ตอนที่ 7 : สุนัขโครงกระดูก
ตอนที่ 7 : สุนัขโครงกระดูก
[สุนัขล่าโครงกระดูก]
[เลเวล: 5 (0/1,500)]
[ค่าสถานะ: ความทนทาน 12, ความแข็งแกร่ง 14, ความว่องไว 16, การรับรู้ 5, สติปัญญา 5, เสน่ห์ 4]
[ทักษะ: โครงกระดูกกลวง, เพลิงวิญญาณขั้นต้น]
[เพลิงวิญญาณขั้นต้น: อันเดดที่ครอบครองเพลิงวิญญาณขั้นต้นจะสามารถเข้าใจและดำเนินการตามคำสั่งพื้นฐานได้]
เนื่องจากมันมีแค่โครงกระดูก มันจึงไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามันเคยเป็นเท็ดดี้มาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มันมีขนาดใกล้เคียงกับสิงโตเช่นนี้
ค่าสถานะของสุนัขโครงกระดูกนั้นถือว่าสูงมากทั้งความแข็งแกร่งและความว่องไว
ในทางกลับกัน ความทนทานก็ดูเหมือนจะเป็นจุดด้อยของมัน
และมันก็ยังมีความสามารถเพิ่มเติมอย่างเพลิงวิญญาณขั้นต้นด้วย ซึ่งคำอธิบายก็ระบุไว้ว่าโครงกระดูกที่ครอบครองเพลิงวิญญาณขั้นต้นจะสามารถเข้าใจและดำเนินการตามคำสั่งพื้นฐานได้
ความสามารถนี้มีประโยชน์มากจริงๆ
แม้ว่านักรบโครงกระดูกจะมีประโยชน์ แต่พวกมันก็ซื่อบื้อไปหน่อย พวกมันจำเป็นต้องได้รับคำสั่งเกือบทุกการกระทำ และพวกมันก็แทบจะไม่เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนเลย
แต่ด้วยเพลิงวิญญาณขั้นต้นนี้ โครงกระดูกที่ครอบครองความสามารถนี้ก็จะสามารถเข้าใจคำสั่งได้หลากหลายยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่แน่ใจที่มาของเพลิงวิญญาณนี้เหมือนกัน
หรือมันจะเป็นความสามารถของอันเดดพิเศษ?
หรือจะเป็นสิ่งที่จะได้มาเมื่อพวกมันเลื่อนระดับถึงจุดๆ หนึ่ง?
หวู่เหิงเก็บความสับสนนี้เอาไว้
หลังจากมองดูความสามารถของมันแล้ว มันก็มีบางสิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาได้ในขณะที่เขาเตรียมสำรวจห้องพร้อมกับนักรบโครงกระดูกของเขา
“สมองงั้นเหรอ?”
ในจุดที่ศีรษะของเท็ดดี้เคยอยู่นั้น มันยังมีเนื้อสีขาวขุ่นหลงเหลืออยู่
มันสะดุดตามาก เพราะภายใต้อิทธิพลของทักษะการควบคุมโครงกระดูก เลือดเนื้อของมันก็ได้หลอมละลายหายไปแล้ว รวมถึงผิวหนังและอวัยวะภายในของมันด้วย
แต่ชิ้นเนื้อในส่วนนี้ก็ยังรักษาสภาพของมันไว้ได้ดีมากและไม่ได้ถูกหลอมละลายไปด้วย
“เท็ดดี้มีเนื้องอกรึเปล่า?”
เขาใช้หอกเหล็กหยิบชิ้นเนื้อนั้นขึ้นมา และตรวจสอบมัน
มันมีขนาดพอๆ กับลูกปัด มีความยืดหยุ่น และให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังถือเยลลี่ก้อนหนึ่งอยู่
มันคืออะไรกัน?
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง~!
ในขณะที่หวู่เหิงกำลังตรวจสอบชิ้นเนื้อนี้ ราวบันไดก็เริ่มสั่นไหวอีกครั้ง ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย
เขาเงยหน้าขึ้นมองและเห็นเท็ดดี้กำลังเกาะราวบันไดเอาไว้ด้วยขาหน้า และขยับเอวของมันอย่างบ้าคลั่ง
กระดูกเชิงกรานกระแทกเข้าใส่ราวบันไดทำให้เกิดเสียงดังสนั่น
เสียงสะท้อนที่ดังไปทั่วทางเดินได้ดึงดูดเหล่าซอมบี้ที่อยู่ด้านนอกให้เริ่มทุบประตูอีกครั้ง
“บ้าเอ้ย!”
หวู่เหิงพูดไม่ออก
เมื่อไม่มีส่วนนั้นแล้ว ทำไมมันถึงยังทำแบบนี้อยู่?
“หยุดนะ!” หวู่เหิงสั่งทันที
เท็ดดี้ส่ายสะโพกโดยสัญชาตญาณอีกสองสามครั้งก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา
ในเบ้าตาอันกลวงโบ๋ของมัน เพลิงวิญญาณได้สั่นไหววูบวาบ
“อยู่นิ่งๆ” หวู่เหิงสั่งออกมาอีกครั้ง
เท็ดดี้นั่งลง และหยุดการกระทำอันแปลกประหลาดของมัน
ด้วยการขัดจังหวะนี้ เขาจึงหมดความสนใจที่จะตรวจสอบก้อนเนื้อต่อ เขาเก็บมันลงไปในถุงพลาสติก จากนั้นก็เดินลงไปที่ชั้นล่างพร้อมกับเหล่าโครงกระดูก
หลังจากยืนยันได้แล้วว่าประตูหน้าถูกปิดแน่นแล้ว เขาก็เริ่มเปลี่ยนเหล่าซอมบี้ที่ถูกเท็ดดี้สังหารไปตามโถงทางเดินให้กลายเป็นนักรบโครงกระดูก จากนั้นเขาก็เริ่มทำการค้นห้องแต่ละห้องต่อ
ทุกสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเขาหรือสามารถขายได้ภายในเมืองหินดำได้ถูกเก็บเข้าไปในกระเป๋าเป้ของเขา
หลังจากเสร็จภารกิจนี้แล้ว เขาก็ออกมาจากอาคารแห่งนี้และกลับไปยังเมืองหินดำ
…
เมื่อกลับมาที่เมืองหินดำแล้ว หวู่เหิงก็ตรงไปที่ร้านเขากวางทันที
เจ้าของร้านดูกระตือรือร้นมาก
เห็นได้ชัดว่าเรซินที่หวู่เหิงขายให้กับเขานั้นสามารถทำกำไรก้อนโตให้กับเขาได้เลย
“ท่านหวู่เหิง วันนี้มีอะไรมาขายงั้นเหรอ?” เจ้าของร้านถาม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“เปล่า ข้ามาซื้อของน่ะ”
รอยยิ้มของเจ้าของร้านไม่ได้จางหายไปในขณะที่เขาถามต่อ “ท่านต้องการอะไรงั้นเหรอ?”
“เจ้ามียารักษาอาการบาดเจ็บไหม?” หวู่เหิงถาม
เขาไม่ได้รู้สึกอะไรนักในระหว่างการต่อสู้ แต่หลังจากจบการต่อสู้แล้ว เขาก็รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวขึ้นมาทันที
แม้ว่ามันจะไม่มีบาดแผล แต่มันก็มีรอยช้ำที่แขนและไหล่ของเขา
“มีขอรับ” เจ้าของร้านพูดออกมา จากนั้นก็ก้มลงไปหยิบขวดแก้วสองใบจากเคาน์เตอร์ “อาการบาดเจ็บแต่ละอย่างจำเป็นต้องใช้ยาที่แตกต่างกันไป”
หวู่เหิงพับแขนเสื้อขึ้น เพื่อให้อีกฝ่ายได้ตรวจสอบ “ข้า… ข้าสะดุดล้มมาน่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นยาแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว” เจ้าของร้านพูดออกมา
“ตกลง เท่าไรเหรอ?”
“1 เหรียญเงิน 30 เหรียญทองแดงขอรับ”
ความรู้เกี่ยวกับยาในโลกนี้ได้รับการพัฒนาไปไกลมาก แม้ว่าจะไม่เคยใช้มัน แต่มันก็ต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับความสามารถของมันมาบ้าง
หวู่เหิงจ่ายเงินและหยิบมันขึ้นมา
[ยารักษาขนาดเล็ก]
[รายละเอียด: ยาที่มีคุณสมบัติในการรักษา]
เขายกมันขึ้นดื่มโดยไม่ลังเลทันที
เมื่อยารักษาไหลไปตามลำคอ เขาก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา
ความเจ็บปวดในร่างกายของเขาบรรเทาลงอย่างเห็นได้ชัด
ประสิทธิภาพของมันรวดเร็วมาก
หลังจากนั้นเขาก็ซื้อยารักษาและยาฟื้นฟูพลังวิญญาณอีกสองสามขวดจากเจ้าของร้าน
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงชิ้นเนื้อที่เขาเก็บมา
เขาเปิดกระเป๋าตรวจสอบมันและขมวดคิ้วเล็กน้อย
[แกนศพกลายพันธุ์]
[รายละเอียด: พลังงานที่ตกผลึกของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ มันสามารถเสริมสมรรถภาพของร่างกายได้ แต่ก็มีโอกาสที่จะติดพิษได้]
ตอนนี้มันมีคำอธิบายปรากฏขึ้นมาแล้ว
มันไม่มีการเปลี่ยนแปลงในโลกซอมบี้ แต่ที่นี่ มันก็สามารถแสดงคำอธิบายของมันออกมาได้
การแจ้งเตือนของระบบของเขาดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับโลกอีกใบนี้ และข้อความแจ้งที่เกี่ยวข้องก็จะปรากฏขึ้นเมื่อมีการเชื่อมต่อกับโลกนี้เท่านั้น
เช่นเดียวกับที่ค่าสถานะของเขาและโครงกระดูกของเขาจะปรากฏให้เห็นหลังจากที่เขาได้กลายเป็นเนโครแมนเซอร์แล้ว
แม้ว่ามันจะเป็นแค่การคาดเดา แต่มันก็น่าจะเป็นแบบนั้น
“มีปัญหาเหรอ? ขวดยาพวกนี้ค่อนข้างแข็งและไม่แตกง่ายๆ หรอกนะขอรับ” เจ้าของร้านพูดออกมาเมื่อเขาเห็นว่าหวู่เหิงมองเข้าไปในกระเป๋า
หวู่เหิงเงยหน้าขึ้นและถาม “ข้ามีสหายที่ได้รับเนื้อบางอย่างมาจากสิ่งมีชีวิต และรู้สึกเหมือนว่าเนื้อนั่นจะมีความสามารถในการเสริมสมรรถภาพของร่างกายได้ แต่เขาก็กังวลว่าเขาอาจจะติดพิษได้ เขาควรทำยังไงดี?”
“ท่านน่าจะกำลังพูดถึงวัตถุสิ่งมีชีวิต พวกมันเป็นของที่จะได้มาจากพวกสิ่งมีชีวิตต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนผสมชนิดหนึ่งของยาเล่นแร่แปรธาตุ ข้าไม่แนะนำให้สหายของท่านทดลองมันด้วยตัวเอง ทางที่ดีควรส่งไปให้นักเล่นแร่แปรธาตุตรวจสอบก่อน ถ้าท่านไม่สะดวกก็สามารถยื่นคำขอไปที่สมาคมนักผจญภัยได้ แม้ว่ามันจะต้องใช้เงินบ้าง แต่มันก็เป็นวิธีที่ปลอดภัย” เจ้าของร้านพูดพร้อมกับจัดโต๊ะ
วัตถุเล่นแร่แปรธาตุประเภทหนึ่งเหรอ?
ยื่นคำขอ…
หวู่เหิงครุ่นคิดอยู่สักพักและรู้สึกว่ามันก็ฟังดูเข้าท่าเหมือนกัน
เมื่อเห็นว่ามีลูกค้าเดินเข้ามาในร้านมากขึ้น หวู่เหิงก็ไม่ได้อยู่เกะกะอีก
หลังจากบอกลาเจ้าของร้านแล้ว เขาก็เดินออกมาทันที
เมื่อเดินออกมาแล้ว เขาก็ตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ส่วนกลางทันที
...
สมาคมนักผจญภัยถูกก่อตั้งขึ้นมาเมื่อประมาณ 500 ปีก่อน
ในตอนแรกมันเป็นเพียงกลุ่มนักผจญภัยที่สนิทสนมกันและได้ตั้งจุดรวมพลขึ้นมาเพื่อการรวมกลุ่มและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ชื่อเสียงของมันก็แพร่กระจายไปทั่วโลก และดังไกลไปถึงทุกเผ่าพันธุ์และทุกอาณาจักร
เมื่อจำนวนสมาชิกและอิทธิพลของมันเพิ่มขึ้น จุดรวมพลนักผจญภัยจึงได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสมาคมนักผจญภัยอย่างเป็นทางการ
มันมีการตั้งสาขาของสมาคมนักผจญภัยไปทั่วเพื่อช่วยเหลือเหล่านักผจญภัยและทำหน้าที่เป็นหน่วยงานตรวจสอบด้วย
หนังสือทักษะอาชีพเนโครแมนเซอร์ของหวู่เหิงก็ได้รับมาจากสมาคมนี้ด้วยเหมือนกัน
อาคารสมาคมนักผจญภัยนั้นยิ่งใหญ่และโดดเด่นมาก
มันเต็มไปด้วยนักผจญภัยนานาชนิด
มีทั้งชายร่างกำยำที่มีผิวหนังมันวาว นักรบเกราะเงินที่มีดาบใหญ่สะพายหลัง และนักธนูสาวร่างผอมเพรียวที่ใส่ชุดหนังรัดรูป
มันเหมือนกับการเดินเข้าไปในงานคอสเพลย์งานใหญ่เลย สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือชุดเกราะของนักผจญภัยหญิงนั้นมีการป้องกันที่สูงมาก และมันก็ไม่มีชุดเกราะสไตล์บิกินี่อยู่เลย
“ไม่เซ็กซี่เอาซะเลย” หวู่เหิงพึมพำกับตัวเอง
แผนกต้อนรับอยู่ที่ด้านหน้าโดยมีพนักงานต้อนรับคอยตอบคำถามต่างๆ ของนักผจญภัย
นอกจากนี้ยังมีกระดานแสดงค่าหัวและภารกิจต่างๆ เช่น การจับอาชญากรตามหมายจับ การล่าอสูรเวทมนตร์ การรวบรวมข้อมูล และอื่นๆ อยู่ด้วย
หากสามารถทำภารกิจเหล่านั้นได้ก็จะได้รับเงินหรือสิ่งของเป็นรางวัล
เงินย่อมเป็นรางวัลพื้นฐาน แต่สิ่งของที่เป็นรางวัลนั้นจะเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่ไอเท็มไปจนถึงหนังสือทักษะ บันทึกจากนักสำรวจรุ่นก่อน ไอเท็มเวทมนตร์ หรืออาวุธและชุดเกราะ
สมาคมนักผจญภัยครอบคลุมไปทุกเผ่าพันธุ์และมีทรัพยากรอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นไม่ว่าจะต้องการอะไร พวกเขาก็มีพวกมันเกือบทั้งหมด
หวู่เหิงเหลือบมองดูกระดาน และไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เขาสนใจได้
จับอาชญากรตามหมายจับ หรือล่าอสูรเวทมนตร์ มันไม่มีงานไหนที่ปลอดภัยเลย
เขาเป็นแค่มือใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนอาชีพเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่อาจทำอะไรได้ทั้งนั้น
เมื่อไปถึงแผนกต้อนรับ พนักงานต้อนรับก็ทักทายเขาด้วยรอยยิ้มว่า “มีอะไรให้ข้าช่วยงั้นเหรอ?”
“ข้าอยากจะมายื่นคำขอน่ะ”