บทที่ 359 พูดไม่ออก!

เมื่อได้รับภารกิจนี้

เล่ยหมิงที่ไม่ตื่นเต้นกับอะไรนัก ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ถนนการเงินหวังเจียจุ่ย!

นั่นเป็นหนึ่งในที่ดินที่มีค่าที่สุดในเซี่ยงไฮ้ แม้ว่าพื้นที่ไม่ใหญ่

แต่ค่าทางพาณิชย์นั้นยากจะจินตนาการ

บริษัทในกลุ่ม 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก

หลังจากภารกิจนี้จะกลายเป็นผู้เช่าของเขา?

แค่ค่าเช่า ถนนนั้นก็มีรายได้เข้ามาหลายหมื่นล้านหยวนต่อปี

มูลค่าที่ดินเกินกว่าสามพันล้านหยวน!

แม้จะไม่ทำอะไรเลย นอนอยู่เฉยๆ เงินก็ไหลมาเทมา ไม่เคยหมด บริษัทอื่นๆ ก็สามารถทำกำไรได้อย่างอิสระ

แม้เล่ยหมิงที่ชินกับเงินแล้ว ก็เกิดความสนใจขึ้นบ้าง

และเมื่อพูดถึงเงิน!

ที่นี่มีแต่เศรษฐีสุดยอดของเมืองเทียนจิง

ที่ครอบครองอันดับหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้าของรายชื่อเศรษฐีของเมืองเทียนจิง

บริษัทมหึมาของตระกูลเย่

ทำให้แม้แต่มีหุ้นเพียงสิบเปอร์เซ็นต์

ก็ยังเป็นเศรษฐีแสนล้าน

เล่ยหมิงถ้าสามารถเทียบกับใครคนหนึ่งในที่นี่ได้ ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว ยังกล้าพูดว่าจะเทียบกับทุกคน น่าขันไหม?

มาถึงเรื่องที่เขาถนัด

ฉินหยางต้องการกู้หน้าคืน

เขายิ้มเยาะ “ไอ้หนุ่ม คุณช่างพูดจาหยาบคาย! มีคุณสมบัติอะไรที่จะพูดแบบนั้น? ตระกูลฉินของฉันมีทายาทเพียงคนเดียวมาสามรุ่น! บริษัท Qinshi Group ของฉันเข้าตลาดหุ้นในฮ่องกง มีมูลค่ากว่า 5แสนล้านหยวน หุ้นของฉันมีมูลค่า 3แสนล้านหยวน เป็นเงินสดจริงๆ ไม่ใช่แค่ประเมิน มันคือมูลค่าหุ้นที่สามารถขายได้ทันที!”

“แค่นั้นมาก? คุณคงไม่เคยเห็นเงินจริงๆ” เล่ยหมิงพูดอย่างดูถูก “พูดตรงๆ ไม่ได้ว่าใครคนใดคนหนึ่งในที่นี่ แต่ทุกคนที่นี่ ในเรื่องทรัพย์สิน ทุกคนคือขยะ!”

เมื่อพูดจบ ทุกคนก็นิ่งเงียบ

ทุกคนโกรธมองเล่ยหมิง!

บ้าคลั่ง

คนบ้าขนาดนี้ จะให้เย่เซียนเอ๋ออยู่กับเล่ยหมิงได้ยังไง?

“ทีละคน!”

เล่ยหมิงพูดอย่างโอหัง แล้วชี้ไปที่ฉินหยาง “ทรัพย์สินสามแสนล้านใช่ไหม? Givenchy, Chanel ในจีน, และ Gucci มูลค่าตอนนี้เท่าไหร่! เป็นเงินสดได้ไหม”

ฉินหยางอึ้ง

เปิดตลาดหุ้นยุโรป

ตอนนี้ Givenchy มีมูลค่า 3แสนล้านยูโร เทียบเท่ากับ 2ล้านล้านหยวน

แค่บริษัทเดียวก็มากกว่าฉันแล้ว!

นอกจากนี้ Chanel ในจีน

มีมูลค่ากว่า 1ล้านล้านหยวน

แค่สองแบรนด์หรูนี้ก็ทำให้ฉินหยางอับอายแล้ว

Gucci ก็มูลค่าเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 7หมื่นล้านยูโร เทียบเท่ากับ 5แสนล้านหยวน!

ทั้งหมดนี้เป็นผลจากตลาดระหว่างประเทศที่มองการควบรวมกิจการในแง่ดี

เมื่อไม่นานมานี้ Gucci, Givenchy, Chanel ต่างประกาศว่าถูกซื้อกิจการโดยคนจีน รวมเป็นบริษัทเดียว!

ตามธรรมเนียม

อีกไม่นาน

Chanel ในยุโรปก็จะถูกซื้อด้วย

การควบรวมนี้

เป็นเรื่องข้ามยุค!

ดังนั้นการเพิ่มขึ้นสองแสนล้านยูโรเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้

แค่เล่ยหมิงไม่สนใจ!

ฉินหยางตกตะลึง

ทุกคนในตระกูลเย่ก็ตกตะลึง

เล่ยหมิงชี้ไปที่ลุงของเย่เซียนเอ๋ออีกคน

“คุณมีหุ้นในตระกูลเย่เท่าไหร่?”

“เอ่อ...แค่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ มูลค่าราวหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านหยวน”

“โรงแรม Hilton กับที่ดินพระราชวังเก่า พอไหม?”

“พอ…”

สองที่นั้นมีมูลค่ามากกว่าเขามาก

“แล้วคุณล่ะ?”

“สิบสองเปอร์เซ็นต์!”

“สายการบินความสุข สนามบินปักกิ่ง และหุ้น Tencent สามสิบเปอร์เซ็นต์ ตรวจสอบได้”

...

“แล้วคุณล่ะ?”

“สี่สิบเปอร์เซ็นต์!”

คนพูดคือคุณปู่เย่

เขารู้สึกมึนชาแล้ว!

ให้เลขาฯ ตรวจสอบ ทุกอย่างจริง

เด็กคนนี้ เป็นเทพเจ้าอะไรกันแน่

มีข่าวลือ

ทุกอย่างนี้มีผู้หญิงผมทองต่างชาติควบคุมอยู่

แค่กระแสเงินสดก็ถึงห้าแสนล้านหยวนแล้ว!

น่ากลัวจริงๆ

10ล้านล้านเป็นแค่การประเมินอย่างต่ำ

“บริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนเช่อ โรงพยาบาลในฝัน พอไหม?” เล่ยหมิงพูดกับคุณปู่อย่างสุภาพเพราะเขาเป็นคุณปู่ของเย่เซียนเอ๋อ ต้องให้เกียรติบ้าง

แม้เล่ยหมิงจะไม่พูด!

เลขาฯ ก็ตรวจสอบแล้ว

บริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนเช่อ ไม่ได้เข้าตลาดหุ้น

แค่ที่ดินที่มีอยู่ทั่วประเทศก็มีมูลค่าหลายแสนล้าน ทุกปีมีกำไรอย่างมาก เป็นทรัพย์สินสุทธิ

โรงพยาบาลในฝัน!

ยิ่งมีกำไรเต็มมือ...

ไม่มีใครรู้ว่าโรงพยาบาลในฝันทำกำไรได้เท่าไหร่ต่อปี!

แต่จากข้อมูลปีที่แล้ว

เป็นข้อมูลที่เผยแพร่โดยไม่ตั้งใจ

โรงพยาบาลในฝันใช้จ่ายในการวิจัยปีละ1แสนล้าน

เป็นจำนวนที่หลายบริษัทไม่สามารถทำกำไรได้เลย

เห็นได้ว่าโรงพยาบาลนี้แข็งแกร่งอย่างมาก

“ท่านประธาน เพิ่งมีข่าวว่าถนนการเงินหวังเจียจุ่ยในเซี่ยงไฮ้ มูลค่าที่ดินสามแสนล้าน ถูกซื้อไปแล้ว! พร้อมกับตึกระฟ้าหลายร้อยแห่ง กลายเป็นของผู้ซื้อรายเดียว และข้อมูลที่เปิดเผยบอกว่าคนซื้อคือแฟนของคุณหนูเย่” เลขาฯ พูดด้วยสีหน้าแย่ๆ

เล่ยหมิงเพิ่งรู้ “อ้อ ที่คุณพูดถึง ผมซื้อเล่นๆ เพราะเงินมากจนไม่รู้จะใช้อะไรดี”

เขายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

ประสิทธิภาพของระบบ

ยังดีมาก

เสียงเตือนเพิ่งมาถึง

เล่ยหมิงไม่สนใจ

ทรัพย์สินในชื่อเขา แอนนาจะดูแลและจัดการ

ตอนนี้แอนนารับผิดชอบทุกอย่างในทิศทางใหญ่

มีเลขาที่เก่ง!

ทำให้เขาประหยัดปัญหาได้มากมาย

มีเรื่องอะไร เลขาก็จัดการ ถ้าไม่มีเรื่องก็จัดการเอง

คนในตระกูลเย่ต่างพังทลายลง

นี่คือการหาเรื่องตัวเอง!

ฉินหยางอยากตายไปซะ

ไม่กล้าอยู่ต่อไป

เขาหาข้ออ้างรีบออกไป

คนในตระกูลเย่ก็รู้สึกไม่สบายใจ

พวกเขาเป็นเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในจีน มูลค่าทรัพย์สินล้านล้าน ในที่ไหนก็เดินได้อย่างอิสระ

แต่เทียบกับเล่ยหมิง ความแตกต่างชัดเจน ไม่มีความสามารถเทียบเท่าเลย

จะเทียบยังไง?

แค่กระแสเงินสดก็บดขยี้พวกเขาได้แล้ว!

บริษัทไหนก็แทบจะเท่ามูลค่ารวมของบริษัทของพวกเขา

แม้แต่ Givenchy แบรนด์หรู ก็มีมูลค่าสูงมาก

“คุณปู่เย่ ผมไม่รู้ว่าผมยังเหมาะกับเซียนเอ๋อของคุณหรือไม่? ผมแค่คนธรรมดา” เล่ยหมิงได้ยินคนในตระกูลเย่พูดว่าเขามาจากครอบครัวธรรมดาและอยากปีนป่าย

เขายักไหล่ ดูสบายๆ

คุณปู่เย่และคนอื่นๆ ปากกระตุก!

เด็กคนนี้ ได้ทีไม่ปล่อยเลย

พวกเขายังกล้าพูดคำว่าไม่อีกไหม?

แค่เงินก็บดขยี้พวกเขาได้แล้ว!

“เอ่อ คุณตามสบาย ขอแค่ดีกับเซียนเอ๋อก็พอ” เย่เจิ้นเทียนทำหน้าที่คล้ายร้องไห้ “เซียนเอ๋อ ถ้าไม่มีอะไร ปู่ขอตัวก่อน ดูแลตัวเองดีๆ มีเวลามาเยี่ยมปู่บ้าง อย่ามีแฟนแล้วลืมปู่นะ”

“ปู่ไม่ต้องห่วง ฉันจะมาเยี่ยมปู่บ่อยๆ พอฉันเป็นแม่แล้วจะพาลูกมาเยี่ยมปู่ด้วย” เซียนเอ๋อยิ้มพูด

คุณปู่เย่ที่ใจเจ็บอยู่แล้ว ปากกระตุกมากขึ้น!

เด็กคนนี้ ทำแบบนี้โดยเจตนาใช่ไหม?

ถ้าไม่ใช่เพราะเล่ยหมิง เขาคงไม่ยอมให้หลานสาวแต่งงานกับคนแบบนี้เลย

แต่สถานการณ์ไม่อยู่ฝั่งเขา

จะทำยังไงได้!

คนในตระกูลเย่ก็รีบลาขอตัวไป

ในบ้านเหลือแค่เล่ยหมิง เย่เซียนเอ๋อ และพ่อแม่ของเย่เซียนเอ๋อ

“เสี่ยวเล่ย คราวก่อนทรัพย์สินของคุณยังไม่เยอะขนาดนี้ ทำไมไม่กี่เดือน มูลค่าเพิ่มขึ้นเท่าตัว คุณทำได้ยังไง?” เย่เทียนสงถามอย่างประหลาดใจ

“อันนี้ผมก็ไม่รู้ เล่นๆ แล้วทรัพย์สินก็เพิ่มขึ้น ผมกังวลอยู่ เพราะใช้เงินไม่หมด มันปวดหัว” เล่ยหมิงพูดอย่างเบื่อหน่าย “เซียนเอ๋อคุณต้องใช้เงินเก่งๆ ไม่งั้นเราจะจนจนเหลือแต่เงิน”

เซียนเอ๋อ: “……”

พ่อแม่ของเย่เซียนเอ๋อ: “……”

นี่คือการโชว์ที่เจ๋งที่สุดในปีนี้!

ให้คะแนน 88 คะแนน

ที่เหลือส่งในรูปแบบ 666