(ตอนพิเศษ) บทที่ 66 หนึ่ง... สู้กับร้อย?
(ตอนพิเศษ) บทที่ 66 หนึ่ง... สู้กับร้อย?
เมื่อได้ยินคำว่า "นักผจญภัยระดับสูง"
มู่หวงเออร์มองอู๋เทียนด้วยความรู้สึกทึ่ง แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก
“แต่นายก็รู้นี่ ว่าถ้าร่วมสู้กับพวกเขา นายจะไม่ได้รับค่าประสบการณ์!”
ในอารยธรรมแห่งกฎ การแบ่งค่าประสบการณ์ของนักผจญภัยนั้นยุติธรรมมาก
ลงแรงเท่าไหร่ก็ได้ค่าประสบการณ์เท่านั้น
ดังนั้น การที่ระดับสูงพาระดับต่ำไปเก็บเลเวลจึงเป็นไปไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้านักผจญภัยระดับสูงโจมตีมอนสเตอร์เลเวล 50 จนหนึ่งจนเกือบตาย แล้วให้นักผจญภัยระดับต่ำมาฆ่า นักผจญภัยระดับต่ำจะถูกตัดสินว่า "ไม่สมควรได้รับ" และจะได้รับค่าประสบการณ์ขั้นต่ำเพียง "1" แต้มเท่านั้น!
“ฉันรู้ เพื่อนฉันได้หนังสือทักษะ... สีม่วงของนักบวชมา เลยจะเอามาให้ฉัน”
อู๋เทียนยิ้ม
“...เพื่อนของนายนี่ดีกับนายจริงๆ”
มู่หวงเออร์มองด้วยสายตาแปลกๆ
ด้วยนิสัยขี้อวดเล็กๆ ของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะพูดประชดประชันว่า “เพื่อนของนายที่ว่า คงไม่ใช่นักผจญภัยระดับสูงประเภทนั้นหรอกใช่ไหม? แบบอายุหลายร้อยปี? หรืออ้วนเป็นร้อยกิโล?”
“ท่าทางนายคงตั้งใจจะใช้เสน่ห์เอาตัวเข้าแลกเพื่อเกาะแข้งเกาะขาเขาล่ะสิ”
หมับ หมับ!
ทันใดนั้น สิ่งที่มู่หวงเออร์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ไม่รู้ว่าทำไมอู๋เทียนถึงเร็วขนาดนั้น เขาขยำจุดสำคัญของเธอเต็มมือก่อนจะรีบวิ่งหนีเข้าไปในป่าอย่างว่องไว!
“อู๋เทียน! ฉันจะฆ่านายยย!”
เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วป่า ทำให้ฝูงตกบินแตกตื่นขึ้นไปบนท้องฟ้า
อู๋เทียนเดินมาถึงทางเดินเล็กๆ แล้วถูมือเบาๆ ใบหน้าเผยรอยยิ้ม
“ยัยนี่นี่เด็ดสมคำร่ำลือจริงๆ ใหญ่เต็มไม้เต็มมือ!”
ที่เขาออกมาแบบนี้
แน่นอนว่าได้บอกหยางอี้อี้แล้ว
หยางอี้อี้รู้ว่าอู๋เทียนมีความลับ จึงไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงแต่บอกให้อู๋เทียนทำตัวให้ดีๆ
แล้วคำถามก็คือ
ทำไมอู๋เทียนถึงออกมา?
ง่ายมาก...
เพื่อมากวาดล้อมปีศาจในรัง!
มู่หวงเออร์ฉลาดมาก เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทีม เธอจึงเลือกที่จะรออย่างปลอดภัยไปอีกเป็นครึ่งเดือน
แต่อู๋เทียนไม่ต้องการทำเช่นนั้น เขาจึงออกมาคนเดียวเพื่อจัดการกับปีศาจหลายร้อยตัวนั่นซะ!
“น่าจะอยู่แถวๆ นี้นะ!”
อู๋เทียนเปิดใช้งาน "รัศมีแห่งลมกรด" ร่างของเขาภายใต้แสงสนธยาดูราวกับภูติผี วิ่งอย่างรวดเร็วในหุบเขาสีดำ
รัศมีแห่งลมกรดเลเวล 10 เพิ่มความเร็วเป็นสิบเท่า ทำให้อู๋เทียนวิ่งเร็วเทียบเท่ากับรถสปอร์ตในชาติที่แล้ว
เร็วขึ้น เร็วขึ้นอีก!
แม้แต่ดอม โทเร็ตโต้ในหนังก็ยังเร็วไม่เท่านี้!
สิบนาทีต่อมา
อู๋เทียนก็พบเป้าหมาย
บนเส้นทางบนภูเขา ปีศาจกว่าร้อยตนกำลังยกพลอย่างระแวดระวัง
พวกมันกำลังขนเหยื่อจำนวนมาก ทั้งสัตว์ร้าย และสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่นๆกลับรัง
ในโลกมิติ "เมืองลาวาใต้พิภพ" แห่งนี้ นอกจากปีศาจแล้ว เผ่าพันธุ์อื่นๆ ล้วนเป็นอาหารของปีศาจทั้งสิ้น
อู๋เทียนไม่ได้เห็นใจสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์เหล่านั้นเลย เขามองเพียงแวบเดียวก็ยิ้มและเดินลงไป
...
“ใครกันวะที่มาป่วนรังของพวกเรา?”
“ศัตรูชั่วช้า!เป็นแค่เต่าหัวหดซ่อนตัวอยู่แต่ในเงามืด!”
ด้านหน้ากลุ่ม ปีศาจนักรบสองสามตนกำลังบ่นอย่างหงุดหงิด
“อย่าให้ข้าริโอสได้เจอเชียวนะ ถ้าเจอ ข้าจะง้างปากมันแล้วยัดมูลสัตว์ของเหยื่อที่พวกเราจับมาให้มันกิน จะได้รู้ซะบ้างว่าอย่ามาแหยมกับข้าริโอส!!”
“ฮึ่ม! ท่านนักบวชในเมืองใต้พิภพต่างก็เริ่มไม่พอใจแล้ว ถ้าพวกเรายังรวบรวมเหยื่อได้ไม่ได้ตามกำหนดแบบนี้อีก โทสะของท่านจอมปีศาจอาจแผ่ข้ามหุบเขาแห่งความตายมาฆ่าพวกเราก็ได้!”
ทันใดนั้น ขณะที่กำลังพูดอยู่
ปีศาจนักรบริโอสก็เห็น... ลิง? อยู่ข้างหน้า
“นั่นไม่ใช่ลิง มันเป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่น! เจ้าพวกนี้นี่แหละที่มาก่อกวนเราในช่วงนี้!”
ปีศาจนักรบริโอสผู้ดุร้าย กระโดดลงจากหลังสัตว์พาหนะทันที กางปีกบินต่ำเข้าไปหา
“เจ้าผู้บุกรุกชั่วช้า! โผล่มาถึงที่นี่ สงสัยอยากกลายเป็นอาหารของข้าใช่ไหม?”
ริโอสยิ้มอย่างชั่วร้าย
อู๋เทียนเองก็ยิ้มเช่นกัน เขากางมือออกแล้วพูดว่า “ถนนเส้นนี้ฉันเป็นคนสร้าง ต้นไม้ข้างทางนี้ฉันก็เป็นคนปลูก ถ้าอยากผ่านไป ต้องจ่ายค่าผ่านทางมาก่อน!”
“…”
ริโอสงง
ปีศาจตนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังก็งงเช่นกัน พวกมันไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าผู้บุกรุกถึงพูดจาเช่นนี้
“เจ้า... เจ้าตั้งใจจะปล้นพวกเรารึ?”
ในที่สุดริโอสก็นึกออก มันถามด้วยความตกใจ
อู๋เทียนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าพวกแกมัดมือมอบตัวแต่โดยดี ฉันจะยอมไว้ชีวิต”
“ฮ่าๆๆๆ!”
“ฮ่าๆๆๆ! เจ้านี่คิดจะปล้นพวกเรา!”
“หนึ่ง... สู้กับร้อย?”
“ฮ่าๆๆๆ!”
...
เหล่าปีศาจหัวเราะลั่น
แต่อู๋เทียนไม่ได้หัวเราะ เขามองท้องฟ้าที่ค่อยๆ มืดลงแล้วพึมพำว่า “ราตรีนี้ช่างมืดมิด...”
“ลมก็พัดแรง...”
“เหมาะแก่การ...”
“ฆ่าล้างบาง!”
สิ้นคำพูด
เขาก็กำมือแน่น!
วู้มมมมมม!
แสงสว่างเจิดจ้าเสียดแทงขึ้นไปบนท้องฟ้า ฉีกทึ้งความมืดมิดออกเป็นเสี่ยงๆ และรวมตัวกันเป็นมือยักษ์ที่ส่องประกายถึงสิบมือ!