บทที่ 69: มากมาย (8)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 69: มากมาย (8)
[ต่อจากนี้จะพยายามใช้ชื่อทับศัพท์ดีกว่านะครับ จะได้จำง่าย]
‘ว้าว... ฮวาลิน? นั่นฮวาลินเหรอ? นี่มันบ้าไปแล้ว’
ฮวาลินปรากฏตัวขึ้นกลางห้องประชุมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เธอคือหัวหน้าวง ‘Elani’ ซึ่งเป็นเกิร์ลกรุ๊ปอันดับหนึ่งในบรรดาเกิร์ลกรุ๊ปมากมาย แม้แต่วูจินที่ไม่ได้สนใจวงการบันเทิงมากนักก็ยังรู้จักฮวาลิน เพราะเธอนั้นโด่งดังมากจริง ๆ
‘ถึงจะไม่สวยเท่าฮงฮเยยอน แต่ก็สวยมากอยู่ดี’
คังวูจินจ้องมองฮวาลินที่ยืนอยู่ข้างประตูกระจกด้วยความประหลาดใจ มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ คุณก็ได้เห็นคนดัง
ในตอนนั้นเอง ผู้บริหารร่างอวบจาก Netflix ก็พึมพำออกมาขณะมองไปที่ฮวาลิน
“คุณฮวาลิน? ทำไมคุณถึงมาอยู่ในห้องประชุมนี้ได้ล่ะ? คุณควรจะไปที่ห้องถัดไปนะ”
อ่า เธอเข้ามาห้องประชุมผิดหรือเปล่านะ? วูจินพอจะเข้าใจสถานการณ์คร่าว ๆ และมองไปที่ฮวาลินอีกครั้ง แต่แปลกที่เธอก็กำลังมองมาที่คังวูจินเช่นกัน วูจินรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ก็คิดว่าเขาควรจะสงบสติอารมณ์เอาไว้
ดังนั้นเขาจึงทักทายฮวาลินด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง
“สวัสดีครับ”
“...”
ทว่าฮวาลินที่จ้องมองคังวูจินอย่างตั้งใจกลับไม่ตอบอะไร เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย วูจินจึงเริ่มรู้สึกอึดอัดพอสมควร
‘ทำไมเธอไม่ทักตอบกลับมาล่ะ? สีหน้าเธอก็ดูไม่ดีด้วย ทำไมเธอถึงทำหน้าแบบนั้น?’
ในทางกลับกัน
‘นี่มันบ้าไปแล้ว’
ฮวาลินรู้สึกสับสนไปหมด เธอรู้สึกมึนงงหลังจากที่วูจินทักทายเธอ
‘เสียงของเขาดีมาก! อะไรนะ? นั่นเสียงปกติของเขาเหรอ? หูฉันแทบละลาย!’
มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากที่คังวูจิน คนโปรดของเธอจะมาอยู่ที่ Netflix แต่เสียงทุ้มลึกของเขาก็ทำให้ทั้งสมองและหัวใจของฮวาลินสั่นสะเทือน มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะนักแสดงที่เธอหลงใหลมาหลายสัปดาห์อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
ความคิดของเธอเริ่มสับสน
‘ทำไม? ทำไมคังวูจินถึงมาอยู่ที่นี่? ฉันควรทำยังไงดี? ฉันไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?’
ฮวาลินรู้สึกอยากจะกระโดดโลดเต้น
ถ้าทำได้ ฮวาลินคงอยากจะรีบวิ่งไปหาวูจินที่นั่งอยู่ ตะโกนบอกว่าเธอเป็นแฟนคลับและขอถ่ายรูปด้วย หรืออย่างน้อยก็ขอคุยสั้น ๆ หรือจับมือกันก็ยังดี เธออาจจะอุทานออกมาว่าเธอไม่รู้ตัวเลยว่ากลายมาเป็นแฟนคลับของเขาตั้งแต่เมื่อไร
โดยที่เธอไม่รู้ตัว ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขามันเพิ่มพูนขึ้นมากขนาดนั้นแล้ว
ทว่า
“เฮ้ ฮวาลิน”
เมื่อคำนึงถึงสายตาของทุกคนที่จับจ้องมาที่เธอ รวมถึงผู้กำกับร่างอวบที่เพิ่งเรียกเธอและพนักงาน Netflix คนอื่น ๆ เธอจึงต้องควบคุมตัวเอง ดังนั้นฮวาลินจึง...
“อืม”
กระแอมออกมาเบา ๆ และละสายตาไปจากวูจิน
‘ฉันมองเขาต่อไปไม่ได้แล้ว หัวใจฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิดออกมา’
ในทางกลับกัน วูจินกลับรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น
‘ฉันเข้าใจนะว่าเธอเมินคำทักทายของฉัน แต่เธอไม่จำเป็นต้องหลบสายตาแบบนั้นก็ได้นี่?’
ในตอนนั้นเอง ผู้จัดการร่างอวบก็ถามฮวาลินว่า
“เป็นอะไรไปไหม? คุณรู้สึกไม่สบายหรือเปล่า?”
“...ไม่ ฉันสบายดี”
ฮวาลินตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและแอบมองวูจินอีกครั้ง จากนั้นเธอก็ทักทายเขา
“สวัสดีค่ะ...”
“อ่า ครับ”
มีเพียงบทสนทนาสั้น ๆ ฮวาลินพยายามอย่างหนักที่จะสงบสติอารมณ์และทำให้หัวใจของเธอเต้นช้าลง
‘จบแล้วเหรอ? น่าเสียดายจัง! ฉันควรจะพูดอะไรอีกดี? ใช่ ต้องรีบพูดออกไป!’
อย่างไรก็ตาม เธอจำเป็นต้องลดความกระตือรือร้นลงหน่อย เพราะมีคนมองอยู่มากเกินไป
“ฉันชอบละครเรื่องนี้ค่ะ”
เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ห้วนและไร้วิญญาณ แถมยังดูหยาบคายเล็กน้อย กระทั่งคังวูจินก็ยังรู้สึกได้เลย
‘ดูเหมือนเธอจะเป็นพวกนิสัยเสียสินะ’
ในไม่ช้า วูจินก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ขอบคุณครับ”
หัวใจของฮวาลินเต้นแรงขึ้น การเฝ้ามองคังวูจินจากระยะไกลกับการมีเขาอยู่ตรงหน้า รู้สึกเหมือนอยู่คนละโลก จากนั้นฮวาลินก็ดึงแขนผู้จัดการที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ
“...พี่คะ ไปกันเถอะ”
“หืม? อ่า โอเค”
เธอรีบหนีออกมา
‘ถ้าฉันอยู่นานกว่านี้ ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันอาจจะพุ่งเข้าใส่เขา ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่ได้ ฉันทำไม่ได้! ฉันต้องสงบสติอารมณ์สักพักแล้ว!’
ดังนั้น ฮวาลินจึงออกจากห้องประชุมอย่างกะทันหัน เหมือนตอนที่เธอเข้ามา พนักงานที่พาเธอเข้ามาก็เดินตามเธอออกไปหลังจากที่โดนผู้กำกับต่อว่าให้ จากนั้นคังวูจินก็ถามชเวซองกุนที่นั่งข้าง ๆ เขาเบา ๆ
“ผู้หญิงคนนั้น ฮวาลิน เธอดูแปลกไปหน่อยหรือเปล่าครับ?”
ชเวซองกุนยักไหล่แล้วกระซิบกลับ
“ไม่รู้สิ ฉันก็ไม่ค่อยได้เจอเธอเหมือนกัน แต่น่าจะสนิทกับฮเยยอน เธอคงไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นหรอกนะ แล้วก็ ฉันไม่เคยได้ยินข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับเธอเลย แค่ได้ยินมาว่าเธอเข้าถึงยากน่ะ ทำไมเหรอ?”
“เปล่า ไม่มีอะไรครับ แค่ถามดูเฉย ๆ”
วูจินตัดสินใจปล่อยมันไปและไม่ใส่ใจมันอีก
‘ฮวาลินดูหยาบคายนิดหน่อยแฮะ คนดังก็คงมีหลายบุคลิกสินะ แต่มันไม่ใช่เรื่องของฉันสักหน่อย’
อีกฝ่ายดูมีนิสัยที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับฮงฮเยยอน ในตอนนั้นเอง ผู้กำกับทั่วไปร่างอวบก็ยิ้มเชิงขอโทษ
“คุณวูจิน ฉันขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อครู่นี้ด้วยนะ ดูเหมือนพนักงานของเราจะทำผิดพลาดไป”
“ไม่เป็นไรครับ”
ขณะที่วูจินตอบ ชเวซองกุนก็พูดแทรกขึ้นมา
“แต่คุณกำลังร่วมงานกับฮวาลินด้วยหรือเปล่าครับ? อ่า ผมถามไปงั้นแหละ ถ้าไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไร ฮ่า ๆ”
เมื่อเห็นชเวซองกุนดูร่าเริง ผู้กำกับทั่วไปก็ยิ้มออกมา
“พูดตามตรง พวกเราก็แปลกใจเหมือนกัน พวกเราไม่เข้าใจเลยว่าทำไมทั้งคุณคังวูจินและฮวาลินถึงตกลงเข้าร่วมในโปรเจกต์นี้”
“หืม? โปรเจกต์ที่ว่านี่คือ...”
“ใช่แล้วค่ะ ฮวาลินมาเพื่อประชุมเกี่ยวกับละครสั้นเรื่อง ‘เพื่อนชาย’ น่ะ แต่ยังไม่ได้คอนเฟิร์มนะ”
ผู้กำกับทั่วไปมองไปที่ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ เขา ข้าง ๆ เธอเป็นผู้หญิงร่างผอมที่สวมแว่นตา เธอคือชเวนานะ คนเขียนบท ‘เพื่อนชาย’
“มันเหมือน...ความฝันเลยค่ะ ฉันรู้สึกขอบคุณที่วูจินตอบตกลง แต่ฉันไม่เคยคาดคิดเลยว่าฮวาลินจะติดต่อเรามา”
คำพูดที่พูดอันแสนขี้อายของนักเขียนชเวนานะถูกขัดจังหวะโดยผู้กำกับทั่วไป ซึ่งตอนนี้กำลังหันกลับมามองที่ชเวซองกุนและวูจิน
“เราโปรโมตโปรเจกต์นี้และแจกจ่ายบทไปทั่วทั้งวงการเลยล่ะ แน่นอนว่าเรารู้ดีว่ามันอาจจะไม่ได้ผล แต่มันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ”
ชเวซองกุนพยักหน้าพร้อมกับกอดอก
“เอ่อ แต่จากที่เห็น คุณแจกจ่ายบทให้กับนักแสดงระดับท็อปเยอะเลยนะครับ มันคงจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากเลยสินะครับ”
“ก็อาจจะจริงค่ะ นั่นแหละคือสิ่งที่เรากำลังเล็งเอาไว้ เราได้พบกับฮวาลินแล้ว แต่ฉันคิดว่าเธออาจจะแค่มาดูลาดเลาเท่านั้น ฉันไม่คิดว่าเธอจะร่วมโปรเจกต์นี้จริง ๆ หรอกค่ะ”
“ฮ่า ๆ คนอย่างฮวาลินไม่มาเล่นละครสั้นหรอกน่า”
“ก็จริงครับ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ แม้ว่าจะไม่มีฮวาลิน แค่วูจินคนเดียวก็เกินพอแล้วสำหรับเรา ใช่ไหมคุณนักเขียน?”
“ค่ะ ใช่ค่ะ!”
ณ จุดนี้เอง ผู้กำกับทั่วไปที่ยิ้มแย้มก็มองตรงไปที่ใบหน้าที่เฉยเมยของวูจิน
“คุณวูจิน คุณจะร่วมแสดงจริง ๆ ใช่ไหมคะ? ฉันแค่อยากจะตรวจสอบให้แน่ใจ เพราะมันเป็นข่าวดีมาก ๆ สำหรับเราเลยนะ”
วูจินตอบกลับอย่างกระชับ
“ครับ ผมจะรับบทนำชายในเรื่อง ‘เพื่อนชาย’”
สักพักหนึ่ง รอยยิ้มของผู้กำกับทั่วไปก็ยิ่งกว้างขึ้น และนักเขียนชเวนานะที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอก็เริ่มพูดอย่างลังเล
“เอ่อ...คุณวูจิน! แต่ว่า มีเหตุผลอะไรไหมคะที่คุณถึงเลือกละครสั้นของฉัน?”
‘ก็เพราะฉากจูบมันค่อนข้างสดใหม่ แน่นอนว่าเนื้อหาโดยรวมก็ดีด้วย แต่ถ้าพูดแบบนี้ไปอาจจะโดนมองหาว่าแปลกแหง’
ดังนั้นวูจินจึงตอบอย่างระมัดระวัง
“ผมชอบบทที่ตรงไปตรงมาน่ะครับ”
“จริงเหรอคะ?”
“ครับ ผมชอบความรู้สึกโดยรวมด้วย”
“ความรู้สึก...?”
เมื่อเห็นวูจินที่ยังดูเฉยเมยเช่นนี้ นักเขียนชเวนานะก็ดูเหมือนกำลังจะหลงใหลในตัวเขา
‘ความรู้สึกสินะ นั่นคือสิ่งที่นักเขียนพัคอึนมีพูดถึงหรือเปล่านะ? การมีสายตาที่เฉียบแหลมในการมองเห็นงานที่ดีงั้นเหรอ? สมแล้วที่เป็นเขา เขาดูมีบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครเลย ถึงฉันไม่รู้ก็เถอะว่ามันคืออะไร แต่มันดูแตกต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัดเลย’
จากนั้นผู้กำกับทั่วไปก็โน้มตัวเข้าไปหาวูจิน
“ว่าแต่คุณวูจิน คุณร้องเพลงได้ไหมคะ?”
ทำไมเธอถึงพูดเรื่องร้องเพลงขึ้นมาล่ะ? บทสนทนาดูเหมือนจะนอกเรื่อง แต่วูจินที่มั่นใจในการร้องเพลงของเขาก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ได้ครับ ผมร้องเพลงไม่แย่”
“โอ้ จริงเหรอ?”
“ทำไมถึงถามล่ะครับ?”
คำตอบมาจากชเวนานะที่หยิบบทออกมาหลายฉบับที่เธอพกมา
“คือว่า มันไม่ได้อยู่ในตอนแรก แต่ตั้งแต่ตอนที่สองเป็นต้นไป พระเอกจะเปิดเผยความสามารถที่ซ่อนอยู่ค่ะ”
“ความสามารถนั้นคือการร้องเพลงเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ เป็นฉากที่นางเอกตกใจมาก เพราะเธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน”
ถึงแม้ว่าเขาจะยุ่งมาก แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้คังวูจินก็ได้อ่านบทหนังและบทละครต่าง ๆ หลายครั้งเมื่อเขามีเวลา แน่นอนว่ารวมถึง ‘เพื่อนชาย’ ด้วย แต่ว่าเขาเพิ่งได้อ่านแค่ตอนที่ 1
‘นี่ก็กะจะเซอร์ไพรส์กันอีกแล้วเหรอเนี่ย?’
ชเวซองกุนถามขึ้น
“คุณนึกถึงนักร้องแบบไหนไว้เหรอครับ?”
“แบบนักร้องมืออาชีพเลยเหรอครับ?”
“อืม...”
จากนั้นผู้กำกับทั่วไปก็โบกมือทั้งสองข้างของเธอ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังไงเราก็สามารถตัดต่อได้อยู่แล้ว อืม ขอแค่แบบธรรมดาก็ได้ ตราบใดที่ไม่เพี้ยนหรือร้องไม่ได้เรื่อง การตัดต่อก็พอจะช่วยได้อยู่”
“ใช่ ๆ ๆ ถูกต้อง! ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ก็รู้เลยว่าทั้งผู้กำกับทั่วไปและชเวนานะดูเหมือนจะค่อนข้างต้องการตัวคังวูจินพอสมควร
‘คิดถึงชะมัด เวลาไปคาราโอเกะทีไร ฉันรู้สึกเหมือนได้โบยบินอีกครั้งเลย’
เขารำลึกถึงช่วงเวลาที่เขาไปคาราโอเกะกับเพื่อนเก่า
“ผมร้องเพลงไม่เพี้ยนหรอกครับ”
“งั้นก็ไม่น่ามีปัญหา!”
“คุณนักเขียน”
หลังจากนั้นไม่นาน คังวูจินก็ยื่นมือไปหาชเวนานะ
“ผมขอรับบทของตอนที่ 2 เป็นต้นไปวันนี้เลยได้ไหมครับ?”
ชเวนานะยื่นเอกสารจำนวนหนึ่งให้คังวูจินโดยไม่ลังเล
“ได้แน่นอนค่ะ! ตอนนี้คุณเป็นพระเอกแล้วนี่!”
ในขณะเดียวกัน ในห้องประชุมข้างๆ
ฮวาลินยังคงตื่นเต้นที่ได้พบกับดาราคนโปรดอย่างคังวูจิน อัตราการเต้นของหัวใจของเธอยังคงสูง เธอไม่ได้ยินบทสนทนาของผู้จัดการที่อยู่ข้าง ๆ เธอ หรือเสียงพูดคุยจากทีม Netflix ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะเลย
‘โอ๊ย จริง ๆ เลย! ฉันออกมาเร็วเกินไปหรือเปล่านะ? ฉันน่าจะเข้าไปหาคังวูจินเพื่อขอจับมือสักหน่อย! ตอนนั้นฉันลนลานเกินไปแล้ว!’
สิ่งที่เธอคิดได้มีเพียงไอดอลของเธอที่อยู่ใกล้ ๆ
‘แต่พอได้เห็นเขาตัวเป็น ๆ เขาดูมีออร่ามากเลย ไม่ได้ดูเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ เขาเหมือนเป็นคนจริงจัง แถมเสียงยังทุ้มอีกต่างหาก! บุคลิกของเขาต่างจากตอนเล่นเป็นนักสืบในเรื่อง ‘สำนักงานนักสืบ’ กับหัวหน้าพัคในเรื่อง ‘นักจิตวิทยาเสเพล’ มากเลย’
การได้เผชิญหน้ากับคังวูจินนั้นส่งผลกระทบต่อเธออย่างมาก ดวงตาของฮวาลินเบิกกว้างขึ้นด้วยความรู้สึกเหมือนแฟนคลับได้พบดารา ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรบางอย่างออก
“อ๊ะ”
ฮวาลินถามหัวหน้าทีม Netflix ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอ
“ทำไมคังวูจินถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะคะ?”
“หืม? โอ้ ฮ่า ๆ ที่จริงก็ด้วยเรื่องเดียวกับคุณนั่นแหละ นักเขียนชเวนานะเลือกวูจินเป็นพระเอก”
“...คังวูจินเหรอ?”
“ใช่ค่ะ แต่ยังไม่ได้คอนเฟิร์มนะคะ จะให้ลงรายละเอียดตอนนี้ก็คงจะยากอยู่”
ในตอนนั้นเอง
-แกร๊ก
ประตูห้องประชุมเปิดออก และผู้กำกับทั่วไปร่างอวบกับนักเขียนชเวนานะก็เดินเข้ามา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะประชุมกับคังวูจินเสร็จแล้ว ผู้กำกับทั่วไปที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับฮวาลินเริ่มพูดขึ้น
“ก่อนอื่นเลย ต้องขอขอบคุณที่มาร่วมประชุมในวันนี้นะคะ คุณฮวาลิน”
“ค่ะ ฉันอ่านบทแล้วรู้สึกสนใจดี”
“ก่อนที่เราจะลงรายละเอียด เนื่องจากคุณแสดงความสนใจในบทแล้ว ฉันก็ควรจะแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับบทของอีกฝ่ายที่คอนเฟิร์มแล้ว”
“...?”
ฮวาลินกลืนน้ำลายอย่างประหม่า ผู้กำกับทั่วไปยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดต่อ
“พระเอกของเรื่อง ‘เพื่อนชาย’ จะเป็นคังวูจินค่ะ”
“!!!”
“พึ่งคอนเฟิร์มเมื่อครู่นี้เองค่ะ เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้แล้ว เราสามารถดำเนินการประชุมต่อได้เลย ทางวูจินขอว่าอย่าพึ่งแจ้งสื่อนะคะ คงจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกทีอาทิตย์หน้านู่นแหละ”
ฮวาลินกระสับกระส่ายอยู่บนเก้าอี้ เธอรู้สึกกังวล เธอมาเข้าร่วมการประชุมโดยไม่ได้คิดอะไรมาก และจู่ ๆ พระเอกก็ดันเป็นคังวูจิน คนโปรดของเธอเนี่ยนะ?
‘สุดยอด’
ในตอนนั้นเอง
“ผู้กำกับครับ”
ผู้จัดการร่างอวบที่อยู่ข้าง ๆ ฮวาลินที่ตกใจพูดแทรกขึ้นมา
“ก่อนอื่นเลย พวกเราเข้าใจเรื่องของคังวูจินแล้วครับ พวกเราจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ออกไปแน่นอนครับ เอ่อ ตอนนี้ผมมีเงื่อนไขบางอย่างที่อยากจะพูดออกมา”
“ได้เลยค่ะ ผู้จัดการ”
“เกี่ยวกับฉากจูบในบรรทัดแรกของบทเลยค่ะ ถ้าฮวาลินของเรารับบทเป็นนางเอก คุณช่วยตัดฉากนั้นออกได้ไหมครับ?”
“พี่”
“อ๊ะ!”
ฮวาลินแอบหยิกต้นขาของผู้จัดการร่างอวบและหยุดไม่ให้เขาพูดต่อ เธอกัดฟันแน่น
“ชู่ววว อยู่นิ่ง ๆ สิ”
กลางคืน ในอพาร์ตเมนต์สตูดิโอของคังวูจิน
กว่าคังวูจินที่ยุ่งมากกับการถ่ายแบบให้นิตยสารและโซเชียลมีเดียจะกลับถึงบ้าน มันก็เลยสี่ทุ่มมาแล้ว ทันทีที่เขาเข้ามา เขาก็โยนบท ‘เพื่อนชาย’ และโทรศัพท์ของเขาลงบนเตียง
“โอ้ วันนี้ช่างยาวนานเหลือเกิน”
วูจินดูเหนื่อยล้า เขาจึงยืดคอไปมาหลายทิศทาง หลังจากจิบน้ำเย็นแล้ว เขาก็เปิดแล็ปท็อปของเขาขึ้นมาเพื่อดู ‘ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยาเสเพล’
คืนวันเสาร์ ตอนที่ 6 ของ ‘ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยาเสเพล’ น่าจะออกอากาศแล้ว
-ฟู่ววว
ในไม่ช้า แล็ปท็อปก็เริ่มสตรีมตอนที่ 6 ของ ‘ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยาเสเพล’ แม้ว่ารองหัวหน้าพัคจะตายไปแล้ว แต่คังวูจินก็ไม่ได้เลิกติดตามเรื่องนี้ไป
“ฉันหวังว่าเรตติ้งจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีกนะ”
ต้องขอบคุณเรตติ้งที่ลดลงของ ‘ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยาเสเพล’ ทำให้ความนิยมของวูจินเพิ่มขึ้น แต่เขาก็เริ่มชอบละครเรื่องนี้และหวังว่ามันจะทำได้ดีต่อไป เพราะมันเป็นโปรเจกต์ที่เขารู้สึกขอบคุณมันมาก
ทว่า...
“หืม”
ในขณะที่มองไปที่แล็ปท็อปของเขา วูจินก็เปลี่ยนสายตาไปที่โทรศัพท์ของเขา
“ฉันควรจะถามฮงฮเยยอนเกี่ยวกับเรื่องฮวาลินดีไหม?”
แต่เขาก็ตัดความคิดนั้นทิ้งไปและวางโทรศัพท์ลง เพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น จากนั้นเขาก็หันไปสนใจบทของ ‘เพื่อนชาย’
“มาทดสอบมันกันก่อนดีกว่า”
วูจินบ่นกับตัวเอง เขายืดตัวและแตะที่สี่เหลี่ยมสีดำที่ติดอยู่กับบทของตอนที่ 2 ของ ‘เพื่อนชาย’ ดูเหมือนว่าเขาวางแผนที่จะเข้าไปอ่านมันในมิติว่างเปล่า
จากนั้น
“มาดูกัน”
คังวูจินเข้าไปในมิติว่างเปล่า เขาเห็นสี่เหลี่ยมสีขาวหกอัน ในบรรดาพวกนั้น เขาเห็นอันที่ลอยอยู่ท้ายสุด
-[6/บท (ชื่อเรื่อง: เพื่อนชาย) ระดับ B+]
-[*นี่คือบทละครที่มีความสมบูรณ์สูงมาก สามารถอ่านได้ 100%]
-(ตอนที่ 2)
‘เพื่อนชาย’ ได้รับการบันทึกเรียบร้อยแล้วจนถึงตอนที่ 2 แต่แล้ว...
“หา?”
คังวูจินเอียงศีรษะ
“B+ เหรอ? ไม่ใช่ว่า ‘เพื่อนชาย’ ได้แค่ B หรอกเหรอ?”
จริงอยู่ที่ว่าระดับของ ‘เพื่อนชาย’ นั้นได้ B อย่างแน่นอน แต่การที่มันเพิ่มขึ้นเป็น B+ ทำให้วูจินพึมพำออกมาพร้อมกับสงสัย
“การที่ระดับของมันเปลี่ยนไปจากเมื่อวานกับวันนี้... เป็นเพราะฉันหรือเปล่านะ?”
มันชัดเจนแล้ว วันนี้วูจินได้รับการยืนยันให้เป็นนักแสดงนำชายใน ‘เพื่อนชาย’ ดังนั้นเหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุดที่ระดับของมันเพิ่มขึ้นก็น่าจะมาจากเขา
“จริงเหรอ? เพราะฉันเนี่ยนะ?”
วูจินรีบตรวจสอบสี่เหลี่ยมสีขาวสำหรับ ‘พ่อค้ายาเสพติด’ และ ‘รักน้ำค้างแข็ง’
-[4/บทภาพยนตร์ (ชื่อเรื่อง: พ่อค้ายาเสพติด), ระดับ B+]
-[5/บทละคร (ชื่อเรื่อง: รักน้ำค้างแข็ง), ระดับ C+]
อย่างไรก็ตาม พวกมันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาได้แต่เกาคางด้วยความงุนงง
“ทำไม ‘เพื่อนชาย’ ถึงเพิ่มขึ้น แต่อีกสองเรื่องไม่เพิ่มล่ะ?”
ทั้งที่ ‘พ่อค้ายาเสพติด’ และ ‘รักน้ำค้างแข็ง’ เป็นผลงานที่รู้จักกันดีในสื่อ มีความคิดเห็นของสาธารณชนมากมาย แต่ตอนนี้กลับมีเพียง ‘เพื่อนชาย’ เท่านั้นที่มีระดับเพิ่มขึ้น
“หืม หรือว่ามีเหตุผลอื่น?”
แล้วตอนนั้นเอง…
“อะไรน่ะ?”
ทันใดนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในสี่เหลี่ยมสีขาวของ ‘เพื่อนชาย’ ที่วูจินกำลังมองดูอยู่ ตัวอักษรที่เขียนไว้ถูกลบและเริ่มเขียนใหม่ มันให้ความรู้สึกเหมือนมีคนล่องหนกำลังเขียนตัวอักษรใหม่
ข้อความที่อัปเดตอ่านว่า:
-[6/บท (ชื่อเรื่อง: เพื่อนชาย), ระดับ A]
ระดับของ ‘เพื่อนชาย’ ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนเป็น B+ ก็เพิ่มขึ้นอีกเป็น A ต่อหน้าต่อตาของวูจิน
“...ออกไปก่อนแล้วกัน!”
วูจินรีบออกจากมิติว่างเปล่าและหยิบบทตอนที่ 2 ของ ‘เพื่อนชาย’ ที่วางอยู่บนผ้าห่มของเขาขึ้นมา ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ทำไมมีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวที่เพิ่มขึ้นเป็นระดับ A?”
ในเวลาเดียวกัน
ภายในห้องทำงานของ CEO ของ JML Entertainment ต้นสังกัดของฮวาลิน แม้ว่าจะเป็นเวลาดึกและพนักงานส่วนใหญ่จะกลับบ้านไปแล้ว แต่แสงไฟในห้องทำงานที่กว้างขวางก็ยังสว่างไสว มีสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะขนาดใหญ่ตรงกลาง ได้แก่ CEO ของ JML Entertainment ที่แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ผู้จัดการร่างอวบ และฮวาลินที่นั่งไขว่ห้าง
ส่วนที่น่าสนใจคือ
“อะไรนะ...เมื่อกี้ว่าไงนะ?”
“หา ฮวาลิน พูดอีกครั้งได้ไหม?”
ทั้ง CEO และผู้จัดการต่างก็อ้าปากค้างมองฮวาลิน ฮวาลินตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะรับเล่นละครสั้นเรื่อง ‘เพื่อนชาย’”
*****