ตอนที่แล้วบทที่ 124 ข้อตกลงสองปี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 126 ตายอย่างอนาถ 

บทที่ 125 ความสัมพันธ์ 


ในที่สุดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยแรงกดดันก็สงบลง

แต่เมื่อเห็นว่าหลัวเฉิงกลายเป็นศิษย์บำรุงสำนัก ทุกคนที่เข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ ก็ต่างโห่ร้องด้วยความไม่พอใจ

นั่นก็เพราะว่า ไฉนคนไร้ค่าที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมา กลับสามารถเข้าสู่สำนักซวนหยวนได้กัน

บ้างก็ริษยา บางคนก็แสดงความประหลาดใจ แต่ส่วนใหญ่ล้วนดูถูกเหยียดหยาม!

ใครก็ตามที่มีแววตาเฉียบแหลมจะเห็นว่า ที่หลัวเฉิงสามารถเข้าร่วมกับสำนักซวนหยวนได้ก็เป็นเพราะป้ายหยกนั้น

หลินหานคงยิ่งไม่เต็มใจกว่าใครทั้งมวล แต่เขาก็มิกล้ากล่าวเลยค้านแต่อย่างใด เขาจ้องยังหลัวเฉิงด้วยสายตาอาฆาตมาดร้ายพลางกำหมัดกระชับแน่น

เนื่องจาก แผนที่วางไว้เพื่อล้างแค้นแทนวงศ์ตระกูลใกล้บรรลุแล้ว แต่ในเสี้ยวลมหายใจสุดท้าย มันกลับล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า!

ลูกศิษย์ฝ่ายนอกที่ยืนเคียงอยู่ใกล้ๆ พวกเขาได้เห็นท่าทางเช่นนั้นของหลินหานคง จึงกล่าวว่า

“ศิษย์น้องหลินไม่ต้องกังวลไป ที่เขาเข้าร่วมสำนักได้มิใช่เรื่องเลวร้าย เพราะนั่นมิเท่ากับว่าเขาอยู่ในกำมือเจ้าหรอกหรือ ในอนาคตย่อมมีโอกาสอีกมากที่จะสังหารเขา”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของหลินหานคงก็เบิกกว้างเปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง

ฉินหยวนเฟิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ก็มีความคิดเฉกเช่นเดียวกันมิผิดเพี้ยน

เมื่อมองหลัวเฉิงจากทางด้านหลัง ฉินหยวนเฟิงก็กัดฟันตะคอกในลำคออย่างเย็นชา “เจ้าจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบได้เพียงสองสามวันเท่านั้น แล้วข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่า การเข้าสู่สำนักซวนหยวนเป็นจุดเริ่มต้นฝันร้ายของเจ้า!”

หลัวเฉิงเดินเข้าไปหาถัวป้าเลี่ยแล้วกล่าวขอบคุณ “เมื่อครู่นี้ต้องขอบคุณเจ้ามาก หากเจ้าต้องการให้ช่วยเหลืออะไรในอนาคต ก็ขอเพียงเอ่ยบอกเท่านั้น”

หลัวเฉิงเองก็ไม่คิดเลยว่า ท่ามกลางสถานการณ์เลวร้ายเช่นนั้น แต่ถัวป้าเลี่ยกลับยืนหยัดแล้วออกตัวแทนเขา

ถัวป้าเลี่ยแย้มยิ้มออกกว้างอย่างร่าเริงพลางกล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้าแค่ทนไม่ไหวเท่านั้น พวกเขาไม่ต่างอันใดจากขยะไร้ค่า ตามความคิดข้าพวกเขาล้วนไม่อาจเทียบเจ้าได้แม้แต่น้อย!”

ตามความเห็นของถัวป้าเลี่ย ความเข้าใจของหลัวเฉิงที่ไปถึงขั้นหัวใจกระบี่เพียงอย่างเดียวนั้น ก็ถือว่ามีความสามารถสูงกว่าหลินหานคงและคนอื่นๆ จนพวกเขามิอาจเทียบได้

ครั้นสังเกตเห็นป้ายหยกในมือของหลัวเฉิง ถัวป้าเลี่ยจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “ป้ายหยกนี้คืออะไร? มันมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดางั้นหรือ?”

หลิงซูหลันซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ไม่ห่างนักกล่าวว่า “นี่คือสัญลักษณ์ศิษย์หลักของสำนักซวนหยวน อวิ๋นเหมิงลี่ ในสำนักซวนหยวนแห่งนี้ นางเป็นผู้มีแนวโน้มมากสุดที่จะกลายเป็นศิษย์ที่แท้จริงของสำนัก และตัวตนของนางนั้นไม่ธรรมดา หลัวเฉิงเจ้ามีความสัมพันธ์อันใดกับอวิ๋นเหมิงลี่งั้นหรือ”

หลิงซูหลันมองหลัวเฉิงด้วยดวงตาที่แสดงถึงความจริงจัง

“ข้าเพิ่งเคยพบนางเพียงสองครั้งเท่านั้น”

หลัวเฉิงกล่าวตามความจริง

“เพิ่งเจอกันสองครั้ง...”

ดวงตาของหลิงซูหลันเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เท่าที่เขารู้ ลักษณะนิสัยของอวิ๋นเหมิงลี่ นางมักจะใช้ชีวิตอย่างสันโดษ

แต่เนื่องจากหลัวเฉิงแสดงป้ายหยกประจำตัวของอวิ๋นเหมิงลี่ออกมา หลิงซูหลันจึงคิดว่าหลัวเฉิง และอวิ๋นเหมิงลี่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่านั้น

ในเวลานี้ ผู้อาวุโสเฉินซวนก็เริ่มประกาศแนวทางการทดสอบต่อไป

ทั่วทั้งหุบเขาที่เต็มไปด้วยเสียงสนทนามากมาย ก็ชะงักขาดเงียบสงัดลงกะทันหัน

นอกเหนือจากการทดสอบในหุบเขาเหลียนซินแล้ว ยังเหลือการทดสอบอีกสองครั้งในการเข้าสู่สำนักซวนหยวน

การทดสอบที่สองคือระดับวิญญาณยุทธ์ เฉพาะผู้ที่มีวิญญาณยุทธ์ระดับสามดาวขึ้นไปเท่านั้น จึงจะสามารถเข้าสู่การทดสอบที่สามได้

การทดสอบที่สามคือการทดสอบความสามารถของแต่ละบุคคล ซึ่งต้องสามารถเข้าใจวรยุทธระดับหนึ่งดาวภายในเวลาครึ่งชั่วยาม แล้วใช้วรยุทธที่ได้เรียนรู้มาต่อสู้กับสัตว์อสูร และดูการใช้วรยุทธต่อสู้จริงว่าสามารถพัฒนาบุคคลนี้ไปได้อีกหรือไม่

การทดสอบที่สาม เน้นในเรื่องความเพียรทางจิตของผู้ฝึกยุทธ์ แม้พรสวรรค์ในวิญญาณยุทธ์จะสำคัญมากก็ตาม แต่ความเข้าใจวรยุทธก็สำคัญไม่แพ้กันนัก!

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่วิญญาณยุทธ์อยู่ในระดับสามดาวขึ้นไป ต่อให้ล้มเหลวในด่านการทดสอบที่สาม ก็ยังสามารถเป็นศิษย์บำรุงสำนักซวนหยวนได้อยู่ดี

เท่านี้ก็เห็นได้แล้วว่า สำนักซวนหยวนให้ความสำคัญต่อระดับวิญญาณยุทธ์มากขนาดไหน

อาจกล่าวได้ว่า ระดับของวิญญาณยุทธ์นั้นเป็นสิ่งสำคัญสุดในการทดสอบทั้งหมดก็ไม่ผิด

หลัวเฉิงไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการทดสอบเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงเฝ้ามองความตื่นเต้นนี้จากด้านข้างของสนามทดสอบ

ในไม่ช้า การทดสอบที่สองก็เริ่มขึ้น

ม่านสีฟ้าขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในหุบเขา พร้อมกับการสั่นสะเทือนที่รุนแรง

ใครก็ตามที่สัมผัสกับม่านแสงสีฟ้า จะต้องปลดปล่อยวิญญาณยึดของตนอย่างไม่อาจควบคุมได้

ทันใดนั้น แสงสว่างและกลิ่นอายทุกประเภทก็สาดส่องทั่วหุบเขา ด้วยวิญญาณยุทธ์ที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากแต่ละคน

วิญญาณยุทธ์เหล่านี้ล้วนแปลกประหลาดพิสดารนัก

ส่วนใหญ่เป็นวิญญาณยุทธ์ประเภทสัตว์ เช่น พยัคฆ์ หมาป่าอสูร งูหลาม เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีวิญญาณยุทธ์ที่แปลกประหลาดอีกมากมาย เช่น กระบี่ หอก ดาบและทวน บุปผา ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ และดวงดาว...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด