ตอนที่ 2 : บ้านหายไปแล้ว
ตอนที่ 2 : บ้านหายไปแล้ว
ประมาณหนึ่งเดือนก่อน หวู่เหิงได้รับกุญแจทองแดงที่ดูโบราณอันหนึ่งมา
เมื่อใดก็ตามที่เขาเสียบกุญแจเข้าไปในประตูใดๆ และเปิดออก มันก็จะกลายเป็นประตูมิติไปสู่โลกอีกใบ
สิ่งนี้ทำให้หวู่เหิงนึกถึงนิยายที่เขาเคยอ่านในอดีต ซึ่งตัวเอกสามารถเดินทางระหว่างโลกที่แตกต่างกันได้ด้วยความคิด
อย่างไรก็ตาม กระบวนการของเขาก็ซับซ้อนกว่าหน่อย เพราะเขาต้องใช้กุญแจเพื่อเปิดประตู
แต่นั่นก็ไม่สำคัญ ตราบใดที่เขาข้ามไปอีกโลกได้ วิธีการก็ย่อมไม่สำคัญ
สถานที่เริ่มต้นในโลกอื่นนี้คือหมู่บ้านอันห่างไกล
หมู่บ้านนี้ยากจนและด้อยพัฒนามาก และชาวบ้านก็ค่อนข้างจะกระจายตัวกันออกไป
หวู่เหิงนั่งรถคาราวานที่ผ่านมา และหลังจากผ่านไปได้ประมาณครึ่งเดือน เขาก็มาถึงเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างเมืองหินดำ
เมื่อเขากำลังจะใช้กุญแจเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของระหว่างทั้งสองโลกและบรรลุความฝันของเขาในการมีอิสรภาพทางการเงิน โลกที่เขารู้จักก็ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว
โลกสมัยใหม่ที่คุ้นเคยได้หายไปแล้ว และถูกแทนที่ด้วยฝูงซอมบี้เร่ร่อน ตามโถงทางเดินนั้นได้เต็มไปด้วยเสียงซอมบี้ที่พยายามจะบุกเข้ามาในห้อง
หวู่เหิงอึ้งไป
เขาเพิ่งเดินทางได้ครึ่งเดือนโดยแทบไม่ได้เตรียมการเพื่อรวบรวมความมั่งคั่งเลย
และในตอนนี้ บ้านของเขาก็หายไปแล้ว
การได้เห็นเมืองที่เขาเคยอาศัยอยู่ถูกทำลายลงจนต้องอยู่ในสภาพนี้ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก
เขาไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง
อย่างไรก็ตาม เขาก็สามารถจินตนาการได้ว่าถ้าเขาไม่ได้อยู่บนถนนในอีกโลกเมื่อฝูงซอมบี้ระบาด เขาก็อาจจะกลายเป็นหนึ่งในพวกมันไปแล้วก็ได้
ว่ากันว่าไฟฟ้าสามารถเก็บสำรองไว้ได้สองสามเดือนแม้ว่าการผลิตไฟฟ้าจะหยุดลง แต่ไฟฟ้าที่นี่ก็ได้ดับไปแล้วและเขาก็ไม่กล้าดื่มน้ำด้วย
โชคดีที่เมืองหินดำสามารถจัดหาอาหารและน้ำดื่มให้กับเขาได้
ในห้องนอนของเขา หวู่เหิงได้รวบรวมอาวุธและออกไปข้างนอก
ในห้องนั่งเล่นของเขา มันเหลือของอยู่ไม่มากแล้ว เพราะส่วนใหญ่ก็ถูกขายแลกเป็นเงินในเมืองหินดำไปแล้ว
และภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน พวกมันก็ไม่มีประโยชน์เลย
ตรงมุมห้อง มันมีนักรบโครงกระดูกที่ดูน่ากลัวร่างหนึ่งยืนอยู่
นี่คือหนึ่งในซอมบี้ที่เกาะอยู่นอกหน้าต่างจากการเดินทางครั้งก่อนของเขาที่หวู่เหิงได้สังหารและพยายามอัญเชิญออกมา
มันทำให้เขาได้รับอันเดดหนึ่งตัวภายใต้คำสั่งของเขามานับตั้งแต่นั้น
[นักรบโครงกระดูก]
[เลเวล: 1 (0/100)]
[ค่าสถานะ: ความทนทาน 10, พละกำลัง 12, ความว่องไว 8]
[ลักษณะ: โครงกระดูกธรรมดาๆ]
ทักษะการจัดการกระดูกมีรูปแบบการอัญเชิญสองรูปแบบ
รูปแบบแรกก็คือการอัญเชิญจากศพดั้งเดิม ซึ่งรูปร่างและคุณลักษณะของตัวตนที่ถูกอัญเชิญนั้นจะได้รับอิทธิพลจากร่างกายเดิมเป็นส่วนใหญ่
ความหมาย ยิ่งร่างกายแข็งแกร่งมากในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ โครงกระดูกที่อัญเชิญออกมาได้ก็จะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
ส่วนอีกรูปแบบก็คือการอัญเชิญตามจำนวนโครงกระดูกที่รวบรวมได้
เมื่อรวบรวมกระดูกได้จำนวนหนึ่งแล้ว มันก็จะสามารถอัญเชิญนักรบโครงกระดูกออกมาได้
“รับมันไปซะ!” หวู่เหิงโยนดาบเหล็กให้กับมัน
แกร๊ก!
เสียงกระดูกที่กำลังบดกันดังขึ้นในขณะที่นักรบโครงกระดูกเอื้อมมือออกไปอย่างแข็งทื่อและคว้าดาบเหล็ก
มันทำท่าถือดาบเอาไว้และรอคำสั่งต่อไป
หวู่เหิงเองก็หยิบหอกสั้นอีกอันขึ้นมาและเหวี่ยงมันเพื่อทดสอบอยู่สองสามครั้ง
นอกจากนี้เขายังได้เก็บฝาหม้อมาจากห้องครัวและมัดไว้รอบแขนของเขาเพื่อใช้มันเป็นเกราะกำบังชั่วคราว
เขาเตรียมการครั้งสุดท้ายเสร็จแล้ว
เขาตรงไปที่ประตูหน้าและกดหูแนบกับประตู
เขาได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนหนึ่งจากทางด้านนอก
ดูเหมือนมันจะมีซอมบี้อยู่จำนวนหนึ่งที่ปล่องบันได และด้วยกำลังคนแค่คนสองคนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการจัดการกับพวกมัน
ตราบใดที่เขาจัดการกับมันได้สักตัว จำนวนของนักรบโครงกระดูกก็จะเพิ่มขึ้น
แม้ว่ามันจะอันตราย แต่ตราบใดที่ไม่ติดเชื้อ เขาก็สามารถถอยได้
ด้วยข้อได้เปรียบที่เขามี มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป
เขาสั่งให้นักรบโครงกระดูกขยับเข้าใกล้ประตู จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเปิดประตูออก
เมื่อประตูเปิดออกมาอย่างช้าๆ กลิ่นเหม็นเน่าก็ฟุ้งเข้ามา
คอของเขาเริ่มคัน และเขากำลังจะไอออกมาแต่เขาก็ฝืนตัวเองเอาไว้เพราะกลัวว่าจะดึงดูดความสนใจของพวกซอมบี้เข้ามา
เมื่อเขาเปิดประตูออกมาจนสุดแล้ว เขาก็มองเห็นผนังโถงทางเดินที่เปื้อนไปด้วยเลือดและรอยขีดข่วน พื้นทางเดินนั้นเต็มไปด้วยเลือดและเปื้อนไปหมด มันเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวมากราวกับหนังสยองขวัญ
โชคดีที่ไม่มีซอมบี้รอเขาอยู่ในทันทีที่เขาเปิดประตู
“ไปซะ!” หวู่เหิงพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
นักรบโครงกระดูกที่ถือดาบเล็กเอาไว้ทำตามคำสั่งและเดินออกไป จากนั้นหวู่เหิงก็ปิดประตูที่อยู่ทางด้านหลังและตามไปติดๆ
ในขณะที่พวกเขาก้าวออกไป พวกเขาก็เห็นซอมบี้ตัวหนึ่งตรงทางขึ้นบันไดด้านล่าง ซึ่งมันก็เงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียง
ผมของมันถูกปกคลุมไปด้วยเลือด ผิวของมันมีสีเทาอมขาว มีเส้นเลือดสีดำ ปากกว้างและมีฟันหยักสีดำ
มันเป็นหญิงชราที่อาศัยอยู่บนชั้นสอง หวู่เหิงจำเธอได้
เขาจำได้ว่าเธอเคยจับคู่เขาให้กับใครบางคนมาก่อน
แต่ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของหนึ่งมนุษย์และหนึ่งนักรบโครงกระดูกทำให้ซอมบี้ตกใจเล็กน้อย
จากนั้นมันก็เปล่งเสียงคำรามด้วยความโกรธและพุ่งขึ้นบันไดในทันที
“ฆ่ามันซะ!” หวู่เหิงสั่งการนักรบโครงกระดูกด้วยความประหม่า
เขาต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้ นี่คือก้าวแรกของการเอาชีวิตรอด
นักรบโครงกระดูกรับคำสั่งทันทีและพุ่งเข้าหาซอมบี้ที่กำลังพุ่งเข้ามา
การโจมตีของซอมบี้นั้นดุร้าย แต่นักรบโครงกระดูกก็มีข้อได้เปรียบเมื่ออยู่ที่ด้านบนสุดของบันได ทำให้มันสามารถเหวี่ยงดาบลงไปได้อย่างง่ายดาย
ฉั๊วะ~!
เสียงเนื้อถูกแทงก้องกังวานออกมาเมื่อดาบเหล็กฟาดเข้าใส่หัวไหล่ของซอมบี้ตัวนั้นอย่างรุนแรง
ซอมบี้ตัวนี้ดูไม่สะทกสะท้านกับความเจ็บปวด มันสะดุดล้มตรงบันได แต่ก็พุ่งตัวเข้ามาระหว่างขาของโครงกระดูก
มันแยกเขี้ยวและกรงเล็บที่น่าสยดสยอง และพุ่งเข้าใส่เป้ากางเกงของหวู่เหิง
การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวนี้หมายถึงการทำให้เขาต้องกลายเป็นหมัน ทำให้เขาต้องล่าถอยไปโดยเร็ว
เขาถอยออกมา เหลือบมองร่างกายส่วนล่างของเขาเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ได้รับความเสียหายใดๆ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ซอมบี้ที่ติดอยู่ใต้โครงกระดูกยังคงกรีดร้องต่อไป
ฉึก!
ดาบที่สองของนักรบโครงกระดูกแทงเข้าใส่ซอมบี้ และดาบเหล็กก็แทงทะลุร่างกายของมัน
หวู่เหิงถือหอกสั้นเอาไว้ และเล็งไปที่ดวงตาของซอมบี้
ฉึก!
ซอมบี้เหวี่ยงแขนของมัน ทำให้วิถีหอกเบี่ยงออกไปและพุ่งเข้าใส่หน้าผากของมันแทน
ผิวหนังของมันถูกฉีกและเนื้อก็แยกออกจากกัน แต่หอกก็ไม่สามารถทะลวงกระโหลกของมันได้ ซอมบี้เริ่มเหวี่ยงแขนขาอย่างรุนแรงยิ่งขึ้นเพื่อพยายามจะยืนขึ้นและเกือบจะทำให้โครงกระดูกล้มลงไปได้
ท่ามกลางการต่อสู้นี้ ทั้งโครงกระดูกและซอมบี้ก็ล้มลงไปจากบันไดด้วยกัน
หวู่เหิงกำหอกเหล็กแน่นและพยายามจะเข้าไปช่วยนักรบโครงกระดูกรุมสังหารซอมบี้ตัวนั้น แต่ทันใดนั้นเอง…
เสียงวิ่งอย่างบ้าคลั่งก็ดังมาจากทางด้านบน และมีซอมบี้อีกตัวที่เต็มไปด้วยเนื้ออันเน่าเปื่อยพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง
เมื่อเห็นหวู่เหิง มันก็ทะยานออกมาจากบันได และพุ่งเข้าใส่เขาที่อยู่ห่างออกไปหลายก้าว
บัดซบ!
ทันใดนั้นความกลัวก็พุ่งเข้าใส่เขาราวกับคลื่นโหมกระหน่ำ
หวู่เหิงลงมือโดยไม่ได้คิดถึงกลยุทธ์ใดๆ ขายกโล่ที่แขนซ้ายขึ้นแล้วกระแทกเข้าใส่ซอมบี้ตัวนั้น
พร้อมด้วยเสียงดัง ‘ตุบ’ ซอมบี้ตัวนั้นก็ถูกกระแทกออกไปกลางอากาศ และของเหลวเปื้อนเลือดสีเข้มก็สาดกระเซ็นออกมา
ส่วนหวู่เหิงก็ถูกกระแทกไปจนติดผนังด้วย
ในขณะที่ซอมบี้กลิ้งลงบันไดไป หวู่เหิงก็กัดฟันลุกขึ้นมา และะแทงหอกเหล็กเข้าไปในร่างที่เน่าเปื่อยของมัน แม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่เน่าเฟะเช่นนี้ แต่ร่างกายของมันก็แสดงความยืดหยุ่นได้อย่างน่าทึ่ง
การแทงเข้าใส่มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับกำลังแทงเข้าใส่หนังนุ่มๆ
หลังจากแทงหอกออกไปได้สองสามครั้ง มันก็ไม่มีการโจมตีใดที่ถือว่าร้ายแรงพอจะสังหารซอมบี้ได้เลย
ซอมบี้ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วและโจมตีอีกครั้ง แต่หวู่เหิงก็ป้องกันมันด้วยโล่และแทงเข้าใส่หน้าอกกับหน้าท้องของมันด้วยหอกสั้น
ลำบากจริงๆ!
ถ้าเขาถูกข่วนหรือถูกกัด เขาก็คงจะจบเห่แน่ๆ
เขาเหลือบมองประตูที่เปิดแง้มไว้เล็กน้อยข้างหลังเขาอย่างรวดเร็ว และใคร่ครวญที่จะถอยกลับไป แต่ทันใดนั้นเอง…
เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นในหูของเขา
[ได้รับค่าประสบการณ์ +10]
[สิ่งมีชีวิตอัญเชิญ - ทหารโครงกระดูกได้รับค่าประสบการณ์ +5]
เขาเหลือบมองด้วยหางตา
การต่อสู้อีกฟากได้จบลงแล้ว นักรบโครงกระดูกที่มีข้อได้เปรียบด้านอาวุธได้ทุบหัวของซอมบี้และสามารถสังหารมันได้
“มาช่วยข้าจัดการกับมันเร็วเข้า”
นักรบโครงกระดูกรีบก้าวเข้ามาและขวางหน้าหวู่เหิงเอาไว้ จากนั้นดาบเหล็กของมันก็พุ่งเข้าหาซอมบี้อีกครั้ง
รูปแบบการต่อสู้ของโครงกระดูกและซอมบี้มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก พวกมันแทบจะไม่รู้จักวิธีการป้องกันเลย
พวกมันรู้จักแค่การโจมตีเท่านั้น
โจมตีสุดกำลัง
เมื่อไม่มีซอมบี้คอยพัวพันอีก หวู่เหิงก็ถอยกลับไปที่มุมใต้บันไดได้อย่างรวดเร็ว และร่ายทักษะการจัดการกระดูกกับซอมบี้ที่เขาได้สังหารไปไม่นานนี้
เมื่อถูกหุ้มด้วยเวทมนตร์ เนื้อของซอมบี้ก็เริ่มละลายเหมือนขี้ผึ้งร้อน เผยให้เห็นโครงกระดูกมนุษย์ที่ยืนขึ้นโดยใช้สองมือค้ำยัน
“ไปจัดการมันซะ” หวู่เหิงชี้ไปที่ตำแหน่งการต่อสู้ใกล้ๆ
นักรบโครงกระดูกที่เพิ่งเกิดขึ้นมาได้ตอบสนองต่อคำสั่งและพุ่งขึ้นมาชั้นบนด้วยมือเปล่า
ในขณะเดียวกัน หวู่เหิงก็สะบัดแขนของเขาเพื่อคลายความเจ็บจากการปะทะก่อนหน้านี้
โล่ฝาหม้อในมือของเขาบิดเบี้ยวจากการกระแทก แต่มันก็เป็นโล่ชั่วคราวที่ช่วยเขาจากการพุ่งเข้ามาหาซอมบี้เมื่อครู่ได้
ซอมบี้ไม่ได้น่ากลัวแต่เพราะความแข็งแกร่งของพวกมันเท่านั้น แต่ส่วนที่เป็นปัญหาที่สุดก็คือพิษในร่างกายของพวกมัน
แค่โดนกัดหรือโดนข่วนก็อาจจะทำให้เขาตายได้แล้ว
การต่อสู้ชั้นบนยังคงดำเนินไปอย่างเต็มที่
สองโครงกระดูกรุมโจมตีซอมบี้ ตัวหนึ่งใช้ดาบ และอีกตัวก็ใช้กำปั้น พวกมันได้สาดการโจมตีเข้าหาเป้าหมายอย่างไม่ลดละ
เลือดสีดำและเศษเนื้อกระจัดกระจายไปทั่ว
ในที่สุด ท่ามกลางเสียงคำรามอันโกรธแค้นและการฟาดฟันของซอมบี้ ดาบก็แทงทะลุคอของมัน ทำให้มันหยุดต่อต้านและทรุดตัวลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
[ได้รับค่าประสบการณ์ +10]
[สิ่งมีชีวิตอัญเชิญ - ทหารโครงกระดูกได้รับค่าประสบการณ์ +5]
เขาได้รับค่าประสบการณ์อีกครั้ง
นี่มันเหมือนกับเกมที่เขาเคยเล่นเลย
และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเลือกเปลี่ยนอาชีพเป็นเนโครแมนเซอร์
เมืองหินดำไม่ยอมให้เขาทำการทดลองเวทมนตร์หรืออัญเชิญอันเดดออกมา
แต่เขาก็สามารถทำมันได้ในโลกนี้
เขาสามารถพึ่งพาซอมบี้ในโลกนี้เพื่อเลื่อนเลเวลและสะสมความแข็งแกร่งได้
ตราบใดที่เขามีพลัง ข้อจำกัดของเมืองหินดำที่มีต่อเนโครแมนเซอร์ก็จะได้รับการแก้ไขไปตามธรรมชาติ
เขาร่ายทักษะการจัดการกระดูก
หวือ~!
โลหิตและเนื้อหนังหลุดลอยออกไป และนักรบโครงกระดูกตัวที่สามก็ปรากฏขึ้น
ก่อนที่มันจะทันได้ทำอะไร ซอมบี้อีกสองตัวก็เดินขึ้นมาจากบันไดด้านล่าง
พร้อมกันนั้นพวกมันก็เงยหน้าขึ้นมา
“โจมตี!”