(ตอนพิเศษ) บทที่ 69 ยกทัพถล่ม!
(ตอนพิเศษ) บทที่ 69 ยกทัพถล่ม!
ลึกเข้าไปในเทือกเขาทมิฬ กลุ่มของมู่หวงเออร์กำลังต่อสู้กับอสูรร้ายขนาดยักษ์หลายตน
อสูรจากใต้พิภพเหล่านี้สูงถึง 5 เมตร มีร่างกายที่เทอะทะใหญ่โต
แม้จะมีเลเวลแค่ 17 แต่ค่าพลังชีวิตของมันกลับสูงลิ่ว ถึงแม้พลังโจมตีและความเร็วจะต่ำ แต่เหล่าผู้ตื่นรู้ก็ยังต้องร่วมมือกันกำจัดมันอย่างยากลำบาก
"กรรรร!"
อสูรร้ายคำราม พยายามที่จะฝ่าวงล้อมออกไป
แต่ภายใต้การบัญชาการอันเฉียบแหลมของมู่หวงเออร์ ในที่สุดค่าพลังชีวิตของพวกมันก็หมดลงและล้มลงกับพื้น
"ฮ่าาา เหนื่อยแทบตาย!"
หยางอี้อี้ถือขวาน [ขวานปีศาจสามานย์] ในมือ หายใจเข้าลึก ๆ
เมื่อครู่นี้
ตัวทำดาเมจหลักก็คือเธอ
ขวานยักษ์ในมือฟาดฟันอย่างบ้าคลั่ง ต้อนให้อสูรร้ายสูง 5 เมตรนั้นถอยร่นไม่หยุด
ผู้ตื่นรู้ที่อยู่โดยรอบต่างมองเธอด้วยความหวาดกลัวปนนับถือ
"ทำได้สวยมากเลย พี่อี้อี้!"
มู่หวงเออร์ยิ้มอย่างมีเลศนัย ดวงตาเป็นประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"พี่อี้อี้ ทักษะ 'ฟันลมหมุน' เมื่อกี้เป็นทักษะสีม่วงงั้นเหรอ?"
"ใช่แล้ว"
หยางอี้อี้ไม่ได้ปิดบัง
ทักษะ [ฟันลมหมุน] ที่เธอใช้เมื่อครู่ ส่งผลให้อสูรร้ายหลายตัวกระเด็นออกไป แถมยังโดนฟันจนเป็นแผลฉกรรจ์อีก
ทักษะนี้ ไม่ธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด
คนที่มีสายตาเฉียบแหลมย่อมดูออก
"โหดมากเลย ดาเมจขนาดนี้"
"ใช่แล้ว หยางอี้อี้คนเดียวทำดาเมจเท่ากับพวกเราสามสี่คนรวมกันเลย!"
"ฉันว่าเธอคนเดียวก็น่าจะจัดการอสูรร้ายได้สักตัวเลยนะ!"
......
ผู้คนต่างซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์กัน ส่วนใหญ่เป็นการชื่นชมและยกย่อง
หยางอี้อี้ยังคงทำสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้รู้สึกภูมิใจหรือยโสโอหังกับท่าทีของคนอื่น เธอมองไปที่มู่หวงเออร์
"ต่อไปจะเอายังไงต่อ?"
"ก็ต้องล่าต่อน่ะสิ ทุกคนถือโอกาสนี้เพิ่มเลเวลกันไปก่อน รอให้พวกปีศาจในรังลดความระมัดระวังลงแล้วค่อยบุกเข้าไป!"
แผนการของมู่หวงเออร์นั้นเรียบง่าย
ให้ทีม "เก็บเลเวล" ในเทือกเขาทมิฬก่อน รอให้รังปีศาจนั้นลดความระมัดระวังลงแล้วค่อยบุกเข้าไป
เพราะยังไงซะ พวกเธอก็ไม่มีทางรับมือกับปีศาจนับหลายร้อยตัวได้อยู่แล้ว
แต่ในตอนนั้นเอง
หวังชางเหอก็ลูบหัวตัวเองแล้วถามว่า "คุณหนูมู่ ทำไมไม่ให้คนในตระกูลของเธอมาจัดการกับรังนี้ล่ะ?"
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างก็ทำสีหน้าแปลก ๆ
หวังชางเหอมองดูพวกเขาอย่างงุนงง "ทำไมล่ะ? คำถามของฉันมันผิดตรงไหน?"
"นายไม่เคยตั้งใจฟังเวลาเรียนเลยรึไง?"
มู่หวงเออร์ขมวดคิ้ว แต่ก็ยังอธิบายว่า "โลกต่างมิติน่ะ มันมีจิตสำนึกนะ!"
"ถ้ามีนักผจญภัยระดับสูงตามเรามา โลกใบนี้ก็จะมองว่าพวกเราเป็นผู้บุกรุกระดับสูงเช่นกันถึงตอนนั้น ที่พวกเราต้องสู้คงไม่ได้มีแค่ปีศาจในรังแล้ว..."
"แต่จะต้องเจอกับศัตรูระดับเมืองปีศาจของจริงเลยล่ะ!"
ดวงตาของมู่หวงเออร์ฉายแววอันตรายออกมา
"อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง..."
หวังชางเหอยิ้มแห้ง ๆ
ตระกูลของเขาไม่มีนักผจญภัยระดับสูง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
ส่วนเรื่องเรียนน่ะเหรอ... เขาก็ไม่ได้ตั้งใจฟังจริง ๆ นั่นแหละ
เมื่อเห็นท่าทางโง่งมของหวังชางเหอ หยางอี้อี้ก็แอบสงสัยอยู่ในใจ
หวังชางเหอเป็นคนเลวนั่นจริง แต่ทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้?
คนโง่ขนาดนี้ จะวางแผนจ้างคนมาเล่นงานเธอจริง ๆ น่ะเหรอ?
"หรือว่า... เสี่ยวเทียนจะได้ข่าวปลอมมา?"
"แต่ก็น่าแปลก คนใกล้ตายปกติแล้วไม่น่าโกหก คนที่ให้ข่าวเสี่ยวเทียนมาสมควรพูดเรื่องจริง แต่เจ้าหวังชางเหอตอนนี้ไม่ได้ดูเหมือนคนเจ้าเล่ห์เจ้ากลเลยสักนิด..."
คนเลวก็มีทั้งโง่และฉลาด
คนโง่เง่าเต่าตุ่นอย่างหวังชางเหอไม่มีทางวางแผนซับซ้อนอะไรแบบนั้นได้หรอก!
ขณะที่เธอกำลังขมวดคิ้วอยู่นั้น
หูของเธอก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
กลิ่นคาวเลือด...
และเสียงลมกรรโชกพัดมาแต่ไกล...
"มีบางอย่างกำลังมาทางนี้ เยอะมากด้วย!"
พลธนูที่ทำหน้าที่ลาดตระเวนอยู่บนต้นไม้ตะโกนด้วยความตกใจ
มู่หวงเออร์เงยหน้าขึ้นมองอย่างงุนงง "เกิดอะไรขึ้น?"
"ปีศาจ! พวกปีศาจในรัง บุกออกมาหมดเลย!"
หลังจากที่มองเห็นชัดแล้ว พลธนูก็ถึงกับหน้าซีดเหงื่อตก
"พวกมันกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ คงจะรู้ตัวแล้วล่ะ!"
"ปีศาจกี่ตัว?"
มู่หวงเออร์ตั้งสติ
พลธนูตอบ "ห้าสิบ... ไม่สิ น่าจะราว ๆ เจ็ดแปดสิบตัว แถมยังมีผู้นำปีศาจกับนักบวชปีศาจบอสเลเวล 20 นำทัพมาด้วย!"
"สู้ไม่ไหวแน่นอน พวกเรารีบถอย!"
มู่หวงเออร์ตัดสินใจทันที หวังชางเหอที่ไม่เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้มาก่อนขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ "ก็แค่ปีศาจไม่กี่สิบตัว ทำไมไม่สู้ไปเลยล่ะ"
"ไอ้โง่ ในนั้นมีบอสนะเว้ย! แค่บอสตัวเดียวก็ฆ่าพวกเราแตกยกตี้ได้แล้ว นี่มันยังพากองทัพมาด้วยอีก!"
มู่หวงเออร์ด่าก่อนจะนำทุกคนวิ่งหนีออกจากเทือกเขาทมิฬ
แต่ไม่นานนัก
ปีศาจตนหนึ่งก็กางปีกขนาดมหึมา บินลงมาขวางทางของทุกคน!
"กิ กิ กิ เจ้าพวกหนูโสโครกได้เวลาชดใช้กรรมแล้ว!"
ปีศาจตนนี้มีเขาแกะโค้งงอ ร่างกายสูงสี่เมตรแผ่กลิ่นกำมะถันและเปลวเพลิง
......
[ปีศาจผู้นำ· โนมิ]
ระดับพลัง: ผู้นำ
เลเวล: 20