บทที่ 46 ยั่วยุเข้าไปอีก
บทที่ 46 ยั่วยุเข้าไปอีก
โซล โบกมือ พยายามปัดหนังสือปกแข็งออกไป
เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่มองดูการเปลี่ยนแปลงของหน้ากากในมือเขา เขาต้องจับตาดูการต่อสู้ระหว่าง วิญญาณชั่วร้ายและเพ็กกี้
เนื่องจากแผนการของเพ็กกี้ ที่จะถ่ายโอนวิญญาณชั่วร้ายมายังโซล ถูกวิญญาณชั่วร้ายสังเกตเห็น ทำให้ทั้ง 2 ต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงร่างกาย
เขาไม่สามารถยอมให้ทั้ง 2 ฝ่ายทำได้สำเร็จ เขายั่วยุพวกเขาเข้าไปอีก
"รุ่นพี่! ข้าควรทำอย่างไรดีขอรับ! วิญญาณชั่วร้ายไม่ได้ถูกหลอกท่านหาวิธีล่อให้มันสวมหน้ากากอีกครั้งได้หรือไม่? ครั้งนี้ข้าสัญญาว่าต้องจับมันได้อย่างแน่นอน"
ดวงตาข้างหนึ่งของเพ็กกี้ ตาขาวของนางเปลี่ยนเป็นสีดำ ส่วนตาอีกข้างหนึ่งเป็นสีแดงก่ำ ทันใดนั้นก็หันมาหาโซล
"เจ้าเด็กเลว ดูเหมือนข้าจะประเมินเจ้าต่ำไป"
โซลไม่เปิดโอกาสให้เพ็กกี้พูดต่อ เขายืนขึ้นและสวมหน้ากาก ทำท่าเล็งเป็นครั้งคราว
"รุ่นพี่ เร็วเข้าขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกมา เมื่อมันออกมา ข้าจะจับมันเอาไว้ด้วยตาข่ายเอง ไม่สิ... ข้าจะรมควันมันให้ตายเลย!"
"อั่ก" ดวงตาอีกข้างของเพ็กกลายเป็นสีดำมืด สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด นางไม่มีเวลามาสนใจโซล
มือทั้ง 2 ข้างของนางกดไปที่ตาราวกับนางต้องการควักมันออกมา แต่สุดท้ายนางก้ได้เพียงแค่ดึงหนังตาของนางเอาไว้
"หวั่บบ"
โซล อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เขาเกือบจะรักษาท่าทางของเขาเอาไว้ไม่ได้
"รุ่นพี่เร็วเข้า บังคับให้มันออกมา"
จู่ๆ เพ็กกี้ก็ดูเหมือนจะคิดได้ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด นางจึงหัดกลับมาตะโกนใส่โซล "ส่งหน้ากากนั้นมาให้ข้าเร็วเข้า ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้าซะ!"
"ขอรับ" โซลตอบกลับพร้อมกับโยนของในมือให้นาง "รุ่นพี่ รับมันไว้"
ตอนนี้การมองเห็นของเพ็กกี้ เลือนลาง นางเห็นเพียงแค่โซลขว้างบางสิ่งมา
"เจ้าสารเลวนี่ฉลาดยิ่งนัก ข้าจะฆ่ามันไปตายโดยเร็วที่สุด"
นางเอื้อมมือไปหยิบ หนังชิ้นที่มันหยาบกร้านและใหญ่กว่าหน้ากากมาก
"นี่ผิวหนังของข้างั้นหรือ?"
ความสงสัยปรากฏขึ้นในใจของ เพ็กกี้ อยู่ครู่หนึ่ง
"เร็วเข้า รุ่นพี่! หน้ากากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น หลังจากถูกวิญญาณร้ายสิงสูก่อนหน้านี้"
เมื่อได้ยินคำพูดของโซล เพ็กกี้ ซึ่งกำลังครุ่นคิดก็ไม่รอช้าเอาแผ่นหนังไปปิดหน้าของนางทันที
แต่ทันทีที่แผ่นหนังกระทบหน้าของนาง เพ็กกี้ ก็ตระหนักได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
วิญญาณชั่วร้าย ไม่ได้ถูกดึงออกไป แต่กลับกรีดร้องอยู่ภายในหัวของนาง
"อ๊ากกก"
"กริ้ดดดด"
"โฮกกก!"
เสียงของเพ็กสลับสับเปลี่ยนระหว่างเสียงสูงและเสียงต่ำ
นางรู้ว่านางถูกหลอกอีกครั้ง หนังแผ่นนี้ ไม่มีผิวหนังของนางอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น หนังชิ้นนี้ยังมีคุณสมบัติในการปกปิดพลังเอาไว้ หลังจากนางปิดหน้าของนางด้วยหนังผืนนี้ นางก็พบว่าวิญญาณชั่วร้ายที่แต่เดิมต้องการออกจากร่างนางก็ ถอยร่นกลับมาทันที
"ไอ้ชั่วววว"
เส้นเสียงของนางขาดสะบัดกลายเป็นเสียงที่แห่บพร่า
เพ็กกี้ยอมแพ้ที่จะต่อสู้ในหัวและกลับมาควบคุมมือของนางได้อีกครั้ง พยายามดึงหนังผืนนั้นออกจากหน้าของนาง
แต่ไม่คาดคิดในเวลานี้ โซลซึ่งเฝ้ามองอยู่ห่างๆ ก็พุ่งเข้าไปทันที ผลักเพ็กกี้ลงกับพื้นและมือกดหน้าของนางไว้เพื่อป้องกันไม่ให้หนังสีเหลืองหลุดออกจากใบหน้าของเพ็กกี้
ใช่แล้ว หนังสีเหลืองชิ้นนี้ คือสิ่งที่ คงชา ให้โซลยืมเพื่อปกปิดกลิ่นอายของซากศพ
โซล เพิ่งคิดได้จึงลองใช้มันกับเพ็กกี้ ไม่คาดคิดว่าผลลัพธ์มันจะออกมาดีเช่นนี้
กล่าวอีกอย่างก็คือ มันกักขังให้วิญญาณชั่วร้ายไม่สามารถออกจากร่างของเพ็กกี้ได้
ตราบใดที่วิญญาณชั่วร้ายไม่ออกมา ทั้ง 2 ก็ต่อสู้กันอยู่ภายในนั้น
"อ๊ากกก"
เพ็กกี้ พ่ายแพ้ต่อวิญญาณชั่วร้ายจากการต่อสู้ในร่างกายของนาง คนที่นางเกลียดที่สุดตอนนี้ก็คือโซล
นางยื่นมือที่อ่อนแรงออกมาพยายามคว้าไปที่หน้าของโซลอย่างสิ้นหวัง ในขณะเดียวกัน เท้าของนางก็ยันพื้น พยายามผลักโซลออกไปจากร่างของนาง
แต่วิญญาณชั่วร้ายภายในร่างกายของนางก็คอยขัดขวาง ไม่ให้นางใช้กำลังได้อย่างเต็มที่
เมื่อเวลาผ่านไป เรี่ยวแรงของเพ็กกี้ก็เริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั้งไม่เคลื่อนไหวในที่สุด
โซลยังไม่ยอมปล่อยเพ็กกี้ แต่ยังคงกดหน้าของนางต่อไปอีก 10 นาที
เขารู้สึกว่าใบหน้าของเพ็กกี้ แบนราบไปเพราะแรงกดของเขา
จากนั้น โซลก็ร่ายคาถาในปาก ปล่อยมือททั้ง 2 ข้างพร้อมกับทำท่าทางออกมา
หลังจากที่เขาพร้อมแล้ว เขาก็ดึงหนังสีเหลืองออกและโจมตีไปที่ใบหน้าของเพ็กกี้
ร่างกายของ เพ็กกี้สั่นสะท้าน แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ
ใบหน้าของนางเป็นรอยช้ำ ปากของนางแหวกออก จนถึงคอ
เขาไม่รู้ว่านางถูกวิญญาณชั่วร้ายสังหารหรือเป็นโซลที่กดหน้านางจนตาย
แต่ถ้าเพ็กกี้ ไม่ต่อสู้กับวิญญาณชั่วร้ายอยู่ภายใน โซลคงไม่มีโอกาสแม้แต่น้อยที่จะสังหารนางได้
โซล ไม่กล้าผ่อนคลาย ยังคงใช้คาถาต่อสู้อันเดด โจมตีใส่หน้าเพ็กกี้ต่อไป
การใช้เวทมนตร์ติดต่อกัน 2 ครั้งทำให้เขามาถึงขีดจำกัด
โซลถอนหายใจออกมา ก่อนจะลุกออกจากตัวของ เพ็กกี้
"....อืม?"
เสียงพูดแผ่วเบาดังขึ้นข้างหลังเขา โซลถึงกับสะดุ้งหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็ว
รุ่นพี่ไบรอน ที่ไม่ได้เจอกันนานกำลังยืนอยู่ที่ประตู มองดูอย่างสิ่งในห้องด้วยความสับสน
"รุ่นพี่" โซล รู้สึกโล่งอกพลังเวทมนตร์ของเขาเหลือน้อยมาก เขาทำได้เพียงยืนอยู่ตรงนั้น หน้าอกของเขาหายใจหอบ มือของเขาสั่นเทา
ไบรอน เดินเข้ามาและปิดประตูตามหลัง เขาคว้าแขนโซลเอาไว้และดึงไปอยู่ข้างหลังเขา
ปากของเขาขยับ เกิดเป็นคาถาแอบแผ่วเบาที่แทบจะไม่ได้ยิน จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังเพ็กกี้ที่อยู่บนพื้น
ทันใดนั้น อีกฝ่ายก็กระโดดขึ้นมาจากพื้น อ้าปากของนางออกและ พุ่งเข้าใส่ไบรอน แต่มันกลับถูกเส้นสีดำรอบห้องรัดเอาไว้
ร่างกายและจิตวิญญาณของเพ็กกี้ กรีดร้องออกมาพร้อมกัน
รูปลักษณ์อันดุร้ายของนางทรุดลงอย่างรวดเร็ว นางล้มลงกับพื้นกลายเป็นมัมมี่ไปในที่สุด
แต่ถึงอย่างนั้น นางและวิญญาณชั่วร้ายในตัวนางก็โจมตีครั้งสุดท้ายออกได้สำเร็จ
เกิดเป็นคมมีดสายลม ทิ้งบาดแผลลึกถึงกระดูกเอาไว้บนร่างกายของไบรอน
ร่างของเขาอาบไปด้วยเลือดทันที
แต่ทันใดนั้น ร่างอันเหี่ยวแห้งของเพ็กกี้ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป ร่างเงาดำของวิญญาณชั่วร้ายก็ได้หายไป เหลือทิ้งไว้เพียงควันดำในอากาศ
โซล หยิบหน้ากากพ่อมดที่เขาเพิ่งได้รับออกมา ระงับอาการคลื่นไว้เอาไว้ และนำมันไปสวมบนหน้าเพื่อตรวจสอบดู
เขาเพิ่งเห็นว่าเพ็กกี้ตายแล้ว และเขายังใช้คาถา ต่อสู้อันเดดไป ถึง 2 ครั้ง แต่เขาก็ยังประมาท หากรุ่นพี่ไบรอนไม่ได้สังเกตเห็นว่า วิญญาณชั่วร้ายยังไม่ตาย เขาคงไม่อาจหลบหนีจากภัยพิบัติได้
แต่ตอนนี้ โซลไม่เห็น วิญญาณชั่วร้ายแล้ว
ด้วยการโจมตีครั้งสุดท้ายของ รุ่นพี่ไบรอน เขาสามารถกำจัดอันตรายที่หลบซ่อนอยู่ทั้งหมดได้ในที่สุด
ก่อนที่เขาอ้วกออกมา โซลก็รีบถอนหน้ากากและพันมันด้วยหนังสีเหลือง ซึ่งสามารถปกปิดกลิ่นอายได้
บาดแผลของรุ่นพี่ไบรอนค่อยๆ ผสานตัว
พ่อมดฝึกหัดระดับ 2 ช่างทรงพลังจริงๆ
ถึงแม้ว่ารุ่นพี่ไบรอนจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังไม่สามารถกลายเป็นพ่อมดฝึกหัดระดับ 3 ได้ก่อนอายุ 30 ปี
หัวใจของโซลจมดิ่ง เขาตระหนักได้ทันทีว่าการเป็นพ่อมดที่แท้จริงนั้นอยากเย็นเพียงใด
แต่เขาไม่ได้หดหู่อยู่นาน เขาเดินเข้าไปหารุ่นพี่ไบรอน "รุ่นพี่ ทำไมท่านถึงได้อยู่ที่นี่กัน"
ไบรอน หันกลับมาโซล และมองเขาด้วยสายตาที่สับสน
เขาพูดขณะเดียวกันก็รักษาบาดแผลบนร่างกายไปด้วย
"ข้าเห็นข้อความของเจ้าแล้ว แต่มันเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับข้าในการเลื่อนขั้นเป็น พ่อมดฝึกหัดระดับ 3 ดังนั้นข้าจึงได้มาพบเจ้าในวันนี้"
"รุ่นพี่ ท่านเป็นพ่อมดฝึกหัดระดับ 3 แล้วงั้นหรือ?" โซลยิ้มออกมาจนเห็นฟันสีขาว
เขาดีใจกับไบรอนจริงๆ
"ยัง แต่มันไม่น่าจะมีปัญหาในการเลื่อนขั้นให้เสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ ว่าแต่ เจ้ามาทำอะไรที่นี่ นี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่เจ้าควรจะเข้าร่วม"
โซลยิ้มอย่างขมขื่น "ข้าถูกบังคับให้เข้าร่วม"
เขาอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับวิธีการและการต่อสู้กับของเขา
"เจ้า..อยู่เหนือความคาดหมายของข้าไม่น้อยเลย บางทีแม้ว่าข้าจะไม่ลงมือ เจ้าก็อาจสามารถจัดการกับวิญญาณชั่วร้ายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้"
เสียงของไบรอน เริ่มขาดช่วง ขณะที่บาดแผลบนร่างกายของเขาเริ่มสมานตัว
เขามองดูร่างของเพ็กกี้ที่ไร้วิญญาณบนพื้น ก่อนจะส่ายหัวและพูดว่า "เป็นข้าเองที่จ้างเพ็กกี้ให้รับงานของข้า ข้าไม่คาดคิดว่านางจะตายลงหลังจากทำงานได้เพียงแค่ 10 วัน"
หัวใจของโซลบีบรัดแน่น "รุ่นพี่ นางเป็นสหายของท่านงั้นเหรอ?"
ไบรอนส่ายหัว "ไม่ มันเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนระหว่างพ่อมดฝึกหัด ข้าไม่ได้เป็นอะไรกับนาง แต่โซล.. ข้าเป็นหนี้เจ้า"