ตอนที่ 37 มิตรหรือศัตรู? (ฟรี)
ตอนที่ 37 มิตรหรือศัตรู?
หลังจากที่ซางหยุนกลืนมุกมังกรไป ร่างกายของมันก็สั่นเล็กน้อย จากนั้นมันก็หลับตาลงอย่างกับกำลังผล็อยหลับ
คลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งยังคงเวียนว่ายอยู่ในร่างกายของซางหยุน เริ่มเปลี่ยนแปลง และเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของมัน
แม้ว่าซางหยุนจะเป็นมังกร แต่นั้นอิงมาจากโลกเฟิงหยุน กฎสวรรค์ในโลกนั้นด้อยกว่าโลกนี้มาก ดังนั้น รากฐานของมันจึงไม่เพียงพอ และไม่สามารถแข่งขันกับมังกรของโลกนี้ได้อย่างแท้จริง
หลังจากที่มันกลืนมุกมังกรเข้าไป สายเลือดของมันก็เริ่มตื่นขึ้น รากฐาน และแก่นพลังชีวิตของมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
ร่างกายของซางหยุนดูอ่อนแอลงเรื่อยๆ มันคลานไปตรงหน้าลู่เหยาด้วยความยากลำบาก เหยียดลิ้นออก และเลียนิ้วของลู่เหยาเบาๆ
จากนั้น ซางหยุนก็กลายเป็นลำแสง และบินไปที่แขนของเธอ
“ซางหยุน เจ้าหลับไปแล้วเหรอ? ดี อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ มุกมังกรเม็ดนี้ข้าจ่ายไปในราคาสูงยิ่งกว่าจะได้มันมา” ลู่เหยาพูดกับตัวเองด้วยเสียงที่ดัง แต่นุ่มนวล
บนข้อมือของเธอ รอยสักรูปมังกรสีน้ำเงินปรากฏขึ้น เปล่งออร่าที่มีมนต์ขลัง ราวกับว่ามีสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งหลับใหลอยู่ในนั่น
การจ้องมองของลู่ซุนดูเหมือนจะสามารถมองผ่านทุกสิ่งได้ เขาถอนสายตา และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ข้าก็อยากเห็นเหมือนกันว่าเด็กน้อยจากอีกโลกหนึ่งจะสามารถเติบโตได้ไกลแค่ไหน"
ลู่ซุนไม่เคยคิดมาก่อนว่าลู่เหยาจะได้ทำสัญญากับมังกร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสี่สัตว์เทพ
มังกรตัวนี้ตายอย่างน่าสังเวชในวิถีประวัติศาสตร์ดั้งเดิม โดยไม่สามารถแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของมันได้อย่างสมบูรณ์
มันเป็นสัตว์เทพที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาสัตว์เทพทั้งสี่! ควรมีชีวิตอยู่ได้นานที่สุด แต่ก็น่าเสียดายที่สติปัญญาของมันไม่สูงนักจึงทำให้ในท้ายที่สุดต้องเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด
“ระบบ เมื่อไหร่ข้าจะฟื้นคืนชีพได้อย่างสมบูรณ์? เมื่อเห็นเด็กน้อยเหล่านี้ท่องไปในที่ต่างๆ ข้าก็อยากเข้าร่วมด้วย” ลู่ซุนถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดอะไรบางอย่างในใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า
นอกจากนี้ เขายังต้องการที่จะเดินไปรอบโลกเหมือนคนมีชีวิต แทนที่จะถูกขังอยู่ที่นี่ และดำรงอยู่เพียงในรูปของวิญญาณที่ล่องลอยไปมาโดยไม่มีใครมองเห็น
“ใกล้จะถึงเวลาแล้ว เมื่อมีแต้มบุญมากพอ เจ้าจะพอขยับร่างกายได้ในระดับหนึ่ง จากนั้นก็จะสามารถเดินออกไปยังโลกภายนอกได้อย่างเป็นธรรมชาติ” เสียงของระบบดังขึ้นอย่างช้าๆ และเขาก็ปลอบใจลู่ซุน
“ระบบ มีวิธีใดที่จะช่วยให้ข้าฟื้นคืนชีพได้เร็วกว่านี้ไหม” ลู่ซุนขมวดคิ้วแล้วถามระบบ
“จากการตรวจสอบของระบบ ลูกหลานของโฮสต์ไม่ได้หลงเหลืออยู่เพียงในเขตหยุนจงเท่านั้น หากเจ้าสามารถค้นหาลูกหลานในที่แห่งอื่นพบ การฟื้นคืนชีพก็มีความเป็นไปได้ที่จะเร็วขึ้น” หลังจากที่ระบบไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง เขาก็พูดให้ความหวังกับลู่ซุน
“หมายถึงว่าข้ามีลูกหลานคนอื่นๆ อีกเหรอ?” ลู่ซุนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบถามด้วยดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“เอ่อ…โฮสต์ ตอนที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าได้สานสัมพันธ์กับสตรีจำนวนมาก เจ้าลืมไปแล้วเหรอ?” ระบบพูดอย่างดูถูก ราวกับว่ามันดูถูกการกระทำของ ลู่ซุน
“แคะ แคะ นั่นนานมากแล้ว ใครยังจำมันได้ชัดเจนขนาดนั้น มันคือความโอบอ้อมอารีของข้า มันคือ การหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความรัก เจ้าเข้าใจหรือไม่?” ลู่ซุนลูบจมูกแล้วพูดอย่างจริงจัง
"ฮ่าๆๆ...พูดได้ไม่อายปาก" เสียงของระบบดังขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็เงียบไป และไม่สนใจลู่ซุนอีก
หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความรัก นั้นหมายความว่าอย่างไร? มันเป็นแค่การเรียกให้ฟังดูดี ความหมายจริงๆ ใครๆ ก็รู้
“ข้าไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าแล้ว เจ้าคงอิจฉาข้าสินะ ท้ายที่สุดเจ้าก็เป็นเพียงระบบ แม้ว่าเจ้าอยากจะมีความรัก แต่ก็คงไม่สามารถทำได้!” ลู่ซุนยิ้มมุมปาก และพูดอย่างไม่สุภาพ
“เฮอะ! ตอนนั้น ข้าเป็นคนดังในโลกของระบบ ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงกี่คนที่รักข้ามากจนอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้ พวกเธอยอมจำนนต่อแท่งสวรรค์ของข้า!” คำพูดของลู่ซุนเหมือนตบหน้าของระดับ เขาจึงพูดด้วยความโกรธ
"จริงรึ?"
“เจ้าคงเพ้อฝันไปเองมากกว่า”
ลู่ซุนพูดสองสามคำด้วยท่าทีเมินเฉย เขาเหมือนเทพบรรพกาลมองจากมุมสูง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อในคำพูดของระบบ
“ฮึ่ม เจ้าจะไม่เชื่อก็ตามใจ ผู้ยิ่งใหญ่อย่างข้าจะละเว้นเจ้าสักครั้ง!” ระบบพูดอย่างหยิ่งผยอง จากนั้นก็เงียบไปราวกับสลายเป็นอากาศธาตุ
“แล้วระบบอย่างเจ้าแบ่งออกเป็นชาย และหญิงหรือเปล่า?” จู่ๆ ลู่ซุนก็ถามขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“อะไรนะ? เจ้าคิดว่าระบบไม่สมควรมีเพศเหรอ? ทุกอย่างล้วนมีหยิน และหยาง ระบบก็เช่นกัน!” ระบบมองไปที่ลู่ซุนราวกับมองไปที่คนบ้านนอก
“แล้วระบบอย่างเจ้าคืออะไรกันแน่? เจ้าถูกสร้างขึ้นโดยฟ้าดินหรือว่าถูกสร้างขึ้นโดยใครบางคน?” ลู่ซุนยังคงถามต่อ เขาอยากรู้มากเกี่ยวกับความลับของระบบ
ลู่ซุนยังสงสัยว่าที่เขาได้เกิดใหม่ในโลกนี้เมื่อหนึ่งแสนปีก่อน อาจเป็นเพราะความลับบางอย่างของระบบ
“โฮสต์มีอำนาจไม่เพียงพอ ขอปฏิเสธที่จะตอบ” เสียงของระบบเย็นชามาก และไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“หรือว่าระบบอย่างเจ้าก็ถือเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งเช่นกัน เพียงแต่ว่ามีวิถีชีวิตที่แตกต่างออกไป เจ้าอาจเป็นเหมือนกับปูเสฉวนที่ต้องการกระดอง สามารถมีชีวิตอยู่ได้เฉพาะในร่างกายของมนุษย์เท่านั้น?” ลู่ซุนพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะ เขาพูดอย่างช้าๆ ด้วยรอยยิ้มจางๆ
"ไม่มีความคิดเห็น!" น้ำเสียงของระบบยังคงเย็นชา และพูดเพียงไม่กี่คำเท่านั้น
“เอาล่ะ งั้นข้าก็ไม่คิดจะถามต่อแล้ว” ลู่ซุนรู้ว่าแม้ว่าเขาจะถามต่อไป ระบบก็จะไม่ให้คำตอบใดๆ ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกความคิดที่จะค้นหาความลับของอีกฝ่าย
‘เอาเถอะ ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นใครหรือมาจากไหน ตราบใดที่สามารถช่วยให้ข้าสามารถฟื้นคืนชีพได้นั้นก็มากพอแล้ว ส่วนหลังจากการฟื้นคืนชีพ ถ้าเจ้าเป็นศัตรู ข้าก็จะไม่ปราณเช่นกัน!”
มีรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปากของลู่ซุน เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย และคิดในใจ
ดังคำกล่าวที่ว่า ไม่มีของฟรีในโลก เขาไม่เชื่อว่าระบบนี้จะช่วยเขาโดยไม่มีเหตุผล จะต้องมีแผนการบางอย่าง!
แล้วมันคืออะไรล่ะ? เขาคิดว่ามันควรจะสิ่งที่เรียกว่า ‘ความศรัทธา’
สำหรับแต้มบุญ? มันคงเป็นโชคของตระกูลลู่ และตัวเขาเอง มันก็แค่ชื่อที่แตกต่างออกไป คิดว่าเขาจะเดาไม่ออกจริงๆเหรอ?
“อะแฮ่ม โฮสต์ ข้าต้องขอเตือนก่อนว่าข้าได้ยินความคิดของเจ้า ความคิดเช่นนั้นไม่ดัเลย” ขณะที่ลู่ซุนกำลังคิดอย่างเงียบๆ เสียงของระบบก็ดังขึ้นในใจของเขา
“โอ้ แล้วไงล่ะ” ลู่ซุนพูดอย่างสบายๆ ดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจว่าความคิดของตนจะถูกเปิดเผย
“ไม่มีอะไรหรอก ตราบใดที่เจ้ามีความสุขก็ดีแล้ว” ระบบเงียบไปสักพัก แล้วก็ตอบกลับอย่างไม่ค่อยใส่ใจ
ตอนนี้ระบบได้หลอมรวมเข้ากับลู่ซุนอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาจึงทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ ต่อให้อีกฝ่ายมีความคิดเช่นนั้นก็ตามที
แต่ถ้าลู่ซุนต้องการทำเช่นนั้น เขาก็ต้องมีความสามารถมากพอเสียก่อน และเรื่องในวันหน้าไม่มีใครคาดเดาได้