บทที่ 5: ตามหาวิชาที่สอง!
บทที่ 5: ตามหาวิชาที่สอง!
"อะไรนะ?"
ลู่จื่อเยว่ถึงกับสะดุ้งกับคำพูดของหลินเสวียน!
ไม่ว่าจะเป็นสำนักไหน ล้วนแล้วแต่ ควบคุมวิชาลับและวิชาบ่มเพาะพลังอย่างเข้มงวด
ยกตัวอย่างเช่นสำนักเทียนเซียว!
ศิษย์ฝึกหัดจะได้รับวิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานเท่านั้น
และการที่จะได้วิชาการต่อสู้หรือวิชาอื่นๆ…นั่นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาบ่มเพาะพลัง!
เพราะถึงแม้ว่าจะผ่านการประเมิน, จนกลายเป็นศิษย์สายนอกแล้ว
นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า…เจ้าจะได้รับวิชาบ่มเพาะพลังที่ระดับสูงกว่านี้
ต้องทำผลงาน!
วิชาบ่มเพาะพลังระดับไหนที่เจ้าจะได้รับล้วนขึ้นอยู่กับผลงานที่ทำให้กับสำนัก
เคยมีศิษย์สายนอกคนหนึ่งที่ร่ำรวยมหาศาล!
เเละเพื่อที่จะได้วิชาบ่มเพาะพลังระดับสูง…เขาต้องยอมสละทรัพย์สมบัติเกือบครึ่งหนึ่งของตนเองเพื่อที่จะได้มา
จากสิ่งนี้, จะเห็นได้ว่าสำนักให้ความสำคัญกับการควบคุมวิชาบ่มเพาะพลังมากแค่ไหน!
เพราะการควบคุมวิชาบ่มเพาะพลังอย่างเข้มงวด…ถือเป็นการรักษารากฐานของสำนัก
เพราะมันเคยมีเหตุการณ์ที่ศิษย์แข็งแกร่งขึ้น…จากนั้นก็ใช้วิชาบ่มเพาะพลังที่เรียนรู้จากสำนักไปก่อตั้งสำนักของตนเอง และสุดท้ายก็กลับมากลืนกินสำนักของอาจารย์!
ส่วนวิชาการต่อสู้และวิชาลับแม้ว่าจะไม่เข้มงวดเท่า…แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเรียนรู้ได้ง่ายๆ
สำนักห้ามปรามอย่างเด็ดขาดเรื่องไม่ให้ศิษย์ถ่ายทอดวิชาให้เเก่กัน!
ยิ่งไปกว่านั้น หลินเสวียนเพิ่งเข้าสำนักมาได้แค่เพียงวันเดียว…คาดว่าเขายังคงยังท่องวิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานไม่จบด้วยซ้ำ
เเล้วเขาจะเอาวิชาบ่มเพาะพลังหรือวิชาลับอื่นๆไปทำไม?
ลู่จื่อเยว่คิดแล้วคิดอีก…จากนั้นจึงพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ
"ศิษย์น้องหลิน เรื่องนี้มันทำให้ศิษย์พี่ลำบากใจจริงๆ!"
"ลำบากใจ?"
"นั่นหมายความว่า…ทำได้งั้นเหรอ?"
เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเสวียนก็เป็นประกาย
เขาดูท่าทางของลู่จื่อเยว่แล้ว…ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะพอทำได้
"ศิษย์น้องหลิน เจ้าต้องบอกข้าก่อนว่าเจ้าจะเอาไปทำอะไร?"
"อย่าบอกนะว่าเจ้าคิดจะขโมยไปขาย?"
"อย่าหาว่าศิษย์พี่ไม่เตือนเจ้านะ, เจ้าเลิกคิดเรื่องนี้ซะ"
"อย่างแรกเลย ต้นฉบับของวิชาพวกนั้นเจ้าไม่มีทางเอาไปได้…ต่อให้เอาไปได้ก็จะถูกผู้เชี่ยวชาญของสำนักตามล่าทันที!"
"ถึงตอนนั้น, ชีวิตของเจ้าจะน่าเอน็จอนาถยิ่งกว่าตายเสียอีก!"
ลู่จื่อเยว่แสดงสีหน้าจริงจังออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ศิษย์พี่ ท่านคิดมากเกินไปแล้ว!"
หลินเสวียนรู้ว่าลู่จื่อเยว่กำลังคิดอะไรอยู่…เขาจึงอดหัวเราะออกมาไม่ได้
บทเรียนของศิษย์พี่หญิงรองจะมีแค่สองวันต่อครั้ง!
ตอนนี้การเลื่อนระดับของวิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานคงต้องพักไว้ก่อน
เเค่ปล่อยให้มันฝึกฝนตนเอง…ระดับการฝึกยุทธ์ของเขาก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้น
ในเวลาเเบบนี้, หลินเสวียนจึงอยากจะเรียนรู้วิชาอื่นๆเพิ่มเติม!
ไม่ว่าจะเป็นวิชา, หรือวิชาลับ…ถ้ามีติดตัวไว้บ้างย่อมเป็นเรื่องดี
"ถึงข้าจะเริ่มฝึกฝนได้ไม่นาน"
"เเต่ข้าก็เคยได้ยินมาว่า ถ้าผู้ฝึกยุทธ์ได้เรียนรู้วิชาหรือวิชาลับ…ก็จะมีพลังที่ไม่ธรรมดา”
“ข้าเลยรู้สึกคันไม้คันมืออยากลองศึกษาดูบ้าง!”
หลินเสวียนกล่าวข้ออ้างที่เขาเตรียมไว้
"หืม….แค่นั้นเองเหรอ?"
ลู่จื่อเยว่ถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง
แต่พอคิดดูดีๆแล้ว มันก็สมเหตุสมผลดี
ศิษย์ที่เพิ่งเริ่มฝึกฝนใหม่ๆ ใครบ้างที่ไม่อยากมีพลังพิเศษที่เหาะเหินเดินอากาศได้?
ตัวเขาเองก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อนไม่ใช่หรือ?
"ศิษย์น้องหลิน ถ้าเป็นแบบนั้น, มันไม่คุ้มค่ากับเงินทองที่เสียไปหรอก"
"ตอนนี้เจ้าเพิ่งจะเริ่มฝึกฝน…ถึงแม้ จะได้วิชาพวกนั้นไป เจ้าก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี!"
"สู้ตั้งใจฝึกฝนวิชาฝึกปรานขั้นพื้นฐานไปก่อน, เมื่อเจ้ากลายเป็นศิษย์สายนอกอย่างเป็นทางการแล้ว…ทางสำนักจะให้เจ้าเลือกวิชาได้สองอย่างเอง!"
ลู่จื่อเยว่เห็นแก่เงินหนึ่งร้อยตำลึงที่หลินเสวียนให้มา, เขาจึงเตือนด้วยความจริงใจ
"สิ่งที่ศิษย์พี่ลู่พูดก็ถูก, แต่ข้าถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก…อยากได้อะไรก็ต้องได้”
“ข้าอยากได้วิชาพวกนั้นจนใจจะขาด…ตอนนี้ข้านอนไม่หลับเลย!” หลินเสวียนอ้างเหตุผลผสมปนเปไปหมด
"เรื่องนี้..." ลู่จื่อเยว่ลังเลเล็กน้อย!
หลินเสวียนนั้นดูก็รู้ว่ามาจากครอบครัวร่ำรวย
ดังนั้น, สิ่งที่เขาพูดจึงดูสมเหตุสมผลมาก
"ศิษย์พี่ลู่ ข้ามีข้อเสนอ!"
"ถ้าท่านช่วยข้าได้ นอกจากค่าใช้จ่ายแล้ว….ข้าจะมอบเงินให้ท่านอีกหนึ่งร้อยตำลึงเป็นการตอบแทน!"
เมื่อหลินเสวียนเห็นท่าทีของลู่จื่อเยว่เริ่มอ่อนลง, เขาจึงเอ่ยข้อเสนออย่างใจกว้าง
เมื่อได้ยินดังนั้น สายตาของลู่จื่อเยว่ก็เป็นประกาย
หนึ่งร้อยตำลึงเงิน!
เขาต้องทำงานหนัก ช่วยผู้อาวุโสชั้นนอกจัดการสมุนไพร…วิ่งวุ่นให้กับศิษย์พี่คนอื่นๆกว่าจะได้เงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินเเบบนี้มา
"ตกลง!" ลู่จื่อเยว่ตอบตกลงอย่างง่ายดาย
"เรื่องเงินทอง มันไม่สำคัญ…ที่สำคัญคือข้าเห็นว่าเราเป็นพี่น้องกัน!" (หรอออ)
"แต่ต้องบอกก่อนนะว่าทั้งวิชาบ่มเพาะพลังและวิชาลับนั้นเป็นไปไม่ได้….เจ้าเลือกได้แค่วิชาการต่อสู้เท่านั้น!"
"และเจ้าต้องสัญญาว่าจะไม่เผยแพร่วิชาที่จดจำได้ ให้กับคนอื่นเด็ดขาด!"
ลู่จื่อเยว่จ้องมองหลินเสวียนอย่างจริงจัง
"ข้าสัญญาด้วยชีวิตของข้า!" หลินเสวียนพูดอย่างมั่นใจ
"งั้นตามข้ามา!"
เมื่อพูดจบ, ลู่จื่อเยว่ก็พาหลินเสวียนไปยังที่พักของศิษย์สายนอก
ระหว่างทางลู่จื่อเยว่ก็เล่าวิธีการคร่าวๆให้หลินเสวียนฟัง
ศิษย์ฝึกหัดทุกคน หลังจากเลื่อนขั้นเป็นศิษย์สายนอกแล้วจะสามารถเลือกวิชาระดับพื้นฐานขั้นต้นได้สองอย่าง!
แต่หลายคนมักจะเลือกเพียงอย่างเดียวก่อน!
เพราะส่วนใหญ่, คนโลภมากมักลาภหาย!
เรียนทีละอย่าง, จะเรียนรู้ได้รวดเร็วกว่า!
แน่นอนว่ามีคนบางส่วนที่จงใจเก็บโควต้าเลือกวิชาไว้อย่างหนึ่ง…เพื่อนำไปขาย
แน่นอนว่าการที่จะขายได้ ต้องมอบผลประโยชน์ให้กับผู้อาวุโสที่ดูแลหอคัมภีร์ของชั้นนอกเสียก่อน
เพราะยังไงก็ต้องเรียนในสายตาของผู้อาวุโสที่ดูแลหอคัมภีร์
อีกอย่าง, วิชาระดับพื้นฐานขั้นต้น…ใครเรียนไปก็ไม่เสียหายต่อสำนัก!
แม้ว่าผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆจะไม่มากนัก….แต่พอสะสมนานเข้า, มันก็สามารถกลายเป็นรายได้ก้อนโตได้!
เเละเรื่องพวกนี้, ฝ่ายขายจะเป็นคนจัดการเอง
โดยพวกเขาจะนำโควต้าไปฝากขายไปไว้กับผู้อาวุโสที่ดูแลหอคัมภีร์
หลังจากนั้นไม่นาน
ลู่จื่อเยว่ก็พาหลินเสวียนมาถึงหอคัมภีร์ของชั้นนอก!
"ศิษย์น้องหลิน รอสักครู่นะ!"
หลังจากมาถึงหอคัมภีร์แล้ว ลู่จื่อเยว่ก็เดินไปที่เคาน์เตอร์…เเละพูดคุยกับชายชราที่อยู่หลังเคาน์เตอร์อย่างแผ่วเบา
ชายชราเหลือบมองหลินเสวียนเป็นครั้งคราว จากนั้นทั้งสองก็ทำสัญญาณมือกันเล็กน้อย…เเล้วลู่จื่อเยว่ก็เดินกลับมา
"เรียบร้อยแล้ว!"
"วิชาระดับพื้นฐานขั้นต้น, ราคาสามร้อยตำลึงเงิน…แต่มีเวลาให้จดจำแค่หนึ่งชั่วยามเท่านั้น!"
"ต่อให้เรียนรู้ไม่ได้…ก็ต้องออกมา!"
"ราคานี้ยุติธรรมมากแล้ว ปกติมาครั้งแรกต้องจ่ายห้าร้อยตำลึงเงิน”
“สามร้อยตำลึงเงินนี่เป็นราคาสำหรับลูกค้าประจำ” ลู่จื่อเยว่พูดด้วยเสียงเบา
"คุ้มค่ามาก!"
หลินเสวียนพยักหน้า จากนั้นก็หยิบธนบัตรห้าร้อยตำลึงออกมาเเล้วยื่นให้ลู่จื่อเยว่
"ศิษย์พี่ลู่, สามร้อยตำลึงเงินเป็นค่าวิชา ส่วนอีกสองร้อยตำลึงเงินเป็นรางวัลให้ศิษย์พี่!"
จริงอยู่, ที่ตกลงกันไว้ว่าจะให้รางวัลหนึ่งร้อยตำลึงเงิน
แต่ลู่จื่อเยว่สามารถต่อรองราคาลงมาได้….นั่นเป็นความสามารถของเขา
น้ำใจเล็กๆน้อยๆแบบนี้ หลินเสวียนก็ย่อมมีอยู่บ้าง
ยิ่งไปกว่านั้น ลู่จื่อเยว่เป็นคนมีประสบการณ์เเละฉลาด…เงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินที่ให้เพิ่ม หลินเสวียนถือว่าเป็นการผูกมิตร
ในอนาคต, เขาจะได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
"งั้นข้าไม่เกรงใจนะ!"
"เอาล่ะ…ข้าจะพาเจ้าไปจ่ายเงินเอง!"
ลู่จื่อเยว่พาหลินเสวียนไปที่เคาน์เตอร์และช่วยเขาจ่ายเงิน
"นี่คือป้ายอณุญาติ!"
"เจ้าถือป้ายนี้ไปที่โซนวิชาระดับพื้นฐานขั้นต้นเเละเลือกวิชาได้เลย!"
ชายชรารับเงินมา…จากนั้นก็โยนป้ายให้หลินเสวียนหนึ่งอัน!
………………..