ตอนที่แล้วบทที่ 549 เจ้าจะเข้ามาทีละคนหรือเข้ามาพร้อมกัน?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 551 ผู้นำนิกายเหลิง ท่านไม่ได้ฆ่าเสด็จพ่อของข้าใช่ไหม?

(ฟรี) บทที่ 550 ศัตรูอันทรงพลัง ดาบที่ฟาดผ่านพระราชวัง!


ตู้ม!

เสียงระเบิดดังกึกก้อง ทำให้แก้วหูขององค์หญิงทั้งสองเจ็บปวด พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของพวกนางสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“เกิดอะไรขึ้น?” เซิงจื่อเซี่ยอุทาน

ขณะที่เซิงอันอวี่กำลังจะพูด เสียง “แกร่ก” ก็ดังขึ้นอย่างชัดเจน และอากาศก็ปกคลุมไปด้วยเส้นคล้ายใยแมงมุมราวกับกระจกที่แตกร้าว

แสงอันเจิดจ้าสว่างขึ้นในความว่างเปล่าแล้วจางหายไปอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าภาพตรงหน้าพวกเขาจะไม่เปลี่ยนไป แต่ดูเหมือนว่ามีบางสิ่งที่ขาดหาย

เซิงอันอวี่คิดอะไรบางอย่างได้ หัวใจของนางสั่นไหวอย่างกะทันหัน

“มันอาจจะเป็น...”

ในเวลานั้นเอง เสียงหวีดหวิวดังขึ้น และองค์รักษ์หญิงหลายคนในชุดเกราะก็เหินกายเข้ามา

“ฝ่าบาท พระองค์ไม่เป็นอันใดใช่ไหมเพคะ?”

ผู้นำคือสตรีชุดเกราะสีแดงนามว่าจ้านหง ซึ่งรับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยของตำหนัก นางรีบวิ่งมาทันทีที่สังเกตเห็นความวุ่นวาย

นางรับผิดชอบเพียงความปลอดภัยของเจ้าหญิงเท่านั้น และแม้แต่การพิทักษ์จักรพรรดิก็ไม่ใช่หน้าที่

“แม่ทัพจ้าน” เซิงอันอวี่ทักทายและถาม “ข้าสบายดี เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”

จ้านหงไม่ตอบ แต่สั่งให้องครักษ์คนอื่นๆเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยโดยรอบ แล้วจึงกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง “ทูลองค์หญิง ข้าก็ไม่แน่ใจสถานการณ์เฉพาะเจาะจงเช่นกัน แต่สิ่งที่ข้ายืนยันได้คือค่ายกลป้องกันของพระราชวังถูกทำลาย!”

“อะไรนะ?!” เจ้าหญิงทั้งสองตกตะลึงไปครู่หนึ่ง

“ค่ายกลถูกทำลาย?!” แม้ว่าเซิงอันอวี่จะเดาไว้แล้ว แต่นางก็ไม่คาดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง!

ต้องรู้ว่านี่คือพระราชวังหลวง!

มันเป็นสถานที่ที่มีการคุ้มกันแน่นหนาที่สุดในดินแดนอันกว้างใหญ่ แม้แต่ยุงก็ไม่อาจเล็ดรอดเข้ามาได้

แต่ตอนนี้แม้แต่ค่ายกลก็ยังถูกทำลาย?

เซิงจื่อเซี่ยขมวดคิ้ว “ใครกันที่กล้าโจมตีพระราชวัง?”

เซิงอันอวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงตึงเครียด “ตอนนี้อยู่ในช่วงวิกฤติจริงๆ แต่ก็ไม่ควรเป็นแบบนี้... เป็นไปได้ไหมว่าผู้ฝึกตนบางคนไม่อาจรอได้และกำลังเตรียมโจมตีราชวงศ์เซิงแล้ว? พวกมันมีกันกี่คน แล้วฝ่ายเราบาดเจ็บล้มตายบ้างหรือเปล่า?”

เมื่อเผชิญกับคำถามของทั้งสอง จ้านหงก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตเท่าใด แต่อีกฝ่ายไม่ได้ยกทัพมาบุก... พูดอีกอย่างคือ น่าจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้น”

“แค่คนเดียว?!” ทั้งสองตกตะลึงอีกครั้ง

มีเพียงคนเดียวเท่านั้นและสามารถบุกเข้ามาในพระราชวังที่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาและฝ่าค่ายกลได้โดยตรง นั่นไม่เกินจริงไปหน่อยเหรอ?

“พ่ะย่ะค่ะ เพียงแค่คนเดียว” จ้านหงกล่าวต่อ “ผู้น้อยได้รับสัญญาณฉุกเฉินแจ้งว่ามีคนบุกเข้ามาโดยลำพัง เป็นผลให้หลังจากถูกเรียกตัว ค่ายกลก็ถูกทำลายแล้ว และใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจเท่านั้น!”

สีหน้าของจ้านหงก็ดูตกตะลึงเช่นกัน

ในฐานะผู้บัญชาการกองทหารองครักษ์ส่วนพระองค์ นางตระหนักดีถึงความแข็งแกร่งของค่ายกลป้องกัน หากค่ายกลมีความสมบูรณ์เต็มร้อย แม้แต่จักรพรรดิก็ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมาก!

แต่ตอนนี้มันถูกทำลายโดยใครบางคน...

“มันเป็นใครกันแน่?” หัวใจของจ้านหงสั่นเล็กน้อย

ในขณะนั้น จู่ๆเซิงอันอวี่ก็เกิดความคิดขึ้นมา “อีกฝ่ายไม่ได้มาเพราะเสด็จพ่อใช่ไหม?”

เซิงจื่อเซี่ยก็เริ่มวิตกกังวลเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ใช่ คนคนนั้นอาจหาญมาก เขาอาจไปหาเสด็จพ่อโดยตรง เขาเป็นศัตรูของราชวงศ์เซิงเราหรือเปล่า?”

“ไปที่ตำหนักจื่อฮุ้ยกันเถอะ!” ทั้งสองลุกขึ้นและเตรียมเหาะไปยังห้องโถงใหญ่

เมื่อเห็นเช่นนี้จ้านหงก็รีบหยุดพวกนางไว้และกล่าวว่า “ไม่ได้เด็ดขาดฝ่าบาท ตอนนี้ตำหนักจื่อฮุ้ยอันตรายมาก ท่านไม่อาจไปที่นั่น!”

เซิงอันอวี่ขมวดคิ้วทันที “หากที่นั่นอันตราย เสด็จพ่อจะไม่ตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่าหรอกหรือ?”

จ้านหงถามกลับว่า “หากมีศัตรูที่แม้แต่จักรพรรดิเซิงก็ไม่อาจจัดการได้ การที่ฝ่าบาทไปที่นั่นจะมีประโยชน์อันใด?”

“แต่...”

เซิงอันอวี่ยังคงต้องการพูด แต่จ้านหงส่ายหัวแล้วพูดว่า “สิ่งที่ท่านควรกระทำตอนนี้คือให้ความสนใจกับความปลอดภัยของพระองค์เอง หากท่านหุนหันพลันแล่น มันจะกลายเป็นจุดอ่อนขององค์จักรพรรดิได้”

“หน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้คือปกป้องความปลอดภัยของท่านทั้งสอง หากฝ่าบาทยืนกรานที่จะไป... ผู้น้อยคงต้องล่วงเกินแล้ว!”

หลังจากพูดแล้ว นางก็ก้าวไปข้างหน้าและยืนปิดกั้นทั้งสองด้วยสีหน้าแน่วแน่

เจ้าหญิงทั้งสองก็พูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง

พวกนางรู้ว่าสิ่งที่จ้านหงพูดนั้นสมเหตุสมผล แต่พวกนางก็รู้สึกกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จ้านหงเห็นความกังวลของทั้งสองจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “องค์หญิงไม่ต้องกังวลเพคะ มีทหารยามรักษาการณ์อยู่ด้านนอกตำหนังจื่อฮุ้ยมากมาย และจักรพรรดิเซิงก็มีพลังถึงระดับจักพรรดิ นอกจากนี้ยังมีจักรพรรดิสูงสุดที่ตื่นจากการหลับใหลแล้วด้วย... ข้าไม่เชื่อว่าจะมีใครในโลกนี้ที่สามารถทำอะไรพวกเขาได้!”

“ยิ่งกว่านั้นคนผู้นั้นยังไม่ได้เคลื่อนไหวเลยตั้งแต่ทำลายค่ายกล ดังนั้นมันอาจถูกองค์จักรพรรดิตัดศีรษะไปแล้วก็เป็นได้!”

แม้ว่าจักรพรรดิเซิงจะละเลยในการฝึกฝน แต่เขายังคงอยู่ในระดับจักรพรรดิ เขาเป็นหนึ่งในตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนอันกว้างใหญ่!

เมื่อรวมกับจักรพรรดิผู้ลึกลับที่มีชีวิตอยู่มาเป็นเวลานานและวางรากฐานสำหรับราชวงศ์ราชวงศ์เซิงทั้งหมด ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของราชวงศ์เซิงก็ถึงระดับที่น่าตื่นตกใจ!

ต่อให้เป็นผู้นำนิกายระดับสูงสุด หากจักรพรรดิทั้งสองร่วมมือกัน ก็ไม่มีใครทำอะไรพวกเขาได้!

จ้านหงเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวจักรพรรดิทั้งสอง

“เอาล่ะ สิ่งที่เจ้าพูดก็สมเหตุสมผล” เซิงอันอวี่พยักหน้า

หากแม้แต่เซิงเย่และเซิงเชียนร่วมมือกันก็ไม่อาจจัดการได้ มันคงไม่สร้างความแตกต่างอันใดหากเปลี่ยนเป็นจักรพรรดิคนอื่น

พวกเขาทั้งสองเป็นตัวแทนของพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนอันกว้างใหญ่!

แต่เมื่อเซิงจื่อเซี่ยมองไปที่พระราชวังในระยะไกล นางก็ขมวดคิ้วแน่น

ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางมีลางสังหรณ์เลวร้ายอยู่ในใจ

อีกฝ่ายจะต้องมั่นใจอย่างแน่นอน มิฉะนั้นมันคงไม่กล้ากระทำการเอิกเกริกเช่นนี้

“ใครกัน... ใครที่มีความแข็งแกร่งและอาจหาญเช่นนี้?”

เซิงจื่อเซี่ยก้มศีรษะลงและคิดอย่างลับๆ

จ้านหงเกลี้ยกล่อมต่อว่า “ฝ่าบาท ท่านควรรีบกลับไปที่ห้องบรรทม ตอนนี้ค่ายกลป้องกันถูกทำลายแล้ว และพระราชวังก็ไม่ปลอดภัย”

“เอาล่ะ” พวกนางพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องบรรทม

แต่ในขณะนั้นเอง เสียงอึกทึกก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ตู้ม!

เสียงระเบิดดังราวกับสายฟ้าฟาด จนทั้งสามไม่อาจยืนอย่างมั่นคง

“นั่น... นั่นมันอะไร...”

พวกเขาเงยหน้าขึ้นมอง และสีหน้าก็แข็งค้างทันที

บนหลังคาสีทองของตำหนักจื่อฮุ้ย แสงศักดิ์สิทธิ์อันงดงามยาวหลายร้อยลี้ฟาดผ่านลงมาอย่างสวยงาม!

ภายใต้สายตาของทุกคน มันผ่าพระราชวังอันหรูหราแยกเป็นสองส่วนโดยตรง!

พระราชวังที่เดิมทีหรูหราและอลังการที่สุดกลายเป็นซากปรักหักพังในพริบตา!

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะตอบสนอง แสงศักดิ์สิทธิ์ดวงที่สองก็ควบแน่นอีกครั้งและฟาดลงไปที่มุมเดิม!

เพียงแต่ครั้งนี้มันรวดเร็วและทรงพลังยิ่งขึ้น และแสงศักดิ์สิทธิ์ก็พร่างพราวยิ่งกว่าเดิม!

ตู้ม!

พระราชวังถูกทำลายลงเป็นชิ้นๆราวกับเต้าหู้!

ดาบที่สาม!

ความว่างเปล่าถูกทำลายล้าง ดวงอาทิตย์หยุดการแผดเผา มิติรอบข้างแตกเป็นเสี่ยงๆ รอยแยกสีดำขนาดมหึมาปรากฏขึ้นในอากาศ ราวกับแผลร้ายน่าเกลียดน่ากลัวถูกแต่งเติมให้โลกนี้!

จ้านหงมองไปยังรอยแยกไร้ขอบเขตที่แผ่กระจายไปในอากาศ ดวงตาของนางอดไม่ได้ที่จะเบิกกว้าง

“นี่… นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!”

/////