ตอนที่แล้วChapter 249 : ทลายสิ้นแผนสมคบคิด – สายเลือดสืบทอดของมังกรสุริยัน (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 251 : สกิลเซียนรุ้งสกิลที่สอง – ห้าสัมผัสเชื่อมสวรรค์ (2)

Chapter 250 : สกิลเซียนรุ้งสกิลที่สอง – ห้าสัมผัสเชื่อมสวรรค์ (1)


ในเวลาเดียวกัน

หลินเซวียนยังคงตามติดอยู่ข้างกายของเย่อู่ชิวและออกฟาร์มมอนสเตอร์อย่างสบายอารมณ์

โดยปกติแล้วจะเป็นเย่อู่ชิวที่พุ่งเข้าไปฟันแล้วฟันอีกโดยมีเขายืนอยู่ด้านหลังคอยรับบทคุณย่า

การต่อสู้ที่น่าตระการตาที่สุดของพวกเขาทั้งสองคนก็คือการปะทะกับฝูงมังกรบินอัสนีสิบหกตัวแบบซึ่งๆหน้า

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งสองคนยังสามารถสังหารพวกมันทั้งหมดลงได้โดยที่พลังชีวิตไม่ลดต่ำกว่า90%เลยด้วย

เย่อู่ชิวมีความสุขยิ่งนัก เธอเอ่ยชมตัวเองในใจที่สามารถสรรหาเพื่อนร่วมทีมที่ดีเช่นนี้มาได้

ตลอดการต่อสู้นั้นเธอไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องพลังชีวิตเลยเพียงแค่พุ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่งก็พอแล้ว ดวงตาของเย่อู่ชิวที่กล่าวประโยคเช่นนี้ออกมาทั้งเปล่งประกายแลดูเจิดจ้า

หลินเซวียนสบถด่าอยู่ในใจ นี่เขาไปปลุกนิสัยประหลาดๆในตัวเธอขึ้นมารึเปล่า

อย่าบอกนะว่าภายใต้รูปลักษณืที่ดูงามสง่านั่นของเย่อู่ชิวแท้จริงแล้วเจ้าหล่อนกลับมีจิตใจบ้าบิ่นเช่นนี้?

อย่างไรก็ตามแม้เย่อู่ชิวจะมีความสุขแต่หลินเซวียนกลับปวดเศียรเวียนเกล้า

หลังจากการต่อสู้จบลงพลังชีวิตของเขากระทั่ง90%ก็ยังลดไม่ถึงด้วยซ้ำ บาดแผลที่ได้มาเองก็เป็นการถูกข่วนจากมังกรบินอัสนีเพียงถากๆเท่านั้นและหลังจากหายใจเข้าออกไม่กี่คราบาดแผลก็สมานและพลังชีวิตก็เต็มดังเดิมแล้ว

‘แล้วนี่เราจะทำยังไงกับภารกิจเลื่อนขอบเขตที่8ดีล่ะเนี่ย?’ หลินเซวียนรู้สึกจนใจไม่น้อย

‘หืม...ไข่มังกรประกายเพลิงกำลังจะฝักแล้วงั้นหรอ?’ ในเวลานั้นเองเขาพลันสัมผัสได้ว่าไข่มังกรที่เขาเก็บเอาไว้ในมิติส่วนตัวนั้นเริ่มฝักตัวแล้ว

ภายในไข่นั้นส่งเสียงปริแตกดังออกมาจากด้านในดูแล้วน่าจะเป็นลูกมังกรที่พยายามจะกระเทาะเปลือกไข่ออกมา

หลินเซวียนถูมือไปมาอย่างคาดหวังพร้อมด้วยแววตาเป็นประกาย

“มาดูกันเถอะว่าจะเป็นเจ้าตัวน้อยน่ารักแบบไหนกัน?”

แคร่ก

รอยแตกแรกปรากฏขึ้นมาบนเปลือกไข่

แคร่ก

จากนั้นรอยแตกที่สอง รอยแตกที่สาม...และรอยแตกจำนวนนับไม่ถ้วนก็เริ่มเผย

แคร่ก!

เปลือกไข่ทั้งหมดแตกออกอย่างสมบูรณ์เผยให้เห็นลูกมังกรตัวน้อยน่ารักตัวหนึ่งที่คลานออกมาจากด้านใน

มันยังไม่อาจเปิดตาได้ด้วยซ้ำแต่หลินเซวียนกลับมองมันเพียงปรายตาก่อนจะเบนสายตาไปมองอย่างอื่นเนื่องจากเขาต้องตาอย่างอื่นมากกว่า

เปลือกไข่ใต้เท้าของมังกรน้อยนั่นส่องแสงเจ็ดสีออกมา

เมื่อใช้ [ตรวจสอบขั้นสูง] จ้องมองไปยังเปลือกไข่เจ็ดสีนั้นเขาก็พลันตื่นเต้นดีใจขึ้นมา

[ชื่อ : เปลือกไข่มังกรบินประกายเพลิง]

[เลเวล: ขอบเขตที่7เลเวล8]

[ระดับ : เซียนเจ็ดสี]

[ความสามารถ : ยกระดับคุณภาพของสกิลจากระดับตำนานทองดำเป็นระดับเซียนเจ็ดสี]

[คำอธิบาย : ไข่ของมังกรบินประกายเพลิงใบนี้คือผู้โชคดีอย่างไม่ต้องสงสัยเนื่องจากมันคือผู้ที่ได้รับเลือกจากต้นกำเนิดของแดนลับและถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์]

หลินเซวียนทั้งประหลาดใจและดีใจ

เขาคิดมาโดยตลอดว่าเจ้าสิ่งเดียวที่ครอบครองต้นกำเนิดแดนลับเจ็ดสีอยู่นั้นน่าจะเป็นมังกรน้อยตัวนี้แต่ไม่คิดเลยว่าเปลือกไข่ประหลาดนี่เองก็เป็นเช่นเดียวกัน!

“ยังไงก็ตามนี่น่ะหรอเซอไพรส์?” หลินเซวียนยิ้ม

เปลือกไข่ที่อัดแน่นไปด้วยต้นกำเนิดระดับเซียนรุ้งซึ่งสามารถยกระดับสกิลจากระดับทองดำเป็นระดับเซียนเจ็ดสีได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับมังกรน้อยระดับเซียนเจ็ดสีอีกตัวหนึ่งด้วย

ดูเหมือนโชคจะหล่นทับแล้วสิ!

‘โรเจอร์เอ๋ยขอบคุณนายจริงๆว่ะ’

‘ถ้าไม่ใช่เพราะนายฉันจะได้ของดีๆแบบนี้มาได้ยังไง? อ๊ะ..ลืมไปเลยว่านายตายไปแล้ว’

หหลินเซวียนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ใช้เปลือกไข่มังกรประกายเพลิงอัพเกรดระดับของสกิล [ตรวจจับขั้นสูง] เป็นระดับเซียนเจ็ดสี”

[ตรวจจับขั้นสูง] นั้นสามารถสัมผัสตำแหน่งของศัตรูและจุดที่ศัตรูอาจจะเข้าโจมตีได้ อาจจะกล่าวได้ว่าตั้งแต่ที่ได้ครอบครองสกิลนี้หลินเซวียนก็ได้ประโยชน์จากมันไม่น้อย

เขาลองคิดแล้วคิดอีกแต่สุดท้ายก็ยังคงเลือกสกิลที่ดูธรรมดาๆอย่าง [ตรวจจับขั้นสูง] อยู่ดี

เพราะเขารู้ดีว่าต่อให้เพิ่มพลังโจมตี พลังป้องกันหรือการเอาตัวรอดไปก็ไม่มีความหมาย

ไม่ว่ายังไงตัวเขาก็เป็นเพียงนักสู้ขอบเขตที่7เท่านั้นแต่ถ้าการรับรู้ของเขาทรงพลังขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นก็อาจจะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย

ฟิ้ว

เปลือกไข่พลันแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานบริสุทธิ์เจ็ดสีและสลายหายไป

ลูกมังกรน้อยตกตะลึงยิ่งและเริ่มครวญครางออกมาราวกับกำลังสงสัยว่าเปลือกไข่ตูล่ะ? อาหารมื้อแรกตูไปไหนแล้ว?

หลินเซวียนเรียกหน้าต่างค่าสถานะออกมาและพบว่า [ตรวจจับขั้นสูง] นั้นถูกแทนที่ด้วยสกิลใหม่ไปแล้ว

[ชื่อ : ห้าสัมผัสเชื่อมสวรรค์]

[เลเวล : ขอบเขตที่7เลเวล8]

[ระดับ : เซียนเจ็ดสี]

[ความสามารถที่1 : สกิลเอกลักษณ์ – นอกจากความตายแล้วจะไม่มีสิ่งมีชีวิตหรือไร้ชีวิตใดที่สามารถครอบครองสกิลนี้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามทั้งนี้รวมไปถึงการดรอปจากการสังหารมอนสเตอร์หรือดรอปจากการสังหารนักสู้ผู้อื่นและการอัพเกรดคุณภาพของสกิลด้วยเช่นกัน]

[ความสามารถที่2 : ตรวจจับเป้าหมายทุกเป้าหมายในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร]

[ความสามารถที่3 : คาดเดาการโจมตีครั้งถัดไปของศัตรู]

[คำอธิบาย : นับจากนี้เป็นต้นไปท่านแม่คงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าข้าจะถูกศัตรูลอบโจมตีอีกต่อไป]

หลินเซวียนถอนหายใจออกมา

สกิลเกรดสีรุ้งอีกหนึ่งสกิลแล้ว!

“สกิลทั้งสองสกิลนี้มีความสามารถเอกลักษณ์เหมือนๆกันเลย ไม่ใช่ว่าแบบนี้เราจะถือไพ่เหนือกว่าคนอื่นๆรึไง?”

“ต่อให้ในอนาคตจะมีนักสู้ขอบเขตที่9ได้ต้นกำเนิดแดนลับไปครองก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดีที่จะได้สกิลเดียวกับเรา”

หลินเซวียนพลันนึกไปถึงหัวหน้าขององค์กรทุ่งราบมหาสวรรค์ขึ้นมา

คนผู้นี้มีสกิลควบคุมหุ่นเชิดซึ่งถ้าหากระดับของสกิลเพิ่มขึ้นก็จะแทบไม่ต่างจากสกิลร่างแยกของเขาเลย

หากแต่ตัวหลินเซวียนนั้นได้ครอบครองสกิลร่างจุติมาแล้วจากการใช้งานต้นกำเนิดแดนลับ

นี่ก็หมายความว่าหัวหน้าของทุ่งราบมหาสวรรค์จะไม่มีวันได้ครอบครองสกิลร่างจุติจากการอัพเกรดสกิลควบคุมหุ่นเชิด

“ยังไงก็ตามต่อให้ไม่ได้อัพเกรดเป็นร่างจุติแต่ก็น่าจะได้สกิลอื่นอยู่ดี” หลินเซวียนพยักหน้าเล็กน้อยแต่ทั้งนี้ก็เป็นแค่การคาดการณ์ของเขาเท่านั้น

ยังไงซะเขาก็อาจจะเป็นเพียงคนเดียวในโลกในตอนนี้ที่มีสกิลระดับเซียนเจ็ดสีในครอบครอง

“ส่วนเจ้าลูกมังกรน้อยตัวนี้...” หลินเซวียนปรายตามองลูกมังกรน้อยที่กำลังครวญครางอยู่ข้างกายของเขา

“นายยินดีจะติดตามฉันรึเปล่า?” ดวงตาของลูกมังกรตัวน้อยเปล่งประกายไปด้วยสติปัญญาดูแตกต่างจากลูกมังกรตัวอื่นที่หลินเซวียนเคยพบเคยเจอมาก่อนยิ่งนัก

ลูกมังกรตัวน้อยกรีดร้องออกมาและกัดกางเกงของเขาเบาๆ

“เข้าใจแล้วๆๆ ถ้างั้นก็ตามฉันมาแล้วกัน” หลินเซวียนยิ้ม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด