ตอนที่ 209 ประหลาดใจ
ตอนที่ 209 ประหลาดใจ
เชร์ทำความสะอาดร่างกายของไอร่าอย่างระมัดระวัง
การเคลื่อนไหวของเขาอ่อนโยนเกินไป ไอร่าไม่สามารถต้านทานการล่อลวงของการนอนหลับได้ ในที่สุดเธอก็หลับตาและหลับไป
หลังอาบน้ำ เชร์ก็อุ้มเธอขึ้นมาเช็ดตัวให้แห้ง เขาพาเธอเข้านอนและช่วยเธอแต่งตัว
เช้าวันรุ่งขึ้น ไอร่าตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของเชร์
เธอเงยหน้าขึ้นมองและยิ้มหวานให้เขา “อรุณสวัสดิ์”
เชร์ก้มศีรษะลงและจูบริมฝีปากของเธอ การจ้องมองของเขาอ่อนโยน “เมื่อคืน เจ้าหลับสบายหรือไม่”
ไอร่าพยักหน้า “ดีมากเลยล่ะ”
“ดี” เชร์พูดขณะลุกขึ้นนั่งและแต่งตัว “ยังเช้าอยู่เลย นอนต่อเสียหน่อยสิ ข้าจะไปทำอาหารเช้าให้เจ้า เช้านี้เจ้าอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือไม่”
ไอร่าอดไม่ได้ที่จะสะกิดเอวของเขา “ข้าอยากกินซาลาเปา”
เธอไม่ได้กินซาลาเปาฝีมือของเชร์มานานแล้ว เธอคิดถึงพวกมันจริง ๆ
เชร์จับมืออันซุกซนของเธอแล้วจูบที่ด้านหลัง “เอาล่ะ เช้านี้เราจะกินซาลาเปากัน”
ไอร่าสังเกตเห็นเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ มันเป็นชุดเดรสแขนกุดสีขาวที่เรียบง่ายมาก วัสดุมีความนุ่มและเรียบเนียน การเย็บก็ละเอียดมาก
เธอรู้สึกประหลาดใจ "ชุดนี้ทำจากไหมฉลามหรือ”
เชร์กล่าวว่า “ไม่นานมานี้ เมย์เน่นำผ้าไหมลามมาจากเมืองสุริยะ ต่อมาพวกเขาประสบอุบัติเหตุระหว่างทางและสุดท้ายก็มอบไหมฉลามให้กับธยาน์ ธยาน์เป็นคนตัดชุดนี้ให้เจ้าด้วยตนเอง”
มันค่อนข้างเป็นเรื่องบังเอิญ
หนึ่งเดือนที่แล้ว เมย์เน่และพวกออกจากเมืองสุริยะพร้อมกับพัสดุ ระหว่างทางไปภูเขาหิน พวกเขาพบกับกลุ่มมดแดงที่ดุร้ายมาก
ขณะที่เมย์เน่และพวกของเขากำลังจะพ่ายแพ้ ธยาน์ก็บังเอิญผ่านมา
ธยาน์มักจะเย็นชาและไม่เข้าสังคม เขาไม่ได้ติดต่อกับเมย์เน่ที่ชอบพูดจามากนัก ทว่า เนื่องจากพวกเขาเป็นสหายกัน ธยาน์จึงริเริ่มที่จะช่วยไล่เหล่ามดแดงออกไป
เพื่อแสดงความขอบคุณ เมย์เน่จึงอนุญาตให้ธยาน์เลือกสินค้าใดก็ได้ที่พวกเขามี
เดิมทีธยาน์ปฏิเสธ แต่เมื่อเขาเห็นไหมฉลามอยู่ท่ามกลางสินค้า เขาก็เปลี่ยนใจ มีไหมฉลามผืนไม่ใหญ่มาก เพราะมันเป็นส่วนบนของอสูรที่โตเต็มวัยเท่านั้น
โชคดีที่ไอร่าเป็นคนตัวเล็กมาก หนังผืนนี้จึงเหมาะกับเธอ
ดังนั้น ธยาน์จึงขอผ้าไหมฉลามเหล่านั้น
แม้ว่าจะเสียดาย แต่เมย์เน่ก็มอบไหมฉลามให้เขาอย่างไม่เต็มใจ
แม้แต่ไหมฉลามผืนเล็ก ๆ ก็ยังมีราคาแพงมาก
ฤดูหนาวเพิ่งผ่านไปและอากาศก็ยังหนาวอยู่ ชุดนี้เหมาะกับการใส่นอน ทว่ามันบางเกินกว่าจะใส่เพียงแค่นี้
ไอร่าพันผ้าคลุมไหล่สีขาวขนฟูรอบตัว สวมรองเท้าบูตหนังกวาง แล้ววิ่งไปที่ห้องของธยาน์
ไม่มีใครอยู่ในห้อง เธอวิ่งลงไปชั้นล่างอีกครั้งและพบว่ามีเพียง เชร์ หนีหยาและลูกหมาป่าสี่ตนอยู่ที่บ้าน คอนริและธยาน์ไม่อยู่ที่นี่
เชร์นำซาลาเปามาให้เธอ มีซุปถั่วนึ่งอยู่ข้าง ๆ
ไอร่ากัดซาลาเปาและดื่มซุป เธอรู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ
ลูกหมาป่าก็มาด้วย ดวงตาสีเขียวของพวกเขาจ้องมองไปที่ซาลาเปาเนื้อในมือของเธอ พวกเขาหิวมากจนน้ำลายไหล
ไอร่าพบว่าพวกเขาน่ารักมาก เธอโบกซาลาเปาต่อหน้าเด็ก ๆ และล่อลวงพวกเขา “อยากกินกันใช่ไหม”
ดวงตาของลูกหมาป่ามองตามซาลาเปาขณะที่พวกเขาพยักหน้าพร้อมกัน
ไอร่ายิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าอยากกินก็เรียกแม่ก่อน”
ลูกหมาป่าหอนพร้อมกัน
“ไม่ใช่ พวกเจ้าต้องเรียกข้าว่าท่านแม่สิ”
“ฮูว์ ฮูว์” พวกเขาหอน
ไอร่ายุ่งอยู่กับการป้อนอาหารพวกเขา แต่เธอยังคงไม่สามารถสอนลูกหมาป่าทั้งสี่ให้เรียกเธอว่าแม่ได้ เธอทำอะไรไม่ถูก เธอทำได้เพียงส่งซาลาเปาให้พวกเขาเท่านั้น “กินสิ กิน เจ้าพวกนักชิม”
เชร์รู้ว่าลูกหมาป่าชอบกินซาลาเปา ดังนั้นเขาจึงตั้งใจทำเสียเยอะ ในขณะนี้ไอร่าป้อนพวกมันให้เด็ก ๆ ทั้งหมด
ลูกหมาป่ากอดซาลาเปาเนื้อร้อน ๆ และกินมันอย่างมีความสุข
หนีหยาไม่สนใจซาลาเปา เขาชอบหน่อไม้สดกรอบ ๆ
หลังจากกินและดื่มจนอิ่มแล้ว คลอเดียก็หยิบก้อนไม้ไผ่ขึ้นมาคล้องคอ เธอเดินโซเซออกไปกับน้อง ๆ และเตรียมที่จะเล่นฟุตบอลในสนาม ในเวลาเดียวกัน เธอก็จะให้บทเรียนกับลูกน้องคนใหม่ของเธอด้วยเช่นกัน
ไอร่าเตือนเธอว่า “อย่ามัวแต่ไปเล่นข้างนอกจนลืมเวลากินข้าวเย็นล่ะ”
คลอเดียกระดิกหางของเธอ “เข้าใจแล้วค่ะ ท่านแม่”
“โอ้ หนูเรียกว่าท่านแม่ได้แล้วนะคะ”
ไอร่าไม่เชื่อ “เจ้าพูดได้แล้วเหรอ”
คลอเดียยื่นหน้าอกของเธอออกมา “แน่นอนค่ะ”
น้องชายทั้งสามคนที่อยู่ข้างหลังก็พองหน้าอกและตะโกนพร้อมกันว่า “ท่านแม่”
ไอร่าตกใจมากจนเธอพูดติดอ่าง “จะ-เจ้าพูดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เหตุใดข้าถึงไม่รู้เรื่องนี้”
คลอเดียกล่าวว่า “เราเรียนรู้ที่จะพูดกันมานานแล้วค่ะ”
“แล้วเหตุใดเมื่อสักครู่ถึงยังหอนกันอยู่อีก”
คลอเดียพูดว่า “เราอยากให้ท่านแม่ประหลาดใจ”
น้องชายทั้งสามของเธอกระดิกหางเห็นด้วย “ใช่ ๆ เราต้องการให้ท่านแม่ประหลาดใจ”
ไอร่ารู้สึกประหลาดใจมากจริง ๆ
จากนั้นลูกหมาป่าก็ออกไปเล่น
ระหว่างทางไปสนาม คลอเดียถามด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคงคิดว่าสนุกกันล่ะสิที่เห็นท่านแม่ทำอะไรไม่ถูก”
น้องชายของเธอพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ ๆ ท่านแม่งงไปเลย”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ท่านพ่อชอบแกล้งท่านแม่อยู่เสมอ สนุกจริง ๆ”
ลูกหมาป่ากระดิกหางใหญ่อย่างแรง หากไอร่าเห็นขนปุกปุยของพวกเขา เธอก็คงจะพบว่าพวกมันน่ารักอย่างแน่นอน
ไอร่าไม่รู้ว่าเธอถูกลูก ๆ ของเธอล้อเลียน
เธอยังคงดื่มด่ำกับความสุขที่ลูก ๆ ของเธอเรียนรู้วิธีพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเรียกเธอว่า ‘ท่านแม่’ ความสุขนี้จะอยู่กับเธอตลอดทั้งวัน
เชร์เป็นคนพิถีพิถันและสามารถบอกได้อย่างเป็นธรรมชาติว่าเจ้าตัวน้อยทั้งสี่จงใจล้อเล่นกับไอร่า
เขามองดูใบหน้าที่มีความสุขของไอร่าและตัดสินใจที่จะไม่บอกความจริงกับเธอ
เขาจะปล่อยให้เธอมีความสุขต่อไป
ในช่วงบ่าย จู่ ๆ บุหรงก็รีบเข้ามาในบ้าน เขาอุ้มไอร่าขึ้นแล้วบินออกไป
ไอร่าตะโกนด้วยความกลัว “ท่านกำลังทำอะไร วางข้าลงนะ”
บุหรงกล่าวว่า “อย่าขยับ ข้าต้องการพูดคุยกับเจ้า”
เชร์ออกมาจากห้องครัวเมื่อเขาได้ยินเสียงโกลาหล “ท่านจะพาไอร่าไปที่ใด” เขาถาม
“เผ่านก”
“คืนนี้จะกลับมาทานข้าวเย็นหรือไม่”
“อืม”
ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค บุหรงก็บินจากไปโดยมีไอร่าอยู่ในอ้อมแขนของเขา
เชร์ตัดสินใจทำสตูไก่คืนนี้ เขาหันไปหาหนีหยาแล้วพูดว่า “ปอกเปลือกหน่อให้ข้าด้วย คืนนี้ข้าจะทำสตูไก่”
หนีหยาไม่ชอบที่จะเคลื่อนไหว เขาแค่กินและนอนทุกวัน บางครั้งก็จะขึ้นบันไดและเกาหลังบนก้อนหิน
เขามาถึงภูเขาหินได้เพียงครึ่งปี แต่น้ำหนักของเขาเพิ่มขึ้นมาก เขาตัวกลมเหมือนลูกบอลขนลูกใหญ่
เขาปอกและกินหน่อไม้ไปพร้อมกัน ในที่สุดเขาก็กินหน่อไม้มากกว่าที่ปอกเปลือก
เชร์หยิบหน่อไม้ที่ปอกเปลือกแล้วลูบศีรษะขนาดใหญ่ของเขา “เจ้าควรลดน้ำหนักเสียหน่อย ไม่อย่างนั้นจะไม่มีสตรีคนไหนชอบเจ้า”
หนีหยากอดลำไผ่แล้วหันก้นกลม ๆ หันหน้าเข้าหาเขา
สำหรับเขา อาหารสำหรับกว่าภรรยา!
ส่วนเรื่องอื่นคือเรื่องอนาคต....