บทที่ 7 : ข้าต้องการเจตนาดาบ!
บทที่ 7 : ข้าต้องการเจตนาดาบ!
ตูม!
หลินเสวียนรู้สึกได้ว่าพลังปราณภายในร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
จากนั้นมันก็พุ่งทะยานเข้าสู่แขนของเขาด้วยวิธีการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
ในชั่วพริบตานั้น ออร่าของหลินเสวียนก็แหลมคมขึ้น…และบนมือที่ถือตำราลับก็ปรากฏแสงสีแดงวาบ!
เคล็ดวิชาดาบคลั่งสามวิถี!
เชี่ยวชาญในพริบตา!
อย่างไรก็ตาม, หลินเสวียนก็รีบสลายพลังของวิชาดาบคลั่งสามวิถีลงอย่างรวดเร็ว
"อ๊ะ!"
ในเวลาเดียวกัน, ศิษย์พี่หญิงรองที่กำลังจัดชั้นหนังสืออยู่ก็มองมาที่หลินเสวียนอย่างแปลกใจ
เมื่อครู่นี้เอง!
เธอรู้สึกราวกับว่ามีออร่าที่แหลมคมอย่างยิ่งปรากฏขึ้นบนตัวของหลินเสวียน…แต่เพียงเเปปเดียวออร่านั้นก็หายวับไป
"เขาคงไม่ได้เรียนรู้วิชาดาบคลั่งสามวิถีสำเร็จจริงๆใช่ไหม?"
ศิษย์พี่หญิงรองอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ…แต่สุดท้ายก็ส่ายหัว
"เป็นไปไม่ได้ที่ศิษย์ฝึกหัดธรรมดาจะเรียนรู้วิชาดาบคลั่งสามวิถีได้”
“คงเป็นข้าที่คิดไปเอง”
ในที่สุด ศิษย์พี่หญิงรองก็ละความคิดที่ไม่สมจริงนั้นออกไป
วิชาดาบคลั่งสามวิถีนั้น
แม้แต่เธอก็ยังไม่สามารถเรียนรู้ได้!
ถ้าศิษย์ฝึกหัดธรรมดาสามารถเรียนรู้ได้ด้วยการทำแค่ดูตำราลับไม่กี่ครั้ง
นั่นมันคงเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากเกินไปเเล้ว!
……..
[ว้าว! มีเด็กใหม่มาแล้ว!]
[เจ้าเป็นน้องชายหรือน้องสาวกัน]
ในขณะเดียวกัน, เสียงของวิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานก็ดังขึ้นอย่างตื่นเต้น
[ไสหัวไป!]
ดูเหมือนว่าวิชาดาบคลั่งสามวิถีจะมีนิสัยไม่ดีนัก
[ขี้เก๊กชะมัด!]
หลินเสวียนยิ้มกว้าง
บุคลิกของวิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานนั้น เหมือนกับเด็กหนุ่มที่ร่าเริงและไร้เดียงสา
ส่วนวิชาดาบคลั่งสามวิถีกลับดูเย่อหยิ่งและเย็นชา
[เด็กใหม่, รีบแนะนำตัวเองมาเร็วเข้า!]
วิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานไม่ได้โกรธ แต่กลับพูดต่อ
[ไอ้โง่!]
วิชาดาบคลั่งสามวิถีช่างเข้าหายากจริงๆ
"เอาล่ะๆ….อย่าทะเลาะกัน”
“ดาบคลั่งสามวิถี…ว่ามาสิ! เจ้าต้องการวิธีการเลื่อนระดับแบบไหน!”
หลินเสวียนไม่ได้ใส่ใจ, แต่กลับพูดจี้จุดสนใจของวิชาดาบคลั่งสามวิถี!
วิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานที่มีนิสัยร่าเริงแบบนี้…ยังปรารถนาที่จะเลื่อนระดับของตนเอง
ส่วนวิชาดาบคลั่งสามวิถีที่มีนิสัยเย่อหยิ่ง….หลินเสวียนไม่เชื่อว่ามันจะไม่อยากแข็งแกร่งขึ้น!
[เจตนาดาบ!]
[สิ่งของที่บรรจุเจตนาดาบเอาไว้!]
[ข้าต้องการเห็นสิ่งของที่บรรจุเจตนาดาบ!]
อย่างที่คิด!
ทันทีที่หลินเสวียนพูดจบ, เสียงแหบแห้งของวิชาดาบคลั่งสามวิถีก็ดังขึ้น
[นายท่าน, ข้ายังคุยกับเด็กใหม่ไม่จบเลย!]
[เอาล่ะ… ต่อไปนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่าเจ้าพิโรธน้อยก็แล้วกัน!]
วิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานนั้นเจ้าเล่ห์อย่างเห็นได้ชัด
มันจงใจยั่วให้วิชาดาบคลั่งสามวิถีโมโห
วิชาดาบคลั่งสามวิถี : "......"
"สิ่งของที่บรรจุเจตนาดาบงั้นเหรอ?" หลินเสวียนครุ่นคิดกับตัวเอง
หลินเสวียนไม่รู้ว่าสิ่งของแบบไหนถึงจะบรรจุเจตนาดาบเอาไว้ได้
แต่มันก็ไม่สำคัญ เพราะอีกสักพักเขาก็สามารถออกไปถามลู่จื่อเยว่ได้ (ศิษย์พี่รับจบ)
หลินเสวียนวางตำราในมือกลับที่เดิม….จากนั้นก็หันหลังเเละเดินออกจากเขตเก็บตำราวิชาระดับพื้นฐานขั้นต้น
"อย่างที่คิด, เขาไม่น่าจะจับใจความอะไรได้!"
ศิษย์พี่หญิงรองมองไปที่หลินเสวียนที่กำลังเดินจากไป
เห็นเขาวางตำราไวขนาดนี้, เธอยิ่งมั่นใจว่าเมื่อครู่เธอคงรู้สึกผิดไปเองจริงๆ
………..
"ศิษย์น้องหลิน เป็นไงบ้าง…เจ้าเลือกวิชาอะไรหรือ?"
ทันทีที่หลินเสวียนเดินออกมา ลู่จื่อเยว่ที่รออยู่ด้านนอกก็ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
วันนี้วันเดียว หลินเสวียนทำให้เขาได้เงินไปตั้งสามร้อยตำลึง…นี่เทียบเท่ากับรายได้เกือบหนึ่งเดือนของเขาเลยทีเดียว
แน่นอนว่าลู่จื่อเยว่ไม่มีทางทิ้งหลินเสวียนไว้คนเดียวแบบนี้แน่
"วิชาดาบคลั่งสามวิถี!" หลินเสวียนพูดพร้อมกับยิ้ม
"อะไรนะ?"
"วิชาดาบคลั่งสามวิถี?"
ทันทีที่หลินเสวียนพูดจบ, มุมปากของลู่จื่อเยว่ก็กระตุก
ส่วนชายชราที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ก็ยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันเหลือง
"ทำไมพวกท่านถึงทำสีหน้าแบบนั้นกันล่ะ?"
หลินเสวียนถามพลางเอามือลูบจมูก
"เฮ้อ วิชาดาบคลั่งสามวิถี…มันฝึกยากมากเลยนะ!"
"ข้าผิดเอง, ข้าลืมไปว่าเจ้าเพิ่งจะมาเป็นศิษย์ฝึกหัด ยังไม่มีความรู้เรื่องวิชาเลย”
“ข้าควรจะเตือนเจ้าก่อนแท้ๆ” ลู่จื่อเยว่พูดอย่างรู้สึกผิด
โดยปกติแล้ว, เหล่าศิษย์สายนอกจะไม่เลือกวิชาแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
ศิษย์แต่ละคนจะเลือกวิชาตามคุณสมบัติของตนเอง…ซึ่งไม่เพียงแต่จะฝึกฝนได้ง่ายขึ้นเท่านั้น, แต่ยังใช้ได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย
ถ้าไม่รู้จริงๆ, ก็สามารถถามศิษย์พี่ชายหรือศิษย์พี่หญิงที่ดูแลเขตเก็บตำราได้!
โดยปกติแล้วเหล่าศิษย์พี่ชายหรือพี่หญิงจะให้คำแนะนำที่เป็นกลาง
แต่ลู่จื่อเยว่ลืมไปว่าหลินเสวียนเพิ่งเข้าสำนักมาได้แค่วันเดียว…เขาจะไปรู้อะไรได้ยังไง?
ยิ่งไปกว่านั้น, ลู่จื่อเยว่คิดไม่ถึงเลยว่า ในบรรดาวิชาทั้งหมด…หลินเสวียนจะเลือกวิชาที่ยากที่สุด!
"เจ้าหนู…วิชาใดๆก็ตามเมื่อเลือกไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนคืนได้!"
ชายชราหลังเคาน์เตอร์พูดด้วยท่าทางเหมือนพ่อค้า
"ข้าไม่เปลี่ยนอยู่เเล้ว!" หลินเสวียนส่ายหัว
ในเมื่อเขาเรียนรู้วิชาดาบคลั่งสามวิถีได้แล้ว…เขาจะเปลี่ยนไปทำไม?
"ศิษย์พี่ลู่, รบกวนไปถามหน่อยว่ายังมีวิชาอื่นอีกไหม ข้าอยากได้อีกสักเล่มหนึ่ง!" หลินเสวียนพูดพร้อมรอยยิ้ม
"ยังจะเอาอีกเหรอ?" ในตอนนี้ลู่จื่อเยว่ยังคงจมอยู่กับความรู้สึกเสียดายเงินสามร้อยตำลึงของหลินเสวียน
ลู่จื่อเยว่ถือว่าหลินเสวียนเป็นเพื่อนไปแล้ว, เขาจึงรู้สึกราวกับว่าเงินสามร้อยตำลึงของตัวเองหายไป…เมื่อเห็นหลินเสวียนเลือกวิชาดาบคลั่งสามวิถี!
"อืม!" หลินเสวียนพยักหน้า
"งั้นแบบนี้ดีกว่า, ศิษย์น้องหลิน"
"ข้าจะแนะนำเจ้าให้รู้จักกับท่านผู้อาวุโส, ถ้าได้ร่วมงานกันแบบระยะยาว ราคาคงจะถูกลงอีกหน่อย!" ลู่จื่อเยว่พูดขึ้นอย่างกะทันหัน
เมื่อได้ยินดังนั้น, ดวงตาของชายชราหลังเคาน์เตอร์ก็เป็นประกาย!
ก่อนหน้านี้เขาเห็นหลินเสวียนให้เงินลู่จื่อเยว่ไปห้าร้อยตำลึง
แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้!
เดิมทีนี่ก็เป็นเงินที่ลู่จื่อเยว่หาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าวิชาเหล่านี้จะขายได้เท่าไหร่…เขาก็จะได้ส่วนแบ่งอยู่แล้ว
สิ่งที่ชายชราสนใจคือ, หลินเสวียนดูเหมือนจะเป็นคนไม่ขาดแคลนเงินทอง!
ถ้าหากสามารถร่วมงานกันแบบระยะยาวได้… เท่ากับว่าเขามีแหล่งรายได้ที่มั่นคง ซึ่งจะทำให้เขาได้รับผลประโยชน์มากมายในปีนี้
"ไม่ต้องหรอก!" แต่หลินเสวียนกลับปฏิเสธ
"ถ้าข้าข้ามหน้าข้ามตาศิษย์พี่, แบบนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับการลืมบุญคุณกัน"
ครอบครัวของหลินเสวียนทำธุรกิจ….สิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จก็คือความซื่อสัตย์
"ศิษย์พี่, เงินที่พี่ควรจะได้ ก็ให้พี่เป็นคนได้ไปเถอะ…ข้าหลินเสวียนไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้น!"
คำพูดธรรมดาๆ ไม่กี่ประโยคของหลินเสวียน ทำให้หัวใจของลู่จื่อเยว่สั่นสะท้าน
เขามองหลินเสวียนด้วยความซาบซึ้งใจ!
สถานะของลู่จื่อเยว่ในสำนักเทียนเซียวนั้นจัดว่าอยู่ระดับล่างสุด…การเอาตัวรอดของเขาก็คือการรู้จักวางตัว
ลู่จื่อเยว่นั้นเป็นคนจน!
ตอนที่เขาจ่ายค่าสมัครหนึ่งพันตำลึงเมื่อปีก่อน, ครอบครัวของเขาต้องใช้เงินเก็บทั้งหมด รวมถึงไปขอยืมเงินญาติพี่น้องทุกคนกว่าจะได้มา
ทุกคนหวังว่าลู่จื่อเยว่จะประสบความสำเร็จ!
ตั้งแต่วันที่เขาก้าวเข้ามาในภูเขา, เขาจึงพยายามทำทุกอย่าง
อย่างไรก็ตาม, ถึงเเม้ว่าเขาจะรู้จักผู้คนมากมาย….แต่มีน้อยคนนักที่จะเห็นคุณค่าของเขาจริงๆ
ดังนั้น, ลู่จื่อเยว่ที่เป็นศิษย์สายนอกธรรมดาๆ…จึงมักจะถูกคนอื่นเรียกใช้ไปทั่ว
แต่วันนี้เขาได้รับสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุดจากหลินเสวียนเเล้ว
นั่นก็คือศักดิ์ศรี
แม้ว่าศักดิ์ศรีนี้จะมอบมาให้โดยศิษย์ฝึกหัดธรรมดาๆ….แต่มันก็ทำให้ลู่จื่อเยว่ซาบซึ้งใจอย่างมาก!
ชายชราที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ก็มองหลินเสวียนอย่างครุ่นคิด
"ตกลง!"
"ศิษย์พี่จะไปถามให้เจ้า!"
ลู่จื่อเยว่สงบสติอารมณ์อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อสอบถามผู้อาวุโส
…………………..