บทที่ 57 ฆ่ามันซะ!
บทที่ 57 ฆ่ามันซะ!
“คุ.. คุณหนูคะ?”
สาวใช้มองด้วยความงุนงง
คุณหนูรองแห่งตระกูลไป๋ ผู้เยือกเย็นดุจน้ำแข็งและบริสุทธิ์ดุจหยก จะเอ่ยถามคำถามแบบนี้ได้อย่างไร?
“เอาล่ะ ไม่ต้องถามมาก”
ไป๋เซี่ยนเซี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาฉายแววลึกซึ้ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เหล่าโจวที่จริงแล้ว ไม่ใช่คนในเมืองเล็กๆ แห่งนี้
เขาเคยเป็นผู้ใช้พลังขั้นสูงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ครอบครองพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถย้ายภูเขาถมทะเล แต่ในสงครามต่อต้านการรุกรานในปีนั้น หลังจากที่เขากลับมา เขาก็กลายเป็นคนไร้พลัง
สุดท้ายจึงถูกทางตระกูลจัดแจงให้มาที่เมืองสุ่ยเฉิง เป็น "ผู้ประเมิน" ที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
แน่นอน แม้ไร้พลังแล้ว แต่สายตาของเขายังคงแหลมคมอยู่!
นั่นหมายความว่าอู๋เทียนคนนี้ก็ต้อง...
....
กลับมาถึงบ้าน
สาวงามหนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กสองคนกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น
อาลิเซียกำลังถือหนังสือเล่มหนึ่ง อ่านอย่างเพลิดเพลิน
“เสี่ยวเทียน นายกลับมาแล้ว!”
หยางอี้อี้เห็นอู๋เทียน ดวงตาก็โค้งเป็นเสี้ยวพระจันทร์
ทันใดนั้น
เธอก็เห็นกล่องในมือของอู๋เทียน บนบรรจุภัณฑ์ระบุว่าเป็นเครื่องประดับสุภาพสตรี!
“เสี่ยวเทียน นายซื้อของนี่ให้ใคร?”
หยางอี้อี้ยู่หน้าบึ้งตึง ทำท่าทางโกรธ
“ให้ผู้หญิงหน้าด้านคนหนึ่ง!”
อู๋เทียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ โยนกล่องไปให้
“ฮ่าฮ่า!”
หยางอี้อี้คิดในใจ “แผนการชั่วร้ายสำเร็จ” รีบรับกล่องแล้วเปิดออก
“โอ้พระเจ้า!”
สร้อยคออันงดงาม ดึงดูดสายตาของหญิงสาวในทันที
ริมฝีปากเล็กๆ ของเธออ้ากว้าง เกือบจะกลืนไข่เข้าไปได้ทั้งฟอง!
“ก่อนหน้านี้ได้หยกชั้นดีมาโดยบังเอิญ เลยตั้งไปใจร้านแกะสลักแล้วสั่งทำอันนี้มา”
“พี่อยากได้มานานแล้วไม่ใช่เหรอ?”
อู๋เทียนพูดอย่างใจเย็น
หยางอี้อี้น้ำตาคลอเบ้า มองอู๋เทียนอย่างซาบซึ้ง
“เจ้าน้องชายบ้า!”
ระหว่างทั้งสอง ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรซึ้งๆ
หยางอี้อี้นำสร้อยคอออกมาอย่างใจเย็น มองกำไลหยกข้างใน แล้วพูดว่า: “กำไลอันนี้ ให้อาลิเซียแล้วกัน”
“เอ๊ะ? อ้อ ได้สิ!”
อู๋เทียนพยักหน้าอย่างไม่ขัดข้อง
“มา ช่วยฉันใส่หน่อยสิ!”
หยางอี้อี้พูดโดยไม่ลังเล มองอู๋เทียนอย่างดุๆ
“โธ่ ทำเองไม่ได้รึไง”
อู๋เทียนรู้สึกปวดหัวอยู่บ้าง
แต่ภายใต้สายตาที่ดุดันของหยางอี้อี้ที่จ้องมองมา เขาก็ทำได้เพียงเดินเข้าไปช่วยเธอใส่สร้อย
พี่สาวคนนี้เป็นสาวงามอยู่แล้ว ตอนนี้พอสวมเครื่องประดับที่สวยงาม ก็ยิ่งดูงดงามราวกับนางฟ้า
“อ้อจริงสิ!”
หยางอี้อี้ชื่นชมความงามของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้จึงพูดว่า: “มู่หวงเออร์โทรหาฉัน บอกว่าได้สืบมาแล้ว คนที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือชายคนหนึ่งชื่อ หวังชางเหอ เป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหวังของเมืองสุ่ยเฉิง!”
“บังเอิญที่สัปดาห์หน้าเขาจะไปสำรวจโลก 【เมืองลาวาใต้พิภพ】 กับทีมของพวกเรา”
“นายจะเอายังไง?”
อู๋เทียนมองหยางอี้อี้
เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อย พูดอย่างแน่วแน่: “ฉันรู้จักหวังชางเหอ เป็นคนที่ชั่วร้ายและวิปริตมาก ผู้หญิงคนไหนที่เขาต้องการ เขาจะใช้วิธีการที่ไร้ยางอายเพื่อบีบบังคับและกดดันให้ยินยอม และบางครั้งอาจถึงแก่ชีวิต!”
“อย่างตอนมัธยมต้น เขาเคยบังคับให้เด็กสาวคนหนึ่งที่ไม่ยินยอมต้องฆ่าตัวตายมาแล้ว!”
“ถ้าฉันถอย ก็จะยิ่งทำให้เขากล้ามากขึ้น! ส่วนเรื่องยอมแพ้และตกเป็นของเล่นของเขายิ่งเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น... มีทางเดียวคือฆ่าเขาซะ!”
“สัปดาห์หน้า เป็นโอกาสที่ดีที่สุด! ในโลกต่างมิติ ตระกูลของเขาทำอะไรไม่ได้หรอก!”
อู๋เทียนรู้สึกทึ่งไม่น้อย
ไม่คิดว่าหยางอี้อี้จะเฉลียวฉลาดและเด็ดขาดขนาดนี้
ดูเหมือนว่า เขายังคงประเมินความเฉลียวฉลาดของพี่สาวคนนี้ต่ำไป
ในการรับมือกับคนชั่ว มันต้องเด็ดขาด!
ในชาติที่แล้ว แม้จะไม่สามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบ แต่การใช้กฎหมายลงโทษอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่ควรใจอ่อน
ชาตินี้ แม้ว่ามาตรฐานการครองชีพของผู้คนจะสูงขึ้น แต่ในอารยธรรมที่เหนือธรรมชาติซึ่งการฆ่าคน การตายเป็นเรื่องปกติธรรมดา ยิ่งไม่สามารถใจอ่อนได้!
เพราะถ้าใจอ่อน
คนที่โชคร้าย คนที่ตายก็คือตัวเอง!
เรื่องนี้แม้แต่เจ้าของร่างเดิมก็เข้าใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอู๋เทียนที่ใช้ชีวิตมาแล้วสองชาติ!
“ผมไปด้วย” อู๋เทียนพูด
หยางอี้อี้อึ้งไปครู่หนึ่ง พูดอย่างลังเล: “นายไม่ต้องไปหรอก”
“ฉันคิดว่านายยังไม่พร้...”
เธอยังพูดไม่จบ
ก็เห็นอู๋เทียนโบกมือเบาๆ พริบตานั้นมือแสงขนาดมหึมาปรากฏขึ้นจากอากาศ มันโถมเข้ากำร่างเธอไว้ พันธนาการแน่นไม่ยอมปล่อยให้ดิ้นหลุด!
เอฟเฟกต์ควบคุมจาก "หัตถ์เจิดจรัส" ทำให้พลังทั้งหมดของหยางอี้อี้ไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้แม้แต่น้อย
เธอมองอู๋เทียนด้วยความตกใจ
ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้...
น้องชายของเธอคนนี้--
--แข็งแกร่งจริงๆ!
...
หกวันต่อมา
ช่วงบ่าย
อู๋เทียนนอนอย่างเกียจคร้าน ฟุบหน้าลงบนโต๊ะ ใช้แค่หูฟังครูสอนหนังสือ
“วันนี้จะพูดถึง อารยธรรมและโลกต่างมิติ”
“ทุกคนคงทราบดี ว่าอารยธรรมของพวกเราเป็นเพียงหนึ่งในอารยธรรมนับไม่ถ้วนในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ดังนั้นโลกต่างมิติจึงแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ อารยธรรมก็มีการแบ่งระดับเช่นกัน แล้วระดับของอารยธรรมกับโลกสัมพันธ์กันอย่างไร?”
บนแท่นบรรยาย
จูหลิงหรี่ตาลง สายตาที่ร้อนแรงราวกับดวงอาทิตย์แผดเผา ทำให้นักเรียนทุกคนตัวสั่น...