ตอนที่แล้วบทที่ 22: การเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับพลัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24: เมืองเสวียนเจี้ยน

บทที่ 23: ออกเดินทาง


วันรุ่งขึ้น หลู่หมิงไปที่ห้องสมุดของตระกูลหลู่ เลือกคัมภีร์วิชาระดับต่ำชั้นเหลืองชื่อ "คัมภีร์เมฆหยก" ให้ชิวเยว่

ไม่ใช่ว่าหลู่หมิงตระหนี่ ไม่ยอมให้ชิวเยว่ฝึก "คัมภีร์มังกรรบ" แต่เพราะคัมภีร์มังกรรบนั้นแข็งกร้าวและรุนแรงเกินไป ไม่เหมาะกับชิวเยว่

หากคัมภีร์วิชาไม่เหมาะสม ต่อให้เป็นวิชาระดับสูงก็ไร้ประโยชน์ บางครั้งอาจให้ผลตรงกันข้าม

คัมภีร์เมฆหยกนั้นอ่อนนุ่มแต่แฝงความแข็งแกร่ง เหมาะกับชิวเยว่

นอกจากนี้ หลู่หมิงยังเลือกวิชาดาบสายรุ้งให้ชิวเยว่ ซึ่งเป็นศาสตร์การต่อสู้ระดับต่ำชั้นเหลือง

ตอนนี้ หลู่หมิงอยากเลือกคัมภีร์วิชาหรือศาสตร์การต่อสู้อะไร ไม่มีใครในตระกูลหลู่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว

หลังจากเลือกคัมภีร์วิชาและศาสตร์การต่อสู้แล้ว หลู่หมิงก็ไปที่ศาลายาวิเศษ ซื้อยาเม็ดมังกรเสือให้ชิวเยว่ เพื่อช่วยในการฝึกฝน

ตอนซื้อยาเม็ดมังกรเสือ หลู่หมิงถึงพบว่ามู่หลานไม่อยู่ที่ศาลายาวิเศษแล้ว ตามที่คนในศาลายาวิเศษบอก หมู่หลานกลับสำนักดาบเสวียนหยวนแล้ว

การที่มู่หลานมาเป็นหัวหน้าศาลายาวิเศษ เป็นเพียงการทดสอบเท่านั้น ตอนนี้การทดสอบจบลง จึงกลับสำนักดาบเสวียนหยวน

หลังจากมอบคัมภีร์วิชา ศาสตร์การต่อสู้ และยาให้ชิวเยว่แล้ว หลู่หมิงก็กลับห้อง เข้าสู่วิหารเทพสูงสุด เริ่มกินยาสะสมพลังและฝึกฝน

เหมือนกับยาอื่นๆ พอกินยาสะสมพลังเข้าไป บริเวณกระดูกสันหลังก็แผ่พลังดึงดูดอันแข็งแกร่ง ดูดซึมสรรพคุณของยา แล้วกลั่นกรองสิ่งสกปรกออก ปล่อยพลังงานบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย ให้ลู่หมิงเปลี่ยนเป็นพลังบริสุทธิ์

ยาสะสมพลัง เป็นยาระดับสองชั้นต่ำ มีสรรพคุณแรงกว่ายาเม็ดมังกรเสือมาก แต่เทียบกับยาหลอมพลังหยวนแล้วยังด้อยกว่ามาก

วรยุทธ์ของหลู่หมิงกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม พลังบริสุทธิ์ของหลู่หมิงเข้มข้นและแข็งแกร่งกว่าพลังบบริสุทธิ์ทั่วไปสองเท่า การจะเพิ่มขึ้นต้องใช้พลังงานมากกว่า ต้องใช้พลังงานมากกว่าพลังบริสุทธิ์ทั่วไปถึงสามเท่า

นั่นหมายความว่า หลู่หมิงต้องการพลังงานมากกว่าคนทั่วไปสามเท่าในการเพิ่มวรยุทธ์

นี่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย ความแข็งแกร่งหมายถึงต้องจ่ายมากกว่า

เมื่อกลั่นกรองยาสะสมพลังทั้งสิบเม็ดหมดแล้ว วรยุทธ์ของหลู่หมิงถึงเพิ่มจากช่วงต้นของนักรบระดับสามเป็นช่วงต้นของนักรบระดับสี่

นี่คือเงินสองหมื่นตำลึง หลู่หมิงเพิ่งเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ นับว่าฟุ่มเฟือยมาก คนอื่นไม่ไหวแน่

อย่างลูกหลานชั้นยอดของตระกูลหลู่ หนึ่งปีได้รับยาสะสมพลังแค่สองเม็ดเท่านั้น

ความเร็วระดับนี้ หลู่หมิงไม่พอใจเลย

หลังจากใช้ยาสะสมพลังสิบเม็ดหมด หลู่หมิงก็ไปศาลายาวิเศษอีก ซื้อยาสะสมพลังสามสิบเม็ดในคราวเดียว แม้จะได้ส่วนลด 10% ก็ยังต้องจ่ายถึงห้าหมื่นสี่พันตำลึงเงิน

ในทันใด เงินสิบสามหมื่นตำลึงที่หลู่หมิงได้มาจากโจรงูทราย เหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นห้าพันตำลึงแล้ว

หลังจากซื้อยาแล้ว หลู่หมิงก็ฝึกฝนต่อ

ยิ่งขั้นหลังๆ การเพิ่มวรยุทธ์ยิ่งต้องการพลังงานมากขึ้น เมื่อหลู่หมิงกลั่นกรองยาสะสมพลังทั้งสามสิบเม็ดหมด วรยุทธ์ของหลู่หมิงเพิ่งเพิ่มถึงช่วงต้นของนักรบระดับหก

หลังจากเสริมสร้างความแข็งแกร่งอีกครั้ง เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนแล้ว เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งเดือนก่อนถึงวันที่สำนักดาบเสวียนหยวนเปิดรับศิษย์

ในหนึ่งเดือนกว่านี้ หลู่หมิงเห็นผลลัพธ์มากมายจาหหารฝึห ไม่เพียงวรยุทธ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การฝึกศาสตร์การต่อสู้ก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

หมัดมังกรเพลิงและวิชาย่างเท้ามังกรงู ต่างฝึกถึงขั้นที่ห้า เข้าสู่ระดับเหนือธรรมชาติ

ส่วนวิชาดาบสายแสงซึ่งเป็นวิชาดาบระดับสูงชั้นเหลือง ก็ฝึกถึงขั้นที่สี่ เข้าสู่ระดับชำนาญ

พลังของหลู่หมิงเมื่อเทียบกับตอนประชุมตระกูลเมื่อหนึ่งเดือนครึ่งก่อน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด แต่ที่น่าตกใจที่สุดคือ ชิวเยว่

ในหนึ่งเดือนกว่านี้ ชิวเยว่อาศัย "คัมภีร์เมฆหยก" และยาเม็ดมังกรเสือ เปิดเส้นลมปราณศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงสามเส้น ทำให้หลู่หมิงและหลี่ผิงตกตะลึง

ที่หลู่หมิงเปิดเส้นลมปราณศักดิ์สิทธิ์ได้สามเส้น อาศัยคัมภีร์ระดับเทพ "คัมภีร์มังกรรบ" และสายโลหิตประหลาดที่ยังเติบโตไม่เต็มที่ แต่สายโลหิตของชิวเยว่ยังไม่ตื่น ฝึกเพียงคัมภีร์วิชาระดับต่ำชั้นเหลือง

นี่ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไร ลู่หมิงและหลี่ผิงต่างดีใจกับชิวเยว่อย่างยิ่ง

วันนี้ หลู่หมิงเตรียมออกเดินทางไปสำนักดาบเสวียนหยวน

"ท่านแม่ ธนบัตรหนึ่งหมื่นตำลึงนี้ ข้าให้ท่านเก็บไว้ใช้นะ" หลู่หมิงหยิบธนบัตรหนึ่งหมื่นตำลึงยื่นให้หลี่ผิง

"หมิงเอ๋อร์ เจ้าทำอะไร? เจ้ากำลังจะไปสำนักดาบเสวียนหยวนแล้ว ต่อไปการฝึกฝนต้องใช้เงินอีกมาก เจ้าให้แม่ทำไม? แม่อยู่ในตระกูลหลู่ ไม่ขาดอะไรหรอก" หลี่ผิงรีบผลักธนบัตรคืนให้หลู่หมิง

หลู่หมิงยิ้ม "ท่านแม่ ลูกได้โชคลาภมา ไม่ขาดเงินหรอก ท่านเก็บไว้เถอะ ค่อยๆ ใช้"

เห็นสายตาที่มั่นใจและมุ่งมั่นของหลู่หมิง หลี่ผิงจึงไม่ปฏิเสธอีก เก็บธนบัตร ขณะที่สายตามองหลู่หมิงที่ดูกระปรี้กระเปร่าตรงหน้า หลี่ผิงรู้สึกอุ่นใจและภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

ลูกชายของนาง ในที่สุดก็ประสบความความสำเร็จแล้ว

"หมิงเอ๋อร์ คราวนี้ไปสำนักดาบเสวียนหยวน ให้ชิวเยว่ไปด้วยกันเถอะ"

ครุ่นคิดสักครู่ หลี่ผิงยิ้มอ่อนโยนพูด

"คุณท่าน ถ้าข้าไป ใครจะดูแลท่านล่ะเจ้าคะ" ข้างๆ สีหน้าของชิวเยว่เปลี่ยนไป

"เด็กโง่ ตอนนี้แม่มีชุนเทาและคนอื่นอีกสี่คนไม่ใช่หรือ? ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนดูแลหรอก อีกอย่าง ด้วยพรสวรรค์ในวิถีนักรบของเจ้า หากอยู่ข้างกายข้า จะไม่เป็นการเสียของหรือ" หลี่ผิงลูบศีรษะชิวเยว่ พูดอย่างอ่อนโยน

"คุณท่าน!" ชิวเยว่จมูกสั่น น้ำตาคลอเบ้า

หลู่หมิงถอนหายใจ จริงอย่างที่ว่า ด้วยพรสวรรค์ในวิถีนักรบของชิวเยว่ หากยังอยู่ในตระกูลหลู่ต่อไป ก็เป็นการเสียของจริงๆ

หลู่หมิงก็มีความคิดนี้ อยากพาชิวเยว่ไปสำนักดาบเสวียนหยวน ดูว่าจะสามารถเข้าเป็นศิษย์ได้หรือไม่ ในสำนักดาบเสวียนหยวน อาจมีคนช่วยปลุกสายโลหิตให้ชิวเยว่ก็ได้

"เอาล่ะ หมิ่งเอ๋อร์ ฟ้าใกล้มืดแล้ว พวกเจ้าออกเดินทางได้แล้ว" หลี่ผิงพูด

"ท่านแม่ งั้นพวกข้าไปล่ะ ท่านดูแลตัวเองด้วยนะ" หลู่หมิงรู้สึกอาลัยอาวรณ์ในใจ

"ไปเถอะ ระวังตัวด้วย" หลี่ผิงยิ้มพูด

"คุณท่านต้องดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าคะ ชิวเยว่จะกลับมาเยี่ยมท่านแน่นอน" ชิวเยว่พูดด้วยน้ำตาคลอ

"ไปเถอะ!" หลี่ผิงพยักหน้า ยิ้มพูด

หลู่หมิงพยักหน้า ไม่พูดอะไรมาก พาชิวเยว่หันหลังจากไป

บางสิ่งไม่ใช่แค่พูด แต่ต้องทำ

มองแผ่นหลังของหลู่หมิงที่จากไป ดวงตาของหลี่ผิงแดงเรื่อ พึมพำเบาๆ

"หมิงเอ๋อร์ แม่เชื่อว่า เมื่อได้พบเจ้าครั้งหน้า เจ้าจะเป็นยอดฝีมือที่แท้จริงแล้ว เหมือนพ่อของเจ้า!"

ลู่หมิงพาชิวเยว่มาที่คอกม้าของตระกูลลู่ เนื่องจากชิวเยว่ไม่เคยขี่ม้า จึงจูงม้าเกล็ดเขียวตัวหนึ่งออกจากเมือง

นอกเมืองเฟิงหัว ลู่หมิงสะบัดบังเหียน ม้าเกล็ดเขียวพุ่งออกไปดั่งสายลม ทิ้งฝุ่นไว้เบื้องหลัง

ผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ ไร้ขอบเขต หลู่หมิงโอบชิวเยว่ไว้ในอ้อมอก สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเส้นผมของชิวเยว่ ควบม้าท่ามกลางฟ้าดินอันกว้างใหญ่ ทันใดนั้น ความรู้สึกอาจหาญผุดขึ้นในใจ มีความมุ่งมั่นอันยิ่งใหญ่

เมาสุราหนุนตักสาวงาม ถือดาบท่องยุทธภพ ล้างแค้นสะใจ มีคู่ชีวิตข้างกาย นี่คือความฝันของชายชาตรีทุกคน

ความฝันของชายชาตรี อยู่ในยุทธภพเสมอ

หนึ่งกาสุราขุ่น หนึ่งบทเพลงรักอาลัย หนึ่งชีวิตอันเหลิงลดา! วีรบุรุษถือดาบท่องยุทธภพ อาจหาญลุยเลือดย้อมฟ้า!

ชาตินี้ เมื่อหลู่หมิงได้รับวิหารเทพสูงสุด จึงลุกขึ้นมาได้ เช่นนั้น หลู่หมิงย่อมไม่ยอมอยู่อย่างธรรมดาสามัญ

เมืองเฟิงหัวเป็นเพียงจุดเริ่มต้น สำนักดาบเสวียนหยวนก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุด ชาตินี้ ต้องยิ่งใหญ่อลังการแน่นอน!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด