ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 : บ้านหายไปแล้ว

ตอนที่ 1 : เนโครแมนเซอร์ไร้อนาคต


ตอนที่ 1 : เนโครแมนเซอร์ไร้อนาคต

ณ เมืองหินดำ ภายในโถงประจำเมือง

“หวู่เหิง?”

หลังโต๊ะที่เต็มไปด้วยเอกสาร หญิงวัยกลางคนที่ดูจริงจังเหลือบมองข้อมูล จากนั้นก็มองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงกับเธอ

หวู่เหิงพยักหน้า “ขอรับ!”

“อาชีพ: เนโครแมนเซอร์งั้นเหรอ?” คิ้วของหญิงวัยกลางคนขมวดเป็นปมเล็กน้อย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย และเธอก็พูดต่อว่า “อาณาจักรอาจจะอนุญาตให้เนโครแมนเซอร์มีตัวตนอยู่ได้ แต่มันก็ไม่มีเมืองไหนต้อนรับเนโครแมนเซอร์เลย”

ด้วยคำพูดเหล่านี้ ห้องโถงที่เคยวุ่นวายก็เงียบลงในทันที

ทุกคนเบนสายตามาทางนี้ และสายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัยและความประหลาดใจ

พวกเขาดูเหมือนจะคิดไม่ออกว่าทำไมถึงมีคนเลือกเป็นเนโครแมนเซอร์ด้วยในช่วงเวลานี้

อย่างไรก็ตาม หวู่เหิงก็ตอบกลับอย่างใจเย็น “ข้าซาบซึ้งกับคำเตือนของท่านหญิงมอยรา ข้าจะปฏิบัติตามกฎและระเบียบของจักรวรรดิและเมืองหินดำให้ดีขอรับ”

หญิงวัยกลางคนตรวจสอบสีหน้าของเขาอย่างละเอียด

เธอไม่ได้พูดอะไรอีกและหยิบเอกสารหลายฉบับออกมาจากลิ้นชักโต๊ะของเธอ จากนั้นก็ยื่นพวกมันให้กับเขาและกล่าวว่า “อ่านพวกมันให้ละเอียดและลงนามชื่อของเจ้าซะ”

'ร่างกฎหมายจำกัดอันเดด'

‘ขั้นตอนการรายงานอันเดด’

‘ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองศพและโครงกระดูก’

‘ประกาศเกี่ยวกับการทดลองมนต์ดำ’

'การทดลองมนุษย์...'

'...'

หลังจากได้รับเอกสารเหล่านี้มาแล้วและอ่านผ่านๆ ดวงตาของหวู่เหิงก็เบิกกว้างขึ้นมา

แม้ว่าอาณาจักรเยโกะจะอนุญาตให้เหล่าเนโครแมนเซอร์มีตัวตนอยู่ได้ แต่มันก็ดูเหมือนจะมีการเพิ่มข้อจำกัดและกฎเกณฑ์ต่อพวกเขาขึ้นทุกปี

ซึ่งรวมถึงข้อห้ามในการแปรสภาพโครงกระดูก ซากศพ และสิ่งมีชีวิตอันเดดอื่นๆ และยังไม่อนุญาตให้มีการทำการทดลองเกี่ยวกับซากศพและมนต์ดำด้วย

ที่นี่ การทดลองและการขโมยศพถือว่าเป็นอาชญากรรมร้ายแรง

อนาคตของเหล่าเนโครแมนเซอร์ที่ไม่สามารถสร้างกองทัพอันเดดและไม่สามารถค้นคว้าเรื่องเวทมนตร์ได้จึงสามารถทำนายได้เลย

ไม่ว่าจะเป็นในด้านวิชาการหรือการต่อสู้ อนาคตของเขาก็ถือว่าถูกทำลายไปแล้ว

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกคนในห้องจึงแสดงความประหลาดใจออกมาเมื่อได้ยินคำว่า ‘เนโครแมนเซอร์’

หวู่เหิงคาดการณ์ไว้บ้างแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดว่ากฎระเบียบจะเข้มงวดกว่าที่เขาจินตนาการไว้ขนาดนี้

เขาอ่านพวกมันอย่างละเอียด และลงนามชื่อของเขาในแต่ละช่อง จากนั้นก็ยื่นเอกสารกลับไป

หลังจากที่หญิงวัยกลางคนตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว เธอก็กล่าวว่า “เอาล่ะ อย่าลืมจดจำรายละเอียดของกฎเหล่านี้ให้ดี ครั้งต่อไปที่ข้าพบเจ้า ข้าก็ไม่อยากจะเห็นเจ้าถูกประหารหรอกนะ”

“ข้าจะจำไว้ให้ดีขอรับ!” หวู่เหิงยืนขึ้น กล่าวลา และจากไป

ในขณะที่เขาเดินออกมาจากห้องโถง เขาก็ยังได้ยินเสียงพูดคุยเกี่ยวกับตัวเขาอยู่

ทุกคนต่างพากันสับสนกับชายหนุ่มผมดำตาสีดำที่เลือกเป็นเนโครแมนเซอร์ผู้นี้

...

หวู่เหิงออกมาจากห้องโถงโดยไม่ได้สนใจเสียงพูดคุยเกี่ยวกับเขา

เขาไม่รู้ว่าเนโครแมนเซอร์ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรไปถึงได้รับการปฏิบัติเช่นนี้

มันมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากมายเกี่ยวกับอาชีพนี้เพียงอาชีพเดียว

ทำให้อนาคตของอาชีพนี้มืดมนมาก

อย่างที่ท่านหญิงมอยราได้กล่าวไป การเลือกเป็นเนโครแมนเซอร์นั้นก็เหมือนกับการถูกล่ามโซ่ตรวนเอาไว้

การไม่สามารถอัญเชิญอันเดดออกมาได้และไม่สามารถทดสอบเวทมนตร์ได้ย่อมหมายความถึงการไร้ซึ่งอนาคต

แต่หวู่เหิงก็ยังเลือกอาชีพนี้

ไม่ใช่เพราะมันเป็นอาชีพเดียวที่เขาสามารถเลือกได้ แต่เป็นเพราะเขาเชื่อว่าในฐานะเนโครแมนเซอร์ เขายังสามารถพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

หลังจากออกมาจากโถงประจำเมืองแล้ว เขาก็เพ่งความคิดและหน้าจอล่องหนที่มีแค่เขาที่มองเห็นได้ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา

[ชื่อ: หวู่เหิง]

[อาชีพ: เนโครแมนเซอร์]

[เลเวล: 1 (10/300)]

[ค่าสถานะ: ความแข็งแกร่ง (Strength) 9, ความว่องไว (Agility) 11, ความทนทาน (Constitution) 12, สติปัญญา (Intelligence) 14, การรับรู้ (Perception) 10, เสน่ห์ (Charm) 12]

[ทักษะ: ทักษะการจัดการกระดูก]

หลังจากเปลี่ยนอาชีพแล้ว หน้าต่างนี้ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของหวู่เหิง

คำอธิบายเกี่ยวกับอาชีพ ค่าสถานะ ทักษะ และอื่นๆ ก็เหมือนกับเมนูในเกมออนไลน์

มันทำให้เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับร่างกายของตัวเองมากยิ่งขึ้น

เขาออกจากพื้นที่ส่วนกลางไปและมุ่งหน้ามายังโรงตีเหล็กบนถนนย่านการค้า

เมื่อก้าวผ่านประตูเข้าไปแล้ว เขาก็ได้กลิ่นน้ำมันลินสีดโชยออกมา

“ลูกพี่ ข้ามารับอาวุธที่ข้าสั่งไว้เมื่อเช้านี้” หวู่เหิงพูดกับเคาน์เตอร์

ชายวัยกลางคนวางดาบเหล็กที่เขากำลังขัดอยู่ลงและเงยหน้าขึ้น “โอ้ เจ้าเองเหรอ พวกมันอยู่ด้านนั้นน่ะ ทั้งหมด 7 เหรียญเงิน”

หวู่เหิงตรวจสอบอาวุธที่เขาได้ซื้อ

ดาบเหล็กและหอกสั้น

เขาได้เลือกพวกมันไว้ในตอนเช้า

เขานับเงิน 7 เหรียญเงินและวางพวกมันไว้บนเคาน์เตอร์ที่อยู่ตรงหน้าของชายวัยกลางคนผู้นั้น

“เมื่อเช้านี้เกิดอะไรขึ้นล่ะ?” ชายวัยกลางคนเก็บเงินไปและถามออกมา

เมื่อเช้านี้ หลังจากที่หวู่เหิงมาซื้ออาวุธ เมื่อเขาเลือกพวกมันเสร็จแล้ว เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ป้องกันเมืองพาตัวไปในทันที

ชายวัยกลางคนคิดว่าเขาคงจะเจอปัญหาแน่ๆ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะได้กลับมาในช่วงบ่ายๆ และดูไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย

“ข้าเพิ่งมาถึงเมืองหินดำและถูกพาตัวไปลงทะเบียนที่โถงประจำเมืองน่ะ ข้าก็ไม่ค่อยเข้าใจขั้นตอนเหมือนกันเพราะข้าเองก็เพิ่งมาถึง”

“ลงทะเบียนงั้นเหรอ? มันจำเป็นต้องลงทะเบียนด้วยเหรอ?” ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว เขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย

เมืองหินดำมีคนย้ายเข้ามาอยู่มากพอสมควร ถ้าทุกคนจำเป็นต้องลงทะเบียน โถงประจำเมืองก็คงจะคึกคักยิ่งกว่าตลาดสดแน่ๆ

“พวกเขาแค่ถามชื่อของข้า บอกกฎให้ข้าฟัง และทำให้ข้ากังวลน่ะ” หวู่เหิงหัวเราะและเกาหัว

“ฮ่าฮ่า! คนพวกนั้นคงจะว่างสินะ พวกเขาวุ่นวายไปซะทุกเรื่องเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มีประโยชน์หรือไม่ก็ตาม” ชายวัยกลางคนเองก็หัวเราะออกมาและปลอบใจเขา

หวู่เหิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นเขาก็เก็บอาวุธและกล่าวลาชายวัยกลางคนก่อนที่จะเดินออกมาจากโรงตีเหล็ก

เขาออกจากย่านการค้าและฝ่าฝูงชนออกมา จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังพื้นที่อยู่อาศัยทางตอนเหนือของเมือง

...

หลังจากเดินผ่านตรอกมืดๆ แล้ว เขาก็มาถึงสถานที่ที่เขาได้เช่าเอาไว้

บ้านหลังนี้มีขนาดไม่ใหญ่โตอะไร มันมีห้องรับแขก 1 ห้อง และห้องนอน 1 ห้อง

นอกจากโต๊ะ เก้าอี้ และเตียงไม้แล้ว มันก็ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ อยู่เลย

สภาพของบ้านค่อนข้างจะเก่าเลย

เขาวางกระเป๋าเป้สะพายหลังและอาวุธไว้ด้านข้างก่อนที่จะหยิบขนมปังชิ้นหนึ่งจากโต๊ะขึ้นมาเพื่อบรรเทาความหิว

ในขณะที่กำลังกิน เขาก็ครุ่นคิดถึงท่าทีของเมืองหินดำที่มีต่อเหล่าเนโครแมนเซอร์

เขารู้สึกเหมือนเป็นอาชญากรที่ได้รับการปล่อยตัวจากการคุมประพฤติ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด

“ในขณะที่อยู่ภายในเมือง ข้าต้องพยายามทำตัวไม่ให้โดดเด่นเข้าไว้และพัฒนาตัวเองไปอย่างช้าๆ”

เขาม้วนขนมปังที่เหลือให้กลายเป็นลูกบอลและโยนมันเข้าปากทันที

จากนั้นเขาก็หยิบดาบและหอกขึ้นมา และใช้มืออีกข้างหยิบกุญแจทองแดงที่คล้องคอของเขาออกมา จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องนอนและเปิดมันเบาๆ

เมื่อประตูเปิดออก ม่านแสงก็ปรากฏขึ้นภายในประตู

อีกด้านหนึ่ง มันก็ไม่ใช่ห้องนอนที่คุ้นเคย แต่เป็นเหมือนภาพสะท้อนของกระจก

หวู่เหิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเดินเข้าไปในนั้น จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นอีกฟากของม่านแสง

เมื่อประสาทสัมผัสของเขากลับมาใช้การได้อีกครั้ง เขาก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าเปื่อยอบอวลไปทั่วอากาศ

โต๊ะ เตียง จอภาพ และลำโพงที่คุ้นเคยของเขา

เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังมาจากนอกหน้าต่าง

เขากลับมาในโลกสมัยใหม่ที่คุ้นเคยแต่ก็แปลกประหลาด

เขาเดินไปที่หน้าต่างและมองออกไปข้างนอก

เหล่าซอมบี้กำลังกรูกันอยู่ด้านล่าง ภายใต้เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นของพวกมัน มันก็สามารถมองเห็นกระดูกที่ยื่นออกมาและอวัยวะภายในที่เปิดเผยออกมาได้ พวกมันผลักกัน ชนกัน และเดินไปมาอย่างไร้จุดหมาย

ในหมู่พวกมัน มันก็มีอยู่หลายคนเลยที่เขาคุ้นหน้า

“มันยังดูเหมือนเดิมเลย”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด