ฮุ่ยเลย ผู้ชายคนนี้ช่างมีความใจกล้าไม่เบา!”

“เจ้าคิดว่าเขาจะสามารถรับมือหลี่ฮุ่ยได้กี่กระบวนท่า ส่วนข้าคิดว่ามากสุดก็คงสิบกระบวนท่า!”

“สิบกระบวนท่างั้นรึ? เจ้าประเมินไว้สูงไป ข้าคิดแค่สามกระบวนท่าเขาก็คงแพ้แล้ว!”

ทุกคนโดยรอบต่างมองเห็นว่าหลัวเฉิงนั้นเป็นเพียงตัวตลก และเป็นที่เกลียดชังของผู้คนโดยรอบ

หลี่ฮุยยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าหลัวเฉิงและกล่าวด้วยรอยยิ้มอำมหิต “ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าท้าประลองกับข้าจริงๆ ตอนนี้มันสายไปแล้วที่เจ้าจะรู้สึกเสียใจ”

หลัวเฉิงเหลือบมองเล็กน้อย แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไยข้าต้องเสียใจ”

หลี่ฮุ่ยเย้ยหยัน “ปากดีนัก! ชักกระบี่ของเจ้าออกมา แสดงให้ข้าเห็นทีว่าเจ้ามีฝีมือมากแค่ไหน!”

หลัวเฉิงส่ายศีรษะพลางกล่าวว่า “แค่เจ้าไม่คู่ควรให้ข้าชักกระบี่ออกมาด้วยซ้ำ”

ทันทีที่น้ำคำนี้ถูกขับขานออกมา ผู้คนโดยรอบอาณาบริเวณก็ตกตะลึงทันที ไม่ว่าชายผู้นี้จะเย่อหยิ่งมากขนาดไหน แต่อย่างไรก็ต้องมีขอบเขตบ้าง!

แม้แต่ผู้อาวุโสเหอที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้ว

หลี่ฮุ่ยได้รับความโปรดปรานจากเขามาโดยตลอด เขามักจะสั่งสอนหลี่ฮุ่ยบ้างเป็นบางเวลา หลี่ฮุ่ยจึงนับว่าเป็นลูกศิษย์ของเขาครึ่งหนึ่ง

เมื่อหลี่ฮุ่ยถูกเหยียดหยาม นั่นก็เท่ากับว่าเขาถูกตบหน้าเช่นเดียวกัน!

“หลี่ฮุย ในเมื่อหลัวเฉิงมั่นใจในฝีมือตนขนาดนั้น เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องยั้งมือไว้ไมตรี อีกอย่างแสดงเพลงกระบี่หลิงเฟิงของเจ้าให้เขาได้เรียนรู้เสียหน่อย!”

น้ำเสียงของผู้อาวุโสเหอค่อนข้างจริงจัง

“ขอรับ”

หลี่ฮุ่ยก็บันดาลโทสะเช่นกันจึงตวาดเสียงอย่างเกรี้ยวกราด “ไอ้เด็กเหลือขอ ในเมื่อเจ้าวอนหาสิ่งนี้ ก็อยากได้ตำหนิที่ข้าไร้ปรานี!”

ทันใด หลี่ฮุ่ยก็ชักกระบี่ออกจากฝักพร้อมกับเสียงดังกราว

ท่วงท่าเพลงกระบี่ของเขานั้นรวดเร็วมาก ผู้คนโดยรอบต่างปรากฏเห็นแสงแห่งปราณกระบี่สาดส่องจรัสเปล่งประกาย พุ่งเข้าใส่หลัวเฉิงอย่างน่าประหวั่นตื่นกลัว!

“ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”

ศิษย์บำรุงสำนักคนใหม่ แทบจะหยุดหายใจ หลังได้ประจักษ์เห็นปราณกระบี่นี้

การเคลื่อนไหวของกระบวนท่ากระบี่นี้ รวดเร็วประดุจสายอัสนีบาตฟาดอย่างกะทันหัน ยากยิ่งนักที่จะหลบหลีกไปได้!

แม้แต่ผู้อาวุโสเหอเอง ทันได้ประสบพบก็ถึงกับแสดงรอยยิ้มพลางพยักหน้า

เพลงกระบี่หลิงเฟิงเป็นเพลงกระบี่ระดับสามดาว อีกทั้งหลี่ฮุ่ยยังได้ฝึกฝนมันจนสามารถบรรลุขั้นฉลาดล้ำเลิศ ทำให้กระบวนท่าพริ้วไหวและคล่องแคล่วรวดเร็ว จนยากนักจะจับทางกระบี่ได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด