ตอนที่แล้วบทที่ 123 พูดจากลับกลอกลิ้นสองแฉก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 125 ความสัมพันธ์ 

บทที่ 124 ข้อตกลงสองปี


ถัวป้าเลี่ยกระชากเสื้อคลุมหนังสัตว์ของเขาออก แล้วฟาดมันลงพื้น ดวงตาเขาจ้องยังฉินต้าวหยวนด้วยความอาฆาต

“เจ้าจิ้งจอกเฒ่า รอก่อนเถอะ ไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะทุบตีเจ้าจนมิอาจลุกขึ้นมาเสนอหน้าได้อีก!”

ฉินต้าวหยวนขมวดคิ้วทันที แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด

นี่อาจเป็นเพียงอัจฉริยะคนเดียวเท่านั้น ที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับเก้าดาวขึ้นมา หากเขาได้เข้าฝึกฝนที่สำนัก มาตรว่าอนาคตย่อมไร้ขีดจำกัด เขาจึงไม่ต้องการตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับอีกฝ่าย

เมื่อมองยังหลัวเฉิง ฉินต้าวหยวนก็กล่าวน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าหนู ก็ขอแนะนำให้เจ้าออกไปด้วยตัวเองจะดีกว่า หากดื้อรั้นจะอยู่ที่นี่ต่อรังแต่จะนำความอับอายมาสู่ตัวเจ้าเองเท่านั้น!”

ใบหน้าของหลัวเฉิงยังคงมิเปลี่ยนแปลง เขาตะคอกเสียงแข็งกร้าว “ไม่ว่าข้าจะอยู่หรือไปก็ตาม มันก็มิใช่กงการอะไรของท่าน!”

“เจ้าก็กล่าววาจาเช่นนี้กับผู้อาวุโสฉินได้อย่างไร!”

“ผู้อาวุโสฉิน ข้อคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดพล่ามกับเขาให้มากความ ข้าจะตัดมือและเท้าของเขาโยนออกไปจากสำนักให้เอง!”

ศิษย์ฝ่ายนอกหลายคนที่ยืนถัดจากหลินหานคง ต่างจ้องมองหลัวเฉิงด้วยนัยน์ตาชิงชัง

หลัวเฉิงเหลือบมองแต่ละคนอย่างเย็นชา และจดจำใบหน้าของพวกเขาไว้ทีละคน จากนั้นหยิบป้ายหยกของอวิ๋นเหมิงหลี่ออกมา แล้วมอบให้ผู้อาวุโสเฉินซวน

“ผู้อาวุโสเฉินซวนโปรดดูสิ่งนี้! เจ้าของป้ายหยกนี้เคยกล่าวเอาไว้ว่า ด้วยป้ายหยกนี้ ข้าสามารถเข้าสู่สำนักซวนหยวนได้ทันที!”

“นี่มัน!”

ทันทีที่ประจักษ์เห็นป้ายหยกนี้ ผู้อาวุโสเฉินซวนซึ่งนิ่งเงียบมานานก็แสดงสีหน้าตกตะลึง เขาเอื้อมมือมาคว้าป้ายหยกแล้วโคจรพลังใส่เข้าไปเล็กน้อย

พัฟ!

ปราณอันแข็งแกร่งก็พวยพุ่งออกมาจากมันทันที ปรากฏร่างอวิ๋นเหมิงลี่ขึ้นมาจากป้ายหยก แผ่รัศมีอันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ท่าทางของฉินต้าวหยวนก็เปลี่ยนไป รีบเปิดปากเอยถามหลัวเฉิงว่า “เจ้าได้ป้ายหยกนี้มาจากที่ไหน”

หลัวเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เจ้าของป้ายหยกมอบมันให้ข้าด้วยตัวเอง”

“เหลวไหล! ด้วยนิสัยเช่นนั้นของนาง นางจะมอบป้ายหยกให้เจ้าได้อย่างไร! มันเป็นไปไม่ได้!”

ฉินต้าวหยวนรู้สึกประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น

ผู้อาวุโสเฉินซวนใคร่ครวญอยู่ครู่ จากนั้นคืนป้ายหยกให้หลัวเฉิงแล้วกล่าวว่า

“หลัวเฉิง ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเป็นศิษย์บำรุงสำนักซวนหยวนแห่งนี้ หากภายในสองปี เจ้าสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับได้ ข้าจะให้เจ้าเป็นศิษย์ฝ่ายนอกและยอมรับเจ้าเป็นศิษย์สายตรงของข้า เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”

“ข้ายินดี”

หลัวเฉิงพยักหน้าตอบรับ

นอกจากนี้ เขาเข้าใจดีว่านี่คือขีดจำกัดที่ผู้อาวุโสเฉินซวนสามารถทำได้

สำหรับการทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับภายในสองปีนั้น หลัวเฉิงไม่ได้กังวลในเรื่องนี้แม้แต่น้อย

หากทุกสิ่งดำเนินไปอย่างราบรื่น เพียงไม่กี่เดือนเขาก็สามารถทะลวงได้แล้ว!

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หลินหานคงที่อยู่ด้านข้างก็แสดงสีหน้าวิตกกังวล จึงเอ่ยปากกล่าวว่า “ผู้อาวุโสเฉินซวน หากท่านทำเช่นนี้ ข้าจะอธิบายให้ศิษย์พี่จินหมินฟังว่าอย่างไร”

“อวดดีนัก!”

ใบหน้าของผู้อาวุโสเฉินซวนมืดลง พร้อมแผ่รัศมีอันแข็งแกร่งปะทะใส่หลินหานคงจนร่างกระเด็นออกไปกระแทกเข้ากับแผ่นหินทันที เมื่อเปิดปากก็กระอักเลือดออกมาคำใหญ่

ผู้อาวุโสเฉินซวนมองยังหลินหานคงแล้วกล่าวเสียงเย็นชา “ข้าทำอะไรนั้นต้องอธิบายให้เขาฟังด้วยหรืออย่างไร หากเจ้าทำให้ศักดิ์ศรีของข้าต้องมัวหมองอีกครั้ง ข้าจะใช้เจ้าเป็นฐานสร้างอำนาจในวันนี้!”

หลินหานคงไม่คิดเลยว่า ผู้อาวุโสเฉินซวนที่อ่อนโยนมาโดยตลอดกลับแสดงความเกรี้ยวกราดได้มากถึงเพียงนี้ ใบหน้าเขาซีดเผือดมิอาจเปิดปากกล่าวคำใดได้อีกด้วยความหวาดกลัวเป็นที่สุด

ฉินต้าวหยวนขมวดคิ้วกล่าวว่า “ผู้อาวุโสเฉินซวน ท่านต้องการฝ่าฝืนกฎของสำนักซวนหยวน เพื่อเจ้าคนไร้ค่านี้จริงหรือ?”

ผู้อาวุโสเฉินซวนเหลือบมองฉินต้าวหยวนแล้วกล่าวอย่างใจเย็น

“ฉินต้าวหยวน ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีบุญคุณความแค้นอะไรกับหลัวเฉิง แต่ก็ขอแนะนำให้เจ้ายับยั้งชั่งใจไว้ให้ดี”

“จงอย่าลืมว่าวันนี้เป็นวันที่อวิ๋นเหมิงลี่ท้าประลองกับหยวนชิงอิงบนเกาะเฟิงเอี้ยน เมื่อนางชนะ นางจะเป็นหนึ่งในสิบผู้สืบทอดที่แท้จริงของสำนัก! อย่าว่าแต่ปล่อยให้หลัวเฉิงเข้าร่วมกับสำนักซวนหยวนเลย แม้แต่ให้หลัวเฉิงกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในก็สามารถทำได้เพียงแค่นางเอ่ยปาก”

“ฮึ่ม! หยวนชิงอิงหาใช่คนไร้ฝีมือ อวิ๋นเหมิงลี่เป็นเพียงศิษย์หลักของสำนัก การที่นางจะสามารถเอาชนะหยวนชิงอิงได้ มันก็เป็นแค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้น!”

ฉินต้าวหยวนส่ายศีรษะแล้วมองยังหลัวเฉิง ก่อนกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “ถ้าเช่นนั้นก็ให้เขาอยู่ในสำนักเป็นเวลาสองปี! ข้าอยากเห็นนักว่า เขาจะทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับได้อย่างไร!!”

ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีวิญญาณยุทธ์ระดับสามหรือสี่ดาว ก็นับว่าเป็นเรื่องยากนักที่จะทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับภายในเวลาเพียงสองปี

ฉินต้าวหยวนไม่มีทางเชื่อว่า คนไร้ค่าที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะขึ้นมา จะสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นเขตแดนลึกลับได้ภายในเวลาสองปี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด