บทที่ 11: สามารถลงจากภูเขาได้หรือไม่?
บทที่ 11: สามารถลงจากภูเขาได้หรือไม่?
"ฟังเทศนางั้นเหรอ?"
"ข้าจะไปหาเทศนาจากที่ไหนมาให้เจ้ากัน!"
หลินเสวียนได้แต่พูดอย่างจนใจ!
วิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานอยากฟังการบรรยาย…หลินเสวียนสามารถเหมาจ่ายเป็นรายปีให้ได้!
วิชาดาบคลั่งสามวิถี อยากเข้าใจเจตนาดาบ…หลินเสวียนก็สามารถหาวิธีซื้อให้ได้!
แต่ที่ต้องการฟังเทศนานี่สิ
หลินเสวียนไม่รู้จะไปหาจากที่ไหนมาให้วิชาระฆังทองคำอมตะฟังได้!
สำนักเทียนเซียว, เป็นสำนักฝึกยุทธ์
ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีพระที่ฝึกตนสายพุทธอยู่ที่นี่อยู่แล้ว!
[นายท่าน!]
[พระน้อย... พระน้อย…]
วิชาระฆังทองคำอมตะที่ยังไม่สมบูรณ์ เริ่มร้องไห้ออกมา
[เจ้าเล็ก…อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้ นายท่านต้องหาวิธีช่วยเจ้าได้แน่!]
[เจ้าพิโรธน้อย รีบปลอบเจ้าเล็กหน่อยสิ!]
วิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐาน รีบพูดปลอบวิชาระฆังทองคำอมตะที่ยังไม่สมบูรณ์
[หึ…ข้าไม่ปลอบพวกไร้ค่าหรอก!]
[อีกอย่าง…มันมีแขนให้ปลอบหรือไง?]
วิชาดาบคลั่งสามวิถีพูดอย่างดูถูก
[พระน้อยไม่ใช่คนไร้ค่านะ, พระน้อยมีประโยชน์!]
[ฮึ่ม!]
เมื่อวิชาระฆังทองคำอมตะได้ยินเช่นนั้น มันจึงโต้แย้งอย่างสุดกำลัง
เห็นได้ชัดว่าวิชาระฆังทองคำอมตะที่ยังไม่สมบูรณ์โดนยั่วโมโหเข้าแล้ว!
ทันใดนั้น, หลินเสวียนรู้สึกว่าพลังปราณภายในตันเถียนของเขากำลังถูกชี้นำให้ไหลเวียนไปตามผิวหนัง
ครืนนนน!
จากนั้นในพริบตา!
หลินเสวียนก็พบว่า พลังชีวิตของเขา แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย
เเถมบนผิวหนังของเขายังมีแสงสีทองส่องประกายออกมาจางๆ
…
[วิชาระฆังทองคำอมตะที่ยังไม่สมบูรณ์ถูกกระตุ้นศักยภาพ…สำเร็จวิชาระฆังทองคำอมตะกึ่งสมบูรณ์!]
[เนื่องจากกึ่งสมบูรณ์ จึงมีพลังเพียงเจ็ดส่วนเท่านั้น]
…
กล่องข้อความอีกสองอันปรากฏขึ้นในหัวของหลินเสวียน
"แบบนี้ก็ได้เหรอ?"
หลินเสวียนมีสีหน้าแปลกประหลาดเล็กน้อย
ไม่คิดว่าคำพูดของวิชาดาบคลั่งสามวิถี…ที่มีนิสัยชอบดูถูกผู้อื่น จะทำให้วิชาระฆังทองคำอมตะฉบับไม่สมบูรณ์สามารถฝึกฝนจนสำเร็จได้!
ถึงแม้จะมีผลเพียงเจ็ดส่วน แต่สำหรับหลินเสวียน…นี่นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเเล้ว
เเละระหว่างที่ฝึกวิชาระฆังทองคำอมตะ…หลินเสวียนพบว่าระหว่างวิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานและวิชาระฆังทองคำอมตะนั้น, เกิดเป็นวัฏจักรที่ลึกลับขึ้น
วิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานดูดซับพลังปราณอย่างต่อเนื่อง…มันทำให้กลุ่มพลังปราณในตันเถียนของหลินเสวียนแข็งแกร่งขึ้น
จากนั้น, พลังปราณส่วนนี้จะถูกวิชาระฆังทองคำอมตะนำทางไปสู่ผิวหนัง…ทำให้พลังชีวิตของหลินเสวียนแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับผิวหนังของเขา!
หลังจากนั้นพลังปราณเหล่านั้นก็จะกลับคืนสู่ตันเถียนของหลินเสวียนอีกครั้ง
ด้วยวัฏจักรเช่นนี้, ทั้งบ่มเพาะพลัง และร่างกายของหลินเสวียนก็จะค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นทีละน้อย
"ข้าสามารถฝึกฝนวิชาสองอย่างพร้อมกันได้!"
ดวงตาของหลินเสวียนเป็นประกาย ราวกับพบเจอขุมทรัพย์
"นายท่าน, ท่านเห็นหรือไม่ว่าพระน้อยมีประโยชน์!"
"เเต่ตอนนี้, พระน้อยอยากฟังเทศนาเพิ่ม!"
วิชาระฆังทองคำอมตะพูดด้วยความคาดหวัง
"ฟัง!"
"ต้องได้ฟัง!"
"ข้าจะหาวิธีให้เจ้าเอง!"
หลินเสวียนสัมผัสได้ถึงประโยชน์ที่ได้รับจากวิชาระฆังทองคำอมตะ, เขาจึงพูดอย่างไม่ลังเล
"ถ้าบนเขานี้ไม่มี งั้นก็ต้องลงไปฟังที่เชิงเขา!"
"แต่ข้าไม่รู้ว่าศิษย์ฝึกหัดแบบข้าจะมีข้อกำหนดอะไรในการลงเขาหรือเปล่า"
หลินเสวียนครุ่นคิดกับตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้รีบร้อนนัก…พรุ่งนี้ค่อยถามลู่จื่อเยว่ก็คงจะได้รู้เอง
………
[วิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐาน หลังจากฝึกฝนอย่างหนักมาทั้งคืน, ระดับบ่มเพาะพลังของท่านทะลุถึงขั้นที่สองแล้ว!]
[วิชาระฆังทองคำอมตะ เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองไม่ใช่สิ่งไร้ค่า, หลังจากฝึกฝนอย่างหนักมาทั้งคืน เพิ่มพลังขึ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์…ทะลุขีดจำกัดแล้ว!]
[ผิวหนังของท่าน, บรรลุระดับทองแดงแล้ว]
[วิชาดาบคลั่งสามวิถี เนื่องจากไม่มีเจตนาดาบที่แข็งแกร่งกว่าให้เข้าใจ …เขาจึงโมโหทั้งคืน, เเละไม่มีวี่แววของวิวัฒนาการ]
…….
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลินเสวียนก็ได้เห็นกล่องข้อความอีกครั้ง
แค่หลับไปคืนเดียว ไม่เพียงแต่ระดับการบ่มเพาะพลังของหลินเสวียนจะเพิ่มขึ้นอีกขั้นเท่านั้น…เเต่แม้แต่ผิวหนังของเขาก็ยังถูกวิชาระฆังทองคำอมตะฝึกฝนจนมาถึงระดับทองแดง
ส่วนวิชาดาบคลั่งสามวิถีที่ชอบทำตัวโอ้อวด…ถึงแม้จะฝึกฝนมาทั้งคืน แต่ กลับไม่มีพัฒนาการใดๆ!
[ยังกล้ามาเรียกข้าว่าไร้ค่า, เจ้าต่างหากที่ไร้ค่า!]
เช้ามา, วิชาระฆังทองคำอมตะยั่วยุวิชาดาบคลั่งสามวิถีทันที!
[ฮึ่ม…ถ้ามีเจตนาดาบที่แข็งแกร่งกว่านี้ให้ข้าทำความเข้าใจ, ข้าคงจะเหนือกว่าพวกเจ้าไปนานแล้ว!]
วิชาดาบคลั่งสามวิถีพูดอย่างไม่พอใจ
[เจ้าจะอ้างอะไร, พระน้อยก็ไม่มีเทศนาให้ฟังเหมือนกันนะ]
วิชาระฆังทองคำอมตะโต้กลับ
[เจ้า…]
"พอได้แล้วทั้งสองคน!"
"เจตนาดาบที่แข็งแกร่งกว่านี้เดี๋ยวก็จะมีให้…รวมทั้งการเทศนาด้วย!"
หลินเสวียนยิ้มเอ่ยด้วยรอยแล้ว พรางห้ามปรามการตีกันของวิชาทั้งสอง
จากนั้น, เขาก็มองไปที่ดาบยาวที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
ผิวหนังระดับทองแดง!
หลินเสวียนอยากทดสอบดูว่าผิวหนังระดับทองแดงของเขามีพลังป้องกันแบบไหน
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเสวียนจึงชักดาบออกมา…แล้วลองกรีดเบาๆที่นิ้วมือ
ดาบยาวที่ว่ากันว่าสามารถตัดเหล็กได้ราวกับโคลน กลับทำได้เเค่ทิ้งรอยสีขาวจางๆไว้บนผิวหนังของหลินเสวียนเท่านั้น
"ดาบธรรมดาฟันไม่เข้า!"
เมื่อเห็นเช่นนั้น หลินเสวียนก็เผยรอยยิ้มแห่งความดีใจออกมา!
นี่เป็นเพียงพลังของวิชาระฆังทองคำอมตะที่ไม่สมบูรณ์เท่านั้น!
นี่ถ้าเป็นวิชาระฆังทองคำอมตะที่สมบูรณ์…พลังป้องกันของเขา จะสามารถต้านทานอาวุธวิญญาณระดับต่ำได้ใหมนะ?
จากนั้น…หลินเสวียนก็ทดสอบอย่างต่อเนื่อง จนพบขีดจำกัดของวิชาระฆังทองคำอมตะ!
ถ้าเป็นคนธรรมดาใช้อาวุธธรรมดา, พวกเขาไม่อาจทำร้ายหลินเสวียนได้
แต่ถ้าใช้พลังปราณผสานมากับอาวุธธรรมดา…มันก็ยังพอที่จะฝ่าการป้องกันของหลินเสวียนได้อยู่บ้าง!
"ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ ตราบใดที่ไม่เจอกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูง…ก็คงไม่มีใครทำร้ายข้าได้อีกเเล้ว!"
หลินเสวียนพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้… จากนั้นเขาก็ออกจากที่พักเพื่อไปหานลู่จื่อเยว่
ในเวลานี้ ลู่จื่อเยว่กำลังเก็บสมุนไพรเพื่อเตรียมส่งให้กับผู้อาวุโสฝ่ายนอก
"ศิษย์พี่ลู่ ข้าจดจำวิชาระฆังทองคำอมตะได้แล้ว…ตอนนี้ขอมอบคืนให้ท่าน"
หลินเสวียนหยิบวิชาระฆังทองคำอมตะออกมา เเล้วมอบให้กับลู่จื่อเยว่
ลู่จื่อเยว่รับคัมภีร์มาเก็บไว้ในอกเสื้อ จากนั้นก็พูดว่า
"ศิษย์น้องหลิน, เจ้ารีบมาหาข้าเเบบนี้ คงไม่ได้แค่เอาวิชามาคืนเท่านั้นใช่ไหม?"
ลู่จื่อเยวมองหลินเสวียนอย่างสงสัยเล็กน้อย
เขารู้สึกว่าหลังจากไม่ได้เจอกันแค่คืนเดียว…มันราวกับว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปในตัวหลินเสวียน
แต่จะบอกว่าเปลี่ยนไปที่ตรงไหน, ลู่จื่อเยว่ก็บอกไม่ได้
"ข้ามาหาท่านเพื่อถามว่าศิษย์ฝึกหัดแบบเราสามารถลงเขาได้หรือไม่"
หลินเสวียนถามด้วยรอยยิ้ม
"ศิษย์น้องอยากลงเขา?"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของลู่จื่อเยว่เบิกกว้างทันที!
…………………..