ตอนที่ 12 : สมาชิกอย่างเป็นทางการ
ตอนที่ 12 : สมาชิกอย่างเป็นทางการ
หวู่เหิงขมวดคิ้วในขณะที่เขาถอยไปและถาม “ข้าขอทราบเหตุผลได้ไหม?”
“อาชีพพิเศษ การพรากชีวิต และความสงสัยในความสัมพันธ์ใกล้ชิดของเจ้ากับอาชญากร” ทหารลาดตระเวนตอบ และรายงานเหตุผลแต่ละข้อ
“ถ้าเจ้าพูดแบบนั้น งั้นข้าก็ไม่สามารถตอบโต้ได้เหรอเมื่อมีอาชญากรพยายามจะสังหารข้า?” หวู่เหิงตอบโต้
สายตาของหัวหน้าทหารเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก และคนที่อยู่ทางด้านหลังของเขาก็วางมือไว้ที่ดาบของพวกตน
ใบหน้าของหวู่เหิงเปลี่ยนเป็นไม่น่าดู
ที่นี่ไม่มีเหตุผลกันเลยเหรอ?
แต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะตอบโต้
ถ้าเขาลงมือกับทหารพวกนี้ ความผิดของเขาก็จะถูกยืนยัน
เมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่าเรื่องที่เขาสังหารอาชญากรจะไม่เป็นอะไร แต่การโจมตีทหารก็คงจะกลายเป็นความผิดใหม่สำหรับเขา
ในขณะที่เหล่าทหารกำลังจะพาตัวเขาไปนั้น เจ้าหน้าที่คนเมื่อครู่ก็กลับมาแล้ว
เธอขมวดคิ้วให้กับท่าทีของเหล่าทหาร และเธอก็พูดกับหวู่เหิงว่า “หวู่เหิง หัวหน้าอยากจะพบกับเจ้าหน่อย”
หัวหน้าเหรอ?
หัวหน้าสมาคมงั้นเหรอ?
หวู่เหิงไม่ตอบ แต่มองไปยังเหล่าทหารแทน
เจ้าหน้าที่สาวพูดต่อ “พวกท่านช่วยรอก่อนสักพักได้ไหม?”
สมาคมนักผจญภัยนี้ไม่ได้ดูเรียบง่ายอย่างที่เป็นเลย
พนักงานต้อนรับธรรมดาสามารถพูดกับทหารเหล่านี้ได้ด้วยความมั่นใจ
เหล่าทหารขมวดคิ้ว แต่ก็หลีกทางให้
หวู่เหิงตามเจ้าหน้าที่ไปตามทางเดินที่เธอเดินจากมา เดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง และมาหยุดอยู่หน้าห้องๆ หนึ่ง เธอพูดออกมาเบาๆ ว่า “หัวหน้า ท่านหวู่เหิงมาแล้วเจ้าค่ะ”
“ให้เขาเข้ามา!”
...
เมื่อเข้ามาในห้องที่เต็มไปด้วยชั้นหนังสือและเอกสาร มันก็มีชายสวมชุดทางการผมสีขาวนั่งอยู่ที่นั่น
อายุของเขาดูไม่ได้มากมายอะไร แต่เขากลับให้ความรู้สึกเหมือนกับคนที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาจากอาการป่วยหนัก
เจ้าหน้าที่ที่พาหวู่เหิงเข้ามากระซิบบางสิ่งกับชายผู้นั้นก่อนที่จะออกไปจากห้อง
สายตาของชายผู้นั้นมองมาที่หวู่เหิง “ข้าชื่อยาซ์ด เป็นผู้ดูแลสมาคมนักผจญภัยประจำเมืองหินดำ”
“เป็นเกียรติมากขอรับที่ได้พบกับท่านยาซ์ด”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ นั่งลงคุยกันหน่อยสิ นี่คือรางวัลค่าหัวของเจ้า แต่เจ้าก็เลือกหนังสือทักษะได้แค่ 1 เล่มเท่านั้น” ยาซ์ดมีท่าทางที่สง่างามราวกับขุนนางเลย
บนโต๊ะ มันมีถุงเงินหนังและหนังสือที่ดูเก่าแก่อยู่สองเล่ม
เมื่อเขานั่งลงแล้ว สายตาของหวู่เหิงก็มองไปที่หนังสือทั้งสองเล่มนั้น
[ทักษะระบำแสง]
[รายละเอียด: ท่านสามารถสร้างแหล่งกำเนิดแสงที่ลอยอยู่รอบๆ ได้]
เวทมนตร์ให้แสงสว่างงั้นเหรอ?
มันจะไปมีประโยชน์อะไร?
ในโลกซอมบี้ เขาเจอไฟฉายหลายอันที่พอมีแบตเตอรี่เหลืออยู่แล้ว
เขายังไม่ต้องการสิ่งนี้ในตอนนี้
[ทักษะสาดกรด]
[รายละเอียด: ปลดปล่อยลูกบอลกรด สร้างความเสียหายด้วยกรดอย่างรุนแรงต่อเป้าหมาย]
ลูกบอลกรดงั้นเหรอ?
ทำไมเวทมนตร์พวกนี้จึงได้แตกต่างจากสิ่งที่เขาคิดไว้นัก?
เวทมนตร์ลูกบอลไฟหรือเวทมนตร์สายฟ้าอยู่ไหนกัน?
“ข้าเลือกอันนี้ละกัน” หวู่เหิงหยิบถุงเงินและหนังสือทักษะสาดกรด
ยาซ์ดพยักหน้า และพูดด้วยท่าทางสบายๆ ว่า “ข้าได้ยินว่าเจ้าเจอปัญหาบางอย่างก่อนที่ข้าจะเรียกเจ้ามาที่นี่ใช่ไหม?”
“ขอรับ พวกทหารอยากจะนำตัวข้าไปสอบสวน เนื่องจากมีการต่อสู้โดยไม่ได้รับอนุญาต”
“ฮ่าฮ่า มันเป็นเรื่องปกติเพราะคนส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบเนโครแมนเซอร์อยู่แล้ว” ยาซ์ดหัวเราะและรินชาสองแก้ว จากนั้นก็ยื่นชาแก้วหนึ่งให้กับหวู่เหิง
หวู่เหิงไม่อยู๋ในอารมณ์ที่จะมานั่งจิบชาคุยกัน ดังนั้นเขาจึงถามออกมาตรงๆ “ท่านผู้ดูแลยาซ์ดเรียกข้ามาทำไมเหรอ?”
ยาซ์ดจิบชาและพูดออกมาอย่างช้าๆ “เจ้าอยากจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของเจ้าในตอนนี้ไหม?”
“ท่านหมายความว่ายังไง?” หวู่เหิงมองมาที่เขาด้วยความสงสัย
“ข้าสามารถให้คำแนะนำกับเจ้าได้ เพื่อที่เจ้าจะไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะมาสร้างปัญหาให้กับเจ้า และยังจะได้รับสิทธิพิเศษบางอย่างด้วย”
คำพูดประโยคนี้ทำให้หวู่เหิงรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมา
เนโครแมนเซอร์มีประโยชน์มากในโลกซอมบี้ แต่ในเมืองหินดำ พวกเขาคือภาระ
ถ้ามันมีทางออก เขาก็ยินดีจะฟัง
“คำแนะนำอะไรงั้นเหรอ?”
ยาซ์ดยิ้มและกล่าวว่า “สมาคมนักผจญภัยยินดีต้อนรับทุกอาชีพที่มีประวัติขาวสะอาด และสัญญาว่าจะให้การสนับสนุนที่ดี”
เข้าร่วมกับสมาคมนักผจญภัยงั้นเหรอ?
“ข้าได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกของสมาคมแล้วขอรับ”
จากข้อมูลที่เขามี สมาคมนักผจญภัยดูเหมือนสำนักงานลงทะเบียนของทหารรับจ้างอยู่เหมือนกัน
พวกเขาคอยจัดแจงเรื่องต่างๆ และทำการตั้งค่าหัวด้วย
“ข้าหมายถึงการเป็นสมาชิกถาวรของสมาคมนักผจญภัย ไม่ใช่แค่สมาชิกในนามเท่านั้น เจ้าจะถือว่าเป็นพนักงานอย่างเป็นทางการของสมาคม ทำให้เจ้ามีสถานะทางกฎหมายและสิทธิพิเศษภายในกองกำลังและดินแดนต่างๆ เป็นส่วนใหญ่ในโลกนี้”
เมื่อได้ยินคำนี้ ดวงตาของหวู่เหิงก็เปล่งประกายขึ้นมา
ถ้ามันเป็นอย่างนั้น การเป็นสมาชิกของสมาคมนักผจญภัยก็ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดี
แต่เขาก็ข่มความตื่นเต้นเอาไว้และถามว่า “งั้นข้าต้องทำอะไรบ้างขอรับ?”
“ทำภารกิจบางอย่างที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมมอบหมายให้สำเร็จ พวกเขาอาจจะมอบภารกิจสำรวจหรือไม่ก็รวบรวมข้อมูลให้กับเจ้าก็ได้” ยาซ์ดอธิบาย
หวู่เหิงลังเล “ข้าไม่อยากจะเสี่ยงเลย และนอกจากนี้ ข้ายังสามารถสังหารอาชญากรผู้นั้นได้เพราะโชคช่วย ข้าไม่ได้เก่งกาจอะไรขนาดนั้นหรอก”
“ไม่ต้องห่วง ภารกิจส่วนใหญ่ของสมาคมนั้นเป็นภารกิจช่วยเหลือทหารของทางการ พวกเราไม่ได้สนับสนุนให้คนของพวกเราทำอะไรเสี่ยงๆ แบบเจ้าอย่างการจัดการกับอาชญากรเพียงลำพังหรอกนะ”
ยาซ์ดเงยหน้าขึ้นมองเขาและพูดต่อ “แน่นอนว่าสมาคมสามารถมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับเจ้าได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อมูล ความรู้ ไอเท็มเวทมนตร์ หรือกระทั่งเงินและเส้นสาย ซึ่งไม่ใช่ทุกคนนะที่จะได้รับตำแหน่งนี้”
จากสิ่งที่เขาพูด ผลประโยชน์ของการเข้าร่วมกับสมาคมนักผจญภัยดูดีมากเลยทีเดียว
และที่สำคัญที่สุด เขายังจะได้หลุดพ้นจากสภาพอันน่าอึดอัดในฐานะเนโครแมนเซอร์ได้ด้วย และจะไม่ถูกตราหน้าว่าเป็นอาชญากรอีก
“งั้นทำไมถึงเลือกข้างั้นเหรอ?”
เขาไม่เชื่อว่าเขาคือ ‘ผู้ถูกเลือก’ ถ้าเขาโชคดีขนาดนั้น เขาก็คงจะไม่ได้พบกับจุดจบของโลกเช่นนั้นแน่ๆ
ยาซ์ดอธิบายต่อ “แต่ละสาขาของสมาคมสามารถคัดสรรผู้มีพรสวรรค์มาเข้าร่วมกับสมาคมนักผจญภัยได้ ไม่ใช่แค่นักสู้ทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเหล่าคนที่มีความสามารถพิเศษหรืออาชีพที่หายากด้วย แน่นอนว่าพวกเขาต้องมีประวัติขาวสะอาดและต้องไม่มีประวัติอาชญากรรม”
“งั้นก็เป็นเพราะข้าคือเนโครแมนเซอร์งั้นเหรอ?”
“เนโครแมนเซอร์ถือว่าเหมาะสมกับคำว่า ‘หายาก’ เป็นอย่างมาก ณ ที่แห่งนี้ และยิ่งสำหรับคนที่ไม่มีประวัติอาชญากรรมก็ยิ่งแล้วใหญ่”
สมาคมนักผจญภัยช่างแปลกประหลาดจริงๆ เพราะแม้เมืองหินดำจะรังเกียจเขา แต่สมาคมนักผจญภัยกลับต้องการตัวเขา
เขารีบคิดอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่าการเข้าร่วมกับสมาคมนักผจญภัยจะไม่ได้มีผลกระทบอะไรสำหรับเขา และยังจะมีประโยชน์สำหรับเขาด้วย
มันไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธเลย
การมีสถานะเช่นนี้จะทำให้เขาใช้ชีวิตในเมืองหินดำเพื่อพัฒนาตัวเองได้ดียิ่งขึ้น และเขายังไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นๆ อีกด้วย
หลังจากเข้าใจเรื่องนี้แล้ว หวู่เหิงก็ยิ้ม “ขอบคุณมากขอรับสำหรับความไว้ใจ งั้นถ้าข้าจะเข้าร่วมกับสมาคมนักผจญภัย ข้าต้องทำยังไงต่อเหรอ?”
ยาซ์ดหัวเราะและพยักหน้า จากนั้นเขาก็เปิดลิ้นชักเพื่อหยิบเอกสารออกมา “กรอกรายละเอียดของเจ้าซะ พวกเราจะตอบกลับเจ้าภายใน 3-4 วัน”
หวู่เหิงพยักหน้า และอ่านรายละเอียดของเอกสารนี้
หลังจากกรอกรายละเอียดทั้งหมดแล้ว เขาก็ยื่นมันกลับไป
ยาซ์ดรับเอกสารมา เหลือบมองดู เก็บมันกลับเข้าไปในลิ้นชัก และลุกขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า “ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปดูศพ”
ศพเหรอ?