บทที่ 24: เมืองเสวียนเจี้ยน
ม้าเกล็ดเขียว ทั้งตัวเต็มไปด้วยเกล็ดสีเขียว มีเลือดสัตว์อสูร แข็งแกร่งมาก สามารถวิ่งได้ 3,000 ลี้ต่อวัน
สิบกว่าวันต่อมา หลู่หมิงและชิวเยว่เดินทางมาถึงเมืองเสวียนเจี้ยนอย่างเหน็ดเหนื่อย
เมืองเสวียนเจี้ยนอยู่ห่างจากสำนักดาบเสวียนหยวนเพียง 50 ลี้ เป็นเมืองที่อยู่ใกล้สำนักดาบเสวียนหยวนที่สุด จึงเจริญรุ่งเรืองมาก ประชากรและขนาดพื้นที่ ใหญ่กว่าเมืองเฟิงหัวถึงสิบเท่า
กองคาราวานพ่อค้าจากที่ต่างๆ ในจักรวรรดิเดินทางไปมา บรรยากาศคึกคักมาก
ถนนกว้างขวาง รถลากสัตว์สิบคันสามารถวิ่งเคียงกันได้ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ครึกครื้นอย่างยิ่ง
หลู่หมิงและชิวเยว่ทั้งสองคนมาเมืองใหญ่แบบนี้เป็นครั้งแรก ทั้งสองเหมือนบ้านนอกเข้าเมือง อยากรู้อยากเห็น มองซ้ายมองขวาตลอด
เดินเที่ยวกันครึ่งวัน ท้องร้องโครกคราก ทั้งสองจึงหาโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งเดินเข้าไป
โรงเตี๊ยมสูงสามชั้น ภายในตกแต่งอย่างอลังการ ทั้งสองเดินขึ้นไปชั้นสาม
ในชั้นสาม โต๊ะส่วนใหญ่มีคนนั่งอยู่แล้ว เมื่อหลู่หมิงและชิวเยว่เดินเข้ามา สายตาของคนอื่นๆ ต่างเป็นประกาย
หลู่หมิง รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลา สวมชุดนักดาบรัดรูป ดูองอาจผึ่งผาย
ชิวเยว่ รูปร่างอ้อนแอ้น บริสุทธิ์น่ารัก เดินมาด้วยกันกับหลู่หมิง ราวกับคู่หยินหยางเลยทีเดียว
มีโต๊ะหนึ่ง สองคนหนุ่ม คนหนึ่งสวมชุดผ้าไหม คาดเข็มขัดหยก ดูมีฐานะสูงศักดิ์ อายุราว 17-18 ปี อีกคนอายุไล่เลี่ยกัน รูปร่างผอมแห้ง แต่งตัวแบบคนรับใช้
คุณชายชุดผ้าไหมพอเห็นหลู่หมิงและชิวเยว่เข้ามา ตาเป็นประกายทันที พูดให้ถูกคือเขาจ้องมองชิวเยว่ ในดวงตาเปล่งประกายร้อนแรง
แต่เมื่อมองไปที่หลู่หมิง ในดวงตากลับมีแววสังหาร
"ดอกไม้งามปักอยู่บนกองขี้วัว!" คุณชายชุดผ้าไหมพึมพำ
หลู่หมิงและชิวเยว่ไม่ได้สนใจสายตาของคนรอบข้าง ทั้งสองหาที่นั่งริมหน้าต่าง แล้วสั่งอาหารเล็กๆ น้อยๆ กับเหล้าหนึ่งกา แล้วกินดื่มกัน
"คุณชาย คนในเมืองเสวียนเจี้ยนเยอะจริงๆ นะเจ้าคะ!" ชิวเยว่ยกถ้วยเหล้า จิบเล็กน้อย ทันใดนั้นแก้มก็แดงระเรื่อ ดวงตาพร่ามัวมองหลู่หมิง
หลู่หมิงยกถ้วยเหล้า ดื่มรวดเดียวหมด แล้วพูดว่า
"ใช่แล้ว เหลือเวลาอีกแค่สองวันก่อนสำนักดาบเสวียนหยวนจะเปิดรับศิษย์ประจำปี คนหนุ่มสาวเก่งกาจจากเกือบสองพันเมืองในภาคตะวันออกของจักรวรรดิต่างมากันทั้งนั้น"
ในตอนนั้นเอง คุณชายชุดผ้าไหมยกถ้วยเหล้า พาชายผอมแห้งเดินเข้ามา
"คุณหนูท่านนี้ ข้าคือเว่ยจื่อหมิง ไม่ทราบว่าคุณหนูชื่ออะไร? จะกรุณาดื่มกับข้าสักถ้วยได้ไหม"
คุณชายชุดผ้าไหมยกถ้วยเหล้าพูด แต่สายตากลับจ้องมองร่างของชิวเยว่ไม่วางตา แววตาร้อนแรงปิดไม่มิด ส่วนหลู่หมิง เขาไม่สนใจเลย
ถูกเว่ยจื่อหมิงมองแบบนี้ ชิวเยว่รู้สึกอึดอัด ในใจรังเกียจ จึงพูดว่า "ขอโทษนะเจ้าคะ ข้าดื่มไปแล้ว ตอนนี้ไม่อยากดื่มแล้วเจ้าค่ะ!"
ถูกชิวเยว่ปฏิเสธต่อหน้า สีหน้าของเว่ยจื่อหมิงก็หม่นหมองลงทันที
"ไอ้หนูบ้า เจ้าหมายความว่ายังไง? คุณชายของข้าชวนเจ้าดื่มเหล้า นั่นเป็นเกียรติแก่เจ้าแล้ว อย่าทำตัวไม่รู้จักบุญคุณ!"
ชายผอมแห้งข้างๆ เว่ยจื่อหมิงตวาดเสียงเย็น แล้วหันไปมองหลู่หมิง ตะโกนว่า "ไอ้หนู เจ้ายังนั่งอยู่ทำไม? รีบไสหัวไปซะ ที่นั่งนี้คุณชายของข้าต้องการ"
หลู่หมิงขมวดคิ้ว สองคนนี้ช่างอหังการจริงๆ หลู่หมิงยังไม่ทันพูดอะไร สองคนนี้ก็มาไล่ให้เขาไสหัวไปเสียแล้ว
"หมาป่าที่ไหนมาเห่าหอนอยู่แถวนี้" หลู่หมิงยกถ้วยเหล้า ดื่มอีกอึก พูดเสียงเย็น
"ไอ้หนู เจ้ากล้าดียังไง กล้าพูดแบบนี้? หาที่ตายชัดๆ!"
ใบหน้าของชายผอมแห้งบูดบึ้ง ตะโกนเสียงดัง นิ้วมือเหมือนกรงเล็บนกอินทรี จู่โจมไปที่ลำคอของหลู่หมิงทันที
กรงเล็บฉีกอากาศ ส่งเสียงดังฉี่ๆ คมกริบ ลงมือทีเดียวก็เป็นการโจมตีเพื่อฆ่า
ถ้าหลู่หมิงถูกจับที่ลำคอ คอจะถูกบีบขาดแน่นอน
ช่างโหดร้ายเหลือเกิน แค่คนรับใช้คนเดียว พูดไม่ถูกคอก็จะฆ่าคนแล้ว
"แค่นักรบระดับสองเอง ไสหัวไปซะ!" หลู่หมิงตวาดเสียงเย็น แล้วตบฝ่ามือออกไปทันที
ฝ่ามือนี้ แม้จะออกทีหลังแต่ถึงก่อน ตบเข้าที่หน้าของชายผอมแห้งอย่างแรง ชายผอมแห้งร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ร่างกายถูกตบกระเด็นออกไป ล้มลงกับพื้น
เหตุการณ์นี้ทำให้คนอื่นๆ ในโรงเตี๊ยมตกตะลึง แล้วก็เริ่มซุบซิบกัน
"ไอ้หนูคนนี้เป็นใครกัน? ถึงกับกล้าตีคนรับใช้ของเว่ยจื่อหมิง? ช่างกล้าหาญจริงๆ!"
"เว่ยจื่อหมิงเป็นคุณชายใหญ่ของเจ้าเมืองเว่ยหัวเชียว ซึ่งเป็นเมืองชั้นสูงนะ ไอ้หนูคนนี้จบแน่"
"ข้าคาดว่าไอ้หนูคนนี้คงไม่รู้ประวัติของเว่ยจื่อหมิง ไม่งั้นคงไม่กล้าตีคนรับใช้ของเว่ยจื่อหมิงหรอก ถึงอย่างไรก็ต้องดูว่าใครเป็นเจ้านาย"
เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบด้านดังเข้าหูหลู่หมิง
หลู่หมิงเข้าใจแล้ว ที่แท้ก็เป็นคนจากเมืองเว่ยหัว ไม่น่าแปลกใจที่จะหยิ่งผยองขนาดนี้
ในจักรวรรดินี้มีเมืองนับหมื่น แบ่งตามขนาดและกำลังเป็นระดับต่างๆ
แบ่งเป็น: ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง
เมืองเฟิงหัวเป็นเมืองระดับต่ำ อาจมีคนไม่เคยได้ยินชื่อ
แต่เมืองเว่ยหัวเป็นเมืองระดับสูง มีกำลังแข็งแกร่ง มีชื่อเสียงในภาคตะวันออกของจักรวรรดิ
"อ๊าก! ไอ้หนู เจ้ากล้าตีข้าเหรอ? เจ้าตายแน่ ตายแน่!" ชายผอมแห้งตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
ส่วนเว่ยจื่อหมิงสีหน้ายิ่งหม่นหมอง ในดวงตาวาบขึ้นด้วยประกายสังหารอันเยือกเย็น จ้องลู่หมิงพูดว่า
"ไอ้หนู เจ้ารู้ไหม? ข้าเป็นคุณชายใหญ่แห่งคฤหาสน์เจ้าเมืองเว่ยหัว"
"เพิ่งรู้" หลู่หมิงตอบอย่างสงบนิ่ง
"อ้อ? ที่แท้เจ้าก็ไม่รู้มาก่อน แต่ตอนนี้รู้แล้วก็ไม่สาย ตอนนี้ เจ้าคุกเข่าขอโทษ ตบหน้าตัวเองสามสิบที แล้วทิ้งสาวน้อยคนนี้ไว้ รีบไสหัวไป ข้าอาจจะพิจารณาไว้ชีวิตเจ้า"
เว่ยจื่อหมิงพูดอย่างมั่นใจ เขาเชื่อว่าเมื่อหลู่หมิงรู้ฐานะของเขาแล้ว ต้องยอมแน่นอน
แต่ในวินาถัดมา เขาก็ต้องชะงักไป เพราะหลู่หมิงเพียงแค่กวาดตามองเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดเรียบๆ ว่า
"ข้าคิดว่าหมาของเจ้าโง่แล้ว ที่แท้เจ้าโง่ยิ่งกว่า ตอนนี้รีบหายไปจากสายตาข้าซะ ไม่งั้นจะตบเจ้าด้วย"
คนอื่นๆ ในโรงเตี๊ยมต่างเงียบกริบ เว่ยจื่อหมิงบ้าแล้ว แต่ไม่คิดว่าหลู่หมิงจะบ้ายิ่งกว่า
"ไอ้หนู เจ้ากล้าหลอกด่าข้า หาที่ตายชัดๆ!"
เว่ยจื่อหมิงโกรธจัด ยกมือขึ้นจะตบหน้าลู่หมิง
ในฝ่ามือมีพลังบริสุทธิ์มหาศาล แสดงวรยุทธ์นักรบระดับห้าอย่างเต็มที่
แต่มือของเขายังไม่ทันตก ข้อมือก็ถูกหลู่หมิงจับไว้
เปรี๊ยะ!
จากนั้นก็มีเสียงกระดูกหักดังขึ้น ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นขึ้นมา ทำให้เว่ยจื่อหมิงร้องโหยหวน
"อ๊าก! มือข้า ไอ้เศษสวะ ปล่อยข้านะ ข้าจะให้เจ้าตายอย่างไม่มีศพให้ฝัง" เว่ยจื่อหมิงร้องครวญครางด้วยความโกรธ
ปั้ก! แต่ในวินาถัดมา หลู่หมิงก็ตบหน้าเขาทันที ทำให้เสียงร้องของเว่ยจื่อหมิงหยุดลงกะทันหัน
เว่ยจื่อหมิงตาเหลือก มองหลู่หมิงอย่างงงงัน เขาถูกตบจนมึน
เขาไม่คิดว่าหลู่หมิงจะกล้าตบหน้าเขาจริงๆ
"ข้าบอกแล้วว่า ถ้าเจ้าไม่ไสหัวไป จะตบเจ้าด้วย!"
เสียงเรียบๆ ของหลู่หมิงดังขึ้น จากนั้น~
ปั้ก! อีกฝ่ามือหนึ่งก็ตบลงบนอีกแก้มของเว่ยจื่อหมิง
ทันใดนั้น แก้มทั้งสองข้างของเว่ยจื่อหมิงก็บวมโป่ง บวมเป็นหัวหมู
จากนั้น ลู่หมิงปล่อยพลังบริสุทธิ์ โยนเว่ยจื่อหมิงไปที่บันได แล้วพูดว่า
"รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นข้าจะหักแขนขาเจ้า"