Chapter 250 : สกิลเซียนรุ้งสกิลที่สอง – ห้าสัมผัสเชื่อมสวรรค์ (1)
ในเวลาเดียวกัน
หลินเซวียนยังคงตามติดอยู่ข้างกายของเย่อู่ชิวและออกฟาร์มมอนสเตอร์อย่างสบายอารมณ์
โดยปกติแล้วจะเป็นเย่อู่ชิวที่พุ่งเข้าไปฟันแล้วฟันอีกโดยมีเขายืนอยู่ด้านหลังคอยรับบทคุณย่า
การต่อสู้ที่น่าตระการตาที่สุดของพวกเขาทั้งสองคนก็คือการปะทะกับฝูงมังกรบินอัสนีสิบหกตัวแบบซึ่งๆหน้า
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งสองคนยังสามารถสังหารพวกมันทั้งหมดลงได้โดยที่พลังชีวิตไม่ลดต่ำกว่า90%เลยด้วย
เย่อู่ชิวมีความสุขยิ่งนัก เธอเอ่ยชมตัวเองในใจที่สามารถสรรหาเพื่อนร่วมทีมที่ดีเช่นนี้มาได้
ตลอดการต่อสู้นั้นเธอไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องพลังชีวิตเลยเพียงแค่พุ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่งก็พอแล้ว ดวงตาของเย่อู่ชิวที่กล่าวประโยคเช่นนี้ออกมาทั้งเปล่งประกายแลดูเจิดจ้า
หลินเซวียนสบถด่าอยู่ในใจ นี่เขาไปปลุกนิสัยประหลาดๆในตัวเธอขึ้นมารึเปล่า
อย่าบอกนะว่าภายใต้รูปลักษณืที่ดูงามสง่านั่นของเย่อู่ชิวแท้จริงแล้วเจ้าหล่อนกลับมีจิตใจบ้าบิ่นเช่นนี้?
อย่างไรก็ตามแม้เย่อู่ชิวจะมีความสุขแต่หลินเซวียนกลับปวดเศียรเวียนเกล้า
หลังจากการต่อสู้จบลงพลังชีวิตของเขากระทั่ง90%ก็ยังลดไม่ถึงด้วยซ้ำ บาดแผลที่ได้มาเองก็เป็นการถูกข่วนจากมังกรบินอัสนีเพียงถากๆเท่านั้นและหลังจากหายใจเข้าออกไม่กี่คราบาดแผลก็สมานและพลังชีวิตก็เต็มดังเดิมแล้ว
‘แล้วนี่เราจะทำยังไงกับภารกิจเลื่อนขอบเขตที่8ดีล่ะเนี่ย?’ หลินเซวียนรู้สึกจนใจไม่น้อย
‘หืม...ไข่มังกรประกายเพลิงกำลังจะฝักแล้วงั้นหรอ?’ ในเวลานั้นเองเขาพลันสัมผัสได้ว่าไข่มังกรที่เขาเก็บเอาไว้ในมิติส่วนตัวนั้นเริ่มฝักตัวแล้ว
ภายในไข่นั้นส่งเสียงปริแตกดังออกมาจากด้านในดูแล้วน่าจะเป็นลูกมังกรที่พยายามจะกระเทาะเปลือกไข่ออกมา
หลินเซวียนถูมือไปมาอย่างคาดหวังพร้อมด้วยแววตาเป็นประกาย
“มาดูกันเถอะว่าจะเป็นเจ้าตัวน้อยน่ารักแบบไหนกัน?”
แคร่ก
รอยแตกแรกปรากฏขึ้นมาบนเปลือกไข่
แคร่ก
จากนั้นรอยแตกที่สอง รอยแตกที่สาม...และรอยแตกจำนวนนับไม่ถ้วนก็เริ่มเผย
แคร่ก!
เปลือกไข่ทั้งหมดแตกออกอย่างสมบูรณ์เผยให้เห็นลูกมังกรตัวน้อยน่ารักตัวหนึ่งที่คลานออกมาจากด้านใน
มันยังไม่อาจเปิดตาได้ด้วยซ้ำแต่หลินเซวียนกลับมองมันเพียงปรายตาก่อนจะเบนสายตาไปมองอย่างอื่นเนื่องจากเขาต้องตาอย่างอื่นมากกว่า
เปลือกไข่ใต้เท้าของมังกรน้อยนั่นส่องแสงเจ็ดสีออกมา
เมื่อใช้ [ตรวจสอบขั้นสูง] จ้องมองไปยังเปลือกไข่เจ็ดสีนั้นเขาก็พลันตื่นเต้นดีใจขึ้นมา
—
[ชื่อ : เปลือกไข่มังกรบินประกายเพลิง]
[เลเวล: ขอบเขตที่7เลเวล8]
[ระดับ : เซียนเจ็ดสี]
[ความสามารถ : ยกระดับคุณภาพของสกิลจากระดับตำนานทองดำเป็นระดับเซียนเจ็ดสี]
[คำอธิบาย : ไข่ของมังกรบินประกายเพลิงใบนี้คือผู้โชคดีอย่างไม่ต้องสงสัยเนื่องจากมันคือผู้ที่ได้รับเลือกจากต้นกำเนิดของแดนลับและถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์]
—
หลินเซวียนทั้งประหลาดใจและดีใจ
เขาคิดมาโดยตลอดว่าเจ้าสิ่งเดียวที่ครอบครองต้นกำเนิดแดนลับเจ็ดสีอยู่นั้นน่าจะเป็นมังกรน้อยตัวนี้แต่ไม่คิดเลยว่าเปลือกไข่ประหลาดนี่เองก็เป็นเช่นเดียวกัน!
“ยังไงก็ตามนี่น่ะหรอเซอไพรส์?” หลินเซวียนยิ้ม
เปลือกไข่ที่อัดแน่นไปด้วยต้นกำเนิดระดับเซียนรุ้งซึ่งสามารถยกระดับสกิลจากระดับทองดำเป็นระดับเซียนเจ็ดสีได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับมังกรน้อยระดับเซียนเจ็ดสีอีกตัวหนึ่งด้วย
ดูเหมือนโชคจะหล่นทับแล้วสิ!
‘โรเจอร์เอ๋ยขอบคุณนายจริงๆว่ะ’
‘ถ้าไม่ใช่เพราะนายฉันจะได้ของดีๆแบบนี้มาได้ยังไง? อ๊ะ..ลืมไปเลยว่านายตายไปแล้ว’
หหลินเซวียนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ใช้เปลือกไข่มังกรประกายเพลิงอัพเกรดระดับของสกิล [ตรวจจับขั้นสูง] เป็นระดับเซียนเจ็ดสี”
[ตรวจจับขั้นสูง] นั้นสามารถสัมผัสตำแหน่งของศัตรูและจุดที่ศัตรูอาจจะเข้าโจมตีได้ อาจจะกล่าวได้ว่าตั้งแต่ที่ได้ครอบครองสกิลนี้หลินเซวียนก็ได้ประโยชน์จากมันไม่น้อย
เขาลองคิดแล้วคิดอีกแต่สุดท้ายก็ยังคงเลือกสกิลที่ดูธรรมดาๆอย่าง [ตรวจจับขั้นสูง] อยู่ดี
เพราะเขารู้ดีว่าต่อให้เพิ่มพลังโจมตี พลังป้องกันหรือการเอาตัวรอดไปก็ไม่มีความหมาย
ไม่ว่ายังไงตัวเขาก็เป็นเพียงนักสู้ขอบเขตที่7เท่านั้นแต่ถ้าการรับรู้ของเขาทรงพลังขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นก็อาจจะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย
ฟิ้ว
เปลือกไข่พลันแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานบริสุทธิ์เจ็ดสีและสลายหายไป
ลูกมังกรน้อยตกตะลึงยิ่งและเริ่มครวญครางออกมาราวกับกำลังสงสัยว่าเปลือกไข่ตูล่ะ? อาหารมื้อแรกตูไปไหนแล้ว?
หลินเซวียนเรียกหน้าต่างค่าสถานะออกมาและพบว่า [ตรวจจับขั้นสูง] นั้นถูกแทนที่ด้วยสกิลใหม่ไปแล้ว
—
[ชื่อ : ห้าสัมผัสเชื่อมสวรรค์]
[เลเวล : ขอบเขตที่7เลเวล8]
[ระดับ : เซียนเจ็ดสี]
[ความสามารถที่1 : สกิลเอกลักษณ์ – นอกจากความตายแล้วจะไม่มีสิ่งมีชีวิตหรือไร้ชีวิตใดที่สามารถครอบครองสกิลนี้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามทั้งนี้รวมไปถึงการดรอปจากการสังหารมอนสเตอร์หรือดรอปจากการสังหารนักสู้ผู้อื่นและการอัพเกรดคุณภาพของสกิลด้วยเช่นกัน]
[ความสามารถที่2 : ตรวจจับเป้าหมายทุกเป้าหมายในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร]
[ความสามารถที่3 : คาดเดาการโจมตีครั้งถัดไปของศัตรู]
[คำอธิบาย : นับจากนี้เป็นต้นไปท่านแม่คงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าข้าจะถูกศัตรูลอบโจมตีอีกต่อไป]
—
หลินเซวียนถอนหายใจออกมา
สกิลเกรดสีรุ้งอีกหนึ่งสกิลแล้ว!
“สกิลทั้งสองสกิลนี้มีความสามารถเอกลักษณ์เหมือนๆกันเลย ไม่ใช่ว่าแบบนี้เราจะถือไพ่เหนือกว่าคนอื่นๆรึไง?”
“ต่อให้ในอนาคตจะมีนักสู้ขอบเขตที่9ได้ต้นกำเนิดแดนลับไปครองก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดีที่จะได้สกิลเดียวกับเรา”
หลินเซวียนพลันนึกไปถึงหัวหน้าขององค์กรทุ่งราบมหาสวรรค์ขึ้นมา
คนผู้นี้มีสกิลควบคุมหุ่นเชิดซึ่งถ้าหากระดับของสกิลเพิ่มขึ้นก็จะแทบไม่ต่างจากสกิลร่างแยกของเขาเลย
หากแต่ตัวหลินเซวียนนั้นได้ครอบครองสกิลร่างจุติมาแล้วจากการใช้งานต้นกำเนิดแดนลับ
นี่ก็หมายความว่าหัวหน้าของทุ่งราบมหาสวรรค์จะไม่มีวันได้ครอบครองสกิลร่างจุติจากการอัพเกรดสกิลควบคุมหุ่นเชิด
“ยังไงก็ตามต่อให้ไม่ได้อัพเกรดเป็นร่างจุติแต่ก็น่าจะได้สกิลอื่นอยู่ดี” หลินเซวียนพยักหน้าเล็กน้อยแต่ทั้งนี้ก็เป็นแค่การคาดการณ์ของเขาเท่านั้น
ยังไงซะเขาก็อาจจะเป็นเพียงคนเดียวในโลกในตอนนี้ที่มีสกิลระดับเซียนเจ็ดสีในครอบครอง
“ส่วนเจ้าลูกมังกรน้อยตัวนี้...” หลินเซวียนปรายตามองลูกมังกรน้อยที่กำลังครวญครางอยู่ข้างกายของเขา
“นายยินดีจะติดตามฉันรึเปล่า?” ดวงตาของลูกมังกรตัวน้อยเปล่งประกายไปด้วยสติปัญญาดูแตกต่างจากลูกมังกรตัวอื่นที่หลินเซวียนเคยพบเคยเจอมาก่อนยิ่งนัก
ลูกมังกรตัวน้อยกรีดร้องออกมาและกัดกางเกงของเขาเบาๆ
“เข้าใจแล้วๆๆ ถ้างั้นก็ตามฉันมาแล้วกัน” หลินเซวียนยิ้ม