ตอนที่ 6 : นิสัยติดตัว
ตอนที่ 6 : นิสัยติดตัว
ผู้รอดชีวิตงั้นเหรอ?
การเห็นศพซอมบี้ที่ขาดวิ่นในบันไดทำให้เขานึกถึงความเป็นไปได้นี้ขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากสังเกตอย่างรอบคอบแล้ว เขาก็สลัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
สภาพน่าสยดสยองของพวกซอมบี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์ มันดูเหมือนกับว่าเป็นสัตว์ป่าที่ฉีกขย้ำพวกมันซะมากกว่า
และมันก็ยังมีรอยขีดข่วนบนประตูบานหนึ่งที่เผยให้เห็นวัตถุที่ซ่อนอยู่ภายในด้วย
มันราวกับว่ามันยังมีสัตว์ร้ายหรืออาจจะเป็นสัตว์ประหลาดเตร็ดเตร่อยู่ภายในโถงทางเดินอยู่เลย
“บ้าเอ้ย!”
หวู่เหิงสบถออกมาอีกครั้ง
เมื่อวานนี้ประตูโถงทางเดินถูกแง้มเปิดเอาไว้ และมันก็มีสัตว์ร้ายนิรนามได้ปรากฏตัวขึ้นในวันนี้
กลายเป็นว่าอพาร์ตเมนต์ของเขาเองปลอดภัยที่สุดแล้ว
เคร้ง~ เคร้ง~ เคร้ง~!
ทันใดนั้นก็มีเสียงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงดังก้องมาจากราวจับบันได
เสียงนี้ดังก้องไปทั่วโถงทางเดินอย่างรวดเร็ว
ราวกับมีบางอย่างกำลังทุบบันไดจากด้านล่างไม่หยุด
ความรู้สึกตึงเครียดพวยพุ่งขึ้นภายในใจของหวู่เหิงอีกครั้ง
เขาจับอาวุธไว้แน่นและกระซิบ “ลงไปข้างล่างกัน”
หวู่เหิงยืนอยู่ตรงกลาง และเดินลงบันไดลงไป
เสียงฝีเท้าของเหล่าโครงกระดูกที่กระแทกกับพื้นถูกกลบไปด้วยเสียงกระแทกกับราวบันไดอย่างรุนแรง
มันไม่ได้ดึงดูดศัตรูใดๆ เลย
เมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาก็เห็นซอมบี้ที่ถูกจัดการไปอีกหลายตัว และแขนขาของพวกมันก็กระจัดกระจายไปทั่ว
หวู่เหิงไม่ได้ใช้ทักษะการจัดการโครงกระดูกออกมา และเลือกดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นที่ชั้นล่างแทน
เมื่อพวกเขาลงมาถึงชั้นที่สี่ได้แล้ว มันก็เห็นได้ชัดว่าต้นตอของสิ่งที่กระแทกเข้ากับบันไดได้อยู่ทางด้านล่างของพวกเขาแล้ว
เขาจัดตำแหน่งของโครงกระดูกใหม่ จากนั้นก็ลอบมองไปยังชั้นที่สาม
มันมีซอมบี้สิงโตสีทองที่มีลายด่างพร้อยอยู่ ขาหน้าของมันเกาะราวบันได และมันก็กำลังเขย่าเอวของมันอย่างรุนแรง
เหมือนอย่างสัตว์ป่าที่กำลังรุ่มร้อน และกำลังระบายพลังงานเข้าใส่ราวบันได
“เกิดอะไรขึ้น?”
แม้แต่สัตว์ป่าก็ติดเชื้อได้ด้วยเหรอ?
นอกจากนี้มันมีสิงโตมาอยู่ที่บันไดนี้ได้ยังไงกัน?
ในขณะที่หวู่เหิงมองไปที่มันด้วยความประหลาดใจ อีกฝ่ายก็ดูเหมือนว่าจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งเช่นกัน
ซอมบี้สิงโตที่กำลังตัวกระตุกหยุดการเคลื่อนไหวในทันใด จากนั้นมันก็หันศีรษะมาทางนี้
ริมฝีปากที่แห้งเหี่ยวของมันเผยให้เห็นเขี้ยวอันคมกริบที่มีเศษเนื้อห้อยอยู่ที่มุมปาก
นี่ไม่ใช่สิงโต
มันคือเท็ดดี้ที่มีเจ้าของเป็นผู้อยู่อาศัยคนหนึ่งในอาคารหลังนี้
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือมันมีขนาดเพิ่มขึ้นหลายเท่า และด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์สีเหลือง มันจึงดูแตกต่างจากสิงโตไม่มากเท่าไร
หลังจากกลายเป็นซอมบี้แล้ว มันก็ยังไม่อาจสลัดนิสัยที่ชอบกระดิกเอวไปทุกที่ได้
โฮก!
ซอมบี้เท็ดดี้เปล่งเสียงคำรามออกมา และพุ่งขึ้นมาทันที
หลังจากที่รู้ว่ามันคือเท็ดดี้ ความตึงเครียดในใจของเขาก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าซอมบี้เท็ดดี้กำลังพุ่งเข้ามา หวู่เหิงก็ก้าวถอยกลับไปสองก้าวและสั่ง “ฆ่ามันซะ”
หวือ~
เหล่านักรบโครงกระดูกพุ่งออกไปและชูอาวุธขึ้น
ซอมบี้เท็ดดี้พุ่งเข้าใส่ และใช้ขาของมันเพื่อดันตัวเองไปกับกำแพงในทันที ทำให้มันสามารถกระโจนข้ามเหล่าโครงกระดูกที่กำลังพุ่งเข้ามาได้
จากนั้นมันก็เหวี่ยงอุ้งเท้าเหมือนกับสุนัข และโครงกระดูกที่อยู่ข้างหน้าก็ถูกเหวี่ยงออกไป มันกัดกระโหลกของโครงกระดูกอีกตัว และสะบัดมันอย่างรุนแรง
ร่างกายอันทรงพลังของมันอาละวาดไปทั่ว และสะบัดให้เหล่านักรบโครงกระดูกกลิ้นลงไปกับบันได
จากนั้นเท็ดดี้ก็เงยหน้าขึ้น และมองมาทางหวู่เหิงที่อยู่ในแนวหลัง
มันพุ่งทะยานอีกครั้ง และพุ่งตรงมาหาหวู่เหิง
หวู่เหิงหน้าเปลี่ยนสี เขายกโล่กลมขึ้นมาทันที และในอึดใจต่อมา แรงปะทะอันมหาศาลก็กระแทกเข้าใส่โล่ของเขา ทำให้ร่างกายของเขากระเด็นไปด้านหลังอย่างไม่อาจควบคุมได้
เขากระแทกเข้ากับกำแพงที่อยู่ทางด้านหลัง กลิ้งไปตามบันได และหมวกกันน็อคของเขาก็กระทบกับบันได
ซอมบี้เท็ดดี้พยายามที่จะโจมตีอีกครั้ง แต่มันก็มีดาบเล่มหนึ่งเหวี่ยงเข้าใส่ศีรษะของมันเพื่อขัดขวางการเคลื่อนไหวของมันเอาไว้
ในขณะเดียวกัน โครงกระดูกที่อยู่รอบๆ ก็ตอบสนองทันที บางส่วนก็เกาะหลังเท็ดดี้เอาไว้ และพยายามจะยึดร่างของมันเอาไว้ให้แน่น ในขณะที่บางส่วนได้สับมีดทำครัวลงมาแบบสุ่มๆ โดยไม่สนใจว่ามันจะโจมตีโดนส่วนไหนเลย ทำให้ทั้งขนและเนื้อหนังของเท็ดดี้ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง
เหมือนดั่งสิงโต เท็ดดี้เริ่มดิ้นรนด้วยพลังทั้งหมดของมัน มันฟาดขาทั้งสี่ข้างไปมาเหมือนกับก้อนข้าวเหนียวมีกระดูกสีขาวปกคลุมอยู่
หวู่เหิงรีบยืนขึ้นและจัดหมวกกันน็อคของเขา
ด้วยการโบกมือของเขา มันก็มีโครงกระดูกอีกหลายตัวปรากฏขึ้นเพื่อเป็นโล่ให้กับเขาอีกครั้ง
ปัง~ เคร้ง!!
ทันใดนั้นซอมบี้เท็ดดี้ก็กระแทกเข้าใส่ผนังที่อยู่ใกล้ๆ แรงปะทะอันรุนแรงทำให้เหล่าโครงกระดูกที่พัวพันอยู่กับร่างกายของมันกระเด็นกระดอนออกไป
มันลุกขึ้นมาในทันใด และเป้าหมายของมันก็ยังเป็นหวู่เหิงเหมือนเดิม
“บ้าเอ้ย!”
หวู่เหิงสบถออกมาและหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกัน เขาก็ก้มตัวต่ำพร้อมกับย่อตัวลงเพื่อสะสมพลังและจ้วงแทงหอกออกไป
การฝึกใช้หอกนั้นพออมีประโยชน์อยู่บ้าง
หอกแทงเข้าใส่หน้าอกของเท็ดดี้จากทางด้านข้าง และแทงลึกเข้าไปในร่างเน่าๆ ของมัน
ในเวลาเดียวกัน แรงก็ถ่ายโอนไปยังข้อมือของเขา และหอกก็หลุดออกไปจากมือของเขา
เท็ดดี้ล้มลงพร้อมด้วยหอกที่ยังคงปักอยู่ที่อกของมัน
เลือดข้นหนืดสีแดงเข้มไหลออกมาจากบาดแผล
หวู่เหิงกระโจนถอยหลังไปหลายก้าวและพูดต่อ “อย่าเพิ่งหยุด ลงมือต่อ”
เหล่านักรบโครงกระดูกกรูกันเข้ามาอีกครั้ง
หอกของหวู่เหิงไม่สามารถสังหารซอมบี้เท็ดดี้ได้ แต่หอกนั้นก็ยังส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของมันได้
มันไม่สามารถพยุงร่างกายขึ้นมาด้วยขาหน้าซ้ายได้ ทำให้การเคลื่อนไหวของมันถูกจำกัด
เท็ดดี้เชื่องช้าลง แต่การโจมตีจากเหล่านักรบโครงกระดูกก็ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
หลังจากถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของมันก็เต็มไปด้วยบาดแผล
เมื่อร่างกายของมันถูกกลุ้มรุมด้วยเหล่าโครงกระดูกและเสียงของการสับเนื้อดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง การแจ้งเตือนของระบบก็ตามมาอย่างรวดเร็ว
[ได้รับค่าประสบการณ์ +42]
[สิ่งมีชีวิตอัญเชิญ - ทหารโครงกระดูกได้รับค่าประสบการณ์ +20]
หวู่เหิงเปิดที่บังลมขึ้นมา และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ โดยไม่สนใจกลิ่นเหม็น
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเท็ดดี้จะกลายพันธุ์เป็นแบบนี้ไปได้
มันคือการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม หรือเป็นเพราะเหตุผลอื่น?
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นเพราะเหตุผลอะไร เขาก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน และเท็ดดี้ก็ได้กลายเป็นสิงโตไปแล้ว
มันได้ถูกขังเอาไว้ในโถงทางเดิน มิฉะนั้นด้วยขนาดร่างกายอันใหญ่โตของมัน มันก็คงจะสร้างหายนะไปทั่วได้แล้ว
ความสามารถในการต่อสู้ของซอมบี้เท็ดดี้นั้นเหนือกว่าซอมบี้ทั่วไปมาก
การที่สามารถอาละวาดท่ามกลางฝูงโครงกระดูกเช่นนี้ได้ ความแข็งแกร่งของมันย่อมต้องไม่ธรรมดาอย่างไม่ต้องสงสัย
และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของมันก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องสติปัญญา
มิฉะนั้นมันคงไม่พยายามเอาแต่ไล่โจมตีหวู่เหิง
ถ้าซอมบี้ทุกตัวมีสติปัญญาเช่นนี้ พวกมันยังจะเรียกว่าซอมบี้ได้อีกไหม? หรือว่ามันจะกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ไปเลย?
เขาคิดไม่ออกเหมือนกัน
แต่ผลลัพธ์แบบนั้นคงไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเขา
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจสำหรับเขา
นอกเหนือจากการเพิ่มจำนวนโครงกระดูกแล้ว เขายังต้องเสริมความแข็งแกร่งของตัวเองอีกด้วย มิฉะนั้น ถ้าเขาถูกฆ่า แม้ว่าเขาจะมีโครงกระดูกอยู่เป็นจำนวนมาก แต่มันก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร
หลังจากพักหายใจได้แล้ว เขาก็ก้าวออกไปเพื่อดึงหอกออกมาจากร่างของเท็ดดี้
จากนั้นเขาก็เปิดใช้งานทักษะการจัดการโครงกระดูก
การอัญเชิญโครงกระดูกที่มีรูปร่างคล้ายสัตว์ร้ายขนาดใหญ่เช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาตั้งความหวังอยู่พอสมควร
[สิ่งมีชีวิตอัญเชิญเกินกว่าความสามารถของผู้อัญเชิญ ปัจจัยความไม่เสถียรเพิ่มขึ้น...]
เมื่อเขาใช้ทักษะการจัดการกระดูก ข้อความแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นมา
ก่อนที่หวู่เหิงจะทันได้ตอบสนอง เขาก็รู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณของเขาถูกสูบออกไปอย่างรวดเร็ว
นี่ทำให้หวู่เหิงหน้าเปลี่ยนสีในทันที
ศพลุกขึ้นยืนในทันที
ศพของซอมบี้เท็ดดี้อยู่ตรงหน้าของเขา อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องใช้พลังวิญญาณเป็นอย่างมาก บวกกับปัจจัยความไม่มั่นคงที่กล่าวถึงในการแจ้งเตือน ซึ่งมันก็ทำให้เขาเป็นกังวลขึ้นมา
เขาไม่อยากจะอัญเชิญสิ่งที่จะโจมตีตัวเขาออกมา
นั่นคงจะเป็นหายนะแน่ๆ
ในไม่ช้า ศพของเท็ดดี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป
เนื้อหนังและเลือดของมันหลอมละลายไปเหมือนกับขี้ผึ้งร้อน และโครงกระดูกสุนัขก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
โครงกระดูกสีขาวน่าสยดสยองนั้นมีความหนาเป็นอย่างมาก และภายในเบ้าตาที่ว่างเปล่า เปลวเพลิงสีฟ้าอ่อนก็เปล่งประกายขึ้นมา
[สุนัขล่าโครงกระดูก (เลเวล 5)]