บทที่ 10 โอกาสอีกครั้ง
บทที่ 10 โอกาสอีกครั้ง
แสงเริ่มรวมตัวกันอย่างรวดเร็วในรูปร่างมนุษย์ และรูปร่างนั้นก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เวลาโดยรอบค่อยๆ ช้าลงจนกระทั่งแม้แต่แมลงก็หยุดกระพือปีกกลางอากาศ
“คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ คุณเป็นมนุษย์จริงๆ หรอ” แสงในรูปร่างมนุษย์กล่าวอย่างสับสน
"....นี่ล้อกันเล่นเหรอ คุณคือคนที่โผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ในรูปของแสง แล้วยังจะมาถามว่าฉันเป็นมนุษย์หรือเปล่างั้นหรอ นี่... ถ้าคุณมาที่นี่เพื่อเอาวิญญาณของฉันไปล่ะก็ รีบจัดการซะเถอะ” โรบินตะโกนด้วยความโกรธ
“ไม่ ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเอาชีวิตคุณ ฉันเป็นคน ฉันเพียงแค่ประหลาดใจที่เส้นทางแห่งความจริงกระซิบบอกฉันว่ามีอีกคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญมันในระดับแรกแล้ว ฉันจึงมาพบน้องชายใหม่คนนี้ด้วยตัวเอง ..แต่ฉันก็ต้องประหลาดใจที่ฉันเห็นดาวเคราะห์ดวงนี้ คุณ... การดำรงอยู่ของคุณไม่น่าจะเป็นไปได้เลยนะ” ร่างมนุษย์พูดขณะที่ความสับสนปรากฏขึ้นบนลักษณะที่เรียบง่าย
“การดำรงอยู่ของฉันเหรอ.. มันหมายความว่ายังไง อธิบายมาเร็วๆ สิ ฉันจะตายแล้วนะ ฉันมีเวลาไม่พอสำหรับเรื่องนี้”
“คุณจะตายก็ต่อเมื่อฉันอนุญาต ส่วนความหมายของคำพูดของฉันนั้น.. คุณกำลังอาศัยอยู่ในโลกที่เราเรียกว่าดาวเคราะห์ดวงใหม่ ซึ่งกฎทั้งหลายยังไม่ถูกค้นพบอย่างสมบูรณ์และผู้อาศัยก็อ่อนแอ ในขณะที่ ดาวเคราะห์ดวงนี้ยังคงมุ่งเน้นไปที่การรวบรวมพลังงานจากความสับสนวุ่นวายความดึกดำบรรพ์โดยรอบ เพื่อเสริมสร้างและเตรียมตัวให้พร้อม
ในสถานะปัจจุบัน สิ่งที่ดาวเคราะห์ดวงนี้สามารถทำได้มากที่สุดคือการมอบพรสวรรค์บางอย่างให้กับสิ่งมีชีวิตที่เลือกสรร เช่น ปัญญา จิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง ร่างกายที่แข็งแกร่ง..
สิ่งนี้เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมากขึ้นเติบโตไปสู่ระดับ 30-40 หรือสิ่งที่พวกคุณเรียกว่าปราชญ์ เพื่อช่วยในการเปิดเผยกฎต่างๆ เพิ่มขึ้นเติมและเสริมสร้างส่วนที่เหลือของการสร้างโลกที่สมบูรณ์
แต่คุณ... คุณไม่ควรเชี่ยวชาญเส้นทางแห่งความจริงได้เลย ดาวเคราะห์ที่มีประวัติการบ่มเพาะที่ยังไม่เกินหกหมื่นปียังไม่พร้อมสำหรับสิ่งนี้อย่างแน่นอน มันจำเป็นต้องรออีกสองหรือสามแสนปีเป็นอย่างน้อยก่อนที่ผู้อยู่อาศัยจะเริ่มสำรวจเส้นทางแห่งความจริง บอกฉันที...คุณทำได้ยังไงกัน” แสงรูปทรงมนุษย์พูดด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเปกันระหว่างความงุนงงและความอยากรู้อยากเห็น...
โรบินเงียบไปพักหนึ่งขณะพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เพิ่งได้ยิน ดาวเคราะห์.. หลักแสนปี.. '....นี่มันเป็นภาพหลอนก่อนตายรึเปล่านะ'
แต่เขาผลักความคิดนี้ไปไว้ข้างหลัง และเริ่มเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ให้กับแสงไฟรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่กำลังฟัง แม้ว่าเขาจะเพ้อฝันและกำลังพูดกับตัวเอง แต่มันก็ไม่มีอันตรายอะไรในการย้อนรำลึกถึงอดีตเป็นครั้งสุดท้าย
... ฉันไม่รู้ว่าโลกนี้โชคดีหรือโชคร้ายที่มีคุณอยู่.. แทนที่จะทำตัวเหมือนสิ่งมีชีวิตที่เชื่อฟังและกลายเป็นปราชญ์ คุณกลับเร่งกระบวนการวิวัฒนาการไปอย่างน้อยหมื่นปีงั้นหรอ.. แสงร่างคล้ายมนุษย์ถอนหายใจแล้วส่ายหัว
หึๆ ขอโทษนะที่ฉันไม่ได้เล่นไปตามกฎ แต่ว่ามันสำคัญเหรอ สิ่งที่เหลืออยู่ของฉันก็คือม้วนหนังสือที่ฉันเขียนเกี่ยวกับกฎรองต่างๆ ส่วนกฎแห่งความจริงนี่ก็คงจะตายไปพร้อมกับฉัน... หัวใจของฉันหยุดเต้นไปแล้ว
ฉันบอกแล้วไงว่าคุณจะไม่ตายถ้าฉันไม่ยอม ....โรบิน คุณอยากได้โอกาสอีกครั้งไหม
โอกาส โอกาสอะไรล่ะ.. ต่อให้คุณหยุดเวลาจนกว่าฉันจะวางเสาหลักบนเส้นทางแห่งความจริงฉันก็ไม่เห็นด้วย ฉันไม่อยากอยู่ต่อไปแบบนี้อีกแล้ว… อยู่โดยการต้องให้ลูกชายมาช่วยฉันฉี่น่ะหรอ ...แต่ถ้าคุณหยุดเวลาจนกว่าฉันจะส่งต่อเส้นทางแห่งความจริงให้กับซีซาร์ลูกชายของฉันได้ ฉันจะขอบคุณคุณมาก โรบินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบ
ลูกชายของคุณเหรอ... คุณหมายถึงเด็กชายที่ลากนกยูงเลือดขนาดใหญ่ไปข้างนอกใช่ไหม ฉันจะพาเขามาหาคุณ
แสงร่างคนมองไปที่โรบิน "ฉันพาเขามาไม่ใช่เพื่อให้เขามาเรียนรู้กฎ แต่เพื่อให้เขาเป็นพยานในการสนทนาของเรา ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องอธิบายให้เขาฟังในภายหลัง... ฟังนะ โรบิน ฉันปฏิเสธที่จะให้คุณตาย คนอย่างคุณไม่ควรตายแบบนี้
“หือ! นี่มันอะไร..” คำพูดหยุดลงในลำคอของซีซาร์เมื่อเขาเห็นแสงคล้ายมนุษย์ที่อยู่ข้างๆ พ่อของเขา
ลูกไฟเริ่มห่อหุ้มโรบินและยกเขาขึ้น การเปลี่ยนแปลงเริ่มเกิดขึ้นในร่างกายของเขาทันที ร่างกายที่อ่อนแอและทรุดโทรมของเขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้น และริ้วรอยบนใบหน้าของเขาที่แสดงถึงความเหนื่อยล้าของช่วงหนึ่งศตวรรษก็เริ่มจางหายไป
ซีซาร์เบิกตาโพลงเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้
อะ.. อะ.. อะไรเนี่ย หัวใจของซีซาร์แทบระเบิดจากความตื่นเต้นอย่างรุนแรง เขาเห็นพ่อที่กำลังจะตายของเขากลับมามีชีวิตชีวาและเยาว์วัยอีกครั้ง เขาเหมือนกำลังฝันไปและแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
มันเป็นกระบวนการง่ายๆ ที่ใช้เวลาประมาณ 5 นาที... แต่ซีซาร์รู้สึกเหมือนมันใช้เวลาทั้งชีวิต
เมื่อแสงสว่างรอบๆ โรบินหายไป เขาก็ล้มลงกับเตียงอย่างแรง แล้วตะโกน “..นี่มันอะไรกัน คุณทำอะไรกับฉัน” โรบินตะโกนขึ้นพร้อมชี้นิ้วไปที่แสงร่างคน แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นด้วยหางตาว่านี่ไม่ใช่มือของเขาเอง... “หือ”
เขายกมืออีกข้างขึ้นมาตรวจดูมือที่ชี้ไปก่อนหน้านี้ แต่ก็พบว่ามืออีกข้างของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน... 'นี่เป็นมือของคนหนุ่ม..' จากนั้นเขามองไปที่ซีซาร์และพบว่าซีซาร์กำลังอ้าปากค้างและเบิกตากว้างขณะมองมาที่เขาด้วยความประหลาดใจ
“ปิดปากแล้วไปเอาบานกระจกมาให้ฉัน” โรบินตะโกนก่อนจะสังเกตได้ว่าเสียงของเขาก็เป็นเสียงของเด็กหนุ่มไปแล้วเช่นกัน
คำพูดเหล่านั้นทำให้ซีซาร์กลับสู่ความเป็นจริง เขารีบนำกระจกมาและมอบให้กับพ่อของเขาทันที ซีซาร์คาดหวังว่าพ่อของเขาคงจะตะโกนและโจมตีสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ทันทีที่เห็นตัวเอง แต่เขากลับ….เงียบ...
ความเงียบสงัดดำเนินไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาจากดวงตาของโรบิน "นี่คือฉันหรอ... นี่คือฉันตอนที่ฉันยังเด็กนี่..." เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ขณะพยายามสงบสติตัวเอง
ฉันใช้กฎแห่งเวลาขั้นสูงและกฎแห่งชีวิตขั้นสูงเพื่อทำให้ร่างกายของคุณกลับไปเป็นเด็กอายุ 12 ปี แต่มันจะลบการฝึกฝนทั้งหมดออกจากร่างกายของคุณ แต่คุณยังคงมีพลังวิญญาณ สติปัญญาและความทรงจำดั้งเดิมของคุณอยู่ กฎทั้งหมดที่คุณเชี่ยวชาญยังคงสามารถใช้ได้เมื่อคุณรวบรวมพลังงานบางส่วนในร่างกายของคุณได้ดังเดิม ฉันหวังว่าคุณจะใช้โอกาสครั้งที่สองของคุณให้ดียะ แล้วพบกันอีกครั้งเมื่อโชคชะตาต้องการ... แสงร่างมนุษย์ได้ยกเลิกกฎที่ส่งผลต่อเวลากลับสู่สภาวะปกติก่อนที่ร่างกายของเขาจะเริ่มสลายไป... เขากำลังจะจากไป
“ช้าก่อน คุณทำกับซีซาร์แบบที่ทำกับฉันได้ไหม”
หืม เด็กหนุ่มคนนี้ยังอายุยี่สิบกว่าปีเท่านั้นและความสามารถก็ใช้ได้เลย ทำไมคุณถึงอยากพาเขากลับไปเป็นเด็กอีกล่ะ
“เขาเป็นลูกชายของฉัน และตอนนี้ฉันถึงระดับแรกในกฎแห่งความจริงแล้ว ฉันมั่นใจว่าการเรียนรู้กฎที่เหลือจะง่ายขึ้น ฉันอยากได้กฎสำคัญๆมาสร้างเสาหลักให้เขา”
...ทำไมคนฉลาดถึงได้หน้าด้านขนาดนี้นะ คุณควรจะกลัวและคุกเข่าลงต่อหน้าฉันหลังจากคุณเห็นสิ่งที่ฉันทำได้สิ แต่คุณกลับพยายามที่จะเอาเปรียบฉันมากขึ้นงั้นหรอ
“คุกเข่าหรอ ฉันไม่เคยคุกเข่าให้กับโชคชะตาหรอกนะ เพียงแต่ว่า ถ้าคุณทำมันให้ฉัน ฉันจะติดหนี้บุญคุณคุณอีกครั้งหนึ่ง”
แสงร่างมนุษย์คิดเพียงว่า 'อีกครั้งงั้นหรอ แล้วการตอบแทนบุญคุณครั้งแรกล่ะ' แต่สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้และชี้ไปที่ซีซาร์ แล้วลูกบอลแสงก็กลืนกินซีซาร์ไป
ระหว่างกระบวนการ แสงร่างมนุษย์มองไปที่โรบินแล้วพูดว่า "เพื่อไม่ให้คุณเสียเวลา ฉันขอแนะนำว่านี่ไม่ใช่การฟื้นคืนชีพ มันแค่เป็นการทำให้ให้ร่างกายย้อนกลับไปยังจุดหนึ่งในอดีต มันไม่ใช่ทักษะที่สมบูรณ์แบบ ข้อบกพร่องอย่างหนึ่งคือลูกชายของคุณจะต้องสร้างเสาหลักของเขาจากเส้นทางเดียวกับที่เขาสร้างเสาหลักของเขาก่อนหน้านี้ กฎหลักของเส้นทางนั้นคือขีดจำกัดสูงสุดของเขาในตอนนี้"
“มีเรื่องแบบนั้นด้วยหรอ.. ฉันอยากจะให้สิ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับเส้นทางแห่งความจริงแก่เขา แต่ก็ไม่เป็นไร การใช้กฎแห่งไฟเป็นเสาหลักก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น” โรบินพูดด้วยความเสียดายเล็กน้อย