ตอนที่แล้วบทที่ 392: ยังไม่ทันลงมือ ศัตรูก็ร่วงไปก่อนแล้ว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 394: มีองค์ประกอบพิเศษ! นี่มันไม่เร็วเกินไปเหรอ?

บทที่ 393: ดีกว่าที่คิด! นี่คือการรักษาที่แท้จริง!


บ้านไร่ชิงหลินเองก็ยังคงทำการแก้ไข  เพียงแต่การแก้ไขนี้ไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อการโปรโมตผักพันธุ์ใหม่ของทางบ้านไร่  เพียงแต่เป็นการเพิ่มเติมโดยการแนบใบรับรองการตรวจสอบสรรพคุณทางยาและเอกสารการอนุมัติลงไป  ซึ่งหมายความว่าจะต้องเพิ่มเนื้อหาบางส่วนลงในป้ายแนะนำ

ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย  แค่ปล่อยให้ฝ่ายมัลติมีเดียเอาไปจัดการ

หลังจากพิสูจน์ทราบแล้วว่าผักพันธุ์ใหม่ของบ้านไร่ชิงหลินได้ผลตามที่โฆษณาจริงก็ทำให้ความนิยมสูงปรี๊ด

บางคนถึงกับคัดลอกคำแนะนำของผักเหล่านี้  จากนั้นก็ทำเป็นตารางรายการเปรียบเทียบกับยารักษาโรคเดียวกันในท้องตลาดขึ้นมาเลยทีเดียว

และในตารางเปรียบเทียบดังกล่าวจะเห็นว่าสรรพคุณทางยาของผักพันธุ์ใหม่ของบ้านไร่ชิงหลินออกฤทธิ์ได้แรงกว่ายาเหล่านั้น

และแน่นอนว่ายาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็คือยาลดไขมันในเลือดที่ฟู่ซินหมิงคิดค้นเทียบกับมะเขือยาวชิงหลินนั่นเอง

ท้ายที่สุดแล้วฟู่ซินหมิงผู้ยุแยงตะแครั่วก็เป็นผู้มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์แล้วเช่นกัน  เพียงแต่เป็นเพียงชื่อเสียงด้านลบ

แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็มีผลกระทบต่อวงการการแพทย์แผนตะวันตกอยู่บ้าง

ก็ฟู่ซินหมิงเองเป็นถึงศาสตราจารย์ในด้านการแพทย์แผนตะวันตก  และคนในแวดวงนี้ก็จบจากสาขาของแพทย์แผนตะวันตกมาเหมือนกัน

ซึ่งในจังหวะนี้พวกตระกูลที่สืบทอดการแพทย์แผนโบราณมาก็ไม่ยอมพลาดโอกาสดี ๆ นี้และเริ่มโปรโมตกันทันทีเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกวิจัยการแพทย์แผนโบราณของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติตอนนี้ได้ออกประกาศสูตรยาแผนโบราณทีเดียวหลายสูตร

โดยผลของยาโบราณเหล่านี้ล้วนได้รับการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนโบราณจากสูตรยาในสมัยโบราณ  ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้ด้อยไปว่ายาแผนตะวันตกเลย  และมีบางชนิดที่ใช้ได้ดีกว่าด้วยซ้ำ

ที่สำคัญคือราคาของยาแผนโบราณเหล่านี้กลับถูกกว่ายาแผนตะวันตกมาก

คราวนี้การแพทย์แผนโบราณจึงได้รับความสนใจอย่างมาก

ทำให้การแพทย์แผนโบราณได้เข้ามาสู่สายตาจองผู้คนกันอีกครั้ง

ความขึ้น ๆ ลง ๆ นี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั้งการแพทย์แผนตะวันตกและการแพทย์แผนโบราณ

แต่ก็แน่นอนว่าไม่ว่าอิทธิพลจะยิ่งใหญ่เพียงใด  แต่ระดับความสนใจที่ได้รับนั้นก็ยังไม่ดีเท่ากับของบ้านไร่ชิงหลิน

หลังจากที่รู้ว่าผักพันธุ์ใหม่เหล่านั้นใช้กินแทนยาได้จริงก็ทำให้มีคนจำนวนมาแห่กันไปซื้อผักดังกล่าว  โดยส่วนใหญ่คนที่ไปซื้อก็แค่ไปร่วมสนุกเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้บ้านไร่ชิงหลินจึงต้องออกประกาศ ‘ทางบ้านไร่ชิงหลินเราได้มีการจัดตั้งพื้นที่พิเศษสำหรับวางขายผักพันธุ์ใหม่  โดยใครก็ตามที่ต้องการซื้อผักพันธุ์ใหม่ในพื้นที่พิเศษของศูนย์การขายนี้จะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ว่าเป็นโรคที่เกี่ยวข้องก่อนถึงจะเข้าไปซื้อได้  จึงเรียนมาเพื่อทราบ!’

สรุปง่าย ๆ เลยคือผักน่ะมีขายนะ  ถ้าป่วยก็มาหาซื้อไปกินซะ  ส่วนใครไม่ป่วยก็ไม่ต้องมา

เนื่องจากผักจำนวนมากถูกฝูงชนมาแย่งซื้อไปทำให้คนที่ป่วยจริง ๆ ไม่สามารถหาซื้อกินได้  ทำให้ไม่มีทางที่จะได้พิสูจน์ผลของการกินผักเหล่านี้จริง ๆ ว่าได้ผลจริงหรือไม่  ดังนั้นจึงต้องมีการจัดตั้งพื้นที่พิเศษสำหรับขายให้ผู้ป่วยแยกต่างหากให้

............................................................................................

ลานจอดรถบ้านไร่ชิงหลิน

เช้านี้ซุนซีได้พาปู่ของตนลงจากรถแท็กซี่  และทันทีที่เธอมาถึงบ้านไร่เธอก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างไปจากเดิม

“คุณปู่คะ  อากาศที่นี่ดีมากเลย  เราอยู่พักผ่อนเที่ยวเล่นที่นี่ก่อนซักสองสามวันให้ได้ผ่อนคลายดีกว่ามั้ยคะ  เด๋วหนูพาไปลองผักโขมขาวพันธุ์ใหม่” ซุนซีประคองปู่ของเธอเดินเข้าไปในบ้านไร่  ขณะที่พูดอีกมือก็ถือกระเป๋า

ปู่ของเธอเป็นโรคความดันโลหิตสูง  และความดันที่สูงนี้ก็มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา

สำหรับเธอแล้วไอ้เรื่องค่ายาน่ะไม่ถือว่าแพงหรอก  ยาดี ๆ ราคาแค่ไม่กี่สิบหยวน  เดือนหนึ่งก็ประมาณเจ็ดแปดร้อยแค่นั้น

แต่สิ่งที่ผู้สูงอายุกลัวไม่ใช่การต้องกินยาลดความดันทุกวัน  แต่กลัวการไปโรงพยาบาลต่างหาก

เนื่องจากเจอปัญหาที่เกิดจากความดันโลหิตสูง  ปู่ของเธอจึงต้องจ่ายเงินอย่างน้อยสองถึงสามพันต่อครั้งที่ไปโรงพยาบาล

ซึ่งโรคความดันโลหิตสูงนี้ไม่มีวิธีรักษา  ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะยาหรืออย่างอื่น  แต่ผลการควบคุมความดันเป็นไปได้ไม่ดีนัก  และปู่ก็มีแนวโน้มที่จะต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย ๆ

หมอถึงกับระบุ 8 อาการให้ปู่ฟัง  บอกว่าทุกครั้งถ้าเจอหนึ่งใน 8 อาการนี้ล่ะก็ให้รีบไปตรวจที่โรงพยาบาลทันที

ทุกครั้งที่เธอเห็นผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงเข้าแถวรอที่โรงพยาบาล  มันทำให้เธอพลันนึกไปถึงพวกนายทุนหน้าเลือดที่สั่งให้คนงานเข้าแถวให้ตนสูบเลือดสูบเนื้อ

แม้ว่าคำอธิบายนี้จะไม่ถูกต้องเลยก็ตาม  แต่มันก็อดคิดไม่ได้ไง

ชายชราปล่อยให้หลานสาวจัดการเรื่องต่าง ๆ และถามว่า “เสี่ยวซี  หลานว่าผักโขมขาวนั่นกินแล้วความดันปู่จะหายจริง ๆ เหรอ”

ซุนซียิ้มตอบ “ในเน็ตก็บอกไม่ใช่เหรอคะว่าฤทธิ์ยาแรงกว่ายาลดความดันตามท้องตลาดอีก  ถึงยังไงเราก็เสียเงินให้โรงบาลอยู่แล้ว  จะลองเสียเงินเพิ่มให้บ้านไร่ชิงหลินก็ไม่เห็นเป็นไรนี่  แล้วหนูก็อยากให้ปู่เที่ยวบ้านไร่ชิงหลินให้สนุก  เพราะงั้นเรามาผ่อนคลายกันดีกว่าค่ะ  บ้านไร่ชิงหลินน่ะสวยมากเลยนะ”

ชายชราไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้

เพราะตลอดทางที่มาก็ได้เปิดคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับบ้านไร่ชิงหลินดูแล้ว  แค่เห็นผ่านจอก็ยังรู้สึกได้เลยว่าเป็นทิวทัศน์อันงดงามที่ผู้คนต่างโหยหา

หลังจากที่ซุนซีพาปู่เข้าไปในบ้านไร่แล้วเธอก็ไปที่ศูนย์การขายก่อนเป็นอันดับแรก  โดยเธอจะหาซื้อผักโขมขาวก่อนเลย

ยังไงนี่ก็คือจุดประสงค์หลักที่พาปู่ถ่อมาจนถึงที่นี่นี่นา

............................................................................................

ศูนย์การขาย

ซุนซีกับปู่มาถึงค่อนข้างสาย  และเมื่อมาถึงโซนผักพันธุ์ใหม่ก็เห็นว่าผักในแผงทั้งหมดได้ขายหมดแล้ว

แต่ก็ยังโชคดีที่ทางบ้านไร่มีการกันสินค้าบางส่วนไว้ในพื้นที่พิเศษเผื่อสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการ

นอกจากนี้ในพื้นที่พิเศษนี้ยังมีพนักงานคอยเช็กใบรับรองแพทย์อย่างจริงจัง  ซึ่งเมื่อพิสูจน์แล้วว่าเป็นโรคนั้น ๆ จริงจึงจะเข้าไปซื้อได้  และผักที่ซื้อได้ก็ต้องเป็นผักที่ใช้รักษาโรคที่เป็นอยู่เท่านั้น  ไม่สามารถซื้อผักที่ไม่เกี่ยวข้องได้

ซุนซีพาปู่ไปยังพื้นที่พิเศษดังกล่าวและยื่นใบรับรองแพทย์ตามกฎ  จากนั้นเธอก็เข้าไปยังแผงผักโขมขาวและอ่านคำแนะนำ

คำแนะนำผลิตภัณฑ์: ผักโขมพันธุ์พิเศษ...  เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่พัฒนาโดยห้องทดลองชิงหลิน

สรรพคุณทางยา: สามารถขจัดความร้อนและล้างพิษได้  รักษาโรคกระเพาะอาหารและลดความดันโลหิตสูง  โดยออกฤทธิ์ได้รุนแรงมาก!

โดยจะแตกต่างจากรูปโปรไฟล์ที่โพสต์ในออนไลน์ตรงที่รูปโปรไฟล์ใหม่นี้มีรายงานผลการตรวจและเอกสารอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแนบไว้ด้วย

นี่ถือเป็นการปิดปากทุคคนไปโดยปริยาย

ซุนซีซื้อผักโขมขาวมาหลายจิน

เธอรู้สึกว่าบ้านไร่ชิงหลินทำได้ดีมาก

เพราะหากผักเหล่านี้กินแล้วได้ผลจริง ๆ ล่ะก็  พวกคนที่แค่มาร่วมสนุกเมื่อซื้อไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไร  ตรงกันข้างกับคนที่ต้องการมันจริง ๆ ทว่ากลับไม่สามารถซื้อได้

แต่ตอนนี้บ้านไร่ถึงขนาดยอมจัดตั้งพื้นที่ใหม่ขึ้นมาเป็นพิเศษแล้วกันผักไว้ส่วนหนึ่งเพื่อขายให้กับผู้ป่วยจริง ๆ โดยที่ไม่ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาร่วมสนุกไม่พอใจ

ซุนซีพาปู่ไปซื้อวัตถุดิบอื่น ๆ อย่างพวกเนื้อสัตว์และผักที่มีวางแผงขายอยู่มากมาย  จากนั้นก็ไปคิดเงินและออกจากศูนย์การขาย

ผักที่ซื้อมาสามารถนำไปลงทะเบียนและเก็บไว้ในร้านอาหารได้  เพื่อที่ว่าเมื่อมาถึงร้านอาหารแล้วทางครัวก็สามารถนำออกมาทำอาหารและจัดเสิร์ฟให้ได้เลย  และก็แน่นอนว่าสามารถนำไปที่โซนทำกินเองโดยเช่าพวกเตากับตะแกรงย่างเพื่อปิ้งเป็นบาร์บีคิวกินกันเองได้ด้วย

หลังจากเช่าเตาแล้วจะมีกล่องเก็บของเล็ก ๆ อยู่ข้าง ๆ เตา  ซึ่งสามารถใส่ผักลงในกล่องเก็บไว้ก่อนแล้วออกไปเที่ยวเล่นได้เลย  เที่ยวเล่นเสร็จแล้วค่อยกลับมาทำอาหารต่อได้

ซุนซีซื้อผักและผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์มามากมาย  และเธอกะว่าจะใช้บริการโซนทำกินเอง

หลังจากใส่ผักและเนื้อสัตว์ที่เธอซื้อมาใส่ในกล่องที่มีฟังก์ชันแช่เย็นแล้วเธอก็ได้พาปู่ไปเที่ยวเล่นในบ้านไร่ก่อน

แน่นอนว่าต้องไปโซนพักผ่อนฟรี  ต่อด้วยพื้นที่เข้าชมสะพานลอยน้ำ  ตามด้วยทะเลเฟื่องฟ้า  ปิดด้วยทะเลดอกไม้รวมที่ไม่ควรพลาด

ส่วนฟาร์มชิงหลิน...  เอาไว้ไปพรุ่งนี้แล้วกัน

เก็บข้าวของเสร็จซุนซีก็พาชายชราไปเที่ยวเล่นในบ้านไร่  เมื่อถึงตอนเที่ยงเธอก็พาปู่กลับมาที่โซนทำกินเองและเริ่มลงมือทำอาหาร

ฝีมือการทำอาหารของเธอค่อนข้างดี  และเธอสามารถเตรียมผักและเนื้อสัตว์บางส่วนเสร็จอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงเวลาปรุงผักโขมเธอก็เริ่มจะจริงจังกับมันมากขึ้น  เพราะนี่คือทำให้ปู่กิน  และเธอได้ซื้อเผื่อไว้ให้ปู่กินได้ทั้งมื้อเที่ยงนี้และมื้อเย็นเลย

หลังจากทำเสร็จแล้วซุนซีก็เอาผักโขมขาวมาให้ชายชรา “ปู่ลองกินดูก่อนว่าจะได้ผลมั้ย”

ชายชราพยักหน้าและลงมือกินพร้อมกับเมนูอื่น ๆ ด้วย

“เป็นไงมั่งคะ” ซุนซีถามทันที

“พึ่งจะกินเอง  มันจะไปออกฤทธิ์เร็วขนาดนั้นได้ไงกันเล่า” ชายชราส่ายหน้าให้กับความโก๊ะของหลานสาว

“นั่นสิน้า!” ซุนซีพยักหน้า

อันที่จริงก็อย่างที่ปู่ว่าแหละ  แม้ว่าผักโขมขาวจะเป็นถึงเลเวล 1 และออกฤทธิ์ส่งผลต่อโรคความดันโลหิตสูงได้จริงก็ตาม  แต่มันก็ไม่ได้เร็วปานนั้น

หลังกินข้าวเที่ยงกันเสร็จซุนซีก็พาปู่ไปที่พื้นที่เข้าชมสะพานลอยน้ำ

ชายชราเดินช้ามากจึงทำให้การเที่ยวชมเป็นไปได้ช้า  และด้วยความเร็วเท่านี้ทำให้หลังจากชมสะพานโป๊ะเสร็จแล้วก็ไม่มีทางไปต่อที่ทะเลดอกไม้รวมได้

อย่างไรก็ตาม  ในขณะที่เดินเที่ยวเล่นกันอยู่นั้นซุนซีกลับพบว่าอาการของปู่ของเธอดีขึ้นมาก  ดูปู่จะไม่เหนื่อยมากเหมือนเมื่อช่วงเช้าเลย

“ปู่...  ตอนนี้เป็นไงมั่งคะ” ซุนซีถามโดยไม่รู้ตัว

ชายชราเองก็อึ้ง ๆ ไปเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกแปลกใจ  เพราะเขาคือคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงมานาน  เรียกได้ว่าทั้งชีวิตไม่มีใครสนิทกับเขาเท่ามันแล้ว  โดยปกติการเดินนาน ๆ แบบนี้ถ้าไม่เวียนหัวก็ปวดคอ  ที่หนัก ๆ ก็คือเหนื่อยจัดจนหายใจไม่สะดวก

แต่ช่วงบ่ายมานี้อาการพวกนี้กลับไม่เกิดเลย

นี่ทำให้เขารู้สึกเหลือจะเชื่อ “ดูเหมือน...  ปู่จะดีขึ้นมาก...  ไม่เห็นรู้สึกว่าไม่สบายตัวเหมือนเมื่อเช้าเลยซักนิด”

ซุนซีได้ยินก็ประหลาดใจ “หรือว่าผักโขมขาวจะได้ผล  เราไปหาที่วัดความดันดูเถอะค่ะปู่”

“อื้ม!” ชายชราพยักหน้า

ซุนซีพาชายชราไปนั่งที่ศาลาบนสะพานโป๊ะ  จากนั้นเธอก็เปิดถุงและหยิบเครื่องวัดความดันโลหิตออกมา

หลังจากนั้นเธอก็เปิดเครื่องแล้วนำส่วนปลอกแขนมาสวมใส่ให้ปู่ก่อนจะกดวัด

ตัวเลขบนหน้าจอดิจิตอลวิ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนในไม่ช้าก็แตะถึง 75 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) และเมื่อถึงค่าดังกล่าวตัวเลขก็หยุดวิ่ง

ซึ่งค่านี้ทำให้ซุนซีต้องประหลาดใจมาก  เพราะความดันโลหิตปกติของมนุษย์คือ 60 – 90 มิลลิเมตรปรอท

ซึ่งแปลว่าค่าความดันของปู่เธอในตอนนี้เป็นค่าความดันโลหิตของคนปกติ

แต่ว่าตั้งแต่ที่ปู่เธอเป็นโรคความดันโลหิตสูงมา  แค่จะประคองทรงให้ได้ค่านี้ก็เป็นเรื่องยากแล้ว  ไม่ว่าจะกินยาตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัดแค่ไหนก็ตาม

ซุนซีกดวัดอีกสองครั้งเนื่องจากยังไม่ชัวร์  โดยทั้งสองค่าอยู่ที่ระหว่าง 75 – 80 มิลลิเมตรปรอท

ซึ่งนี่คือค่าหลังจากที่ไปเดินมาไกลแล้ว

ปกติแล้วเดินขนานี้ปู่จะต้องความดันขึ้นสูงและต้องกินยา  ดังนั้นทุกครั้งที่ชายชราจะเดินจะต้องพกยาลดความดันติดตัวไว้ตลอด

ทว่าหลังจากเดินมาไกลขนาดนี้แล้วปู่ยังคงประคองทรงความดันโลหิตได้ขนาดนี้  นี่มันสุดยอดจริง ๆ สุดยอดเกินไปด้วยซ้ำ

หรือก็คือผักโขมขาวนั่นใช้ได้ผลจริง ๆ นั่นเอง

แถมยังเป็นอย่างที่ในอินเทอร์เน็ตว่าไว้  ผลการกินผักโขมขาวของบ้านไร่ชิงหลินนั้นออกมาดีกว่าการกินยาลดความดันตามท้องตลาด  คืออย่างน้อย ๆ ยาลดความดันเหล่านั้นก็ใช้กับปู่เธอไม่ได้ผลเลยล่ะนะ

ด้วยเหตุนี้ซุนซีจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพาปู่เดินชมสะพานโป๊ต่อ

ตกเย็นเธอก็พาปู่กลับมาที่โซนทำกินเองและลงมือทำอาหารพร้อมทั้งมีเมนูผักโขมขาวให้ปู่อีกรอบ

เมื่อกลับไปโรงแรม  ก่อนเข้านอนเธอได้วัดความดันให้ปู่อีกรอบ  ซึ่งค่าที่ได้คือ 70 มิลลิเมตรปรอท  เรียกได้ว่าปลอดภัยหายห่วงเลยสำหรับคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง

เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อตื่นขึ้นมา

หลังจากที่ซุนซีซักผ้าเสร็จแล้วเธอก็ไปที่ห้องของชายชราทันทีเพื่อวัดความดันอีกรอบ

เนื่องจากไม่รู้ทำไมเหมือนกันช่วง 6 โมงเช้าถึง 10 โมงความดันปู่จะขึ้นพรวด  แล้วก็จะไปขึ้นพรวดอีกทีช่วงบ่าย 4 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม  ถ้าความดันโลหิตพุ่งถึงขีดอันตรายล่ะก็ชายชราจะต้องกินยาลดความดัน

และสองช่วงเวลานี้ยังเป็นสองช่วงเวลาที่ระดับความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นในหมู่ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงด้วย

ซุนซีหยิบเครื่องวัดความดันมาวัดให้ปู่  และในไม่ช้าผลก็ออกมา  นั่นคือ 75 มิลลิเมตรปรอท!

แม่จ้าว!

ค่านี้ทำให้ซุนซีอึ้งเก็มกี่แล้ว

เพราะค่านี้มันไม่ควรเกิดเลย

ในอดีตเมื่อก่อนนอนปู่ต้องกินยาลดความดัน  ตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องกินยาลดความดันอีกเนื่องจากความดันโลหิตพุ่งปรี๊ดทั้งสองช่วงเวลา

แต่กินยังไงมันก็ไม่หายและไม่ทุเลา

ทว่าตอนนี้ล่ะ?  ความดันโลหิตของปู่ไม่พุ่งแล้ว  แถมยังอยู่ในระดับที่ปลอดภัยหายห่วงอีกต่างหาก

เป็นไปได้มั้ยว่าผักพันธุ์ใหม่ของบ้านไร่ชิงหลินกินแล้วรักษาโรคความดันโลหิตสูงได้จริง

นี่คือสิ่งที่แม้แต่ยาแผนตะวันตกก็ยังทำไม่ได้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด