ตอนที่แล้วCD บทที่ 521 พี่เขยของฉันน่าทึ่งมาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 523 ละครแสนสนุก

CD บทที่ 522 จริง ๆ แล้วเป็นเขา


“ชัดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว มันเป็นอย่างที่เราคิดไว้เป๊ะ ๆ เลยค่ะ” ซูจินเหม่ยพูดกับจ้าวหยู่โดยที่หลี่เฉินยังอยู่กับพวกเขา “ดูเหมือนว่าอ้ายหลี่หลี่จะใช้เงินสิบล้านเพื่อติดสินบนเลอเชา เธอต้องการให้เขาเข้าหาเฉินปิงเซียน จากนั้นก็ลงมือฆาตกรรมและใส่ร้าย เพื่อที่เขาจะได้เคลียร์อุปสรรคทั้งหมดของอ้ายหลี่หลี่ในครั้งเดียว ผู้บงการที่แท้จริงคืออ้ายหลี่หลี่อย่างแน่นอน เราไปจับกุมเธอกันเถอะค่ะ!”

“ไม่อยากจะเชื่อเลย!” หลี่เฉินปรบมือด้วยความประหลาดใจ “ทำไมฉันถึงไม่สังเกตว่าภรรยาของท่านประธานอาจเป็นผู้บงการได้จริง ๆ มันช่างเป็นแผนซ้อนแผนสุดแยบยลจริง ๆ มันน่าทึ่งมาก!”

ซูจินเหม่ยกับหลี่เฉินดูตื่นเต้นมาก แต่ทว่าจ้าวหยู่ยังคงขมวดคิ้วแน่น

“อาจารย์คะ มีอะไรรึเปล่าคะ?” ซูจินเหม่ยถาม “ผู้กองจางและทีมกำลังรอคำสั่งจากอาจารย์อยู่ มันมีอะไรติดขัดรึเปล่าคะ?”

“ผู้จัดการหลี่เฉิน!” จ้าวหยู่ไม่ได้ตอบซูจินเหม่ย แต่ถามหลี่เฉินว่า “ถ้าอ้ายหลี่หลี่วางแผนได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้น ทำไมเธอถึงทำผิดพลาดได้ง่าย ๆ แบบนี้?

ฉันขอถามคุณหน่อยเถอะ ถ้าอ้ายหลี่หลี่ถอนเงินสิบล้านจากธนาคาร และนั่นคือเงินสิบล้านที่เลอเชาใส่ไว้ในตู้เก็บของ มันจะมีวิธีพิสูจน์หรือเปล่า?”

“แน่นอนค่ะ มันมีวิธีตรวจสอบพวกมันอยู่นะคะ” ซูจินเหม่ยพูดแทรกขึ้นมา “ถ้าถอนเงินสิบล้านจากธนาคาร มันก็จะต้องมีบันทึกการทำธุรกรรม และตัวเลขบนธนบัตร นี่จะเป็นหลักฐานมัดตัวอย่างแน่นหนาค่ะ”

“ไม่... มันไม่ง่ายขนาดนั้น…” จู่ ๆ หลี่เฉินก็พูดขึ้นท่าทีอ่อนแรง “เงินสิบล้านนั้นถูกถอนออกจากบัญชีส่วนตัวของท่านประธาน ไม่ใช่บัญชีธนาคารปกติ และไม่ใช่เงินสดด้วย คุณไม่รู้ว่าคนรวยทำงานกันยังไง เพราะกระแสเงินสดรายวันของพวกเขาสะพัดอย่างมหาศาล ทำให้การทำธุรกรรมเช่นนี้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับบัญชีส่วนตัว มันจะถูกมองข้ามหรือถูกซ่อนได้ง่ายกว่า…”

“ฮะ? คุณหมายถึงอะไรนะคะ?” ซูจินเหม่ยเบิกตากว้าง “คุณไม่ได้พยายามจะพูดว่า ถึงพวกเราทุกคนจะรู้ว่าอ้ายหลี่หลี่เป็นผู้วางแผนเบื้องหลังเรื่องนี้ แต่เราก็ยังไม่สามารถตั้งข้อกล่าวหาเธอในคดีนี้ได้เหรอคะ? คุณเป็นถึงผู้จัดการทั่วไป ดังนั้นคุณต้องมีวิธีพิสูจน์เรื่องนี้บ้างไม่ใช่เหรอคะ?”

“มันก็มี แต่…” หลี่เฉินขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “แม้ว่าฉันจะให้ความร่วมมือเต็มที่ แต่ก็ต้องลำบากมากในการตรวจสอบ เงินทุนส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ ซึ่งหมายความว่าอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงสามเดือนในการตรวจสอบ

นอกจากนี้ แม้ว่าเราจะพบเส้นทางการเงิน มันก็ไม่แน่ชัดว่าเราจะพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าอ้ายหลี่หลี่เป็นคนเอาเงินออกไปหรือไม่? ถ้าเรื่องนั้นยังพิสูจน์ไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงการใช้เงินนั่นเป็นค่าจ้างให้กับฆาตกร…”

ซูจินเหม่ยพูดด้วยความทุกข์ใจ

“เงินนั่นเป็นหลักฐานเพียงอย่างเดียว ถ้าเราพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นเงินมาจากแหล่งเงินเดียวกัน แล้วเราควรทำอย่างไรดีคะ?”

“นี่คือสิ่งที่ฉันกังวลอยู่พอดี!” จ้าวหยู่ส่ายหัวและพูดว่า “เหตุผลที่เฉินปิงเซียนสามารถรับสารภาพได้อย่างรวดเร็วเป็นเพราะว่าหลักฐานที่เลอเชาทิ้งไว้!

แต่สำหรับอ้ายหลี่หลี่ มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ถ้าเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าอ้ายหลี่หลี่ได้ว่าจ้างเลอเชาเป็นจำนวนสิบล้าน เราก็ไม่มีหลักฐานที่จะจับกุมอ้ายหลี่หลี่ ดังนั้นทำไมฉันจึงบอกเสี่ยวจางว่าอย่าเพิ่งทำอะไรหุนหันพลันแล่น!”

“เยี่ยมมากค่ะ” ซูจินเหม่ยลูบคางและพูดอย่างโกรธเคือง “แต่ว่าเราจะนั่งอยู่เฉย ๆ แล้วดูอ้ายหลี่หลี่เก็บเกี่ยวผลกำไรแบบนั้นเหรอคะ?”

“เรื่องนั้นช่างมันก่อน ส่วนสำคัญก็คือ…” จ้าวหยู่ก็ลูบคางเช่นกัน จากนั้นก็พูดว่า “ตอนนี้คดียังไม่ชัดเจน เราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าอ้ายหลี่หลี่เป็นผู้วางแผนเบื้องหลังทั้งหมดนี้จริง ๆ หรือไม่?”

“แต่เงินสิบล้านนั่น มันยังไม่ชัดเจนพออีกเหรอคะ?” ซูจินเหม่ยกล่าว “อาจารย์คิดว่ามีผู้ต้องสงสัยอีกคนเหรอคะ? แล้วมันจะเป็นใครอีกคะ? ชัดเจนว่าอ้ายหลี่หลี่คือผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใครได้ล่ะคะ?”

“ฉันก็ไม่รู้!” จ้าวหยู่ส่ายหัว “แม้ว่าอ้ายหลี่หลี่จะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด และมีความเป็นไปได้ที่เธอจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ฉันคิดว่าอ้ายหลี่หลี่ไม่ใช่คนที่วางแผนเรื่องทั้งหมดนี้จริง ๆ!”

“แล้วจะเป็นใครได้อีกล่ะคะ?” ซูจินเหม่ยกล่าวด้วยความตกใจ “หรือจะเป็นเฉินปิงกวงที่อยู่ในอาการโคม่าหรือเปล่าคะ?”

“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร?” ตอนนี้หลี่เฉินตกใจ ใบหน้าของเขาซีดเผือด “อย่าคิดเรื่องบ้า ๆ นะ เข้าใจไหม?”

“มันก็เป็นไปได้ไม่ใช่เหรอคะ?” ซูจินเหม่ยหันไปทางอีกฝ่าย “ถึงเฉินปิงกวงจะแกล้งทำเป็นโคม่า แต่ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงจ้างนักฆ่าให้ฆ่าลูกสาวของตัวเองด้วย? ถ้าเขาจะวางแผนจะทำอะไรสักอย่างจริง ๆ การฆ่าอ้ายหลี่หลี่ก็ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้มากกว่าอีกค่ะ”

“อืม… เพื่อฆ่าอ้ายหลี่หลี่งั้นเหรอ?” จ้าวหยู่ส่ายหัวพลางคิดดัง ๆ “จริงด้วย ย้อนกลับไปตอนที่เฉินปิงเซียนได้ว่าจ้างฆาตกร ทำไมเขาไม่ฆ่าอ้ายหลี่หลี่โดยตรงไปเลยล่ะ ทำไมเขาถึงต้องการฆ่าสองพี่น้องนั่นด้วย?”

“ฉันรู้เรื่องนี้ค่ะ!” ซูจินเหม่ยตอบ “เฉินปิงเซียนหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาในคำให้การของเขา เขาบอกว่าถ้าเขาฆ่าอ้ายหลี่หลี่โดยตรง เขาก็คงกำจัดสองพี่น้องเฉินไม่ได้ ดังนั้นการฆ่าสองพี่น้องเฉินและใส่ร้ายอ้ายหลี่หลี่ก็เหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวค่ะ อ้ายหลี่หลี่เป็นแม่เลี้ยง แค่ใส่สีนิด ๆ หน่อย        ๆ คนปักใจเชื่อว่าเธอเป็นคนร้ายได้ง่าย ๆ แล้วค่ะ!”

“เฉินปิงเซียนช่างโหดร้ายจริง ๆ!” หลี่เฉินพูดด้วยอารมณ์ “ไมลีย์และโมจิเป็นหลานสาวของเขา ความจริงที่ว่าเขาสามารถทำแบบนั้นกับพวกเธอได้ มันก็พิสูจน์ได้ว่าเขาคือสัตว์ร้าย!”

“ใช่ค่ะ!” ซูจินเหม่ยกล่าว “ถ้าเฉินปิงเซียนฆ่าอ้ายหลี่หลี่ได้อีกคน เขาก็คงได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานบริษัทแทน แต่แรงจูงใจของเขาคงชัดเจนเกินไป เขาคงถูกตำรวจสงสัยอย่างแน่นอนค่ะ!”

“ดังนั้น การฆ่าสองพี่น้องเฉินและใส่ร้ายอ้ายหลี่หลี่จึงต้องทำพร้อม ๆ กัน เมื่อเขาทำสำเร็จ ไม่เพียงแต่เขาจะเข้ายึดบริษัทเท่านั้น เขายังเข้ายึดทรัพย์สินของเฉินปิงกวงได้ด้วย ดังนั้น ความเสี่ยงนี้จึงคุ้มค่ามากพอที่เขาจะยอมเสี่ยงค่ะ!”

“โอ้! โอ้!” ทันใดนั้น ดวงตาของจ้าวหยู่เบิกกว้าง เขาพูดราวกับว่าเพิ่งตระหนักบางอย่างขึ้นมาได้ “ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว ผู้บงการทั้งหมดก็คือเขา เขาคนนั้น!!!”

“ฮะ? อะไรนะคะ?” ซูจินเหม่ยตกใจมาก เธอจึงถามว่า “อาจารย์คะ ใครคือผู้บงการตัวจริง? รีบบอกฉันมาเถอะค่ะ!”

“จินเหม่ย” จ้าวหยู่พูดด้วยอารมณ์ “คุณจำได้ไหม ฉันได้บอกคุณไปว่า ถึงคดีอาชญากรรมที่มีการวางแผนไว้อย่างดี แต่สุดท้ายมันก็จะมีช่องโหว่ ซึ่งทำให้พวกเราสามารถคลี่คลายได้ในที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้คดีเหล่านั้นไขยากต่อการสืบสวน ไม่ใช่แผนการที่ฆาตกรวางไว้อย่างดี แต่เป็นความบังเอิญต่างหาก!”

“ฉันจำได้ค่ะ แต่… ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี” ซูจินเหม่ยจ้องเข้าไปในดวงตาของจ้าวหยู่ และรอให้เขาเปิดเผยคำตอบ อย่างไรก็ตาม จ้าวหยู่เพิ่งเปิดปากได้เท่านั้น โทรศัพท์ในห้องทำงานของหลี่เฉินดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน

*กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง*

หลี่เฉินทำท่าขอโทษพวกเขา จากนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาได้ยินเพียงไม่กี่คำ ก่อนที่ร่างกายของเขาจะสั่นและใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึม หลังจากวางสาย หลี่เฉินที่กำลังตื่นตระหนก เขาหันไบอกกับจ้าวหยู่ว่า

“ฉันเพิ่งได้รับข่าวร้ายมา ทางโรงพยาบาลโทรมาว่า… ท่านประธาน… เขาใกล้จะสิ้นใจแล้ว!”

“ฮะ!? อะไรนะ!?” จ้าวหยู่กับซูจินเหม่ยตกใจมาก “ขอโทษด้วย ฉันต้องรีบไปเดี๋ยวนี้!” หลี่เฉินตอบอย่างวิตกกังวล “เราจะคุยเรื่องนี้กันทีหลัง!”

จากนั้น หลี่เฉินก็รีบเก็บข้าวของ และวิ่งออกจากห้องทำงานทันที

“อาจารย์คะ… นี่…” ซูจินเหม่ยมองไปทางจ้าวหยู่อย่างช่วยไม่ได้

ในขณะนั้นเอง จ้าวหยู่รู้สึกตะลึงจนพูดไม่ออก เขาจ้องไปที่จุดบนเพดานอย่างมึนงงและไม่ขยับแม้แต่น้อย!

“อาจารย์… อาจารย์คะ…” ซูจินเหม่ยเร่งจ้าวหยู่เบา ๆ แต่อีกฝ่ายไม่ตอบสนอง จากนั้นประมาณสิบวินาทีต่อมา จ้าวหยู่ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที

“พระเจ้า! ฉันเข้าใจแล้ว!” จากนั้น จ้าวหยู่ก็จับไหล่ของซูจินเหม่ยแล้วพูดว่า “ลูกศิษย์ รีบไปโทรหาเสี่ยวจาง บอกให้เขารอฟังคำสั่งของฉัน ถ้าแผนของฉันได้ผล ผู้บงการจะเปิดเผยตัวออกมาเอง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด