ตอนที่แล้วบทที่ 679: สุสานใหญ่ใต้เมือง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 681: ไฟที่จุดเอง

บทที่ 680: หลุมศพว่างเปล่า(ฟรี)


บทที่ 680: หลุมศพว่างเปล่า(ฟรี)

"ดีแล้ว" เจียนหยุนฟางยิ้มตบไหล่เขา "อย่ากังวลไป กฎเกณฑ์ยังเหมือนเดิม แม้ว่าข้างล่างจะเป็นสุสานราชวงศ์มีทองคำหมื่นชั่ง ถ้าหาเจอจริง หลังจากแบ่งให้กองทัพ ยังไงเจ้าก็ได้หนึ่งส่วนสิบแน่นอน!"

รองขุนพลโหยวบี้เฉิงที่อยู่ข้างๆ ได้ยินแล้วไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าแสดงความอิจฉา

ชายชราคนนี้ไม่รู้อะไรเลย แค่รู้วิชาฮวงจุ้ยนิดหน่อย แต่กลับได้รับความไว้วางใจจากขุนพลอย่างมาก ถ้าตัวเองมีความโปรดปรานแบบนี้บ้าง คงไม่ต้องเป็นแค่รองขุนพลไร้อำนาจแบบนี้

รองขุนพลฟังดูดี เหมือนเป็นคนสนิทของขุนพล แต่จริงๆ แล้วก็แค่เลขาทหาร ไม่มีอำนาจอะไรเลย แค่จัดการชีวิตประจำวันของขุนพลและส่งต่อคำสั่งทหารเท่านั้น

ถ้าเกิดสงครามขึ้นมา แค่หัวหน้ากองร้อยพูดยังมีน้ำหนักมากกว่าตัวเองเสียอีก

"งั้นขอบคุณท่านขุนพลล่วงหน้าเลยครับ!" เฉินจงสิวรีบประสานมือคำนับ ดวงตาเป็นประกายซับซ้อน

เขาโลภเงินทอง แต่วิชาฮวงจุ้ยลับเป็นสิ่งที่เขาสืบทอดมาทั้งชีวิต ดังนั้นแม้แต่ทองคำหมื่นชั่งก็ไม่มีแรงดึงดูดเท่าชีพจรมังกร

ดังนั้นแม้รู้ว่าหมู่บ้านกันเทียนอาจเป็นประตูแห่งความตาย เขาก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร

แม้ทุกคนจะตายที่นี่ เฉินจงสิวก็อยากเห็นชีพจรมังกรใต้ดินด้วยตาตัวเอง

นี่คือความยึดมั่นของผู้ฝึกฝน ดังคำกล่าวที่ว่า "ได้ยินธรรมะในยามเช้า ตายในยามเย็นก็ยอม"

หลังกินอิ่มดื่มหนำ ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหลายวันก็ทวีขึ้น ทุกคนหาวแล้วขึ้นไปนอนในห้องที่หัวหน้าหมู่บ้านมู่ฉงเตียนจัดไว้ให้

ในเวลาเดียวกัน นอกเมือง

หญิงวัยกลางคนอายุราว 30 กว่าปี สวมชุดนักพรตสีส้ม ถือพู่กันขนนก จู่ๆ ก็ลงจากหลังลา ขมวดคิ้วมองหมู่บ้านกันเทียนตรงหน้า

ไกลออกไป ชายชราใส่ชุดหรูหราหลายคนบังเอิญเดินผ่านมา กำลังพูดคุยอะไรกันอยู่

"ท่านผู้เฒ่าทั้งหลาย"

เธอรีบเดินเข้าไปหา ทำความเคารพแบบนักพรตแล้วถาม "ขอถามหน่อยว่าบ้านหัวหน้าหมู่บ้านอยู่ที่ไหนคะ?"

ชายชราหลายคนมองหน้ากัน

หนึ่งในนั้นที่ถือไม้เท้าเดินออกมา "วันนี้แปลกจริงๆ มีคนมาหาติดๆ กัน ไม่ค่อยเห็นนักพรตหญิงกันบ่อยๆ ข้าคือหัวหน้าหมู่บ้านมู่ฉงเตียน เจ้าหาข้ามีธุระอะไร?"

"ข้าน้อยเสียมารยาท" นักพรตหญิงตกใจเล็กน้อย แล้วพูดว่า "ข้าน้อยมาเพื่อปราบปีศาจและสยบวิญญาณร้าย!"

"ปราบปีศาจและสยบวิญญาณร้าย"

ถ้าเป็นคนธรรมดาได้ยินสี่คำนี้ คงไล่คนไปแล้ว

เหมือนกับมีคนมาบอกว่าบ้านเจ้ามีผีสิง ไม่โดนตีก็บุญแล้ว

แต่ชายชราหลายคนมองหน้ากัน เห็นความตกใจในดวงตาของกันและกัน

นักพรตหญิงสังเกตเห็นทุกอย่าง เห็นได้ชัดว่าเมืองเล็กๆ นี้มีปัญหาจริงๆ!

มู่ฉงเตียนลังเลครู่หนึ่ง แล้วก็ถามอย่างระมัดระวัง "ทำไมท่านนักพรตถึงพูดเช่นนี้? หมู่บ้านกันเทียนของข้าสงบสุข เจริญรุ่งเรือง ไม่เคยมีปีศาจ..."

นักพรตหญิงส่ายหน้า "ความสงบสุขเป็นเพียงภาพลวงตา

เมืองเล็กๆ นี้มีพลังชั่วร้ายวนเวียน และมีพลังความตายลอยขึ้นมา... ที่นี่มีคนตายภายในเจ็ดวันใช่ไหม? และเป็นการตายอย่างผิดธรรมชาติ ไม่ใช่แค่คนเดียวด้วย"

ตอนนี้ ชายชราหลายคนตกตะลึงไปหมด

เพราะทุกอย่างที่พูดเป็นความจริง

มู่ฉงเตียนสูดหายใจลึก แล้วคำนับถาม "ขอถามว่าท่านนักพรตมีนามว่าอะไร?"

นักพรตหญิงคำนับตอบ "ข้าน้อยยังไม่ได้เข้าสำนักอย่างเป็นทางการ วิชาทั้งหมดสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ดังนั้นยังใช้ชื่อทางโลกอยู่

ข้าน้อยชื่อจงจวิน ขอคารวะท่านหัวหน้าหมู่บ้าน"

………

(*ทุกคนอาจจะงงนะคะเมื่อถึงตอนนี้ คนแปลก็งง มันเหมือนมิติคู่ขนานที่เกิดขึ้นพร้อมกันทับซ้อนเวลา)

ชายเมืองในตอนกลางวันยังคงไม่มีผู้คน รอบๆ เต็มไปด้วยหญ้ารกและต้นไม้ กระท่อมไม้หลังเล็กนั้นดูเหมือนบ้านร้าง ยิ่งเพิ่มความน่าขนลุก

ในกระท่อมยังคงมีกลิ่นเหม็นอบอวล ซูโม่รู้ว่านี่คือกลิ่นศพ ที่ลอยออกมาจากร่างของเทียนหวางกวง!

กลิ่นศพนี้ไม่ใช่แค่ร่างกายเน่าเปื่อย แต่รวมถึงจิตวิญญาณด้วย ดังนั้นเมื่อคนธรรมดาได้กลิ่น จะเกิดความรู้สึกรังเกียจจากจิตใจ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ชาวเมืองแยกตัวออกจากที่นี่

หลังใช้เวลาด้วยกันหนึ่งวันหนึ่งคืน เทียนหวางกวงไม่ได้กลัวซูโม่อีกต่อไป แต่กลับมีความหวังบางอย่าง แม้เขาจะเสียสติไปบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้บ้าไปเสียทีเดียว ยังคงมีความคิดแบบคนปกติอยู่บ้าง จึงรู้ว่าซูโม่ไม่ใช่คนธรรมดา

"รบกวนคุณลุงหน่อย ผมอยากลงไปอีกครั้ง" ซูโม่พูดตรงๆ โดยไม่อ้อมค้อม

เทียนหวางกวงมองเขาครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ถอนหายใจ ลุกขึ้นเดินไปทางหลังบ้าน

ไม่นาน ทั้งสองก็มาถึงสุสานใต้ดินอีกครั้ง

ส่วนด้านบน ซูโม่สั่งให้กัวฟูเฝ้ากระท่อม ไม่ให้ใครเข้าใกล้ เทพเคลื่อนภูเขาสูงสองเมตรสามารถป้องกันได้ทั้งคนและผี

สุสานยังคงเหมือนเดิมตอนที่มาครั้งก่อน

ป้ายหลุมศพมากมายตั้งเรียงราย อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นไหม้

แต่ครั้งนี้ซูโม่ไม่ได้รีบไปดูศพเหล่านั้น แต่เดินตรงไปกลางสุสาน

ที่นั่นก็มีป้ายหลุมศพอันหนึ่ง

แต่ป้ายหลุมศพนั้นโล่งเตียน เป็นเพียงแผ่นหินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียบๆ ไม่มีตัวอักษรสลักอะไรเลย

พลังแท้จริงแผ่ออกไป ดินใต้ป้ายแยกออกเป็นสองข้างโดยอัตโนมัติ เผยให้เห็นภายในหลุมศพ

ว่างเปล่า! ในหลุมไม่มีศพที่ถูกไฟไหม้ ไม่มีแม้แต่พลังความตายหลงเหลืออยู่ พลังความตายเพียงเล็กน้อยที่มีก็เป็นเพียงการแพร่กระจายมาจากรอบๆ

นั่นหมายความว่า หลุมศพนี้ว่างเปล่ามาตลอด ไม่เคยมีการฝังศพเลย

และซูโม่แน่ใจว่า ตอนที่เขามาเมื่อคืน ไม่มีหลุมศพนี้อยู่แน่นอน

นั่นหมายความว่า หลุมศพว่างเปล่านี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เขาจากไป

"หลังจากผมไป มีคนมาที่นี่หรือเปล่า?" เขาหันไปถามเทียนหวางกวงที่นั่งอยู่ตรงทางเข้า

เทียนหวางกวงกำลังกัดน่องไก่ที่ซูโม่ให้มา พอได้ยินก็รีบส่ายหน้า เช็ดมุมปาก "ไม่...ไม่มี

ที่นี่หลายสิบปีมานี้มีแค่ข้าคนเดียวที่รู้... หลังเจ้าไป ข้านอนอยู่บนแท่นบูชาตลอด... ไม่มีใครเข้ามา"

เขาพูดติดๆ ขัดๆ แต่ก็เล่าเรื่องได้ชัดเจน

"ไม่มีใครเข้ามา?" ดวงตาของซูโม่หรี่ลงเล็กน้อย

หลุมศพว่างเปล่านี้เกิดขึ้นเองเหรอ?

แต่การเกิดหลุมศพว่างเปล่าขึ้นมาลอยๆ มันมีเหตุผลอะไรกัน?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด