ตอนที่แล้วตอนที่ 150 ซู หนิงซวง : จะพิชิตใจผู้ชายได้อย่างไร?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 152 เขาคือเจ้านายของเรา

ตอนที่ 151 คำพูดที่เหมือนเสือ และหมาป่า


ถ้ากระเพาะไม่ได้ผล เธอก็ต้องเปลี่ยนไปใช้อวัยวะส่วนอื่นแล้วล่ะ

ถ้าจับกระเพาะไม่ได้ งั้นก็ต้องจับไตแทน!

แน่นอน คำพูดที่เหมือนเสือ และหมาป่าแบบนี้(虎狼之词) ซู หนิงซวง คิดในใจเท่านั้น ไม่กล้าพูดมันออกมา

“สวัสดีครับ คุณป้า, รุ่นพี่ ซู”

เย่เฉิน ทักทาย ซู หนิงซวง และแม่ของเธอ

“เสี่ยวเฉิน มาแล้ว”

หลังจากเห็น เย่เฉิน แม่ของ ซู หนิงซวง ก็พยักหน้าให้กับ เย่เฉิน

“รุ่นน้อง เย่?”

หลังจากที่ได้เห็น เย่เฉิน แล้ว ซู หนิงซวง ก็แปลกใจ พลันดวงหน้าเธอแดงก่ำขึ้นมาทันที

เมื่อกี้เธอเพิ่งคิดว่า ถ้าไม่สามารถเอาชนะกระเพาะของ รุ่นน้อง เย่ ได้ เธอก็อาจจะทำได้แค่ใช้วิธี ‘เปลี่ยนข้าวดิบให้กลายเป็นข้าวสุก’ แล้ว

ผลคือพอเธอเริ่มเพ้อเจ้ออยู่คนเดียว..ปุ๊บ รุ่นน้อง เย่ ก็ปรากฏตัวขึ้นทันที

นี่…

มัน...น่าอายจริงๆ

“หนิงซวง กำลังเรียนทำอาหารกับฉันอยู่นะ”

แม่ของ ซู หนิงซวง พูดขึ้นว่า :

“อนาคตเมื่อพวกเธอแต่งงานกัน เสี่ยวเฉิน ฉันรับรองว่าเธอจะมีภรรยาที่มีฝีมือในการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมมาก”

เมื่อแม่ของ ซู หนิงซวง พูดแบบนี้ เย่เฉิน ก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย

“เสี่ยวเฉิน มาแล้ว มานี่สิ มาคุยกันหน่อย”

คุณย่า ของ ซู หนิงซวง ดีใจมาก เธออยากคุยกับว่าที่หลานเขยในอนาคตของเธอ

“สวัสดีครับ คุณย่า”

ยี่สิบนาทีต่อมา อาหารเย็นก็พร้อมแล้ว

“นี่สิถึงจะเหมือนครอบครัวจริงๆ”

ที่โต๊ะอาหาร คุณย่า ของ ซู หนิงซวง อุทานออกมาด้วยอารมณ์ในใจ

คนอื่นๆ อาจจะอิจฉาตระกูลที่ร่ำรวย แต่การอยู่ในตระกูลที่ร่ำรวยนั้นไม่ได้มีความสุขขนาดนั้น

แค่อยากให้ทุกคนในครอบครัวได้ทานข้าวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันนั้นก็ยากแล้ว

และเธอก็รู้ดีว่า ลูกๆ หลานๆ ถึงจะดูเหมือนเข้ากันได้ดี แต่เบื้องหลังนั้นก็แข่งขันกันอย่างดุเดือด

ในบ้านของ หนิงซวง เธอถึงได้รู้สึกถึงความรู้สึกของครอบครัวที่ห่างหายไปนาน

หลังทานอาหารเสร็จ พ่อของ ซู หนิงซวง มาหา เย่เฉิน แล้วพูดกระซิบเบาๆ ว่า :

“ไปที่ห้องหนังสือหน่อย ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุย”

เย่เฉิน หันไปดู และพบว่าพ่อของ ซู หนิงซวง มีสีหน้าจริงจังมาก ดูเหมือนจะมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น

เมื่อมาถึงห้องหนังสือ..

“แต่เดิมฉันคิดว่าเรื่องการแต่งงานระหว่างตระกูลสามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว”

พ่อของ ซู หนิงซวง พูดด้วยความเหนื่อยหน่าย :

“แต่ฉันไม่คาดคิดว่า ..วันนี้ฉันจะรับรู้เรื่องอื่นๆ มาอีก”

“มีอะไรเหรอครับ?”

“วันนี้ฉันรู้โดยบังเอิญเกี่ยวกับครอบครัวของพี่สะใภ้ ซึ่งเป็นแม่ของ ซู เหวินหรง”

เมื่อก่อน..ตอนนั้นบ้านแม่ของ ซู เหวินหรง มีฐานะค่อนข้างธรรมดา เป็นเพียงแค่เศรษฐีทั่วไปเท่านั้น

คล้ายกับครอบครัวของภรรยาของเขา

หลายปีมานี้ในเจียงโจว พ่อของ ซู หนิงซวง ไม่ได้สนใจเธอมากนัก

วันนี้ พ่อของ ซู หนิงซวง บังเอิญรู้มาว่าบ้านพี่สะใภ้ในช่วงปีหลังๆ มานี้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างก้าวกระโดด

แบบนี้ สถานการณ์อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง

ซึ่ง..หนิงซวง อาจไม่ปลอดภัยนัก

“สิ่งต่างๆ ในโลกนี้ช่างเปลี่ยนแปลงเร็วจริงๆ ..ย้อนกลับไปในตอนนั้นบ้านแม่ของ หนิงซวง กับพี่สะใภ้มีฐานะพอๆ กัน”

“ผ่านมาไม่นาน บ้านแม่ของ หนิงซวง ไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่บ้านพี่สะใภ้กลับเจริญรุ่งเรืองจนเรา ..จำต้องแหงนหน้าขึ้นมองอยู่แล้ว”

พ่อของ ซู หนิงซวง กล่าวพลางถอนหายใจ :

“ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังพี่สะใภ้คือ ตระกูลตู้ ตอนนี้เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองในหางโจว ว่ากันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในหลายธุรกิจ รวมถึงมีหุ้นใน เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป ที่มีชื่อเสียง และยังมี...”

เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป?

นั่นไม่ใช่บริษัทบันเทิงที่ตัวเขาเอง..ได้รับเป็นรางวัลจากการฝึกฝน ไป๋ ฮันเยียน หรอกเหรอ?

“ตระกูลตู้เป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่เท่าไหร่ของ เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป เหรอครับ?”

เย่เฉิน ถาม

“ดูเหมือนจะเป็นลำดับสอง หรือสาม?”

พ่อของ ซู หนิงซวง ตอบหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง

อันดับสอง หรือสามงั้นเหรอ?

ไม่สำคัญ..

อย่างไรก็ตาม.. ถ้าเขาทำภารกิจสำเร็จ เขาจะได้รับหุ้น 51% ของ เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป และกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดแน่นอน

“ตระกูลตู้มีอิทธิพลแค่ไหนครับ?”

เย่เฉิน ยังคงถามต่อ

“ถึงแม้จะเทียบกับตระกูลซูของเราไม่ได้ แต่ตระกูลตู้มีอิทธิพลในหางโจวไม่น้อยเลย และมีทรัพย์สินโดยรวมมากกว่า 30,000 ล้านหยวน”

พ่อของ ซู หนิงซวง ถอนหายใจเบาๆ รู้สึกไร้หนทางเล็กน้อย

แม้ในเจียงโจว ครอบครัวของพวกเขาจะร่ำรวยโดยมีทรัพย์สินนับหมื่นล้าน

แต่เมื่อไปหางโจว ไม่ต้องพูดถึงตระกูลอื่น แม้แต่ตระกูลตู้.. เราก็ยังห่างไกลอยู่มาก

“กว่า 30,000 ล้าน?”

เย่เฉิน พึมพำเบาๆ

ตอนนี้ทรัพย์สินโดยรวมของเขามีมากกว่าหมื่นล้าน ถ้าสามารถทำภารกิจพัฒนา ไป๋ ฮันเยี่ยน ได้สำเร็จ มูลค่าทรัพย์สินโดยรวมก็น่าจะทะลุ 30,000 ล้านไปได้ไม่ยาก

“เสี่ยวเฉิน ต้นเดือนธันวาคมเป็นงานเลี้ยงประจำปีของตระกูลซู ตอนนั้นเธอสามารถไปกับเราด้วย..ได้ไหม?”

พ่อของ ซู หนิงซวง พูดขึ้น

เขาไม่มีทางเลือกแล้ว ความสุขของ หนิงซวง ต้องขึ้นอยู่กับพวกเขาทั้งสองคน

“ได้แน่นอนครับ”

เย่เฉิน พยักหน้า

เรื่องนี้เขาต้องจัดการแน่นอน

พ่อของ ซู หนิงซวง พยักหน้า

ตอนนี้ทุกอย่างยังไม่ชัดเจน เรายังต้องรอจนถึงงานเลี้ยงประจำปี

ถ้าในตอนนั้น เสี่ยวเฉิน แสดงพลังอันแข็งแกร่งออกมา เอาชนะตระกูลตู้ และแม้กระทั่งตระกูลจ้าว ที่พ่อของเขาต้องการให้เกิดงานแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ขึ้น …ก็ต้องยอมแพ้

ถึงตอนนั้น ใครจะกล้าบังคับ หนิงซวง?!

หลังจากที่พ่อของ ซู หนิงซวง และเย่เฉิน พูดคุยกันแล้ว เย่เฉิน ก็เข้าใจ

ยังมีเวลาอีกสองสามเดือน ก่อนงานเลี้ยงประจำปีของตระกูลซูจะเริ่มขึ้น

เวลาของเขามีไม่มากแล้ว

ถ้ารอบคอบหน่อย ในสองสามเดือนข้างหน้า ถ้าเขาสามารถเพิ่มทรัพย์สินโดยรวมของตัวเองให้มากกว่า 30,000 ล้านหยวน เอาชนะตระกูลตู้ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร

ตราบใดที่เขาฝึกฝน ไป๋ ฮันเยี่ยน ให้ดี แล้วทำภารกิจในเกมบางอย่าง ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

กลับมาที่ห้องนั่งเล่น คุณย่าของ ซู หนิงซวง กำลังพูดคุยอยู่กับ เย่เฉิน

เธอหวังว่า เย่เฉิน กับหนิงซวง จะมีเวลาไปหางโจวบ่อยๆ เพื่อเยี่ยมเยียนตัวเองบ้าง

หลังจากอยู่ที่บ้านของ ซู หนิงซวง ต่ออีกสักพัก เย่เฉิน ก็ขอตัวลาจากไป

เช้าวันรุ่งขึ้น เย่เฉิน ขอลาหยุดในช่วงเช้า

เช้าวันนี้ เขามีสองเรื่องสำคัญที่ต้องทำ

เรื่องแรกคือไปดูสถานการณ์ของ ไป๋ ฮันเยี่ยน ที่บริษัท อี้หลิน เอเจนซี่

เรื่องที่สองคือ….

(虎狼之词 - มักใช้เพื่ออธิบายคำพูด หรือวาจาที่ดุดัน โหดร้าย หรือส่อเสียด ในปัจจุบันหมายความว่าเมื่อคำพูดบางคำกลายเป็นเรื่องไม่บริสุทธิ์ รวมถึงฉากทะลึ่ง หรือลามกส่อเสียด)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด