บทที่ 126 ตายอย่างอนาถ
หลัวเฉิงสังเกตพบว่า คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับกลางขึ้นมา และมีเพียงยี่สิบหรือสามสิบคนเท่านั้น ที่ได้ปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับต่ำสามดาว!
แต่ทว่า ในวิญญาณยุทธ์จำนวนมากเหล่านี้ กลับไม่มีวิญญาณยุทธ์ใดที่ต่ำกว่าระดับสาม!
ไม่น่าแปลกใจนัก ด้วยกฎเข้มงวดของสำนัก จึงไม่มีผู้ฝึกยุทธ์คนใดที่มีวิญญาณยุทธ์ระดับหนึ่งหรือสองดาวเข้าร่วมการทดสอบของสำนักซวนหยวน
หรือต่อให้มี พวกเขาก็คงถูกคัดออกในด่านทดสอบแรกของหุบเขาเหลียนซิน
ด้วยเหตุนี้ หลัวเฉิงจึงเป็นเพียงอีกาในฝูงหงส์เท่านั้น
ในบรรดาวิญญาณยุทธ์มากมาย วิญญาณยุทธ์เก้าดาวนั้นเป็นระดับสูงสุด หากนับรวมกับถัวป้าเลี่ยแล้ว ก็มีทั้งหมดสี่คน
แต่สิ่งที่ทำให้หลัวเฉิงประหลาดใจยิ่งกว่าผู้ใดคือหลิงซูหลัน เพราะเขาเองก็ได้ปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับเก้าดาวขึ้นมาเช่นเดียวกัน!
มันเป็นกระบี่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอันเย็นยะเยือก ซึ่งภายในมีแสงแห่งดวงดาวเก้าดวงจรัสอยู่
นอกจากหลัวเฉิงแล้ว ผู้คนโดยรอบก็ต่างจับจ้องยังหลิงซูหลันและอีกสามคน ด้วยดวงตาที่ริษยายิ่ง
วิญญาณยุทธ์ระดับเก้าดาว นับเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในสำนักซวนหยวน พวกเขาจะได้รับการฝึกฝนอย่างจริงจัง หากโชคดี ก็อาจได้รับการยอมรับเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสฝ่ายใน! ภายหน้า การทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับ หรือแม้แต่ขั้นก่อเกิดชีพจรก็หาใช่อุปสรรคแต่อย่างใด!
ผู้อาวุโสเฉินซวนมีความสุขมากในยามนี้ ซึ่งการทดสอบที่ผ่านมาก่อนหน้า เป็นการยากที่จะหาอัจฉริยะที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับเก้าดาวได้ แต่ครั้งนี้กลับมีมากถึงสี่คนพร้อมกัน!
ผู้อาวุโสเฉินซวนระงับอารมณ์ตื่นเต้นในใจให้สงบ แล้วประกาศเริ่มการทดสอบที่สาม
เมื่อเทียบกับการทดสอบที่สองซึ่งทุกคนผ่านมาได้ แต่การจะสำเร็จในด่านทดสอบที่สามนับว่าเป็นเกณฑ์ที่โหดร้ายนัก
จากตอนแรกมีผู้เข้าทดสอบมากถึงห้าร้อยคน แต่ท้ายที่สุดก็มีเพียงร้อยคนเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบ
ซึ่งนั่นหาใช่เรื่องแปลก แม้แต่ปรมาจารย์วรยุทธระดับหนึ่งดาวก็สามารถเข้าใจเคล็ดวิชาได้ภายในเวลาครึ่งชั่วยาม แต่การจะนำมันไปใช้ต่อสู้จริงนั้นเป็นอีกเรื่อง จึงนับว่าไม่ง่ายนักที่จะผ่านเกณฑ์การทดสอบนี้
เมื่อการทดสอบทั้งหมดสิ้นสุดลง บ้างก็แสดงสีหน้ามีความสุขสำราญ บ้างก็ตรอมตรมเสียใจ
ผู้ที่ไม่อาจผ่านเกณฑ์การทดสอบที่สามได้ ต่างทอดถอนใจ
อย่างไรเสีย แม้พวกเขาจะไม่อาจผ่านเกณฑ์การทดสอบที่สามได้ พวกเขาก็ยังคงเป็นศิษย์บำรุงสำนักซวนหยวนได้อยู่ดี
แต่กระนั้น ฐานะของศิษย์บำรุงสำนักและศิษย์ฝ่ายนอก กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ศิษย์บำรุงสำนักมีสถานะต่ำสุดในสำนักซวนหยวน ไม่เพียงแต่พวกเขามีทรัพยากรที่ใช้สำหรับฝึกฝนน้อยเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องทำงานจิปาถะของสำนักและต้องหมั่นฝึกฝนอีกด้วย
หากพวกเขาไม่อาจทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับได้ภายในสามปี พวกเขาจะถูกขับออกจากสำนักซวนหยวนทันที!
เช่นนั้นแล้ว ก็หาได้มีผู้ใดถอนตัวแม้แต่คนเดียว
เนื่องจาก การเป็นศิษย์บำรุงสำนักซวนหยวน ก็ยังเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันหาเช่นกัน
“หลัวเฉิง เจ้าต้องมาที่ประตูสำนักนอกให้ได้ล่ะ” ถัวป้าเลี่ยมาบอกลาหลัวเฉิง
ลูกศิษย์ฝ่ายนอกและลูกศิษย์บำรุงสำนัก อาศัยอยู่กันคนละพื้นที่
หลัวเฉิงแย้มยิ้มกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ภายในห้าเดือน ข้าจะกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกอย่างแน่นอน”
นี่เพิ่งผ่านมายังไม่ถึงเดือนนับแต่เขาทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ หลัวเฉิงจึงมั่นใจว่าเขาสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับได้ภายในสามเดือน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาตระหนักได้ว่า ระดับพลังยุทธ์มันจะทะลวงยากขึ้นเรื่อยๆ หลัวเฉิงจึงเพิ่มเวลาเป็นห้าเดือน
“ห้าเดือนงั้นรึ?”
ถัวป้าเลี่ยผงะตกตะลึงไปครู่ เขาไม่คิดเลยว่าหลัวเฉิงจะมั่นใจขนาดนี้ จึงหัวเราะเต็มเสียงพลางกล่าวว่า “ดี ข้าจะรอเจ้าที่นั่น!”
เมื่อได้ยินการสนทนาระหว่างทั้งสอง บรรดาคนที่อยู่ข้างๆ ก็แสดงสีหน้าเย้ยหยันใส่หลัวเฉิง
ในสำนักซวนหยวนแห่งนี้ มีศิษย์บำรุงสำนักเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถเลื่อนฐานะตนเป็นศิษย์ฝ่ายนอกของสำนักได้ภายในเวลาสามปี!
แล้วคนไร้ค่าที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมาอย่างเขา กลับอ้างว่าจะทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับภายในห้าเดือน ช่างเป็นคนที่อวดดีอย่างไม่รู้จักประมาณตนเสียจริง!
ฮ่า! ฮ่า!
ระหว่างนั้นเอง ก็มีเสียงหัวเราะเย้ยหยันดังขึ้นกะทันหัน
ซึ่งเจ้าของเสียงเมื่อครู่คือฉินหยวนเฟิง
เขากลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกของสำนักได้สำเร็จ จึงมองหลัวเฉิงด้วยท่าทางของผู้เหนือกว่าแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คิดจะมาเป็นศิษย์ฝ่ายนอกภายในห้าเดือน เป็นข้าคงมิกล้ากล่าววาจาที่น่าอับอายเช่นนี้แน่!”
ถัวป้าเลี่ยขมวดคิ้วกล่าวว่า “เขาเป็นใคร”
หลัวเฉิงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “มันก็แค่หมาบ้าตัวหนึ่ง”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของฉินหยวนเฟิงก็มืดลงในแววตาเปล่งประกายด้วยเจตนาฆ่า แต่ทันใดก็ระงับอารมณ์แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มอำมหิต
“จวบกระทั่งตอนนี้เจ้ายังกล้าอวดดีอีก เยี่ยม ในเมื่อเจ้าบอกว่าจะกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกในเวลาห้าเดือน แต่ข้าจะบอกให้เจ้าได้รู้ ไม่เพียงเจ้าจะไม่อาจเป็นศิษย์ฝ่ายนอกได้เท่านั้น แต่เจ้ายังจะตายอย่างน่าอนาถอีกต่างหาก!”