หนทางทำเงินแบบใหม่ล่าสุด?(อ่านฟรี 15/11/2567)
“คนสุดท้ายแล้วนะครับ ขอเชิญคุณผู้หญิงท่านนั้นเดินมาด้านหน้าได้เลยครับ!” เสียงของเย่เซวียนดังขึ้นมา เขาชี้ไปยังหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งที่กำลังทำหน้าเหลอหลาอยู่ เธอคิดไม่ถึงว่าเธอจะได้รับเลือกในวันนี้แถมเป็นคิวสุดท้ายด้วย
“ฉันเหรอคะ?” เธอชี้ไปที่ตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ความจริงแล้วเธอก็ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไรนัก ที่มายืนอยู่ตรงนี้ก็แค่อยากจะรอดูเรื่องสนุกเท่านั้นเอง
แล้วทำไมคนที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรจะขอกับท่านเทพแบบเธอถึงถูกเลือกกัน หรืออีกฝ่ายจะไม่ใช่ตัวแทนของท่านเทพจริง ๆ แบบที่อ้างมากันแน่นะ?
“ใช่ครับ..อืมม ท่านเทพบอกว่าคุณไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่ผมกำลังทำสินะ” ชายหนุ่มตอบรับก่อนจะทำท่าเหมือนกำลังรับฟังอะไรบางอย่างอยู่ หลังจากนั้นจึงกล่าวออกมา
หญิงสาวที่ได้ยินถึงกับตกใจจนเผลอแสดงสีหน้าออกมา แต่แล้วเธอก็พบว่าความมหัศจรรย์ไม่ได้จบลงง่าย ๆ เพียงเท่านี้
“ท่านเทพบอกว่าคุณมีปัญหาหนักที่แก้ไม่ตก ชะตาของคุณกำลังย่ำแย่เพราะไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งอัปมงคลเข้า ท่านแนะนำว่าให้คุณทำบุญสะเดาะเคราะห์นะครับ” เย่เซวียนกล่าวออกมาตามที่เทพแห่งโชคลาภบอก
“คุณรู้ได้ยังไงกัน?! ฉันกำลังเจอปัญหารุมเร้าอยู่จริง ๆ ค่ะ แต่เรื่องไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งอัปมงคลนี่ นึกยังไงก็นึกไม่ออก” หญิงสาวทำท่าตกใจพลางกล่าวตอบกลับมา ซึ่งมันยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ผู้คนโดยรอบที่ยิ่งนานยิ่งมีจำนวนมากขึ้นเชื่อในตัวของเย่เซวียน
“ท่านบอกว่ามันเป็นหินที่คุณเก็บได้แถวข้างทางไม่กี่วันก่อนน่ะครับ หินนั่นมันมาจากสุสานผีเร่ร่อน พอคุณเก็บไปวิญญาณของพวกนั้นเลยตามไปด้วย ท่านบอกว่าถึงคุณจะขว้างมันทิ้งไปก็ไม่ช่วยอะไร ให้นำหินมาที่นี่พร้อมกับของไหว้ท่านก็พอ แล้วโชคร้ายจะกลายเป็นดีเอง” ชายหนุ่มกล่าวอธิบายออกมายืดยาวพร้อมทำท่าทางโบกไม้โบกมือไปด้วย ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลา น้ำเสียงอันนุ่มนวล การแสดงออกที่น่าเชื่อถือ ทำให้ตอนนี้แทบทุกคนในศาลเจ้าแห่งนี้ล้วนเชื่อถือเย่เซวียนกันหมดแล้ว
กลายเป็นว่าศาลเจ้าที่ปกติผู้คนมักจะมาแล้วก็ไปกลับเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก พวกเขาพากันกราบไหว้ขอพรตามที่ชายหนุ่มบอกเอาไว้ ส่วนเรื่องที่ว่าพรจะเป็นจริงไหมหรือเทพแห่งโชคลาภจะไปลำดับคิวยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว
“ใช่จริง ๆ ด้วย! แล้วฉันต้องใช้อะไรบ้างคะ? ในการมาไหว้” หญิงสาวนึกอยู่ชั่วครู่ก็นึกออกว่ามันเป็นตามที่ชายหนุ่มบอกจริง ๆ เธอจึงกกล่าวถามออกมาด้วยความกังวล
“ก็ใช้.......”
หลังจากนั้นเย่เซวียนก็ได้บอกกล่าวสิ่งที่ควรกระทำกับหญิงสาวไปจนหมด เมื่อพูดคุยจบแล้วชายหนุ่มก็ให้หญิงสาวไปกราบไหว้เทพแห่งโชคลาภก่อนจะเรียกหน้าต่างภารกิจขึ้นมาดู
[ภารกิจพิเศษ-คำขอของเทพแห่งโชคลาภ]
ความคืบหน้า : 580/10,000 คน
‘ไม่เลวเลยทีเดียว รอให้ข่าวเรื่องตัวแทนท่านเทพแห่งโชคลาภแผ่กระจายออกไปก็น่าจะมีผู้คนจำนวนมากแห่กันมาที่นี่’ ชายหนุ่มยิ้มออกมาพลางคิดในใจไปด้วย เขาสังเกตเห็นได้ว่ามีหลายคนที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาอัดวิดีโอเอาไว้ รวมถึงไลฟ์สดก็มีเช่นกัน ในความคิดของเขาวิดีโอและไลฟ์สดเหล่านั้นจะต้องมีคนดูเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
เพราะยังไงความเชื่อ ความศรัทธาก็เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว สังเกตได้จากสินค้าเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อทั้งหลาย ยิ่งมีข่าวว่าสิ่งนั้น ๆ สามารถทำให้สมหวังได้ก็จะยิ่งขายดี
‘ต้องหาวัตถุมงคลมาขายเพิ่มน่าจะดี เราไปสั่งผลิตเองดีไหมนะ’ เย่เซวียนครุ่นคิดในใจ เพราะยังไงจะหาเงินเข้าตัวเองด้วยวิธีนี้ก็คงไม่ผิดอะไรมั้ง?
ครึ่งหลัง
“เจ้าจะทำเช่นนั้นข้าก็ไม่ขัดข้องอันใด แต่จงจำไว้ด้วยว่าถ้าอยากให้วัตถุมงคลเหล่านั้นมีความขลังในตัว จะต้องเป็นวัตถุมงคลที่เกี่ยวข้องกับตัวของข้าหรือเทพในศาลเจ้าแห่งนี้เท่านั้น และเจ้าจะต้องนำเงินบางส่วนบริจาคให้ทางศาลเจ้าแห่งนี้ด้วย” เทพแห่งโชคลาภกล่าวขึ้นมา
‘ถ้าผมอยากกลายเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าแห่งนี้ ท่านเทพพอจะมีวิธีช่วยผมไหมครับ?’ ชายหนุ่มกล่าวถามในใจ เขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้พอดี
“อืม จะว่าช่วยได้มันก็ได้อยู่ เจ้าต้องการจะเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าแห่งนี้ไปทำไมกัน?” เทพแห่งโชคลาภลูบคางพลางกล่าวถามด้วยความสงสัย
‘เพราะผมว่าจะปรับปรุงศาลเจ้า พัฒนาให้ดีขึ้นด้วยเงินของตัวเองน่ะครับ หลังจากนั้นก็จะได้วางแผนทำเงินเพิ่มเติมไว้ด้วย ถ้าผมต้องทำทั้งหมดฟรี ๆ มันก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร’ ชายหนุ่มไม่คิดจะปิดบัง เขาบอกอีกฝ่ายถึงสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา
“ข้าเข้าใจความคิดของเจ้า มันก็นับว่าเป็นเรื่องปกติข้าได้ผู้เคารพนับถือเพิ่ม ผู้ที่มากราบไหว้ก็ได้สิ่งที่ขอ เจ้าก็ได้รับค่าตอบแทน เช่นนั้นลองไปกล่าวถามเรื่องนี้กับทางเทศบาลดูเถิดว่าตอนนี้ตระกูลใดที่เป็นเจ้าของศาลเจ้าแห่งนี้ บางทีเจ้าอาจจะขอแบ่งส่วนในการครอบครองได้” เทพแห่งโชคลาภกล่าวแนะนำออกมา
“ข้าจะให้พรเจ้าเล็กน้อยเพื่อช่วยให้เรื่องนี้เป็นไปอย่างราบลื่น แต่เจ้าก็ต้องตั้งใจทำให้ศาลเจ้าของข้ารุ่งเรืองด้วยล่ะ!” กล่าวจบเทพแห่งโชคลาภก็เอื้อมมือมาวางที่หัวของชายหนุ่ม ทันใดนั้นก็มีแสงสีทองเจิดจ้าถูกปล่อยออกมาจากฝ่ามือข้างนั้นอาบไปทั่วร่างของเย่เซวียน
[ท่านได้รับพรจากเทพแห่งโชคลาภ]
รายละเอียด : เนื่องจากท่านทำให้เทพแห่งโชคลาภเชื่อใจ การเจรจาธุรกิจอันใดจะเป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้นเหมือนมีบางสิ่งคอยช่วยเสมอ
‘ขอบคุณท่านมากครับ’ ชายหนุ่มหันไปยกมือไหว้ท่านเทพแห่งโชคลาภโดยไม่ได้ใส่ใจสายตาของคนรอบข้างแม้แต่น้อย เพราะถึงยังไงตอนนี้ตัวเขาก็ถูกมองว่าเป็นตัวแทนท่านเทพแห่งโชคลาภอยู่แล้ว การจะหันไปไหว้รูปปั้นของอีกฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด
“คุณ..ท่านครับ แล้วท่านจะมาที่นี่อีกเมื่อไรเหรอครับ ผมมีเรื่องอยากจะขอจากท่านเทพอีก” ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเย่เซวียนด้วยท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ
นี่เป็นถึงตัวแทนท่านเทพแห่งโชคลาภเลยนะ! เขากลัวว่าถ้าไปทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจจะเกิดปัญหาเอาได้ แต่ถ้าไม่ถามออกมาแล้วไม่มีโอกาสได้เจอชายหนุ่มผู้นี้อีก สิ่งนั้นคงจะทำให้เขาเสียใจไปอีกนานเป็นแน่!
“อืม..ผมจะมาที่นี่ต่อเนื่องเป็นเวลาเจ็ดวันครับ ช่วงเวลา 13.00-18.00 หลังจากนั้นจะมาเฉพาะวันอาทิตย์ สัปดาห์ละครั้งครับ” ชายหนุ่มยิ้มพลางกล่าวออกมา
“แต่ถึงผมจะไม่อยู่ทุกคนก็สามารถกราบไหว้และขอพรท่านเทพตามที่ผมแนะนำได้เลยครับ”
“ขอเบอร์ติดต่อหรือช่องทางติดต่อจะได้ไหมครับ” ชายชรากล่าวถามขึ้นมาอีกครั้ง
“อืมม ตอนนี้ยังไม่สะดวกครับ ไว้มาเจอกันที่นี่ก็พอ” ชายหนุ่มครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป
เขากำลังคิดอยู่ว่าจะสร้างบัญชีแยกออกมาเพื่อคอยทำเรื่องนี้โดยเฉพาะดีไหม แต่เรื่องนั้นคงต้องไว้จัดการทำหลัง เรื่องแรกต้องไปคุยเรื่องกรรมสิทธิ์ในตัวศาลเจ้าแห่งนี้เสียก่อน
“ก็ได้ครับ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาใหม่นะครับ” ชายชราได้แต่ยอมแพ้ก่อนจะจากไป แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะไปไหว้เทพแห่งโชคลาภก่อนไปด้วย
“ทุกคนครับ! ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้เจอกันใหม่” ชายหนุ่มเห็นว่าตอนนี้ก็เป็นเวลา 18.00น. แล้วเขาควรจะกลับบ้านเสียทีจึงกล่าวออกมา
ถึงแม้จะมีหลายคนที่พยายามรั้งหรือตามมาขอร้องให้เขาติดต่อท่านเทพแห่งโชคลาภให้ แต่เขาก็ใช้ข้ออ้างว่าถ้าติดต่อนอกเวลาท่านเทพจะโกรธ รวมถึงตัวเขาเองก็ไม่ต้องการให้มีคนเข้ามาวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวมากนัก จึงสามารถสลัดกลุ่มคนเหล่านั้นออกมาได้
เมื่อชายหนุ่มเดินหนีไปจนพ้นเขตศาลเจ้าแล้ว เขาก็รีบขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่งทันที
“โห พี่ชายเป็นดาราดังรึเปล่าครับเนี่ย มีคนตามมาเพียบเลย” คนขับที่เป็นชายกลางคนกล่าวแซวออกมา แต่เขาก็ยอมรับว่าอีกฝ่ายหน้าตาดีมากเช่นกัน
“เรื่องมันยาวครับ รบกวนช่วยไปที่.....”
หลังจากเย่เซวียนกล่าวจบ รถแท็กซี่ก็ขับออกไปท่านกลางสายตาของผู้คนจำนวนมากที่เฝ้ามองอยู่