ตอนที่แล้วบทที่ 116 อันตรายซุ่มซ่อน 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 118 ปล่อยให้เขาผ่านไปไม่ได้!

บทที่ 117 ความสิ้นหวัง 


ฟึบ!

หลัวเฉิงวิ่งผ่านคนอีกสองสามคนและกำลังจะเข้าสู่ปากแคบของโขดหิน

ทันใดนั้น หลัวเฉิงก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันรุนแรง พลันไหวกายพุ่งหลบไปทางด้านข้าง

บูม! บูม!

เนื่องจากหลังก้อนหินขนาดใหญ่ปรากฏสองร่างพุ่งออกมา แล้วชกหมัดเข้าใส่หลัวเฉิงด้วยพลังปราณอันหนักอึ้ง

หลัวเฉิงหลบออกไปได้อย่างหวุดหวิดแล้วเว้นระยะห่างสามก้าว ก่อนช้อนตาขึ้นมองสองร่างนั้นด้วยแววตาเย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง

“พวกเราไม่เคยรู้จักกัน ไฉนจึงลอบทำร้ายข้า!”

“เจ้าไม่รู้จักพวกเขา แต่ใช่ว่าเจ้าจะไม่รู้จักข้า”

ลู่เหยียนกล่าวเสียงดังพลางเยื้องย่างออกมาจากเบื้องหลังก้อนหิน แล้วจ้องหลัวเฉิงอย่างอาฆาตแค้นด้วยดวงตาสามเหลี่ยมคู่นั้น

“ที่แท้ ก็เป็นเจ้าเองหรือ!”

หลัวเฉิงขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะตามรังควานไม่เลิกรา

ฮึ่ม!

ลู่เหยียนสูดจมูกอย่างเย็นชาแล้วกล่าวเสียงทุ่มต่ำ “เจ้าคงยังไม่ลืมเรื่องที่เกิดในศาลาหลิงอวิ๋นหรอกกระมัง”

ขณะที่กล่าว พวกเขาทั้งสามก็เข้าล้อมหลัวเฉิงจากสามด้านเพื่อปิดกั้นหนทางหลบหนี

ลู่เหยียนจ้องหลัวเฉิง แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มเยาะ “อย่าได้กล่าวหาว่าข้านั้นแล้งน้ำใจ ข้าจะให้โอกาสเจ้า จงคุกเข่าลงแล้วคำนับข้าสามครั้ง จากนั้นมอบกระบี่ทลายสวรรค์มา ข้าอาจจะใจดีไว้ชีวิตเจ้า!”

“เจ้าไม่ได้ยินที่เขาสั่งงั้นหรือ? คุกเข่าลงแล้วคำนับเดี๋ยวนี้!”

ชายอีกสองคนตวาดเสียงแข็ง ขณะในแววตาที่จับจ้องหลัวเฉิงเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า

หลัวเฉิงเหลือบมองทั้งสามคนแล้วเหยียดยิ้มเยือกเย็น “ข้าเองก็จะให้โอกาสเจ้าเช่นกัน จงคุกเข่าลงยอมรับความผิดพลาดของเจ้าในสามลมหายใจ แล้วข้าจะเมตตาไว้ชีวิต!”

“ฮ่าๆ เจ้าน่ะหรือจะไว้ชีวิตคนเช่นข้า ไม่ประมาณตน!”

ลู่เหยียนคล้ายดั่งได้ยินเรื่องน่าขันครั้งใหญ่!

สองคนที่เขาพามาครั้งนี้ ล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสอง!

ตัวเขานั้นไม่คิดเลยว่า หลัวเฉิงยังจะกล้าอวดดีในสถานการณ์เสียเปรียบเช่นนี้!

“ลงมือ!”

ลู่เหยียนแผดเสียงคำรามทุ้มต่ำ

“เจ้าหนู ในเมื่อเจ้าวอนนัก ข้าจะสนองให้เจ้า!”

“ก็ไปตายซะ!”

ทั้งสองกระโจนร่างอย่างรวดเร็ว แล้วจู่โจมหลัวเฉิงด้วยหมัดจากซ้ายและขวาในเวลาเดียวกัน

หลัวเฉิงโค้งมุมปากยิ้มอย่างเยือกเย็น แล้วเอื้อมมือไปคว้าหมัดทั้งสองบนนภากาศ

ปัง! ปัน!

หมัดอันร้ายกาจของทั้งคู่ถูกหลัวเฉิงคว้าไว้อย่างกระชับแน่น ไม่อาจชกทะลวงไปข้างหน้าได้แม้เพียงชุ่น

“อะไรกัน!”

ทั้งสองล้วนหน้าแดงก่ำจากการออกแรงเพื่อดิ้นให้หลุด

แต่ทว่า มือของหลัวเฉิงประหนึ่งเป็นโซ่ตรวนเหล็กกล้า เหนี่ยวรั้งไว้มิอาจเคลื่อนไหวได้ ก่อนที่ใบหน้าของทั้งคู่จะพลันเปลี่ยนสี

“คุกเข่า!”

หลัวเฉิงกระแทกเสียงแข็งกร้าวพร้อมบิดมืออย่างแรง

ฟึบ! แคร่ก!

ทั้งคู่ล้วนอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสองเท่านั้น จะริอาจต้านพลังอันมหาศาลของหลัวเฉิงได้อย่างไร

ทันทีที่หลัวเฉิงบิดมือ แขนพวกเขาก็สะบั้นหัก กล้ามเนื้อฉีกขาดเลือดสาดกระเซ็น เข่าของทั้งคู่ทรุดตัวลงกับพื้นทันใด แล้วใช้มืออีกข้างจับแขนตนร่ำร้องอย่างโอดครวญ ด้วยมิอาจทนทานรับความเจ็บปวดได้!

“เจ้า!”

ลู่เหยียนที่เคยแสดงรอยยิ้มอย่างภาคภูมิเมื่อครู่ ใบหน้าเขาก็ซีดเซียวลงขาวราวกับกระดาษ

เขามิคิดฝันเลยว่าหลัวเฉิงจะแข็งแกร่งได้มากถึงปานนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสองกลับถูกเขาสยบทันทีที่เผชิญหน้า!

ลู่เหยียนจากใบหน้าซีดเซียวเปลี่ยนเป็นตระหนก เขาวกหลังกลับแล้วสับเท้าวิ่งทันใด

“ข้าบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะให้เจ้าหนี?”

หลัวเฉิงกล่าวน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ในหูของลู่เหยียนกลับก้องดังประหนึ่งเสียงเพรียกหาจากนรก หลัวเฉิงโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วตบฝีเท้าพุ่งร่างไปในทันที

“ไยเจ้ายังวิ่งได้เร็วขนาดนี้อีก!”

เมื่อมองย้อนไปยังหลัวเฉิงที่กำลังไหวกายเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ลู่เหยียนก็ผวาพลันดั่งเห็นภูตผีวิญญาณ

ในช่องแคบของหุบเขาเหลียนซินนี้ ทุกคนล้วนถูกแรงกดดันจากเจตจำนงแห่งกษัตริย์ กระทั่งวิญญาณยุทธ์ก็มิอาจปลดปล่อยได้ ยามนี้การเคลื่อนไหวของลู่เหยียนลดลงเหลือเพียงหกในสิบจุด

“ไปตายซะ หมัดศิลาแกร่ง!”

เมื่อรับรู้ว่าตนมิอาจหนีพ้น ลู่เหยียนก็กัดฟันหยุดฝีเท้า แล้วพุ่งหมัดเข้าใส่หลัวเฉิงด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี

หลัวเฉิงไม่รอช้าชกหมัดทะยานไปเช่นเดียวกัน

แคร่ก!

สองหมัดเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด พร้อมกับเสียงกระดูกแตกดังลั่นอย่างชัดเจน

ลู่เหยียนโอดครวญอย่างเจ็บปวดขณะร่างถูกซัดลอยละลิ่วออกไป ก่อนกระแทกเข้ากับโขดหินขนาดใหญ่ในปากก็พลันกระอักเลือดออกมา

“มิใช่ว่าเจ้าอยากให้ข้าคุกเข่าแล้วคำนับยอมรับความผิดพลาดหรอกหรือ? ไฉนจึงล้มลงไปเองเช่นนั้นเล่า?”

ระหว่างที่กล่าว หลัวเฉิงก็สืบเท้าเข้าหาลู่เหยียนทีละก้าว ด้วยใบหน้าแสดงรอยยิ้มเยือกเย็น

ยามนี้สีหน้าของลู่เหยียนก็ซีดเผือด แต่ในดวงตายังมิอาจไร้พิษสง “ไอ้เด็กเหลือขอ เจ้าอยากได้ลำพองใจนักเลย! เมื่อตอนที่เจ้าและข้าได้เข้าสู่สำนักซวนหยวนแล้ว ข้ายังมีวิธีสังหารเจ้ามากมายหลายอย่างนัก คอยดูเถอะ หลังออกไปจากหุบเขานี้แล้ว ข้าจะทำให้เจ้าได้เห็น ว่าความสิ้นหวังมันเป็นอย่างไร!”

“โอ้… เจ้าจะทำให้ข้าได้สัมผัสกับความสิ้นหวังกระนั้นหรือ”

ดวงตาของรั้วเฉิงประกายแสงเยือกเย็น จากนั้นเหยียดยิ้มกระหยิ่มกล่าวว่า “เจ้าคิดว่า เจ้าจะยังออกไปจากหุบเขานี้ได้งั้นหรือ?”

“เจ้า! เจ้าจะทำอะไร!”

แววตาของลู่เหยียนที่ดุร้ายราวอสรพิษ ยามนี้กลับผันเปลี่ยนแทนที่ด้วยความประหวั่นกลัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด