ตอนที่แล้วบทที่ 9
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11

บทที่ 10


ซ่งถานมีคุณปู่ชื่อซ่งโหย่วเต๋อ เป็นชาวนาแก่ๆ อายุ 79 ปีแล้ว ท่านป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพองเนื่องมาจากการสูบบุหรี่บ่อยๆ และถี่หนักตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม ดังนั้นแกจึงหอบง่ายมาก ส่งผลให้ทำงานหนักไม่ได้มาหลายปี นอกจากการดูแลสวนผักง่ายๆ ก็ยังถนัดเล่นไพ่ใบไม้กับกลุ่มคนแก่ในหมู่บ้านเป็นกิจวัตรบ่อยๆ ด้วย ในมือแกชอบถือไปป์ยาสูบเก่าแก่ที่หายาก ในสิบหมู่บ้านแปดเมือง ทุกปีจะต้องมีคนมาขอซื้อน้ำมันยาสูบเก่าในไปป์แกเพื่อรักษาแผลคนในครอบครัวตลอด

ไพ่ใบไม้ คุณปู่ของฉันเคยชอบเล่นเกมลับสมองแบบนี้ แต่ผ่านไปสักพักก็ไม่มีใครเล่นตามแกกันแล้ว

ส่วนคุณยายหวังลี่เฟินนั้น ขาแข็งแรง ร่างกายแข็งแรง ทำอาหารเก่งมาก ปัจจุบันสวนผักในบ้านก็ยังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทุกปีจะมีชาวบ้านมาหาเธอเพื่อขอซื้อต้นกล้าผักสวนครัวโดยเฉพาะ เธอจึงเป็นเสาหลักของบ้านซ่งเลยก็ว่าได้

ซ่งถานออกจากบ้าน เดินผ่านสวนผัก เห็นบ้านเก่าแก่ที่ทำจากอิฐสีแดงตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ลานหน้าบ้านปูด้วยซีเมนต์เป็นพื้นที่กว้าง ในใจก็พาลหวนนึกถึงตอนตัวเองยังเด็กขึ้นมาทันที ต้นไม้ไทรสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ที่มุมลาน ใต้ต้นไม้มีไก่หลายตัวนอนอาบแดดคุ้ยเขี่ยทรายเล่นอยู่

เธอมองไปที่หน้าประตูบ้านก็พลันเห็นห่านขาวตัวใหญ่ท่าทางนิสัยดูดุร้ายตัวหนึ่ง เดิมทีมันนั่งหมอบอยู่ที่มุมประตู แต่พอเห็นคนมา หัวสีเหลืองของมันก็ส่ายไปมาทันที ท่าทางดูโดดเด่นแปลกตามาก มันเบิกตากลมโตร้อง "แคว้กๆๆๆ…" ปรี่ตรงเข้ามาหาซ่งถานแล้วกางปีกออก โยกเยกเข้ามาหาเธอ!

ซ่งเฉียวที่อยู่ด้านหลังรีบกางแขนวิ่งเข้าไปพร้อมร้องว่า “แคว้กๆๆ! ห่านขาว ผมมาแล้ว!”

จากนั้นก็หมอบลงอย่างชำนาญ แล้วก็กอดกันอย่างสนิทสนมกับห่านขาวราวกับเพื่อนรักต่างสายพันธุ์

เธอปลงตกกับภาพข้างหน้า ‘นี่คือสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์กับธรรมชาติสินะ’

เฮ้อ..น้องชายคนเดียวของฉัน

คุณย่าหวังลี่เฟินเพิ่งออกมาจากห้องครัว พอเห็นซ่งถานก็ดีใจมาก "ถานถาน หนูกลับมาตอนไหนหลาน" แล้วมองซ่งเฉียว "เฉียวเฉียว อย่าให้ห่านทำเสื้อสเวตเตอร์หนูสกปรก"

เฉียวเฉียวเงยหน้าขึ้นตอบเธอว่า “ไม่!”

ห่านขาวตัวใหญ่ก็เงยหัวขึ้นมาด้วยความฉลาดเช่นกัน และส่งเสียงร้องรับว่า “แคว้ก!”

หวังลี่เฟินหัวเราะอย่างมีความสุข: "เจ้าหนู...แล้วกินข้าวกันมาหรือยัง? เดี๋ยวย่าจะหยิบขนมปังให้"

ซ่งถานรีบเดินเข้าไป "หนูเพิ่งกลับมาเมื่อคืน และไปข้างนอกมาเมื่อเช้าเองค่ะ ยังไม่ได้กินข้าวอะไรเลย"

เมื่อหวังลี่เฟินได้ยินดังนั้น เธอก็รีบเดินกลับเข้าไปเอามาให้ "งั้นรอแปบนึง ย่าจะหยิบของกินมาให้เยอะๆเลย!"

ซ่งถานต้องการได้ยินผลลัพธ์เช่นนี้ เนื่องจากอาหารหลายอย่างน่าจะหมดอายุแล้ว จึงควรจัดการโดยเร็วที่สุดตามที่พ่อเธอบอก

เธอเดินสำรวจบริเวณรอบๆ บ้าน คุณปู่และคุณย่าเป็นคนขยันขันแข็งมาก แม้อายุสูงเฒ่าขนาดนี้แต่ตัวบ้านกลับสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยหมดจด นอกจากไก่ไม่กี่ตัวที่มุมลานแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ดูสกปรกหรือรกเลย

ในขณะนั้น จู่ๆ เธอก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้น เธอหมอบลง ชี้ปลายนิ้วและหล่อรวมพลังลมปราณจนเป็นก้อนขนาดเท่าเมล็ดข้าว ก่อนจะโบกไปมาเพียงครั้งเดียว ทันใดนั้น เธอก็เห็นว่าเจ้าห่านขาวตัวใหญ่ของเฉียวเฉียวรีบทิ้งเฉียวเฉียวทันที มันกางปีกออกและโผเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็วด้วยเสียง "แคว้กแคว้ก!"

ฝ่าเท้าแบนราบของมันเหยียบลงบนพื้นซีเมนต์จนดัง "ปั๊ป ปั๊ป" หัวเล็กๆ สีเหลืองก้มลงพุ่งมาข้างหน้าอย่างสุดชีวิต คงจะเดาได้ว่ามันรีบแค่ไหน

ไม่เพียงแค่ห่านขาวตัวใหญ่ ไก่ทั้งห้าตัวที่กำลังอาบแดดอยู่ในหลุมดินก็คลั่งไคล้เช่นกัน ในขณะนั้น พวกมันก็วิ่งกรูมาทางซ่งถานเช่นเดียวกับห่านขาว ไก่ตัวผู้ตัวแรกเป็นผู้นำขบวนเพื่อน มันมีขนคอสีเหลืองมันวาวที่ตั้งชันขึ้น และหงอนสีแดงสั่นระริกราวกับกำลังต้องการจะต่อสู้กับเธอ!

เฉียวเฉียวถึงกับอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ พี่สาวเขาคุยกับห่านกับไก่ได้หรือ?

ซ่งถานสังหรณ์ใจไม่ค่อยดี เธอรู้ว่าการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ด้วยพลังเซียนนั้นดีเป็นพิเศษ แต่เธอไม่คิดว่าที่นี่จะมีพลังดึงดูดมากขนาดนี้! ถ้าพวกมันแห่เข้ามาเป็นฝูงพุ่งมาทางเธอ เสื้อผ้าคงจะเลอะพังยับเยินแน่ๆ ในขณะนั้นเธอจึงรีบถอยปลายนิ้วมือกลับ แต่ฝูงไก่และห่านขาวที่พุ่งเข้ามาก็หยุดไม่อยู่แล้ว

ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกได้ถึงลมเย็นพัดมาจากด้านหลังศีรษะ ไม้กวาดขนาดใหญ่วาดตลบไปด้านข้างพัดผ่านลำตัวเธอ ก่อนจะสามารถรับรู้ได้ถึงฝุ่นที่ร่วงหล่นจากปลายไม้กวาด อาวุธพิทักษ์ตัวเธอโบกสะบัดไปมากระทั่งทำให้ไก่และห่านที่พุ่งเข้ามาโกลาหลไปหมด พวกมันกระพิอปีกกระจัดกระจายไปทั่วลานบ้าน สุดท้ายจึงสงบลง

หวังลี่เฟินถอนหายใจ "เพิ่งจะสับกะหล่ำปลีให้พวกมันกิน ทำไมมันถึงได้บ้าขนาดนี้" พลางก็สงสาร "พวกมันคงกลัวจนไม่กล้าออกไข่ในอีกสองสามวันนี้แน่เลย"

ซ่งถานรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่หวังลี่เฟินก็บ่นเพียงสองสามประโยค จากนั้นพอหันกลับมาเห็นหลานสาวที่ขาวสะอาดและสวยงามมากขึ้น เธอก็มองกลับมาด้วยความรู้สึกมีความสุข

มีเพียงความสุขเท่านั้น

"มาๆๆ นี่คือคุกกี้ที่ป้าข้างๆ บ้านซื้อให้ย่า พวกหลานทานเยอะๆ นะ"

น่าจะกลัวว่าเด็กๆ จะกินไม่พอ เธอเลยใช้ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ใส่คุกกี้ห่อมาเกือบครึ่งถุง ซ่งถานแอบคิดว่าอย่างนี้สต๊อกของย่าคงลดลงไปกว่า 80% หรืออย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่งแน่ๆ

เฉียวเฉียวยินดีปรีดากำลังจะแกะถุง ซ่งถานก็ไม่ได้ห้าม แค่หยิบถุงพลาสติกมาถือไว้เอง แล้วก็หยิบคุกกี้ชิ้นเล็กๆ ให้ซ่งเฉียวทีละชิ้น "เฉียวเฉียว เอาไปให้ห่านพี่ชายตัวใหญ่ของหนูชิมหน่อย"

แถบสีดำวันหมดอายุนั้นเด่นชัดเป็นพิเศษ เห็นได้ชัดว่าหมดอายุไปตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว

เฉียวเฉียวตอบรับด้วยความยินดี "โอเค"

พี่น้องทั้งสองคนตั้งใจคนละอย่าง คนหนึ่งตั้งใจแกล้ง อีกคนก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทั้งคู่ต่างมองข้ามความเจ็บปวดบนใบหน้าของหวังลี่เฟินไป หลานชายของตัวเองก็สติไม่ค่อยดี ซุ่มๆ ซ่ามๆ หวังลี่เฟินเสียดายคุกกี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ก็ได้แต่จ้องมองซ่งถาน

"ผอมลงไปหน่อย หลานทำงานที่หนิงเฉิงสบายดีไหม กลับมาคราวนี้จะอยู่กี่วัน"

ซ่งถานก็ไม่ได้ปิดบังเธอ แต่ก็ต้องใช้กลยุทธ์กลับกลอกกันบ้าง "ย่า หนูกลับมาคราวนี้ว่าจะอยู่ฟื้นฟูร่างกายสักหน่อย ก็เลยอาจจะพักผ่อนนานนิดนึง ช่วงนี้ก็จะปลูกผักฆ่าเวลาไปบ้าง ย่ามาช่วยหนูนะ"

หวังลี่เฟินก็เข้าใจทันที นั่นคือหลานสาวอยากอยู่บ้านพักผ่อนสักพัก เรื่องปลูกผักอะไรนั่นก็เป็นเพียงข้ออ้าง คนหนุ่มสาวสมัยนี้จะทำอะไรได้นอกจากจะทำอะไรแปลกๆ ที่คนเขาไม่ทำกัน เธอเลยหัวเราะเสียงดัง "โอ้โห หลานสาวของฉันจะปลูกผักทั้งที ยังไงย่าก็ต้องไปช่วยหลานแน่ๆ "

แน่นอนว่าอีกไม่กี่วันย่าเธอก็คงจะอึกอักพูดไม่ออกแล้ว เมื่อเห็นสิ่งต่างๆ ที่หลานสาววาดแปลนไว้ในหัวอย่างถี่ยิบ

ซ่งถานมองไปรอบๆ "ปู่ล่ะ"

หวังลี่เฟินคิดอยู่ครู่หนึ่ง "น่าจะอยู่ที่ลานหมู่บ้านเล่นไพ่กับคนอื่นๆ ไพ่ใบไม้ไม่มีใครเขาเล่นแล้วเดี๋ยวนี้ หาคนมาเล่นด้วยยาก..." กลุ่มชายชราที่แค่เดินยังตัวสั่น เล่นไพ่กันวันละหนึ่งหยวน ออกไพ่ทีก็ง่วงแล้ว... หวังลี่เฟินก็เลยปล่อยให้เขาออกไปเล่นเอง "อยู่บ้านก็เลือกโน่นเลือกนี่" เธอทำท่ารังเกียจชายชรา

จริงๆ แล้วทั้งคู่ครองรักกันมาหลายสิบปี ซ่งโหย่วเต๋ออายุแปดขวบก็เลี้ยงวัวให้เจ้าของที่ดิน ตอนที่พวกเขารู้จักกัน ความรู้สึกก็ลึกซึ้ง

ซ่งถานเดินเล่นไปรอบๆ แล้วมองเฉียวเฉียวที่นั่งยองๆ อยู่ตรงนั้นกับห่านขาวตัวใหญ่ "ห่านขาว กินชิ้นใหญ่ไปเลย... เป็นไงอร่อยไหม นี่คือคุกกี้รสนม ผมกินชิ้นเล็กๆ เอง..."

ซ่งถานเผลอไปหน่อย น้องชายตัวดีก็เลยได้กัดไปหนึ่งคำ

เอาเถอะ ยังไงนี่ก็ไม่น่าจะใช่ครั้งแรกที่ซ่งเฉียวได้กินอยู่แล้ว เธอก้มลงดูถุงพลาสติกห่อขนมอีกครั้ง โอ้โห ในถุงเต็มไปด้วยคุกกี้และขนมหวานนานาชนิด โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น หมดอายุไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นคุกกี้ข้าวโอ๊ต ที่เป็นคุกกี้หายากแต่หมดอายุไปตั้งแต่ปีก่อน

ซ่งถานหยิบมันออกมาแล้วก็เงียบไปนาน เธอไม่กล้าให้ห่านกินแล้ว อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังมองห่านขาวตัวใหญ่นั้นอยู่ มันร้อง ‘แคว้กแคว้ก’ ได้เก่งมาก กล้าหาญ และฉลาดมากด้วย ตอนที่เธอปล่อยลมปราณ ห่านตัวนี้ทั้งที่อยู่ไกลสุด แต่กลับตอบสนองได้เร็วที่สุด มันเป็นผู้คุ้มครองบ้านตัวฉกาจเลยล่ะ รอให้คอกหมูหลังภูเขาสร้างเสร็จ เธอจะไปขอยืมมันจากคุณยายเพื่อคุ้มกันหมูหน่อย แล้วก็จับคู่กับสุนัขตัวใหญ่สองตัว ข้างหนึ่งจูงห่านขาว ส่วนอีกข้างก็จูงสุนัข ฮ่าฮ่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด